เมื่อแฟนไม่อยู่ผู้หญิงคนเดียวก็เที่ยวได้ ตอน เราจะคิดถึงกันผ่านท้องฟ้าและทะเล  Lost in Ko Lanta > Ao Nang > Apple A Day Resort > Ao Rai Le  Karbi Thailand
เป็นมนุษย์ออฟฟิศ เงินเดือน กะจี้ด ริ๊ด ในสมองคิดแต่อยากจะไปเที่ยว  เที่ยวสุขใจสบายกระเป๋าเอาไงดีน้อ ^^

1. ต้องหาที่พักฟรีก่อนน่ะ
             ที่พักฟรี หาได้ที่ไหน เราชอบดูเพจท่องเที่ยว ชอบอ่านรีวิวการเดินทาง แบบว่า ดูเค้าเที่ยวแหล่ะ  ไม่มีปัญญาไปตามเค้าหรอก..555 แล้วบางทีเพจท่องเที่ยวเหล่านี้ก็จะแจกที่พักฟรี แต่เราต้องร่วมกิจกรรมตามกติกาที่เค้ากำหนดนะ เช่น กดไลค์เพจ กดแชร์เพจ กดแชร์โพสต์  comment ตอบคำถามตามโจทย์ ประกวดภาพถ่ายอะไรประมาณนั้น ..และวันที่รอคอยก็มาถึง  เราโชคดีจากเพจ กาลครั้งหนึ่งฉันเคยไป https://www.facebook.com/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B6%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%89%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%9B-325385054337301/?fref=ts
by คุณ pisut Satityangkul https://www.facebook.com/profile.php?id=100000212814828&fref=ts และแล้วเราก็ได้ ที่พัก Apple A Day Resort https://www.facebook.com/pg/appleadaykrabi/photos/?ref=page_internal พิกัด Aonang Beach Krabi แพ็คเกต 3 วัน 2 คืน พร้อมอาหารเช้า ..ดีงาม..อิ อิ

2. เดินทางจาก Bangkok -> Karbi ไปไงดี
           เด๋วนี้สายการบินโลว์คอสราคาถูกเพียบเรย บินไปดีกว่า เกร๋ๆๆ  ง่ายๆ ไม่ปวดหลัง ไม่นั่งนาน
เราเลือกซื้อตั๋วโดยสารกับ Traveloka มันง่ายดีอ่ะ จองผ่านแอฟในมือถือก็ได้ โหลดมาไว้ซิ่ รออัลไร  วิธีการใช้แอฟง่ายดาย ก็เลือกค้นหาเที่ยวบินราคาถูก ในวันที่เราสะดวกจะเดินทางไป  มีสายการบินมากมายหลายแบรน์ให้เราเลือกเทียบราคา เทียบเวลาเที่ยวบิน  แน่นอนว่าเราเลือกสายการบินราคาถูกที่สุดในวันนั้น  และเราก็ได้  Thai Lion Air สายการบินสัญชาติอินโดนีเซีย ไป - กลับในราคา 1.169.68 บาท รวมทุกอย่างแล้ว แถมฟรีน้ำหนักกระเป๋า 15 กก. (เที่ยวละ 584.84 บาท) ทำรายการชำระเงินตัดจากบัตรเครดิต  ไม่ชารต์สักบาท  เวลาจะเช็คอินเราแค่บอกชื่อและยื่นบัตรประชาชนกับพนักงานออกบัตรโดยสารแค่เนี้ย..เฮ้ย !! มันง่ายอ่ะ  (ปล.เราเพิ่งทำรายการอะไรแบบนี้ครั้งแรก  เดินทางโดยเครื่องบินไป-กลับคนเดียวครั้งแรกด้วยนะ )

3.วางแผนการเที่ยว
              ความจริง จ. กระบี่นี่เรามาหลายครั้งแล้วนะ  ไปมาหลายที่แล้วด้วย  ทะเลแหวก อ่าวนาง หาดนพรัตน์ธารา สระมรกต บ่อน้ำผุด น้ำตกร้อน สุสานหอยล้านปี วัดถ้าเสือ (ปืนบันได 1234 ขั้นไปชมวิวแล้วด้วย) เขาขนาบน้ำ ในเมือง ห้างโว๊ค เกาะพีพี จุดชมวิวเกาะพีพี  เกาะไม้ไผ่ เกาะยูง ดำน้ำดูปะการัง วัดแก้ว  ไปมาหมดแล้ว  ครั้งนี้เรยกำหนดว่างั้นไปที่ที่ยังไม่เคยไปดีกว่า  เราเลือกจะไปเกาะลันตา ในวันแรก แล้วย้อนกลับไปนอนอ่าวนางที่พักที่เราได้  วันที่สองเราเลือกไป ไร่เลย์  แผนการเที่ยวมีง่ายๆแค่นี้หล่ะ  เราจะเจออะไรบ้าง.. ทำกิจกรรมอะไรบ้างเด๋วค่อยดูสถานการณ์เฉพาะหน้าเอา..ฮี่ ฮี่ ^^

4. สำรวจพันธมิตร
    ในพื้นที่นี้เรามีคนรู้จักบ้างป่าวหนอ  แค่คิดถึงเผื่อๆไว้นะ  ไม่ได้ตั้งใจจะรบกวน บางทีเราก็ไม่ได้สนิทกันมาก  กันเหนียวไว้ เผื่อฉุกเฉินเค้าอาจแนะนำช่วยเหลือเราด้าย..
เหม่ๆ  ก็ยังมีเพื่อนกะเค้าบ้างนะ  ทริปนี้จะมีเพื่อนขับรถยนต์มาจากปัตตานี จะแวะมาหาเราบางช่วง และกลับไปก่อน (ปล.มันมากะกิ๊ก ห้ามเปิดเผยตัว ห้ามออกนาม ก้อ เรื่องส่วนตั๊ว ตรู๊ม่ายยุ่งๆๆ)


มา..มา..มา.. ตามเราไปเที่ยวกระบี่กัน ^^

Part 1 ..ออกเดินทาง Bangkok – Karbi  29 ต.ค.2559
    พิกัดเราอยู่พญาไท ซอยเปลี่ยวอีกต่างหาก  เครื่องเราออก 05.35 น. วันที่ 30 ต.ค. 2559 ซึ่งแปลว่าเราต้องไปให้ทันเช็คอินอย่างน้อย 90 นาที ที่ดอนเมือง แล้วช่วงเวลาการเดินทางจากพญาไทไปดอนเมืองอีก  คำนวณแล้ว แปลว่าต้องออกจากที่พัก ตี 3  ทดลองเข้า App GrabTaxi ระบบแจ้งว่า ค่าโดยสาร 199-290 บาท ไม่รวมค่าเรียกอีก 30 บาท..เหอะ !! ไม่เอาอ่ะ  เก็บตังค์ไว้กินข้าวดีกว่า  ถ้าอย่างนั้นจะไปยังไงเธอว์ !!
    งั้นเดินออกจากซอยตอน 23.00 น. ยังมีร้านค้า คนเดินอยู่ ไม่เปลี่ยวเท่าไหร่ เดินทะลุซอยประมาณ 1 กิโลก่าๆ ไปขึ้น BTS เที่ยวก่อนสุดท้าย (กันเหนียวไง  ถ้าขึ้นเที่ยวสุดท้ายแล้วยังเดินไปไม่ถึงสถานีทำไงหล่ะ Bts ปิดเที่ยวคืนนาจ่า)
    Bts พญาไท อนุสาวรีย์ชัย  ราคา 15 บาท
    จากนั้นเดินไปทางเกาะพหลโยธิน (ฝั่งรพ.พระมงกุฎเกล้าไง) ไปรอรถ Bus สีส้ม A2 (สาย A2 คือรถเมล์ปรับอากาศให้บริการต้นทางจากอาคารผู้โดยสาร 2 สนามบินดอนเมือง ปลายทาง อนุสาวรีย์ชัย วนกลับ รับผู้โดยสารไปเข้าสนามบินต่อ  ยังมีสาย A1 แต่จะสิ้นสุดระยะทาง BTS จตุจักร เที่ยวสุดท้ายของ A1และA2 จะออกจากสนามบินเวลา 24.00 น. ซึ่งแปลว่าจะมาถึงอนุสาวรีย์ชัยหรือจตุจักร ประมาณ 24.30 น.
    เราเดินลงมาจาก BTS ปุ๊ป เราก็มองเห็นรถเมล์ A2 กำลังอยู่ในวงเวียนอนุสาวรีย์ชัย จอดติดไฟแดง อยู่ เฮ้ย !! ดีใจซิ่ฮะ  รีบวิ่งข้ามถนนมาฝั่งเกาะพหลโยธินทันที  ดึกแล้ว ไม่ได้ขึ้นสะพานลอยข้ามหรอกนะ  ถนนโล่งโฮก..!! ฮี่ ฮี่ รถเข้าท่า เดินทำหน้าสวยๆ ขึ้นรถไป จ่ายตังค์ 30 บาท รถขึ้นทางด่วนด้วย สบายใจจรุงๆๆ  (อันที่จริงมีรถเมล์สาธารณะหลายสายผ่านดอนเมือง เราก็ไปได้นะ  แต่ มันไม่เข้าอาคารผู้โดยสารไง  แปลว่าคุณต้องแบกสัมภาระคุณเดินขึ้นสะพานลอย ข้ามฝั่งไกลม้ากกกกกกกกกกกกกก เราว่า A1- A2 ถูกดีและสะดวกสุดๆๆอ่ะ) 30 นาที ถึงแย้ว
          เสียตังค์ 45 บาท จากที่พัก – หนามบิน (ยิ้มแปร้ !!)
        24.30 น. มายืนเอ๋อๆ อยู่หนามบิน ทำอัลไรดี

