เมื่อแฟนไม่อยู่ผู้หญิงคนเดียวต้องเที่ยวได้ ตอนที่ 3 “รักเอย”อยู่รอบตัว 2 วัน 1 คืน เกาะขาม & เกาะแสมสาร

สวัสดีเราชื่อ นุ้ย แฟนเราชื่อ โจ๊ก เราสองคนชอบออกไปเที่ยว แฟนเราถ่ายรูป เราเล่าเรื่อง รู้จักเราเพิ่มขึ้นที่ลิงค์นี้

https://www.facebook.com/Nui-Joke-True-love-really-exists-1072829049412167/

สิ่งที่เราเขียนไม่ใช่รีวิวท่องเที่ยว แต่เป็นเรื่องราวของเราในวันที่ได้ออกไปเที่ยว ภาพของเราไม่ได้สวยเหมือนมืออาชีพ ภาพของเราถ่ายจากมุมมองของแฟนช่างภาพ ที่ทิ้งกล้องไว้ให้ บทความที่เขียนจากความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง เราเขียนมา 2 ครั้งแล้ว

1.เมื่อแฟนไม่อยู่ ผู้หญิงคนเดียวต้องเที่ยวได้ ตอนที่ 1 one day trip lost in Charoen Krung

ตามอ่านกันได้ที่ลิงค์นี้ --> http://pantip.com/topic/34363541

2.เมื่อแฟนไม่อยู่ผู้หญิงคนเดียวต้องเที่ยวได้ ตอนที่ 2 คิดมากทำไมให้ใจพร่อง..Don” t worry..@Bangkaew Phetchaburi

ตามอ่านกันได้ที่ลิงค์นี้ --> http://pantip.com/topic/35018429

และครั้งนี้ “รักเอย” อยู่รอบตัว 2 วัน 1 คืน เกาะขาม ~ เกาะแสมสาร

………………………………………………………………………………………..

กาลครั้งหนึ่งความรัก ยากยิ่งนักกว่าจะตามหากันเจอ สัมผัสหวั่นไหว สองใจผูกพัน สองมือปลูกต้นรัก ฟูมฟักเฝ้าดูแล เติบใหญ่สวยงาม แต่..ธรรมชาติร่วมสร้างยิ่งใหญ่เกินควบคุม กายเอยจากกันเพียงร่าง รักนั้นคงอยู่ตลอดไป

...............................................................................................................................................................................

รักนั้นคงอยู่ตลอดไป..ชีวิตต้องดำเนินต่อไปท่ามกลางความเงียบ เงียบ ความเงียบที่แท้จริงไม่ได้เงียบ ความคิด ไม่ได้คิดวิ่งแล่นอยู่ในหัว เวลานอน ไม่ได้นอน ตาหลับ ใจไม่หลับ จับตัวเองเป็นหนูทดลอง ทดสอบทุกวิธีการควบคุม หลายคนบอกเวลาจะเยียวยาเราได้ อาจจะใช่ หรือไม่ใช่ แต่ถ้าเราฆ่ามันซะ เวลา..จงทำอะไรก็ได้ให้มันเหนื่อย ให้มันไม่ว่าง ให้มันน็อค ให้ความคิดมันไม่รบกวนเรา สลบ ไม่รับรู้ ไม่ฝัน ไม่ตื่น..ทุกสิ่งดำเนินไป ทุกสิ่งผลักดันให้ฉันต้องออกไป

ถ้าอย่างนั้น..ฉันจะทำสิ่งที่เราสองคนชอบทำ ฉันจะออกไปเที่ยว..ไปคนเดียวก็ได้ไม่ต้องกลัว..ที่สุดแล้วทุกชีวิตคงถูกใครไม่รู้กำหนดไว้ แล้วจะกลัวทำไมกลับสิ่งที่จะได้เจอ มันอาจเป็นความทุกข์ มันอาจเป็นความสุข ชีวิตไม่แน่นอน อยากทำอะไรต้องรีบทำ.
ฉันชอบทะเลมาก ก็ไม่รู้เพราะอะไร อาจเป็นเพราะฉันร่างกายไม่แข็งแรง ฉันมักเหนื่อยล้าเสมอกับ backpack เที่ยวเขา หน้าร้อนๆใครๆก็ไปทะเล High season ฟ้าเปิดทะเลโปร่ง ไปไหนดี อ่านรีวิวของคนอื่นก็หลายที่ สุดท้ายฉันสนใจที่เกาะขาม สัตหีบ ชลบุรี one day trip ห้ามค้างคืนบนเกาะและไปง่ายดี 200 กม. จากกรุงเทพฯ ไปเช้าเย็นกลับก็ได้ มือใหม่เที่ยวคนเดียวคงพอไหว แต่เอ๊ะ!! เกาะขาม ใกล้แค่ไหนคือไกล กิตติศัพท์ร่ำลือว่ายากนัก มันยังไง..อ่านต่อไป ฉันจะเล่าให้ฟัง
อุทยานใต้ทะเล เกาะขาม สัตหีบ จ.ชลบุรี คือพื้นที่อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล ในความควบคุมของทัพเรือภาคที่ 1 เปิดเฉพาะ เสาร์- อาทิตย์ –วันนักขัตฤกษ์ จำกัดนักท่องเที่ยว 200 คน ต่อวัน ห้ามค้างคืนบนเกาะ ชาวต่างชาติต้องมีคนไทยพาข้าม รู้สึกได้ถึงความยาก ทำให้อยากไปแล้วซี่ รายละเอียดความยากไปดูที่เว็บนี้ http://www.nac1.navy.mi.th/kham/
หากเพื่อนๆจะตามไปเที่ยวแบบเราบ้าง เวลาค้นข้อมูลให้ยึดเว็บนี้เป็นหลัก เพราะการอ่านรีวิวบางครั้งเค้าเขียนกันไว้นานแล้ว หลายอย่างผู้ให้บริการปรับเปลี่ยนไปเราจะได้ไม่พลาดเรื่องสำคัญๆ แต่ที่แน่ๆ เกาะขามปิดพักไปแล้วเมื่อวันที่ 16 พ.ค.2559 ที่ผ่านมา ส่องรีวิวคนอื่นเราก็พบว่าเกาะแสมสาร ก็สวยมากและอยู่ใกล้ๆกัน จะเที่ยววันเดียว 2 เกาะ ก็ท่าจะยากตั้งแต่ขั้นตอนการซื้อตั๋วแล้ว และมันจะเหนื่อยไปกลายเป็นชะโงกทัวร์ซะงั้น เกาะแสมสาร ห้ามค้างคืนบนเกาะ จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวเหมือนกันแต่เปิดทุกวัน ความจริงไว้ไปที่หลังก็ได้ แต่ด้วยความที่จะงกค่ารถ งั้น เที่ยว 2 วัน 2 เกาะ ดำน้ำ 3 จุด และค้างคืนบนฝั่ง 1 คืน แผนมีแค่นี้
มีเข้าเรื่องความยากกัน

