โพสต์ที่แล้ว เราได้พูดคุยกันถึงโรงแรม ลานนา ดุสิตา บูติก รีสอร์ท กันไปแล้ว ถึงภาพรวมของตัวโรงแรม โพสต์นี้ เราจะพาทุกท่านเข้าไปชมภายในห้องพักของโรงแรม ทั้งในห้อง ซูพีเรีย และห้องดีลักซ์

โรงแรม ลานนา ดุสิตา บูติก รีสอร์ต เป็นโรงแรมขนาด 30 ห้อง มีลักษณะเป็นอาคารสองชั้นที่ออกแบบในสไตล์ที่ผสมผสานกับธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมที่เน้นความเป็นธรรมชาติ และสีเขียวของต้นไม้ภายใต้สวนที่ร่มรื่น ในเมืองเชียงใหม่ อยู่ห่างจากใจกลางเมืองเชียงใหม่เพียง 5 กม. เศษ ๆ สะดวกสำหรับการออกเดินทางท่องเที่ยวภายในเมืองเชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียง

เรามาเริ่มกันที่ห้องพักแบบซูพีเรียเลยนะคะ

เปิดประตูเข้าห้องมา เราจะพบกับพื้นที่ของห้องน้ำกันเลยค่ะ ทั้งอ่างล่างหน้า อ่างอาบน้ำ ห้องน้ำถูกแบ่งออกเป็นห้องส้วม และห้องอาบน้ำแยกต่างหากจากกัน เพื่อจำกัดพื้นที่เปียก เหตุที่ต้องนำห้องน้ำมาอยู่หน้าห้อง เข้าใจได้ว่า เพราะต้องการใช้พื้นที่บริเวณหลังห้องซึ่งเป็นวิวแม่น้ำปิง ให้เป็นพื้นที่นั่งผ่อนคลายของแขกที่เข้าพัก

ห้องที่เราเข้าชมเป็นห้องแบบเตียงเดี่ยว 2 เตียงที่วางไว้เคียงกัน เพื่อเป็นประเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้กว้างขวางขึ้น โรงแรมได้ทำการกั้นห้องระหว่างพื้นที่แต่งตัว ที่มีห้องน้ำ กับพื้นที่พักผ่อนที่เป็นพื้นที่สำหรับวางเตียงนอน และโซฟา โดยกั้นห้องดังกล่าวเจาะหน้าต่างกระจกใส่ ลามารถมองทะลุเข้าไปในส่วนของพื้นที่แต่งตัวและห้องน้ำได้ เหมาะกับบ้านที่มีเด็ก จะปล่อยให้เด็กเล่นน้ำในอ่างโดยสามารถเฝ้ามองได้จากห้องพักผ่อน แต่หากต้องการความเป็นส่วนตัว ก็สามารถดึงมู่ลี่ลงมาปิดหน้าต่างได้

ห้องพักตกแต่งแบบโมเดิร์นสไตล์ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครั้น ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะทำงาน และโต๊ะเครื่องแป้งเล็ก ๆ บริเวณหัวนอน มินิบาร์ กาน้ำร้อน ตู้เย็น และทีวีจอแบนหลากหลายช่องสัญญาณให้เลือกรับชม

ห้องเตียงเดี่ยวขนาดสองเตียง

โต๊ะเครื่องแป้ง ชั้นวางทีวี และมินิบาร์

นอกจากนี้ทุกห้องยังมีระเบียงให้เราออกไปนั่งพักผ่อน อ่านหนังสือ จิมกาแฟ หรือจะมานอนรับลม ฟังเสียงนกเสียงต้นไม้เล่นก็ยังได้ เพราะระเบียงที่วางปูเบาะยาวไว้อย่างกว้างขวาง เหมาะกันบการนอนเล่นเป็นอย่างมาก

โดยส่วนตัว ในราคาที่ไม่แพงนัก สำหรับห้องพักประเภทซูพีเรียนี้ เหมาะสำหรับเพื่อนฝูงหรือคู่รักจะพากันมาพักผ่อนท่องเที่ยว เพราะมีขนาดที่กำลังเหมาะพอดี รวมถึงเหมาะกับท่านที่เดินทางมาติดต่อธุรกิจหรือทำงาน เพราะมีสาธารณูปโภคครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น WIFI Internet ความเร็วสูง โต๊ะทำงานและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จะอำนวยความสะดวกโดยครบครัน ลองมาชมห้องพักแบบดีลักซ์กันดูบ้างค่ะ

อาหารที่พักสองชั้นแบบโมเดิร์นสไตล์

ห้องดีลักซ์ที่เราเข้าไปดูห้องนี้ มีการวางผังไว้แบบเดียวกับห้องซูพีเรีย คือ เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับห้องน้ำก่อน และภายในห้องน้ำจะถูกตกแต่งให้ด้วยวิวสวนจากหน้าต่างของห้องน้ำในบริเวณที่วางอ่างอาบน้ำ ทำให้สามารถนอนแช่น้ำชมวิวสวนได้อย่างรื่นรม