นอนรอเช็คอินซิ่ ฮะ เฮ้ย  !! ใครๆเค้าก็นอน  นานาชาติเค้าก็นอนกัน นอนมั่งดิ่  เอาผ้าคลุมชายหาดมาแย้ว คลุมโปงนอน บายใจ..แต่เจ็บหลังชะมัดเรย  เด๋วคราวหน้า จะซื้อที่นอนแบบเป่าลม พกมานอนเรยนะ คอยดู๋ !! (ปล.รูปหน้าสด  แบบว่าสดมาจากบ้านนั่นแหล่ะ  อ้าว!! ก็ตั้งใจจะมานอนนี่นา  จะแต่งหน้ามาไมหล้ะ..555)

นอนไม่หลับเรยฟ่ะ  พับผ่าจิ่  ทามมายน่ะเหรอ ก็คุณจีนงัย  คุณจีนจิ่คุยกันเสียงดังขโมงโฉงเฉงโอ้ย !! เพลีย ลุกไปล้างหน้าแต่งหน้าเตรียมไปเชคอินก่า..ตี 3.30 น. เปิดแล้วฮะ เค้าเตอร์ Thai Lion Air ไสหน้ามึนๆเข้าไป แจ้งชื่อ ยื่นบัตรประชาชนกะพนักงาน  “ขอที่นั่งริมหน้าต่างด้วยค่ะ” ฮี่ ฮี่ ทำการบ้านมาดี  เราเลือกที่นั่งด้ายยยยยยยยยยยยย  ไม่เสียตังค์เพิ่มด้วย กรู๊ กรู๊

เดินเข้า GATE ไปโลด มันว่างระหว่างรอเรียกขึ้นเครื่อง ตั้งเวลาถ่ายรูปเล่นไป..มือถือเรา แคร์ใครอ่ะ นั่งกดไปเรื่อย  หน้านี่ตื่นแล้วเหรอฟะ..

Thai Lion Air สายการบินต้นทุนต่ำสัญชาติอินโดนีเซีย..บินนิ่ง ตรงเวลาสุดๆ แจกน้ำกะขนมเบาๆบนเครื่องนิดหน่อยพอละลายในปาก..555 ลงนิ่ม กัปตันเก่ง..ดีงาม นั่งริมหน้าต่างวิวก็สวยอย่างนี้หล่ะ ^^

Part 2. ไปเกาะลันตา กันนะ  30 ต.ค.2559
เข้าห้องน้ำ..ทำอัลไรเรียบร้อย 07.00 น. เราก็ได้รับโทรศัพท์จากคุณเพื่อนราชรภมาเกย เฮ้ย!! “กูมารอรับเมิง อยู่นอกอาคารนี่ เมิงไสหัวออกมาเรย สาดดดดดดดด ”
หัวใจงี้ลิงโลด..มีเพื่อนเที่ยวแย้ว..ฮ่ะ (ปล.เพื่อนเราเป็นชายหนุ่มแบบสายเถื่อนโหด แปลกแต่จริงมันงี้หญิงติดตรึม  เพื่อนคนนี้เราเคยเที่ยวด้วยกันกับแฟนเราแล้ว  ในวันที่แฟนเราเสีย  มันปลอบใจเราแค่ 11 คำว่า “กูไม่ทิ้ง มีกูเป็นเพื่อนตลอดไป”  น้ำตาซึมทีเดียวเมื่อรู้ว่าเพื่อนขับรถออกจากปัตตานี ตอน 3 ทุ่ม ฝ่าฝนตกหนักทางมืด กว่า 400 กิโล มาถึงกระบี่ตอนตี 3 มาเช่าม่านรูดนอนรอเรา  และมารอรับเราที่หนามบินกระบี่ตรงเวลาเราลงเครื่องเป๊ะ ตอนเช้า  ทั้งที่ๆเราบอกแล้วว่าเที่ยวคนเดียวได้ เคยมากระบี่แล้ว  และไม่ได้เที่ยวคนเดียวครั้งแรกนะ   เพลานี้เพื่อนเหน็บสาวสวยมาด้วย 1 คน และกำชับว่า เมิงห้ามเอากูออกสื่อ ..นั่นๆๆๆ  นิสัย !! )
เพื่อนถามว่า แผนมีไรมั่ง..ตอบ ช้านจะไปเกาะลันตา  ไปกันเร้ย..เฮ้ !!!!

แต่..!! เด่วก้อน..กองทัพต้องเดินด้วยท้อง..หิวๆๆๆ..เหนียวไก่นิ๊..!! ไก่กร๊อบ กรอบ ม๊าก !! ข้าวเหนียวโรยหอมเจียวร้อน เรากินคู่กะกาแฟร้อน เพื่อนเรากินชาร้อน.. ไก่ 3 ชิ้น เหนียว 2 กล่อง  หร็อยแรง หร็อยแรง ^^ 65 บาท

อิ่มหล่าวไปต่อด้าย..จิไปเกาะลันตา  ต้องไปขึ้นแพขนานยนต์ที่ บ้านหัวหิน – คลองหมาก  รถยนต์คันละ 100 บาท คนขับฟรี ผู้โดยสารคนละ 10 บาท จัดไป 3 คน 120 บาท (ต่อเที่ยว ) ไปกลับก็ 240 บาท  (ปล.เพื่อนจ่าย อิ อิ..เพราะเมื่อกี้เราชิงจ่ายค่าเหนียวไก่ไปก่อนแล้ว..5555)  เราต้องไปขึ้นที่เกาะลันตาน้อย  แล้วข้ามสะพานข้ามเกาะไปเกาะลันตาใหญ่นะจ้ะ  แต่ก่อนที่สะพานยังไม่สร้าง ต้องลงแพ 2 ช่วงทีเดียว

แพขนานยนต์หน้าตาแบบนี้ นั่ง 15 นาทีก็ถึง

เป้าหมายของเราคือขับรถวนรอบเกาะลันตาใหญ่ อยากแวะตรงไหนก็แวะ แต่ปัญหาคือทางไม่ได้วนเชื่อมกัน  แปลว่าเราต้องย้อนไปย้อนมา  ดังนั้น  เราเลือกที่จะไปทางปีกขวา คือ ปลายทางฝั่งบ้านสังกาฮู้ ก่อน  แล้วขับรถย้อนมา ปีกซ้าย จบ ที่แหลมตโนด เขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา เป็นอันสิ้นสุดการสำรวจเกาะลันตาใหญ่