1.ที่พัก หา หา หา โทร โทร โทร เต็ม เต็ม เต็ม เต็มจนถึงเดือนกรกฏาโน่นน้อง..!! เฮ้ย ! อะไรจะขนาดนั้น
สุดท้าย ได้ที่พักคืนวันอาทิตย์ ที่พักห่างจากท่าเทียบเรือ 4 กม. ราคาคืนละ 400 บาท อ่านรีวิวแล้วเค้าว่าพอนอนได้ พื้นที่ปลอดภัย ไม่น่ากลัว ใกล้ท่ารถตู้อยู่ เอาก็เอาวะ เค้าสั่งเรยโอนเงินทันที ใครโอนก่อนได้ก่อน (อย่างนั้นเรยเหรอ..!!) จองที่พักและโอนเงิน 11 April 2016

2. การเดินทาง จะไปรถตู้เร็วดี แต่รถตู้ไปไม่ถึง เราใกล้อนุสาวรีย์ชัยมีท่าเดียวที่ไปได้ใกล้สุด คือท่ามหานคร แล้วลง กม.1 ต่อด้วยรอรถสองแถวสีฟ้า (เท่านั้น) เขียนว่า สัตหีบ - ช่องแสมสาร

3. การชิงตั๋ว จุดจำหน่ายตั๋วข้ามเกาะจะเปิดขายเวลา 08.00 น. แปลว่าต้องเดินทางไปให้ถึงก่อนเปิดขาย ดังนั้นต้องขึ้นรถตู้เที่ยวแรกเท่านั้น เวลาเปิดขายตั๋วรถตู้ 05.15 น. แล้วฉันจะออกจากซอยที่อยู่ยังไงเนี่ย มืดๆๆ และนั่งรถมาอนุเสาวรีย์ชัย ดังนั้น ต้องตื่นตั้งแต่ตี 4

4. ข้อ 1. อุ่นใจแล้ว ข้อ 2 ก็พอไหว แต่ข้อ 3. พลาดแน่นอน!! แม้ว่าเราจะขึ้นรถตู้เที่ยวแรก แต่เราจะถึงหลังเวลาเปิดขายตั๋วไปแล้ว ซึ่งโอกาสพลาดจะได้ตั๋วสูงสุดๆๆ โดยเฉพาะเกาะขามวันอาทิตย์ เพราะอะไรรู้มั้ย !! ก็เค้ามาพักกันตั้งแต่วันเสาร์ เพื่อ เพื่อ เพื่อ จะมายืนต่อคิวกันตั้งแต่ ตี 3 ตี 4โน่น ไหนจะตัวแทนที่จะมาแย่งซื้อตั๋วไปอัฟราคาอีก หลายรีวิวบรรยายความพลาด เสียเที่ยว ใกล้แค่ไหนคือไกล มาถึงที่แล้วได้แค่มองเห็น แต่ไม่ได้ข้ามไป

5. จะดำน้ำคนเดียว เที่ยวคนเดียว ก้อได้เหรอ มีใครทำยัง จะทำจริงเหรอ ว่ายน้ำก็ไม่เป็น..ได้เหรอ
เอาวะ เป็นไงเป็นกัน ..ไปๆๆ ไปเกาะขาม และเกาะแสมสารกัน ตามฉันมานะ

“รักเอย” อยู่รอบตัว 2 วัน 1 คืน เกาะขาม ~ เกาะแสมสาร

ภาพนี้ นุ้ยถ่ายเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2558 ณ หาดเตยงาม สัตหีบ ณ วันที่ไปส่งโจ๊กออกเดินทางไกลไปสู่อ้อมกอดของท้องทะเล ฝากไว้เป็นลูกหลานท่านกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ นุ้ยแขวนโมบายที่ระลึกไว้ใต้ต้นมะขามริมหาด หน้าอาคารขายของที่ระลึก และรูปนี้เอง ที่ทำให้นุ้ยได้รู้จักพี่สาวท่านนึง (ขอสงวนภาพและชื่อไว้นะจ้ะ เพื่อความเป็นส่วนตัวของพี่เค้า) ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นพี่ของกับโจ๊ก แต่นุ้ยไม่เคยเจอมาก่อน ต่อมานุ้ยสร้างเพจของเราสองคนขึ้นมา และทุกครั้งที่นุ้ยไปสถานที่ความทรงจำของเราสองคน นุ้ยจะแขวนโมบายของเราไว้ ณ ที่แห่งนั้น จุดเริ่มต้นของภาพ ทำให้พี่สาวท่านนั้นให้กำลังใจนุ้ยเรื่อยมา ได้คุยกันบ้างไม่บ่อยนัก พอจะทราบคร่าวๆว่า พี่คนนี้รู้จักพื้นที่สัตหีบเป็นอย่างดี ด้วยความที่เรากังวลในเรื่องความยากในการจะไปเที่ยวครั้งนี้นุ้ยจึง inbox ไปสอบถามว่ามีคำแนะนำอะไรน้องบ้าง จะไปเที่ยวคนเดียว และนุ้ยก็ได้รับคำตอบที่ทำเอาอึ้งไปเรยคือ “เด๋วพี่ให้พ่อดูแลให้” หลังจากได้คุยรายละเอียดแล้ว ความรู้สึกตอนนั้น คือ เฮ้ย !! ไม่น่าเชื่อเรย อะไรมันจะประจวบเหมาะปานนั้น แต่นาทีนั้น นุ้ยก็คิดถึงโจ๊กทันที หรือที่รักทำให้เป็นอย่างนี้ ไม่น่าเชื่อเรย อะไรดึงความคิดให้เราต้องการไปที่นั่น อะไรดึงให้เราทักไปคุยกับพี่เค้า อะไรทำให้ทุกอย่างลงตัวและสมบูรณ์ที่สุด ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยอีกแล้ว สบายใจและเที่ยวอย่างมีความสุข