ห้องน้ำถูกแบ่งเป็นส่วนแห้งและส่วนเปียก โดยการกั้นห้อง ห้องอาบน้ำไว้ต่างหาก ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกมามากทั้งอุปกรณ์อาบน้ำและดรายส์เป่าผม หน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ทั้งสองบาน ไม่ต้องกังวลว่าจะมีคนไปแอบดู เพราะภายนอกเป็นสวนสวยที่ร่มรื่นและปิดกั้นไม่ให้เป็นทางผ่านสัญจรแต่อย่างใด

ถัดจากห้องน้ำออกมาจะเป็นห้องขนาดกลางที่กั้นระหว่างห้องน้ำ และห้องนอน โดยกั้นห้องเป็นห้องทำงานที่มีสัดส่วนชัดเจน แยกต่างหากจากห้องพักผ่อน มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน ทั้งโทรศัพท์และอุปกรณ์เชื่อมต่อ WIFI Internet ความเร็วสูง

นอกจากนี้ ภายในห้องยังมีตู้เสื้อผ้า ตู้วางมินิบาร์ ที่ตกแต่งเป็นลวดลายฝาบ้านลายไทย ซึ่งกลมกลืนเข้ากับการตกแต่งอื่น ๆ ภายในห้องเป็นอย่างดี

โต๊ะทำงานขนาดใหญ่ในพื้นที่ห้องทำงาน

ภาพรอยยิ้มประดับเหนือชุดโต๊ะทำงาน ให้มองอย่างสวยงาม และสบายตา

ส่วนของมินิบาร์ และตู้เสื้อผ้าดีไซน์เก๋

ถัดจากห้องทำงาน เป็นส่วนของห้องนอน ห้องที่เราเข้าชมเป็นห้องแบบเตียงคู่ ถูกกั้นไว้ด้วยฉากภาพวาดคติทำอันสวยงานเป็นรูปไม้ค้ำโพธิ ภายในมีเตียงหนานุ่มพร้อมหมอนจำนวนมากรวมถึงหมอนอิงสวย ๆ ที่ใช้ประดับเตียง

ที่ปลายเตียงวางตกแต่งไว้ด้วยโซฟา สามารถใช้นั่งพักผ่อนดูทีวี หรือนั่งชมวิวสวนและแม่น้ำปิงตรงหน้า ฝาผนังถูกแบ่งด้วยบัวไม้ ตัดสีเทาและนวลให้บรรยากาศที่อบอุ่นนุ่มนวล พร้อมภาพประดับฝาลายถมทองเข้ากันกับการตกแต่งในห้อง

เตียงนุ่ม ๆ กับ ภาพฉากกั่นห้องคติธรรมมงคล "ไม้ค้ำโพธิ์"

โคมไฟขนาดเล็กและใหญ่ตกแต่งโดยรอบห้องให้แสงสีนวลอบอุ่นเหมาะแก่การพักผ่อน นอนชมโทรทัศน์ที่มีช่องสัญญาณกว่า 40 ช่อง หรือนอนมองแม่น้ำปิงไหลเอื่อยได้จากภายในห้องนอน

ระเบียงห้องที่มองเห็นวิวริมแม่น้ำปิง

มีระเบียงยาวบูด้วยเบาะยาวเต็มพื้นที่และเก้าอี้ที่ออกแบบให้นั่งเอนหลังชมสวน อานหนังสือ หรือนั่งจิบกาแฟชมวิวแม่น้ำปิงเพลิน ๆ

จากบนห้อง นอกจากจะมองเห็นวิวแม่น้ำปิงแล้ว ก็ยังสามารถมองเห็นมุมสวนสวย ๆ ที่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ และเสียงขับกล่อมจากแมลง อย่างจั๊กจั่นที่ส่งเสียงไพเราะอยู่ทั่วบริเวณ

ห้องแบบดีลักซ์นั้นมีความกว้างยาวกว่าห้องแบบซูพีเรีย มีความเป็นสัดส่วนกว่า โดยเฉพาะพื้นที่ทำงาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสมาธิในการทำงาน ขณะที่มาทำการท่องเที่ยวพักผ่อน หรือมาติดต่อธุรกิจ

โดยส่วนตัวถึงแม้นจะไม่ชอบลักษณะการจัดวางที่เอาห้องน้ำมาวางไว้ด้านหน้าเท่าไหร่นัก แต่ก็พอเข้าใจได้ว่าต้องการใช้พื้้นที่ด้านหลังเป็นส่วนของการพักผ่อนหย่อนใจชมวิวแม่น้ำปิง โดยรวมหากเปรียบเทียบกับราคา ค่าบริการ ทำเลที่ตั้ง ภูมิทัศน์ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ แล้ว ถือว่าคุ้มค่ามาก เดี๋ยวเรามาชมรีวิวอาหารเช้าและร้านกาแฟหอมดีของทางโรงแรมกันในโพสต์ต่อไป ขอบคุณที่เข้าชมค่ะ