วิวบนสะพานสิริลันตา  สะพานเชื่อมระหว่างเกาะแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย (เชื่อมเกาะลันตาน้อย-ลันตาใหญ่) เพิ่งเปิดให้ใช้เมื่อ 17 มิ.ย.2559 นี้เองนะ

ขับผ่านร้านอาหารที่มีจุดชมวิวสวยๆมากมาย ก็ดูๆไว้ก่อนยังไม่แวะ เพราะเด๋วเราก็ต้องย้อนกลับมาทางเดิม  ถนนโอเค ไม่โค้ง ไม่ชัน ไม่หลุมมาก ใช้ความเร็วต่ำเรื่อย เราก็ผ่านบ้านหัวแหลม ( Home sharp) บ้านชาวเล (Baanchaolay Home) จนมาสุดปลายทาง ที่บ้านสังกะฮู้  (Ban Seong Ka U) เราสังเกตุว่ารูปแบบบ้านทั้ง 3 หมู่บ้านเหมือนกัน พอเจอป้ายนี้จึงถึงบางอ้อ  บ้านพวกนี้คือบ้านที่สร้างโดยมูลนิธิศุภนิมิต สร้างให้ชาวชาวเกาะดั้งเดิม ได้มีที่อยู่อาศัยที่แข็งแรง มีรูปแบบการจัดระเบียบพื้นที่ ทั้งหมด 89 หลัง น่าสังเกตว่า พื้นที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่ติดทะเล มีชายหาดที่แคบมาก และมีป้ายเตือนว่าเป็นพื้นที่เสี่ยงสึนามึด้วย

สุดทางนี้ เราขอเพื่อนลงไปเดินเล่นสักหน่อย  รู้แล้วทำไมถนนไม่เชื่อมกันวนรอบเกาะ  ก็เพราะมันติดโขดเขา เว้าสู่ทะเลตรงนี้เอง  

ทรายอ่าวนี้ไม่สวยเท่าไหร่เป็นทรายหยาบแดงๆและแข็งๆ ถ่ายรูปหมาทะเลสักหน่อย..บ้าย บาย สังกาฮู้ รู้แล้ว มาถึงแล้ว ^^
ย้อนกลับขึ้นมาทางเดิม พวกเราก็ชักคอแห้ง หิวน้ำกัน  แวะร้านอาหารวิวสวยๆ กันหน่อย  เราสั่งน้ำมะนาวปั่น  เพื่อนเราสั่งน้ำอัดลม  จำไม่ได้ว่าราคาเท่าไหร่ (เพื่อนจ่ายน่ะ)

มานั่งห้อยขาชมวิวสวยๆ ถ่ายรูปเล่นกัน

อีกสักรูปน่ะ กะวิวสวยๆ บรรยากาศแบบนี้หล่ะ  มันดีต่อใจจริงๆนะ

บนเกาะนี้  นักท่องเที่ยวก็เช่ามอเตอร์ไซด์ขี่กัน  ก็จะพบ  เชื้อเพลิงรูปแบบนี้ใส่ขวดขายกันอย่างนี้เรย เป็นระยะ ^^

เด๋วเราจะแวะย่าน Old Town จะไปถ่ายรูปตรงสะพานท่าเรือ อ.เก่า (Lanta Pier) อยู่ใกล้กันนั่นหล่ะ เดินก็ถึง  พอรู้มาบ้างว่า Old Town คือย่านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร ที่พัก และที่อยู่อาศัยของชุมชนดั้งเดิม  เราไม่คิดจะซื้อของกลับอยู่แล้ว เพราะไม่อยากแบกอะไรเพิ่ม  เราจึงสนใจที่จะถ่ายรูปประภาคารมากกว่า  จึงแยกกับเพื่อน เพื่อนไปสวีทมุ้งมิ้งกัน 2 คน  (ให้เวลาส่วนตัวเค้าบ้างน่ะ..555)

ทดลองถ่ายแบบใส่แอฟเฟ็คหน่อย  เปรียบเทียบแล้วชอบอารมฌ์แบบรูปเก่ามากกว่า

ตรงหลังคาแดงนั่นหล่ะ เรียกว่า ท่าเรือ อ.เก่า (Lanta Pier) อยู่ตรงนี้คนเดียว จะถ่ายรูปตัวเองยังไง  คิดแป้ป

เราไม่มีไม้เซลฟี่ (เมื่อไหร่มันจะซื้อฟะ) เราไม่มีขาตั้งหนวดปลาหมึก (ก็เมื่อไหร่มันจะซื้อซะทีอีกนั่นหล่ะ) เราใช้วิธีง่ายสุดๆๆ คือ พิงมือถือไว้กับอะไรก็ได้  ตั้งเวลา เก๊กท่าไป  ก็ง่ายๆแค่นี้...555

รูปที่ได้ก็แบบนี้หล่ะ..ฮิ้ว ฮิ้วๆๆ !!

ซากปะการัง รูปร่างแปลกดี ตรงนี้ไม่มีหาด  มีแต่ก้อนหินแดงๆแบบก้อนใหญ่ๆ เรยอ่ะ  หินแบบ ถ้าสะดุดล้มหน้าทิ่มนี่ อาจจะปากแตกด้าย..555

ถ่ายรูปจนพอใจแล้ว  เดินกลับมาก็เห็นเพื่อนออกมาจากย่าน Old Town พอดี  เพื่อนตะโกนมาบอกว่า  “กูหิวข้าวแล้ววววววววววววววววววววว”
งั้นเด๋วเราไปหาข้าวกินกัน  ขับย้อนขึ้นมาเรื่อยๆ  เราก็เจอร้านอาหาร  ชื่อ View point ร้านนี้อาหารจานใหญ่ไซส์ฝรั่งมาก!! เราสั่งสปาเก๊ตตี้ขี้เมาทะเล  พอยกมานี่ ตกใจเรย  ต้องขอจานแบ่งกินกับเพื่อนเรยอ่ะ (เท่าไหร่ไม่รู้อ่ะเพื่อนจ่าย  อีกแย้ว ^^)

อิ่มแล้วก็เดินทางกันต่อ  จุดหมายต่อไป คือขับรถวนตามแผนที่ปีกซ้าย  เพื่อจะไปสุดทางที่เขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา  แหลมตโนด ปีกซ้ายจะมีรีสอร์ทที่พักระดับ 3-5 ดาวเรียงรายตลอดทาง เย๊อะมากด้วย ผิดกับฝั่งขวาแบบหน้ามือ หลังมือเรยหล่ะ  ดูจากแผนที่แล้วคงเป็นเพราะมีชายหาดจำนวนมาก ให้เล่นน้ำได้มากกว่าด้านขวานั่นเอง

มาถึงเขตอุทยาน เราต้องซื้อตั๋วเพื่อเข้าชมในพื้นที่ก่อนนะจ้ะ  สำหรับขับรถยนต์เข้าไปคันละ 30 บาท  ผู้โดยสาร คนละ 40 บาท  (จ่ายไป 150 บาท  อันนี้เราต้องชิงลงไปซื้อและรีบจ่ายตังค์  ไม่งั้นเพื่อนก็จะจ่ายให้เราอีกอ่ะ) ตั๋วหน้าตาแบบนี้หล่ะ