24 เมษายน 2559 นุ้ยจะเอาของไปให้น้อยที่สุด เพราะนุ้ยตัวเล็ก การเที่ยวครั้งนี้ น้ำหนักกระเป๋าจะอยู่บนหลังเราเกือบตลอดเวลา แต่ของสำคัญต้องเอาไป กล้อง DSL ของแฟน หมวกที่แฟนชอบใส่

ตื่นอาบน้ำตี 4 มองออกไปนอกหน้าต่าง มืดตื้ดตื๋อเรย เงียบกริบ จะออกจากซอยไงนี่ ตี 5 สุ่มเดินออกมาจากซอยคนเดียว มองหน้ามองหลัง ไม่มีใครเรยเว้ย !! จะต้องเดินอีกไกลและตัดไปอีกซอยกว่าจะถึงถนนหลักที่เรียกรถได้ แล้วจะทันรถตู้เที่ยวแรกมั้ยน้อ เดินคิดใจตุ้มๆๆ ต่อมๆ เดินจ้ำๆๆอย่างไว ตัดมาอีกซอยนึง ก็จะเอ๋กับพี่วินมอร์ไซด์รับจ้าง มาจากไหนไม่รู้แต่มาส่งสาวทำงานกลางคืนตรงซอยนั้นพอดี ตกลงราคาบินมาส่งเราจากจุดนั้นลงเซ็นจูรี่ 40 บาท 10 นาทีก็ถึงละ ลงรถจ่ายตังค์ อ้าว !! เฮ้ย เป๋อ..ตั้งแต่เริ่มเรย ท่ารถที่จะขึ้นมันอยู่ที่อนุสาวรีย์ชัยโน่น ท่ามหานครตรงข้ามร้านก๊วยจั้บ โอ้ย++ บ้าแท้ๆ กึ่งเดินกึ่งวิ่งเรยทีนี้ จะทันมั้ย เค้าเข้าคิวซื้อตั๋วกันแล้ว พุ่งไปต่ออย่างไว หุ หุ เหงื่อแตกแต่เช้ามืด และข้าก็ได้มาครอบครอง ตั๋วเที่ยวแรก ระบุรถออก 05.30 น. จ่ายไป 140 บาท

05.15 น. เจ้าหน้าที่ขายตั๋วก็เรียกให้ขึ้นรถตู้ 06.00 นั่นหล่ะ รถถึงออกจากอนุสาวรีย์ชัย พอใกล้ๆจะถึงพี่คนขับรถตู้ก็ถามว่า ใครจะลงไหนกันบ้าง บนรถก็ตอบกัน เกาะขาม เกาะแสมสาร แปลว่าส่วนใหญ่ทุกคนมุ่งไป 2 เกาะนี้ รถตู้จึงยื่นข้อเสนอว่า งั้นจะไปส่งให้ถึงจุดขายตั๋วเรย คิดเพิ่มอีกคนละ 40 บาท เป็นว่าค่ารถตู้ 180 บาท แต่ในความจริงแล้วเราควรช่วยอุดหนุนอาชีพของคนพื้นถิ่นให้อยู่ได้ ก็คือรถสองแถวนั่นเอง รถสองแถว จะคิดราคาคนละ 30 บาท

มาถึงจุดขายตั๋ว 08.23 น. ปรากฏว่าตั๋วไปเกาะขามและเกาะแสมสารสำหรับวันนี้เต็มหมดแล้ว หลายๆคนทำหน้าผิดหวังหนักมาก รวมทั้งคนที่ขึ้นรถตู้มาพร้อมกับเราด้วย บางคนเดินทางมาไกลมาก เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าให้ไปหาดน้ำใสแทน ซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก

นุ้ยมาถึงแล้วก็โทรหาพ่อของพี่เค้าที่บอกตอนแรกว่า พี่สาวคนนี้เป็นเพื่อนรุ่นพี่ตอนเรียน ป.ตรี ของโจ๊ก

พ่อได้จัดการเรื่องตั๋วข้ามเรือไปเกาะขามให้เรียบร้อย นุ้ยงี้ดีใจสุดๆเรย รู้สึกว่าตัวเองโชคดีจัง มาครั้งแรกก็ได้ข้ามเรย แต่วันนี้ก็จะไม่เจอพ่อนะ วันนี้จะเจอลูกน้องของพ่อพี่เค้าแทน แวะเข้าห้องน้ำตรงทางเข้าไปพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติเกาะและทะเลไทยก่อน จากนั้นก็ไปพบลูกน้องของพ่อที่ท่าเรือเขาหมาจอ ตรงจุดนี้บางทีก็เรียกปลายสะพาน จะไปเกาะขาม หรือเกาะแสมสาร ก็ต้องมาขึ้นเรือที่เดียวกัน ในรูปนี้ ณ จุดที่เรายืนถ่ายรูปมองเห็นเกาะแสมสารใกล้ๆแค่นี้เอง แต่เกาะขามจะอยู่ถัดออกไปอีกนิดหนึ่ง ไปขึ้นเรือกันเถอะ

ตารางเดินเรือเกาะขาม

เที่ยวไปเกาะ

เที่ยวที่ 1 --- > 09.00 น

เที่ยวที่ 2 --- > 10.00 o.

เที่ยวที่ 3 --> 11.00 น.

เที่ยวกลับฝั่ง

เที่ยวที่ 1 --> 12.00 น.