คำเตือน : ระดับสูงสุด  ตรงนี้ มีลิงซน ลิงแย่งของ ใครถือขนมจะถูกจู่โจมอย่างรวดเร็ว  Take Off แบบฝรั่งงงไปเรย  เรานี่ระวังมากเรย  ส่วนตัวเคยเดินเฉยๆก็ถูกลิงกัดตูด ตอนไปดำน้ำที่เกาะนกยูง  ที่เคยไปเที่ยวเกาะพีพี หลายปีแล้ว  ตอนนั้นเรา ตัวเล็กๆๆ  ดำๆๆ ก็ไปคนเดียวอีกหล่ะ ทั้งเกาะสำหรับดำน้ำมีแต่ฝรั่งตัวใหญ่  ลิงตัวผู้มันเรยคิดว่าเราเป็นลิงตัวผู้เหมือนมัน มาบุกรุกฮาเรม พื้นที่ครองฮาเร็มเมียของมัน  ขาอีกข้างยังก้าวไม่พ้นกาบเรือ มันวิ่งมางับตูดเราคนเดียวเรย  แต่ไม่สนใจฝรั่งด้วยซ้ำ  ลุงขับเรือต้องพาเราไปฉีดยาที่ รพ.เกาะพีพี แถมกลับมาต้องมาฉีดกันบาดทะยัก ที่รพ.ในกรุงเทพ อีก จนครบ 5 เข็ม แถมประกัน ยี่ห้อขึ้นต้นด้วย A ยังบอกประกันที่เราซื้อ สัตว์กัดไม่ถือเป็นอุบัติเหตุ เอ้า !! ยกเลิกประกันซิ่ค้ะ  รออัลไร  และแล้ว ลิงอุทยานวันนี้มันพุ่งเป้าไปที่การเปิดประตูรถ พอเราลงจากรถเพื่อเดินไปซื้อตั๋ว ลิงฉลาดปั้ปโดดขึ้นหลังคารถ น้อมตัวลงมาพยายามมองผ่านกระจกเข้าไปในรถ  เพื่อนเรารีบล็อกประตูรถทันที  ลิงไม่รู้ตกใจเสียงล๊อค หรือจะโมโห หรือจะหิว หรือ
ไรไม่รู้ เดาใจมันไม่ถูก  มันหักกันสาดคิ้วประตูรถเรยฮะ  แล้วมันก็ถือคิ้วรถเพื่อนเรา ลิงยังนั่งอยู่บนหลังคารถ  (ตอนนี้เราไม่ได้ถ่ายรูปไว้นะ  อย่างที่บอกเรากลัวมันแย่งของเรยลงไปแต่ตัว) เพื่อนเรารีบออกรถ  แต่เรายังไม่ได้ขึ้นรถนะ ลิงก็กระโดดลงไป  เรารีบวิ่งไปขึ้นรถเพื่อนอย่างไว ปิดประตูล๊อคทันที  พอมาถึงจุดจอดรถในที่ทำการอุทยานฯ เจ้าหน้าที่มาขอฉีกหางตั๋ว เราก็แจ้งเค้า  เค้าก็ว่าลิงมันซนมาก  เขียนป้ายเตือนนักท่องเที่ยวแล้ว  แต่เราและเพื่อนเราเจ้าของรถก็ไม่ได้โมโหนะ  เข้าใจธรรมชาติ ก็ลิงน้อ  มันซน มันไว  แล้วเดิมนี่คือถิ่นที่อยู่ของเค้า  เราต่างหากมาบุกรุกบ้านเค้า  เจ้าหน้าที่บอกขอถ่ายรูปเรา  ยืนถือคิ้วรถที่หัก ยืนคู่กะรถเรย  เค้าบอกเอาไปรายงานหัวหน้า  แถมยังขอบคุณเราด้วยที่เข้าใจ  แต่บางคนเค้าอาจจะโวยวายก็ได้นะ  อันนี้เราคิดเองนะ  สมมุติถ้าเป็นรถเช่าอ่ะ  อย่างนี้ผู้เช่าต้องชดใช้ให้กับเจ้าของรถยนต์ด้วยซิ่  ก็ว่ากันไปเน๊อะ  แต่เพื่อนเรากลับมีท่าทีอีกแบบ  มันบอก “ เด๋วกูจะซื้อหวยเลขทะเบียนรถกู  ลิงมันให้ลาภ  เด๋วถูกหวยเย๊อะ กูจะซื้อผลไม้มาเทให้มันเรย...” 555  อย่างนี้ก็ได้เหรอ ^^

พื้นที่ในอุทยานมีต้นตาลโตนดเพียบเรย  เป็นที่มาของชื่อ แหลมตโนดไง  มีพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวกางเต้นท์ค้างคืนในพื่นที่ด้วย  แต่จะสู้น้องลิงไหวป่าวก็ว่ากันไปนะ  ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานล่วงหน้านะจ้ะ  จุดจอดเฮลิคอปเตอร์  แสดงแบบโดยคุณเพื่อน (ย้ำ!! ห้ามเอาหน้ากูออกสื่อ..โธว์ ไอ้เสือโหย..)  

อ่าวด้านก่อนถึงแหลมเป็นแบบนี้ หินก้อนใหญ่ๆอย่างนี้เรย  ชาวบ้านเรียกว่า ป่าหินงาม  แต่อีกด้านหินไม่สวยเท่านี้นะ

แต่เป้าหมายของเราอยู่บนโน้น  นั่นไงประภาคารเก่าอันเลื่องชื่อ ไฮไลท์ของเกาะลันตา เด๋วจะปืนขึ้นไป อิ อิ  ตอนโอ้ เอ้ถ่ายรูปอ่าวอยู่ด้านล่าง คุณเพื่อน ก็ปืนขึ้นไปถึงแล้ว  พร้อมตะโกน ลงมาว่า “ไม่มีอะไรเรย..”  เฮ้ย !! ก็มาชมวิว  ไง ปัดโธว์ !!

ขึ้นมาแย้ว ทางไม่ชันเท่าไหร่

พบพิกัด GPS แผนที่ทหารด้วยนาจ่า

ขึ้นมาบนนี้แล้วมองลงไปทางฝั่งอ่าวป่าหินงาม  สูงเหมือนกันเฮะ

ประภาคารเก่าจังแฮะ  ยังใช้ได้ส่องไฟให้ชาวประมงเห็นปกติหรือเปล่าน้อ  ดันลืมถามเจ้าหน้าที่มาซิ่

ใกล้ประภาคาร  เราพบสิ่งนี้ ก็ไม่รู้ว่าคืออะไร  ฝรั่งไปยืนถ่ายรูปกันใหญ่เรย  เดิมไม่รู้เป็นอะไรสักอย่าง  แต่มันชำรุดแล้วหล่ะ

โน่นแหลมตะโนดของจริงอยู่ตรงโน้น  ทางชัน หินคม ลมแรง ม๊ากกกกกกกกกกกกก เด๋วจะคลาน กระดื๊บ กระดิ๊บไป  เสียวเหมือนกันนะ   เกาะเล็กนั่นเรียกว่า เกะหม้อ  เป็นจุดดำดูปะการังน้ำลึก

ต่ายมา โขดนึง ก่อนเกือบสุดปลายแหลมแล้วหันกลับมาถ่ายรูปประภาคาร  ก็จะได้วิว แบบนี้เรย  

ต่ายมาอีกๆๆ  ก็ได้วิวแบบนี้

ต่ายย้อนกลับไปอย่างระมัดระวัง ลมก็แรง พัดซะ !!  นี่มันหน้าผาดีๆนี่เอง หินคมด้วย โอ้ย โอ้ย เสียวๆๆ

หันมาถ่ายรูปวิวอ่าวฝั่งขวากันหน่อย  คนละด้านก็ฝั่งหินงามนะ ฝั่งนี้ไม่มีหินก้อนใหญ่เว่อร์วังเท่าไหร่

จะเดินลงไปจากแหลมโตนดนี้แล้วนะ  ดูรวมๆแล้วก็มีเสน่ห์ดี

เดินลงมาจากแหลมเด๋วไปเดินเล่นริมหาดหน้าอ่าว แป้ป  นี่หาดหินก้อนเล็กกว่าฝั่งโน้นจริงเหรอ..><

อ่าวหน้าหาดก็ประมาณนี้หล่ะ

สำเร็จภารกิจพิชิตเกาะลันตา  สำเร็จแย้ว  มาดูรูปรวมกันหน่อย  ว้าว ว้าว

บ๊าย บาย เกาะลันตาใหญ่  ย้อนกลับไปทางเดิม ข้ามสะพานข้ามเกาะ ไปเกาะลันตาน้อย  และก็ขึ้นแพขนานยนต์ กลับไปบ้านหัวหิน – คลองหมาก เหมือนเดิม  สรุป มาทางไหนกลับทางนั้นงัย  ใกล้มืดแล้ว จุดหมายต่อไปของเรา คือ ไปที่พัก พิกัด ต.อ่าวนาง อ.เมือง