เที่ยวที่ 2 --> 14.00 น.

เที่ยวที่ 3 --> 15.00 น.

--ไหนๆก็โชคดีได้มาแล้ว และไม่รู้ว่าเมือไหร่จะได้มาอีก นุ้ยก้คิดว่าจะอยู่บนเกาะให้นานที่สุดไปเรย โดดขึ้นเรือป้าป เที่ยวแรกเรยฮะ 09.00 น. เด่วขากลับนี่กลับเที่ยวสุดท้ายเรย อิ อิ ..คุ้ม..!!

ว้าวๆ เห็นแล้วเกาะขาม นั่งมา 15 นาทีเองนิ๊ ไวจิง ไรจิง เรือใหญ่จะเข้าไปไม่ถึงเกาะนะ เจ้าหน้าที่จะเอาเรือท้องแบนมารับเราอีกที มองเห็นร่มสีเขียว สีแดง สีเหลือง ตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าใสๆไล่โทนสี สวยจัง

จุดร่มสามสีนี้ คือจุดขาขึ้นเกาะขาม และขากลับฝั่งเราก็ต้องมาขึ้นเรือที่จุดเดิมนี้เช่นกัน

ตรงจุดนี้จะมีหินกลมสวยๆกระจายตลอดหาด ถอดรองเท้าแล้วเดินย่ำหินให้ความรู้สึกอีกแบบ บอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร แต่รู้สึกดีอ่ะ...5555

นุ้ยจะเดินไปฝั่งหน้าเกาะก่อน ไปดูซิว่าจะเป็นอย่างไร ส่วนตรงนี้ เด๋วขากลับตอนรอเรือค่อยมาถ่ายรูปเดินเล่นหินอีกรอบ เดินเลาะโขดหินตรงนี้ มองเห็นวิวฝั่งท่าเรือด้วยหล่ะ

แล้วเราก็จะเดินตามสะพานไม้นี้ไปอีกแป้ปนึง ก็จะถึงฝั่งหน้าเกาะที่เป็นจุดบริการของเจ้าหน้าที่ และพื้นที่ปลอดภัยที่เจ้าหน้าที่กำหนดให้เราดำน้ำได้

บนเกาะขามมีบริการเตียงผ้าอย่างนี้ด้วย แต่ต้องไปรับที่จุดบริการนะ นั่งๆนอนๆกันเสร็จก็ยกไปคืนเจ้าหน้าที่เค้าด้วย แนวร่มไม้นี้เป็นที่นั่งยอดฮิตของนักท่องเที่ยวเรยหล่ะ

อีกหนึ่งกิจกรรมบนเกาะขาม คือการภายเรือแคนู ใครต้องการพายก็แจ้งเจ้าหน้าที่ตรงจุดบริการได้เรย นุ้ยมาคนเดียวนี่ ได้แต่ดูอ่ะ ไม่มีคู่ คิดอยากจะเล่นอยู่เหมือนกัน แต่พายไม่ค่อยเป็น เด๋วถอยหน้า ถอยหลัง มันจาตลกไปนะ..555

โมบายปะการัง ใครกันหนอทำไว้ น่ารักดีเน๊อะ ว่ามั้ย

วิวทะเลกับชิงช้า นี่มันของคู่กันจริงๆ

ขอนั่งชิงช้าแป้ปๆนะ คิดถึงแฟนจัง ชิงช้ามันกว้างอยากให้นั่งด้วยกันเหมือนทุกครั้งที่เราไปทะเลด้วยกัน (ปล.วันนี้หน้าแบบบวมบานมาก ตาห้อย มึน มึน อย่างนั้นหล่ะ ก็เพราะอัดยามาอย่างหนักเมื่อคืน นุ้ยป่วยหลายโรคน่ะ ไม่เล่านะ เด๋วดราม่าจาเย๊อะไป..555)

มาถึงหล่ะ จุดบริการ ป้ายนี้นี่ไฮไลท์ของเกาะเรยนะนี่ ใครๆก็ต้องถ่ายรูปตรงนี้ เด๋วไม่รู้ว่ามาถึงแย้ว..ฮี่ ฮี่ ถ่ายมั่งจิ

จุดบริการของเจ้าหน้าที่ ศูนย์รวมความสบายอยู่ตรงนี้หล่ะ อุปกรณ์ดำน้ำ ค่าบำรุง 50 บาท เสื่อปูนั่งฟรีแต่ต้องยื่นบัตรประชาชนไว้ เตียงผ้าใบก็รับจากตรงนี้นะจ้ะ

บนเกาะไม่มีอาหารขายจริงจัง จะมีมาม่าคัพกับขนม ผลไม้และเครื่องดื่ม เท่านั้น หลายคนขนเสบียงมากมาย ถังแช่เย็นบ้าง ถุงอาหารบ้าง แม้ว่าจะมีถังขยะให้ทิ้ง บางจุดที่ปูเสื่อนั่งกัน ขยะเกลื่อนเรย เจ้าหน้าที่ทหารเค้าก็ต้องมาเดินเก็บอีก แต่เราว่าตอนมาก็ขนมาได้ ตอนกลับก็น่าจะขนขยะกลับฝั่งไปด้วยนะ แถมมันยังเบากว่าตอนขามาอีก แต่ตอนนี้ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเราเรย ก่อนเราจะสำรวจเกาะกองทัพต้องเดินด้วยท้อง ดังนั้น นุ้ยจึงจัดก่อนเรย มาม่าคัพ 1 ถ้วย และ โค้ก 1 ขวด รวม 35 บาท ดูฝีมือการฉีกฝามาม่าอันฮ่วยแตกของเราซิ่...5555

หน้าหาดเกาะขามจะมีต้นไม้ปลูกเป็นช่องไฟไว้นับได้ 7-8 ต้น บริเวณโคนต้นนี่ก็มีคนจับจองปูเสื่อกันแน่นทีเดียว มาคนเดียวอย่างเรา จะไปนั่งตรงไหนหล่ะนี่ คิดแป๊ป

เดินเล่นก่อนก็แล้วกัน เจอเปลือกหอยมือเสือที่ดูเหมือนจะผ่านกาลเวลามานาน ดูคล้ายปะการังหรือฟอสซิสเรยแฮะ

เล็งโลเคชั่นเงียบๆ ไว้แล้ว ต้นไม้ใหญ่สุดหาดให้ร่มเงาตรงนั่นหล่ะ โซน V.I.P ของเรา

บนเกาะขามนี้มีทางขึ้นจุดชมวิวด้วยนะ เด๋วเราจะขึ้นไปจุดชุมวิวก่อน เด๋วค่อยกลับลงมานั่งพักและก้ดำน้ำ ทางเดินไม่ซับซ้อน มีป้ายบอกทางตลอด ระหว่างทางมีต้นจันทน์ผาเป็นระยะ ดูๆไปมา ตอนเด็กๆเราเคยอ่านการ์ตูนผีเล่มละ 1บาท อ่ะ เราว่าผีผู้หญิงผมฟูคอยาวๆ ดีไซน์มาจากต้นแบบนี้หล่ะ

ทางขึ้นจุดชมวิวมันไม่ไกล แต่มนุษย์ออฟฟิศซินโดรมอย่างเรา พร้อมเป้หนักบนหลัง ก็เหนื่อยใช้ได้ทีเดียว หน้าร้อนเหงื่อผลั่กๆ ขึ้นมาถึงเจอลมเย็นๆปะทะหน้า กับวิวแบบนี้ก็หายเหนื่อยเหมือนกัน คุยได้หล่ะว่ามาถึงแล้วนะ..555

มองลงไปข้างล่างตรงนี้คือหน้าผาดีๆนี่เอง ก็สวยดีนะ

บนนี้ไม่มีใครขึ้นมาเรยแฮะ นั่งอยู่พักนึง เด๋วลงไปนั่งเล่นหน้าหาดตรงต้นไม้ที่เราเล็งไว้ดีกว่า

หน้าหาดคลื่นซัดปะการังที่ตายแล้วขึ้นมาเย๊อะพอสมควร มันสวยและมีเสน่ห์ แต่มันจะสวยสดชื่นกว่านี้ถ้ามันอยู่ใต้น้ำและยังมีชีวิต..ว่ามั้ย ><

มาถึงร่มไม้ที่เราเลือกนั่งชมวิว นั่งพัก นั่งดูคนอื่นเค้าเล่นน้ำ หินตรงหน้าเราเป็นแบบนี้ ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ วิวทะเลโอเคใช้ได้ ลมเย็นและเงียบ สบายใจจัง นั่งถอดจิตคิดถึงคนบนฟ้า เด๋วบ่ายแก่ๆค่อยไปดำน้ำ ตอนนี้คนยังเย๊อะอยู่ ร้อนด้วย

บนเกาะนี้ หรือที่เที่ยวไหนๆสิ่งที่เราควรเก็บไปมากที่สุดคือความทรงจำและภาพถ่าย สิ่งใดก็ตามที่อยู่ ณ ที่แห่งนั้น ปล่อยมันไว้อย่างนั้นเถอะนะ เที่ยวอย่างอนุรักษ์ เคารพกฎระเบียบ และไม่ทำลาย

นั่งเล่นพอหล่ะ คนเริ่มน้อย บางส่วนเริ่มทยอยกลับบ้างแล้ว แหม ๆ !! กว่าจะมาได้ทั้งที จะรีบกลับไปไหน ไปดำน้ำดูปะการังสวยๆกันดีกว่า ว่ายน้ำไม่เป็นไม่ใช่ปัญหา ชูชีพฟรีพร้อมให้เราสวมใส่ ไปหยิบได้เรย ณ ศาลาจุดบริการ อุปกรณ์ดำน้ำตื้นไปเช่ามา 50 บาท อ้าวมาคนเดียวสัมภาระจะเอาไว้ไหนหล่ะ ก็ฝากไว้ตรงจุดรับอุปกรณ์ดำน้ำนั่นหล่ะ พี่เค้าให้ฝากฟรี มีที่วางให้และไม่คิดเงิน แอบเห็นมีกระเป๋าอยู่หลายใบ แสดงว่าต้องมีคนมาคนเดียวแบบเราน่ะมาฝากไว้แน่นอน

เสียดายที่เราไม่มีกล้องถ่ายใต้น้ำ เรยไม่มีภาพใต้น้ำสวยๆมาฝากเพื่อนๆเรยนะ เล่าให้ฟังได้แต่ว่า เวลาลงดำน้ำเราจะต้องดำเฉพาะในเขตทุ่นที่พี่ทหารเค้ากั้นไว้ เผื่อความปลอดภัย ใต้น้ำเราเจอหอยมือเสือ และหอยเม่นเย๊อะมาก ซึ่งหนามของมันนี่หล่ะจะตำเรา ต้องระวังมากๆ ดำน้ำจนเหนื่อยหล่ะ ก็นานนะเป็นชั่วโมงเรยหล่ะ อิ อิ เราก็ขึ้นมาล้างตัวที่ห้องน้ำชายหญิงที่เจ้าหน้าที่เตรียมไว้ให้ บนเกาะห้ามอาบน้ำจริงจังห้ามใช้แชมพูหรือสบู่เด็ดขาด เพราะสารเคมี มันทำให้ปะการังน้ำตื้นตาย พี่ทหารเค้าจะพูดออกไมค์ตลกๆๆ ว่า “เราคงไม่ไปแอบดูท่าน แต่ขอให้ท่านรู้ไว้ว่าหากท่านฝ่าฝืนกฎ เราก็จะไม่มีเกาะสวยๆ เกาะที่พวกเราต้องอนุรักษ์ ต้องภาคภูมิใจไว้ให้พวกท่านเที่ยว ขอให้ท่านปฏิบัติตามกฎกันด้วยนะครับ” ดีจริงๆส่วนตัวเราชอบนะกฎแบบนี้ เที่ยวเชิงอนุรักษ์ เที่ยวให้มันสมควรที่จะต้องรู้คุณค่า ต้องหวงแหนรักษาไว้ ที่แน่ๆ เกาะนี้ปลอดทัวร์จีน โคตรดีเรย ว่ามั้ย..><

เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว สมควรแก่เวลาไปเดินเรียบหาดเล่น ถ่ายรูปตามทางที่เราต้องย้อนกลับไปรอเรือกลับฝั่งกัน หาดหินกลมๆ ผสมสาหร่ายที่คลื่นซัดมา น้ำใสๆ นี่หล่ะเสน่ห์ของเกาะขาม

เรือแคนูสวยๆ นักท่องเที่ยวไปแล้ว เจ้าจะเหงามั้ยนะ ^^

ใครว่ามาคนเดียวจะเหงา แน่นอนเราเหงาเพราะเราคิดถึงแฟน แต่เกาะนี้มีหมาทะเล มันวิ่งอ้อมหน้าอ้อมหลังเรา ยืนคอยเรา กระโดดลงน้ำบ้าง กระโดดงับปูบ้าง ดูมันแล้วก็ขำๆดี หมาทะเลตลกๆ เดาว่ามันคงเป็นหมาที่พี่ทหารเลี้ยงไว้ และข้ามเรือไปกลับพร้อมนายของมัน เพราะดูมันคุ้นกับคนและชำนาญพื้นที่เป็นอย่างดี แถมไปนั่งรอเรือพร้อมเราอีกแน่ะ

กลับมาที่เดิมฝั่งที่รอเรือ วิวตรงนี้ กับน้ำตรงนี้สวยบาดใจ แต่เราต้องไปแล้วซิ่นะ

มาแล้วเรือเที่ยวสุดท้ายของวันนี้ เกาะขามโชคดีที่ได้มา พี่ๆทหารที่นี่ดูแลนักท่องเที่ยวทุกคนเป็นอย่างดี ประทับใจที่สุด มีความสุขนะวันนี้ ส่งยิ้มไปให้คนบนฟ้า เธอคงเห็นฉัน เธอคงได้เห็นทุกสิ่งที่ฉันทำ ทุกที่ที่ฉันไป

อยู่บนเรือก็จะมองเห็นเกาะแสมสาร ฝั่งหาดลูกลมอย่างชัดเจน พี่คนขับเรือบอกเราว่า เกาะเล็กๆนั้นหล่ะ เรียกว่าเกาะปลาหมึก ตรงนั้นคือจุดดำน้ำดูปะการังที่สวยที่สุด จะมีทุ่นลอยอยู่คือจุดปล่อยนักท่องเที่ยว พรุ่งนี้หล่ะนุ้ยจะต้องดำน้ำตรงนั้นให้ได้ จะไม่พลาดเรย

ใกล้ฝั่งแล้ววิวบนฝั่ง ณ ตอนที่ถ่ายจากในเรือก็เห็นแบบนี้ ชุมชนแสมสาร บ้านคนแน่นๆกับเรือแน่นๆ หลายชีวิตกำลังเล่นบทของตัวเองอยู่บนนั้น

วิวท่าเรือเขาหมาจอภาคสะท้อนจากทะเล ตรงจุดนี้บางคนก็เรียกปลายสะพาน อาคารสีน้ำเงินเล็กๆที่มองเห็นนั้นคือจุดขายของที่ระลึก ไปอุดหนุนสินค้าให้กำลังใจพี่ๆทหารกันนะ

บ้ายบายเกาะขาม ฉันจะคิดถึงเธอนะ แต่พรุ่งนี้ฉันจะมาตรงนี้อีกแหล่ะน่ะ..555

ตรงปลายสะพานนี่ก็มีปลายสวยๆด้วยนะ ไม่รู้ปลาอะไรแฮะ ไม่รู้ชื่อ ดันลืมถามเค้ามาน่ะซิ่

จากนั้นเราก็ขึ้นรถสองแถวเพื่อจะออกไปที่พัก ที่เราจองไว้ ที่พักที่เราจองได้นี่อยู่ไกลจากตรงนี้เกือบ 4-5 กิโล ได้มั้ง จ่ายค่ารถ 50 บาท พี่เค้ามาส่งถึงที่เรยนะ (ภาพนี้จากอินเตอร์เนตค่ะ)

ชื่อว่าห้องพักประทับใจ

ราคาคืนละ 400 บาท จ่ายค่ามัดจำกุญแจ 50 บาท ภายในห้องเป็นแบบนี้หล่ะ

ในห้องไม่มีตู้เย็น ตรงรูปวิวเดิมเป็นกระจกบานใหญ่ แต่เอาภาพมาแปะไว้ คุณภาพตามราคาเน๊อะ อย่าไปคิดมาก นอนไม่กี่ชม. เช้าก็ต้องไปแล้วน่ะ

เย็นนั้นเราฝากท้องไว้กับขนมที่ 7-11 เดินประมาณ 2 ป้ายรถเมล์กทม.น่ะหล่ะ จากที่พัก และข้าวกระเพราะทะเล 50 บาท ร้านติดที่พักน่ะแหล่ะ

ตอนกลางคืนเรานอนเราฝันว่าโจ๊กมานอนกอดเราไว้ด้วยหล่ะ คงจะเป็นห่วงที่มาคนเดียว

เช้าวันที่ 25 เมษายน 2559 เราก็เอากุญแจไปคืนเค้าได้ตังค์ค่ามัดจำคืนมา 50 บาท ยืนรอรถสองแถวสีฟ้า ที่เขียนว่า สัตหีบ-แสมสาร เพื่อจะไปที่เดิมปลายสะพานที่เรานัดพ่อพี่เค้าไว้ จ่ายค่ารถไป 30 บาท แต่เมื่อวานเราจ่าย 50 บาทนี่นา ถามเค้าได้ความว่า ราคาปกติคือ 30 บาท แต่หลัง 17.00 น. ไปแล้ว 50 บาท เพราะคนที่ปลายสะพานจะน้อยลง