Part 3  Ao - Nang
เราขับผ่านสนามบินนานาชาติกระบี่  แล้วตรงมาอ่าวนางเรย  ผ่านมัสยิดอ่าวนาง อีกนิดเดียวก็จะถึงที่พักแล้ว

หิวข้าวแล้วแวะกินข้าวกันก่อน..กินที่นี่นะ ^^

หน้าร้านโชว์วัตถุดิบด้วย  อนึ่ง จะบอกลูกค้าเป็นนัยๆว่า ของชั้นสดจริง ไรจริงนะ

เราเลือกสั่งที่ชอบกันคนละ 1-2 อย่าง ก็แบบนี้หล่ะ  กุ้งห่มผ้า (กุ้งห่อเกี้ยวทอด ) (หอยนางรมสด) (แกงส้มปลาอินทรีย์) (หอยตลับผัดน้ำพริกเผา)  (มีปลากะพงทอดน้ำปลาด้วย..แต่มาช้าก็เรยกินที่มาก่อนไม่คอยถ่ายรูปแล้ว ..หิว..) ข้าวปลาดาวพิมพ์ จานละ 29 นะ ข้าวน่ะ  (ก็นะพื้นที่ท่องเที่ยวนี่นา) มื้อนี้ค่าอาหาร 1000 บาทเศษๆ ยังไม่ทันดูบิล เพื่อนก็จ่ายไปแล้วเหมือนเดิม  อาหารนี่ราคาพอๆๆกับค่าเครื่องบินไป – กลับ ของเรา (ถ้าตอนนี้อยู่คนเดียวเราคงผูกท้องกับข้าวใน 7-11 อ่ะ..555)  อิ่มแล้วก็ง่วง..เข้าที่พักกันเรยดีกว่าเน๊อะ ^^

Part 4   Apple Aday Resort  
                www.appleadaykrabi.com
ที่พักเราไม่ติดทะเล  แต่ไม่ไกลทะเลเท่าไหร  ตาม googlemap นี้เรย  ก็ไม่ไกลจากร้านที่เรากินข้าวนั่นหล่ะ

ว้าว ++  Apple เด่นเด้งเก๋รไก๋ร จริงๆ Aonang Soi 8  เลี้ยวขวาเข้าซอยมานิดเดียวก็เจอเรยอ่ะ

WoW  !! Big Apple

เข้าไป เช็คอินกันเถอะ  เราแจ้งจองล่วงหน้ามาแล้วแถมพักฟรีด้วย  ส่วนเพื่อนเราก็เปิดห้องใหม่กะสาวของเค้า ห้อง Chic Apple (Deluxe) รวมอาหารเช้า 2 คน ราคา 1800 บาท

สวัสดีจ้ะ..น้องต่าย จะถ่ายเอียงทำไมนี่

นี่นี่  ห้องอาหาร  THE BOX RESTAURANT ถ่ายแค่นี้พอ  พรุ่งนี้เช้าเรามาทานอาหารค่อยถ่ายด้านใน

WoW : สระแดงในตำนาน RED SWIMMING POOL (ADULT & KIDS POOL) พร้อม CRUNCHY POOL BAR

สระว่ายน้ำเปิด 07.00 น. ปิด 19.00 น.  เรามาถึงก็ปิดซะแล้ว  อดเล่นเรยอ่ะ ><

จุดล้างตัวลงเล่นน้ำ ปูนเปลือยก็สวยดิบๆดีนะ

ขึ้นไปห้องพักของเราดีก่า..OH..!! I have a Lift  _/  I have a Apple = I have Apple Lift ^^  เอ้า..!! เฮ้ย  กด เรย  เราพักชั้น 4 นะ..!!

นี่ๆๆ ห้องของเรา 2 คืน จากนี้ 420 ตาม GV ที่เราได้ระบุว่าให้เราพักห้อง Chic Apple (Deluxe) ซึ่งก็คือ ห้องนอนที่มีเตียงนอน แล้วก็ทีวี แบบ box เดียวกัน ก็เหมือนห้องมาตรฐานของโรงแรมทั่วไป  ดูตาม ลิงค์ room ของโรงแรมก็ได้ http://www.appleadaykrabi.com/rooms.html  
แต่เด๋วก่อน  พนักงานบอกว่า อัพเกรด ห้องให้เราเป็นห้อง Eve Suite (Suite) ซึ่งแปลว่า ห้องที่มีห้องนั่งเล่นอยู่ในห้อง และแน่นอนว่าราคาแพงกว่าห้อง  (Deluxe) ตามมา..ตามมา..มาดูห้องเรากัน

อื้อ หือ  ดีงาม  กระเป๋าสวยน้องต่าย ข้างในมือเสื่อ สำหรับให้เราไปปูนอนชายหาด  ร่มก็มี เอ้า !! แต่ Love สุดๆๆๆๆ สำหรับเราคือ ไดร์เป่าผมนะจ้ะ (อยู่ในถุงผ้าเล็กๆ) สีแดงที่เห็นเหมือนดรัมเบล์ นั่นคือไฟฉายนะจ้ะ  เกร๋จรุง จรุง ^^

เค้าออกแบบเข้ากันทุกลายละเอียดเรยอ่ะ

รองเท้าก็มีอ่ะ สั่งทำแบบมีตราโลโก้ด้วยยยยยยยยยย

ในส่วนของห้องนั่งเล่นเป็นแบบนี้นะ

ทุกอย่างในห้องและในตู้เย็น  กินได้หมดฟรี คือบริการที่จัดไว้ของโรงแรม  จริงแล้วๆในตู้เย็นมีปีโป้ด้วย ประมาณ 4 อัน  และขนมมี 2 ห่อ  แต่เรากำจัดมันลงท้องซะก่อนถ่ายรูปไปแล้ว..555  

โปสการ์ดโรงแรมให้เราเขียนส่งถึงใครก็ได้ 2 ใบ นามบัตร พร้อม รหัส WiFi Oh..ดีงาม

โซฟานุ่ม นั่งสะบาย จริม ๆ

ดูรวมๆแล้วก็มีเสน่ห์ดีเน๊าะ ^^

ไปดูในส่วนของห้องนอนกัน ก็อยู่ถัดจาดไม้อัดกั้นนี่หล่ะ

ว้าว ++ พับผ้าขนหนูเป็นน้องปลาหมึกด้วยแฮะ

มีทีวีอีกเครื่องในนี้ด้วยนะ  คืนนี้หลับสบายและฝันดีแน่ๆๆ  

แต่เด่วก่อน !! ..แกยังไม่ได้อาบน้ำนะ.. ไปดูห้องน้ำกัน..ฮิ้ว ฮิ้ว ^^

อาบน้ำนอนก่า..แต่เด๋วก่อน..!! เป็นผู้หญิง สวยมาก นอนคนเดียวต้องระมัดระวัง ตรวจตราตัวล๊อคหน้าต่างกระจกทุกบาน Apple ก็มีระบบล๊อคประตู เจ๋งๆๆแบบนี้ด้วย  นอนสบายอุ่นใจหล่ะ ..ฝันดีนะ  บอกตัวเอง ><
31 ต.ค.2559 เช้าวันใหม่ นอนสบาย ตื่นมาสดใสซ่าบซ่า  ออกไปสำรวจบรรยากาศภายในโรงแรมหน่อย  นี่ นี่ ชะโงกมาจากระเบียงทางเดินก็เห็น  สระแดง แบบนี้เรย

เด๋วกดลิฟ์ทขึ้นไปชั้น 5 หน่อย (โรงแรมมี 5 ชั้นนะ) ไปดูบรรยากาศมุมสูง รอบโรงแรมกัน..ก็แล้วทำไมไม่ถ่ายแบบพาโนรามาฟะ  เพื่อนโรงแรมเพียบเรยนะ Apple ^^

ไปสำรวจกันต่อ..มีห้อง Meeting Room Mini ด้วย  จะทำ workshop เล็กๆก็ได้นะนี่  ดีจังเรยแฮะ ^^

ตรงช่องหน้าต่างห้องนี้  เรามองเห็น Big Apple ด้านล่างด้วย  สวยดีแฮะ ^^ อ่อ ลืมบอกไป โรงแรมนี้มีที่จอดรถพอสมควรทีเดียว

Fitness ก็มีนะ  ++ ยอมใจ  หลงรัก Apple ซะแล่วน่ะจ้ะ ^^

จริงๆแล้ว  มี POOL TABLE กับ ห้อง Meeting Room  ขนาดใหญ่  อยู่ที่ชั้น 2 ด้วย แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมานะ  เพราะมีแขกท่านอื่นใช้บริการอยู่  งั้นมาเดินดูสระแดงแป้ปนึงก่อน  เด๋วจะไปกินข้าวเช้าแล้วนะ

The Box : Restaurant  Breakfast Serve UNTIL 07.00 - 12.00 เอาใจคนตื่นสายม้ากกกกกกกกกก  ..ชอบอ่ะ  ตกแต่งน่ารักด้วยนะ

เดินไปสั่งออมเล็ตไว้ก่อน  อิ อิ

ซุ้มขนมปัง..เด๋วจะกินซีเรียลซักหน่อย ^^

วาฟเฟิล สปาเก็ตตี้ ข้าวต้มไก่ สังเกตว่าจะทำอาหารรสชาติกลางๆ  อร่อยดี ชาติไหนก็กินได้

จริงแล้วเมนูอาหารมีมากกว่านี้  แต่เราลงมาสาย  ก็มีแขกท่านอื่นอยู่พอสมควร ก็เรยถ่ายรูปมานิดหน่อย  ไม่อยากรบกวนแขกท่านอื่นเค้า ^^    

นี่นี่  อาหารเช้าของเรา ..ชอบที่สุด คือ กาแฟสดนี่ไง อาหารคาวที่ชิมแล้วชอบ คือ แป้งกรอบ กินกับถั่วซอสอะไรก็ไม่รู้ แต่มันอร่อยจริงๆ  คิดว่าคงเป็นอาหารอินเดียมั้ง  ดันลืมถ่ายป้ายชื่อมาน่ะสิ่ แย่จังเรยเรา..อร่อย อิ่มแปร้เรยอ่ะ ^^

Apple ยังมีบริการ LAUNDRY  SERVICE / DOCTOR ON CALL / FREE USE OF BICYCLE /รถรับส่ง/ทัวร์เกาะ เราว่ามาที่นี่ที่เดียวบริการครบและสะดวกมากๆๆเรย แหล่ะ ถ้าเราชอบของที่ระลึกเกร๋ๆ  เค้าก้มีขายด้วย ราคาไม่แพงเรย  น้องต่าย แท็กติดเป๋า /รองเท้า /beach bag

หลงรัก Big Apple ซะแล้ว  ดีใจที่ได้มาพักที่นี่  ภูมิใจที่จะแนะนำและบอกต่อ My sterious Pleasure! Apple A day Resort  หากเพื่อนๆสนใจ  คลิ๊กที่ลิงค์นี้    https://www.facebook.com/appleadaykrabi/?fref=ts  เป็นอีก 1 ช่องทางการติดต่อ  เราเองก็จองผ่าน inbox FB fanpage  สะดวกดีและให้คำแนะนำดีมากๆ

ขอบคุณ Pisut Satityangkul https://www.facebook.com/profile.php?id=100000212814828&fref=ts
เจ้าของ FB Fanpage กาลครั้งหนึ่งฉันเคยไป
https://www.facebook.com/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B6%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%89%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%9B-325385054337301/?fref=ts
ที่จัดกิจกรรมและมอบรางวัลที่พัก 2 คืน ที่นี่ให้แก่เรา
และขอบคุณ Apple Aday Resort สำหรับที่พักสุดเกร๋ และการอัพเกรดห้อง  ที่ทำให้ทริปเที่ยวนี้มีความสุขมากๆ  สะดวกมากๆ  บอกเรยเราไม่ได้เขียนอวยโรงแรมและเพจผู้จัดกิจกรรมจนเกินความจริง  เราแค่อยากจะบอกว่าเค้าแจกจริง และที่พักดีจริงๆ  คนแจกกับเจ้าของโรงแรมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราเขียนรีวิวได้ และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราจะเขียนรีวิวให้  แต่เราตั้งใจเขียนให้ตอบแทนจากความรู้สึกจริงๆเรยนะ ^^..Thank you

Part 5 Ao Rai le
    อิ่มใจ อิ่มท้อง ที่ Apple Aday Resort กันแล้ว  plan วันนี้ คือจะไป อ่าวไร่เล หล่ะนะ  เดินออกมาจากที่พัก Ao Nang Soi 8 ปุ๊ป  ก็เจอกับจุดขายตั๋วเรือข้ามไปไร่เล ได้เรย เฮ้ย !!  มันช่างพอดีอะไรอย่างนี้  เดินไปซื้อตั๋วเรยฮะ ช้าอยู่ใย ไป-กลับ คนละ 200 บาท

เดินข้ามสะพานแดงมาทางร้านอาหารวังทรายซีฟู๊ด นิดเดียวเอง เราก็ถึงแล้วอ่าวนาง จุดขึ้นเรือไปอ่าว ไร่เล   ชาวต่างชาติท่านนึงนั่งจิบกาแฟอย่างรื่นรมย์  อดเก็บภาพไว้หน่อย  เราว่ามันดีอ่ะ  ความสุขเล็กๆ

จะไปเรือหางยาว  ต้องนั่งรอนักท่องเที่ยวท่านอื่นไปด้วยกัน 8 คน เรือก็ออก  นั่งรอแป๊ปเดียวเรือแต่ละลำผู้โดยสารเต็มเร็วมาก  ไปลำนี้นะ  พี่เสื้อเขียวเรียกแย้ว ^^

จะไปอ่าวไร่เล ต้องผ่าน อ่าวต้นไทร ก่อน วิวสวยทีเดียว

อ่าวต้นไทร มีโรงแรมไม่รู้ชื่อ โรงแรมอะไร  แบบดูแล้วคงต้องเดินทางไปมา โดยเรือเท่านั้น  มานอนแบบอ่าวส่วนตัวสุดๆอ่ะ

ทะเลกระบี่ ก็มีภูมิประเทศสวยๆแบบนี้แหล่ะ  หลงรักเมืองไทย เที่ยวไทย ช่วยเศรษฐกิจไทย ^^

จากอ่าวนางนั่งเรือหางยาวประมาณ 15 – 20 นาทีก็ถึงแล้ว ใกล้นิดเดียวเองน่ะ

จาถึงแล้ว  กดชัตเตอร์รัวๆๆๆ  มีแต่วิวสวยๆ

ถึงแล้วนาจา  เรือที่มาจากอ่าวนาง  จะพาเรามาส่งที่ อ่าวไร่เล ฝั่งตะวันตก

ดูจากแผนที่แล้ว ก็แบบนี้เรยตอนนี้เราอยู่ฝั่งตะวันตกนะจ้ะ ^^ Railay West

เพื่อนถามว่า “เมิงตั้งใจมาทำอะไรนิ๊..ไร่เล” ตอบ “ก็ไม่รู้เหมือนกัน  มาเพราะยังไม่เคยมางัย  เห็นฝรั่งชอบมาปืนผากัน  อยากรู้มันเป็นยังไง..ฮี่..ฮี่ ..แต่ตอนนี้ขอเก็บภาพชายหาดฝั่งนี้ก่อนนะ  หันหน้าไปทางอ่าว ฝั่งขวาก็เป็นแบบนี้

ทีนี้มาดูฝั่งซ้ายบ้าง ทางนี้ฝั่งอ่าวถ้าพระนาง

เราจะเดินไปสำรวจฝั่งไร่เล ตะวันออก ต้องเดินเข้าทางกำแพงไม้ไผ่นี้นะ เดินจนสุดทาง  ก็จะโผล่ที่ฝั่งหน้าอ่าวพอดี

ถึงแล้ว  วิวแบบนี้เรย

น้ำกำลังจะลง  คิดถึงแฟนเขียนทรายเล่นไป..เฮ้อ

ตอนนี้สภาพเป็นแบบนี้นะ  ..เด๋วรอดูเหตุการณ์ต่อไป..อิ อิ

เราเพิ่งรู้ว่าที่นี่มี Lagoon (ลากูน) ลากูนที่ไร่เล บางทีก็เรียกทะเลใน  คือทะเลสาบน้อยในหุบเขานั่นเอง  เราเดินมาถึงจุดปืนขึ้นลากูน ก็เจอกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยจำนวนนึง และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ชายสูงใหญ่ เลือดอาบแขนและขา แผลเป็นรอยครูด น่ากลัว เจ็บน่าดูเรย สอบถามได้ความว่าเค้าลื่นตกตอนปืนในลากูน  

ฝนเริ่มลงเม็ดปรอยๆแล้วตอนนี้  ทางโหดจะไปลากูน ก็คือทางขึ้นทางเดียวที่จะไปจุดชมวิวอ่าวไร่เลด้วย  ไหนๆก็มาแล้ว  และไม่ได้มาบ่อยๆ  ทายซิ่ ว่าเราจะขึ้นมั้ย..ตอบ..!!