เราได้เจอพ่อพี่เค้าเป็นครั้งแรก พ่อเค้าก็จัดการเรื่องตั๋วเที่ยวเกาะแสมสารให้เรียบร้อยแล้วก็ถามเราสั้นๆว่า มันยังไงถึงมาคนเดียว..? เราก็ตอบพ่อเค้าไปตามความจริง และก็บอกว่าอยู่เฉยๆไม่ได้มันฟุ้งซ่าน พ่อเค้าก็ตบไหล่เราแล้วก็ให้กำลังใจว่า มันหนักแต่หนูต้องสู้ มีปัญหาไรโทรบอกพ่อ จะมาเมื่อไหร่บอกพ่อจัดการให้ และพ่อเค้าก็รีบไปทำงาน (เพราะวันนี้มันวันจันทร์นะ...555) เราก็ลาพ่อเดินไปขึ้นเรือข้ามเกาะที่เดิมที่ไปเกาะขามเมื่อวานนั่นหล่ะ พอพี่ทหารเค้าเรียกเกาะแสมสารเข้าแถวเราก็ไปต่อแถวรอขึ้นเรือ แป้ปเดียวก็ถึง

เกาะแสมสารเปิดทุกวัน บนเกาะไม่อนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกฮอล์นะจ้ะ พี่เจ้าหน้าที่บนเรือเค้าจะตรวจทันที มีคนนึงแบกถังเก็บความเย็นไปด้วย กลุ่มเค้ามากันหลายคน เปิดปุ๊ปเจอเพียบหลายยี่ห้อเรย พี่ทหารเค้าจะให้ฝากไว้บนเรือนั่นหล่ะ ให้ข้ามไปแต่ตัว พี่เค้าแจ้งกับทุกคนว่า ใครมีในกระเป๋าในเป้ เจอบนเกาะยึดหมด แต่ถ้าเอามาฝากไว้บนเรือ ได้คืน ขากลับก็มารับของท่านกลับไปด้วย เข้มงวดอย่างนี้หล่ะดีแล้ว เราชอบจัง

นั่งยังไม่ทันเมื่อยเรย เกาะแสมสารไม่ต้องนั่งเรือเล็กเข้าไป มีที่จอดสูงๆรับ-ส่งนักท่องเที่ยวได้เรย

ลงจากเรือก็จะเจอแผนที่เกาะแสมสาร เป้าหมายของเราคือ เช้าดำน้ำจุดที่1 หาดเทียน และบ่ายดำน้ำจุดที่ 2 เกาะปลาหมึก จาดปาย.....

เมื่อนักท่องเที่ยวมาถึงเกาะแล้ว เจ้าหน้าที่จะบรรยายถึงประวัติของเกาะแบบสังเขป ข้อควรระวังในการทำกิจกรรมต่างๆ กฎระเบียบการเที่ยวบนเกาะ หลักๆกิจกรรมที่ทำคือ ดำน้ำตื้นดูปะการัง 2 หาด ปั่นจักรยานชมระบบนิเวศ การเดินทางระหว่างหาด มีรถเจ้าหน้าที่บริการตลอดเวลา นุ้ยมีเป้าหมายแล้ว คือดำน้ำ 2 หาด เราก็พุ่งไปหาพี่เจ้าหน้าที่ ณ จุดบริการ ตรงจุดบริการมีล๊อคเกอร์ให้เช่าด้วยราคา 20 บาท มีเครื่องดื่มขายด้วย

เสื้อชูชีพจะแขวนไปด้านหลังจุดบริการไปเลือกขนาดพอดีกับตัวได้เรย อุปกรณ์ดำน้ำ พร้อมแล้วมารวมตัวที่ด้านหน้าหาด เพื่อฟังคำอธิบายการดำน้ำตื้น ข้อควรระวัง เรียนรู้สัญญาณมือหากต้องการความช่วยเหลือ และเทสต์การใช้อุปกรณ์

วิวด้านหน้าหาดที่สวยจริงๆ แต่เราจะไม่อ้อยอิ่งอยู่นี่หรอกนะ จะไปดำน้ำตามรอบก่อน เด๋วขากลับก็ต้องมารอขึ้นเรือกลับฝั่งตรงนี้อีก เด๋วเสร็จภารกิจค่อยมาถ่ายรูปก็ได้

ตรงนี้หล่ะที่พี่เจ้าหน้าที่จะมาอธิบายรีบถ่ายรูป แล้วรีบเอากล้องไปเก็บในล๊อคเกอร์อย่างไว แล้วไปแต่ตัว ไปหาดเทียนกัน ตรงหน้าเราคือเกาะแรด ไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นนะ เป็นเกาะอนุรักษ์พันธุ์ไม้พี่เจ้าหน้าที่เค้าว่าอย่างนั้น

ได้เวลาพี่ทหารเค้าก็เอาเรือแบบนี้มารับพวกเราไปหาดเทียน ไปดำน้ำกันหล่ะนะ ก่อนขึ้นเรือควรเอาน้ำเปล่าไปด้วย 1 ขวด เพราะเวลาที่เราดำน้ำขึ้นมาเราจะโหยน้ำเย็นมาก ประสบการณ์จากเกาะขามเมื่อวานไง วันนี้เราเรยไม่พลาด และตอนนั่งเรือขากลับ เราจะได้ใช้ล้างหน้าลดความเหนียวเค็ม กว่าจะกลับมาฝั่งได้ล้างตัวก็นานอยู่นะ

ตอนนั่งอยู่บนเรือ คู่รักข้างๆถามเราด้วย มาคนเดียวเหรอ เก่งจัง เราเรยตอบว่า ไม่เก่งหรอกค่ะ เพิ่งลองหัดไปเที่ยวคนเดียว แฟนเพิ่งขึ้นไปอยู่บนฟ้าน่ะจ๊ะ แล้วเค้าก็ตกใจรีบขอโทษเรา เราเรยบอกไม่เป็นไรจ้า ก็เค้าไม่รู้นี่เน๊อะ เค้าอุตส่าห์ชวนคุยน่ะ เห็นมั้ยเที่ยวคนเดียวก็มีคนคุยด้วยนะ..555