นั่นไง..5555 ตอนนี้เพื่อนกำลังตะโกนด่าเราอยู่ข้างล่าง พร้อมโยนกระเป๋า รองเท้า ของเราทิ้ง คือ เราเป็นโลหิตจางเวอร์ชั่นเลือดใสแบบน้ำไม่มีลิ่มเลือด  เวลาเรามีแผลเลือดเราจะไหลพรู๊ดๆๆมากกว่าคนปกติ เลือดไม่จับตัวปิดแผลประมาณนั้น  เพื่อนก็เรยเป็นห่วง เพราะเห็นฝรั่งเพิ่งตกมา  “ตายใครจะดูแลพ่อแม่เมิง..ทำไมต้องขึ้นไปตอนมากะกู..มีงไม่ลงมาก่อนบ่าย 3 กูทิ้งมิงนะว้อยๆๆๆๆๆๆๆ..สร่าดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ..” ได้ยินเพื่อนตะโกนด่าแว่วๆ ก็ไม่หันหลังกลับแล้ว..555
กลัวอะไร  ถึงเวลาจะตาย อยู่ที่ไหนก็ตาย อยู่บ้านลื่นหัวฟาดพื้นก็ตาย  อย่าไปคิดเย๊อะ  ไหนๆก็มาแล้ว  ไม่ลองไม่รู้..ยาวปาย  เหมือนฝนจะเพิ่งตกไปก่อนหน้านี้ ปืนขึ้น ปืนลงสักพัก ก็เจอทางโคลนแบบนี้ สลับทางชัน

กว่าจะไปถึงต้องปืนขึ้น ปืนลงทางแบบนี้ จำไม่ได้แล้วว่ามันกี่ช่วง  แต่เกิน 5 แน่นอน มันเหนื่อยมาก โหดมาก วิธีปืนคือเอามือคล้องในเชือกเรยแล้วบิดข้อมือเข้าไป ทำแบบนี้เพราะบางทีแรงมือของเราไม่พอ เชือกลื่นเพราะฝนตกแล้ว โคลนดินก็ไหลทะลักสวนเราแบบนี้เรย  มองหาแง่งหินที่เราจะเอาขาสั้นๆของเราเหยียบได้มั่นคง จิกนิ้วเท้าให้มั่น แล้วออกแรงเทคตัวเอง ใช้กำลังแขนดึงตัวขึ้นไป โอ๊ย โอ๊ย..!!

มาดูเวอร์ชั่นภาพรวมเท่าที่จะถ่ายมาได้ ตอนปืน มือก็เปื้อนโคลน เสื้อขาดไปแล้ว มีความร้อนข้างในตัว เหงื่อออกมาก ต้องถอดเสื้อออก  แล้วดูมัน  ใส่เสื้อซับในปืนจ้า  ปืนคนเดียว นานๆจะเจอฝรั่งสวนมาสักคน 2 คน ไอ้ที่สวนมามีทั้งไปไม่ถึง ไปถึงบาดเจ็บกลับมา  สาวนั่งรอแฟนก็มี  ข้างในไม่มีสัญญาณมือถือนะจ้ะ  ถ้าเจ็บแล้วบอกใครไม่ได้เรย  นอกจากรอคนมาเจอ

เราแขวนโมบายที่ระลึก นุ้ยกับโจ๊ก ไว้ด้วย  ถ้าใครได้ไปถึง แล้วยังอยู่ถ่ายรูปมาบอกกันบ้างนะ ^^

มาดูไอ้ที่ดั้นด้นมา บางทีก็คิดนะ  “มาทำไมวะเนี่ย..”  ถ่ายมาได้แค่นี้  ไม่ได้ลงไปเล่นน้ำ ออมแรงปืนกลับ แล้วเดี๋ยวจะไปจุดชมวิวด้วย สูงขึ้นไปอีกอ่ะ

กลับจากลากูน  ปืนย้อนกลับมาทางเก่า  แล้วก็ไปหลงในต้นดงหนาม  (ต้นไรไม่รู้มีแต่หนาม  เผลอไปจับ ทิ่มมือ เจ็บชะมัด  สักพักก็ได้ยินฝรั่งร้องโอ๊ยๆๆ  นั่นๆๆ  โดนหนามทิ่มมั่งแล้ว  บางทีน่าจะทำป้ายเตือนไว้ซะหน่อยนะ  เจ็บทุกรายที่ผ่านอ่ะ)
ฝนเริ่มตกหนักมากแล้วด้วย  เรยได้ภาพวิว  บนจุดชมวิวอ่าวไร่เลย์มาแบบนี้  ฝนตกในทะเล ฟ้าไม่ใสเรย

และแล้วก็ปืนลงมา มีสภาพแบบนี้ ขากลับโคลนทะลัก ใช้วิธีการสไลด์ตัวลงมา หินมันลื่น  หญิงไทย ขาสั้น ปีนเหมือนลิง ก็ทำได้  ไม่อายฝรั่งแล้วว้อย  พอลงมาฝรั่งตบมือให้ด้วย (ฝรั่งที่ศาลาตรงทางขึ้น  มีทั้งพวกปืนขึ้นไปลงมาแล้ว  พวกไม่กล้าเสี่ยงปืน  ลงมาทำหน้าเอ๋อๆ  ไม่รู้จักใครสักคน  เพื่อนตรูไปอยู่ไหนก็ไม่รู้...เฮ้!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!)

เด๋วจะเดินไปล้างตัวที่ด้านหน้าอ่าวถ้ำพระนาง  ก็เจอปืนผาโหนสลิงสวยๆแบบนี้  โธ่ว์ !! เด็กๆๆ 555

เดินมามีแต่คนมอง โดดลงน้ำเรย ใครจะมองก็มองไป นี่บ้านเรา  ประเทศไทย เฟ้ย !!

ล้างตัวเสร็จแล้ว แวะเข้าไปชมถ้าพระนางแป้ป  ที่ถ้าพระนางมีปลัดขลิกอยู่เย๊อะเรย ก็เป็นวัฒนธรมความเชื่อของคนพื้นถิ่น

บ้ายบาย ถ้าพระนาง  กลับดีกว่า เมื่อยล้า  อยากนอนพักแล้ว  

เดินเลาะกำแพงไม้ไผ่กลับมา  ทางอ่าวไร่เล ฝั่งตะวันออก ก็เจอกับ แก๊งค์ปืนผาสลิง ลองเข้าไปถามดู คนดูแลก็ว่า พวกนี้ไม่มีประสบการณ์หรอก เพิ่งหัดปีนกันทั้งนั้น แต่สอนไม่ยาก  น่าสนุกดีนะ  ครวหน้าค่อยมาปืนแบบนี้ ..เน้อะ ^^

มาดูรูปรวมไร่เล ฉบับสาวเพี้ยนๆอย่างเรา ทีนี้คุยกับคนอื่นได้หล่ะ  ฉันมาแย้วนะ ^^

Part 6 : หมดแรงแว้น..!!
           ขากลับจากไร่เล เราก็ขึ้นเรือของสหกรณ์คนละ 100 บาทกลับมาลงที่เดิม คือหน้าร้านอาหารวังทรายซีฟู๊ด  เพื่อนเราก็ขอตัวกลับหล่ะ  เพราะกว่าเพื่อนจะถึงบ้านก็ 3 – 4 ทุ่มโน่น แปลว่าเย็นนี้ กินข้าวคนเดียวนะฮะ  หมดแรงจะเดิน  อาบน้ำแล้วก็ตั้งใจไปหาแม็คกินง่ายๆๆ ก็พอ  อยากนอน  >< ชุดไปกินแม็คฮะ  อาบน้ำแล้วค่อยดูได้หน่อย..555

คืนนี้เราก็นอนที่ Apple A Day อีก 1 คืนนะ กินแม็คเสร็จ ไม่ทำไรแล้ว กลับมา สลบฮะ  ปวดแขน ปวดขา ปวดไหล่ ทำเป็นเก่งฮะ เป็นสาวออฟฟิศขี้เกียจออกกำลังกายอยู่แล้ว ไปปืนเขาเล่น กล้ามเนื้อไม่ได้วอร์ม  ทำไปได้นะคนเรา ลุกแทบไม่ขึ้นฮะ

เช้าวันที่ 1 พ.ย. 2559
เช้านี้วางแผนว่าจะไปปั่นจักรยานชมวิวหาดอ่าวนาง ดูพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้าหน่อย  ปรากฏว่าฝนตกน่ะ  สรุป นอนต่อ  นอนแพร่บนึง  ลองขึ้นไปดูวิวมุมสูงจากโรงแรมนี้ซะหน่อย  ภาพจากระเบียงชั้น 5 ของโรงแรม ก็แบบนี้เรย  ตาเอียง ถ่ายรูปเอียงไปหมด เฮ้อ..!!

ฝนตกก็มีไอหมอกบางๆบนเขา มีความแน่นของโรงแรมเย๊อะเรยแฮะ ^^

ตั้งใจจะเล่นน้ำสระแดงในตำนานซะหน่อย  ฝนตกซะ พับแผนไป

ลงไปกินข้าวที่ห้องอาหารดีกว่า  กินข้าวเสร็จ เด่วค่อยขึ้นมาอาบน้ำ เตรียมตัวไปสนามบิน  ชอบกาแฟสดของที่นี่มากเรยอ่ะ  เช้าวันฝนตกอย่างนี้
ชื่นใจจัง

Part 7 : กลับบ้านล่ะเน้อ  Karbi – Bangkok
แต่งตัว เก็บของนวยนาด ได้ตามใจ  โรงแรมนี้มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวด้วย ไม่ว่าจะซื้อทัวร์เที่ยวเกาะ หรือเดินทาง  เราซื่อตั๋วเดินทางไปสนามบินกระบี่  เดินทางด้วยรถตู้ ราคา 150 บาท นั่งสวยๆ เด๋วรถก็มารับ  เพียงเราแจ้งไฟล์บินของเรา  การันตีไม่ตกเครื่องด้วยอ่ะ ช้อบ ชอบ  (เห็นป้ะหล่ะ เมื่อแฟนไม่อยู่ผู้หญิงคนเดียวก็เที่ยวได้  ง่ายนิดเดียว  แค่มีตังค์เที่ยวก็พอ  555)

ฝนตกอีกหล่ะ  เทือกเขาหินปูนกับไอหมอก หนาวนิดๆๆนะเนี่ย  บ้าย บาย กระบี่ สถานที่ดีต่อใจ ต้องพาร่างกายและจิตวิญญาณมาสัมผัส  แล้วจะมาใหม่นะ  เดินทางตามพรหมลิขิต ^^

จองตั๋วไปกลับมาแล้ว  ขากลับก็ยื่นบัตรประชาชนที่เคาน์เตอร์เช็คอินได้เรย  ฮิ้วๆๆ ง่ายจุง

ระหว่างรอเครื่อง ก็เอามือถือพิงกระจกไว้ ถ่ายกล้องหน้า ฆ่าเวลาเล่นปาย อิ อิ

มาแย้วๆๆ ราคาถูก ฟรีน้ำหนัก ตรงเวลา บินไว ลงนิ่ม  ไม่เรื่องมาก Thai Lion Air  

เมื่อแฟนไม่อยู่ ผู้หญิงคนเดียวต้องเที่ยวได้  ออกไปใช้ชีวิตเผื่อคนที่เรารัก  ชีวิตคนเราไม่แน่นอน  ออกไปเห็นโลกกว้าง ใช้ชีวิตให้คุ้ม  ออกไปหาสถานที่ดีต่อใจ ต้องพาร่างกายและจิตวิญญาณไปสัมผัส  ขอบคุณทุกกำลังใจและความเชื่อเหลือ  ขอบคุณที่พักสุดเกร๋ ขอบคุณกิจกรรมดีๆจากคุณ Pisut ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบ แล้วพบกันใหม่ทริปหน้า (ปล.ถ้ามีเวลาเขียนนะจ้ะ)

เพื่อนๆ สามารถ อ่านงานเขียนครั้งก่อนหน้านี้ของเรา ได้ที่ลิงค์นี้ นะจ้ะ
*เมื่อแฟนไม่อยู่ ผู้หญิงคนเดียวต้องเที่ยวได้ ตอนที่ 1 one day trip lost in Charoen Krung
https://pantip.com/topic/34363541
*เมื่อแฟนไม่อยู่ผู้หญิงคนเดียวต้องเที่ยวได้ ตอนที่ 2 คิดมากทำไมให้ใจพร่อง..Don” t worry..@Bangkaew Phetchaburi
https://pantip.com/topic/35018429
*เมื่อแฟนไม่อยู่ผู้หญิงคนเดียวต้องเที่ยวได้ ตอนที่ 3 “รักเอย”อยู่รอบตัว 2 วัน 1 คืน เกาะขาม & เกาะแสมสาร 24-25 April 2016
https://pantip.com/topic/35208878 และสามารถติดตามเรา ได้อีก 2 ช่องทาง ที่นี่ นะจ๊ะ
FB Fanpage  : Nui & Joke - True love really exists.
https://www.facebook.com/Nui-Joke-True-love-really-exists-1072829049412167/
IG : Nui_Joke  
https://www.instagram.com/nui_joke/

เราไม่เรียกสิ่งที่เราทำว่ารีวิว เราเรียกว่าบทความ  เพราะมันคือการเล่าเรื่องราวของแฟนช่างภาพ ที่ทิ้งกล้องไว้ให้ เราออกเดินทางเพื่ออีกคนบนฟ้า  เราใช้ชีวิตและพยายามจะมีชีวิตที่ดีเพื่อคนที่เรารัก..หากท่านได้เข้ามาอ่าน โปรด Comment ติชม กันด้วย  เราถ่ายภาพไม่เป็น เราตาเอียง เราแต่งภาพไม่เป็น เราใช้ IT ไม่เก่ง  แต่เราจะพยายามต่อไป..เป็นกำลังใจให้เราด้วยนะ ยิ้มสู้ ..Nui+Joke

หลังจากจบทริปนี้แล้ว เราก็มีความพยายามออกเดินทางไปอีกหลายทริป  และสร้างเพจนี้ขึ้นมา  เนื่องจากงานประจำที่ทำอยู่ค่อนข้างหนัก จึงไม่ค่อยมีเวลามาเขียนในพันทิป  เราจะพยายามพัฒนาฝีมือการถ่ายรูปต่อไป  เพื่อสานต่องานที่แฟนของเรารัก  และเราจะถ่ายรูปทุกรูปให้มีชื่อของเรา 2 คน ทิ้งไว้บนโลกใบนี้  จนกว่าจะหมดเวลาของเรา ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม  
(ฝากกดถูกใจเพจด้วยค่ะ https://www.facebook.com/Blue-or-sea-191695604686303/?ref=bookmarks )

์ีนุ้ย กับ โจ๊ก

 วันพฤหัสที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2560 เวลา 13.45 น.

ความคิดเห็น