ดำน้ำตรงหาดเทียนเจ้าหน้าที่จะกำหนดเวลา และให้เราอยู่แต่ในทุ่นล้อมที่กำหนดเนื่องจากจุดนี้เป็นน้ำลึก เพื่อความปลอดภัยในการเข้าช่วยเหลือเราทันเวลา เราต้องปฏิบัติตามที่พี่เค้ากำหนด ถ้าเราดำไปไกลๆ บางทีลืมออมแรงไว้ตอนว่ายกลับ ทุ่นล้อมนี่หล่ะจะเป็นตัวช่วยให้เราสาวเชือกกลับไปที่เรือได้ เสียดายไม่มีกล้องใต้น้ำเรยไม่มีรูปมาอวดเพื่อนๆ >< ปลาเย๊อะดี ปะการังสวย หอยมือเสือตัวใหญ่ๆ หอยเม่นหนามชูยาวๆเพียบ

แล้วตรงนี้หล่ะ นุ้ยก็ได้ของฝากกะเค้าด้วย ไม่รู้ว่าโดนอะไร ไม่เจ็บด้วย มารู้ว่ามีแผลก็ตอนนั่งเรือกลับ เลือดมันไหลจึงรู้ พี่ทหารเค้าก็มีชุดปฐมพยาบาลและพลาสเตอร์ให้ พร้อมสันนิษฐานให้ว่า ปะการังบาด เป็นแผลเป็นเรียบร้อย..555

ดำน้ำเสร็จพี่ทหารเค้าจะพามาส่งที่เดิมฝั่งหน้าหาดตรงท่าขึ้นลงเรือ ตรงนี้น้ำทะเลก็สวยน่าเล่นตัวเราก็เปียกแล้วด้วย ดูซิ่สวยจังเรย เล่นได้เฉพาะแนวทุ่นนะจ้ะ นอกทุ่นจะเป็นน้ำลึก และดงหอยเม่น ห้ามฝ่าฝืนนะจ้ะ

มาถึงแล้วเราก็ล้างตัวก่อนเรย เหมือนเมื่อวานที่เกาะขามล้างเฉยๆ ห้ามใช้แชมพู สบู่ เพราะเคมีมันจะทำให้ปะการังน้ำตื้นตายไง ตากชูชีพ คืนอุปกรณ์ดำน้ำ เอากระเป๋าที่ล๊อคเกอร์ แล้วโดดขึ้นรถราง หรือปิ๊กอัพก็ได้พี่ๆเจ้าหน้าที่บริการฟรีพี่เค้าใจดีวิ่งกันทั้งวัน ไปมันทั้งเปียกๆๆนี่หล่ะ ไปหาดลูกลมนะจ๊ะ นะจ๊ะ

ถึงแว้วๆๆๆ หาดลูกลม (แปลว่ามีต้นสนเย๊อะงัย ลมพัดทั้งวัน ลูกสนเย๊อะพลิ้วไปตามลม เรยเรียกหาดลูกลม พี่ทหารกล่าว ^^ ) ตรงหน้าเราคือเกาะปลาหมึก นั่นหล่ะเด่วเราจะไปดำน้ำใกล้ๆเกาะนั้นกัน

แหมบรรยากาศดีทีเดียวนะเนี่ย เกาะนี้พี่ทหารคุม ห้ามใส่บิกินี่มาเดินโชว์เฉิดฉายนะจ้ะ ใครใส่พี่เค้าจะเดินไปแจ้งให้คลุมผ้าให้เหมาะสม จะใส่ตอนลงไปดำน้ำพี่เค้าบอกได้ แต่ขึ้นมาไม่ต้องมาโชว์ วันนี้คนสวย 2 นาง โดนใบแดงไปหล่ะ..555 ช่ายพวกหล่อนหุ่นดีอย่ามาโชว์นะ มันไม่เหมาะสม แอบสะใจแบบนางอิจฉาลึกๆๆ !!

หาดนี้มีเนตวอลเล่ย์บอลชายหาดด้วย แต่ตอนนี้มันร้อนเรยไม่มีคนเล่น ใครจะเล่นก็ไปขอลูกบอลที่จุดบริการได้

จุดบริการ ณ หาดลูกลม มีมาม่าคัพอาหารยอดฮิต เครื่องดื่ม อาหารประเภทยำ แบบทำสำเร็จมาแล้วใส่ถุงขายด้วยนะ ราคาย่อมเยา

สนใจจะทำกิจกรรมอะไร ต้องการอะไรติดต่อที่นี่ ลงชื่อที่นี่ ฟังเรียกชื่อที่จุดนี้ นุ้ยก็จัดการฝากกระเป๋าในล๊อคเกอร์ก่อนเรย 20 บาท ลงชื่อดำน้ำพร้อม 50 บาท จาดปาย

พี่ทหารที่นี่ใจดี มีอารมฌ์ขัน ดูจากท่าโพสต์เก๊กหล่อของพี่เค้าซี่ พี่เค้าชื่อ ครูแหวน หล่อเข้มมากเรยฮะครู ^^

ระหว่างรอเรียกดำน้ำนี้ นุ้ยก็จัดเหมือนเดิมหล่ะ มาม่า 20 บาท แหม!! ทำไมนะกินบนเกาะมันอร่อยกว่ากินที่บ้าน แปลกจัง ตามด้วย โค้ก 1 ขวด 15 บาท ดีงาม

กินมาม่าไปชมวิวไป โล่งโปร่ง สบายใจ สวยงาม ไร้ตึกสูง เกาะจำกัดนักท่องเที่ยวต่อวัน หาดมันโล่งๆอย่างนี้ ชอบจังเรย วิวดอกรัก คิดถึงคนรักนะ รู้กันยัง ^^

ฝั่งหาดลูกลมจะมีเรือแคนูไว้บริการด้วย แต่ตรงฝั่งหน้าเกาะตรงท่าเรือไม่มีนะ ค่าบริการเท่าไหร่ไม่รู้อ่ะ ลืมถามมา ..ขอโทษฮะ ><

เดินมาฝั่งขวาของเกาะทรายละเอียดขาวมาก น้ำมันใสจิง ไรจิง

แต่ตรงนี้หินจะคมหน่อย แถมมีเพรียงเกาะด้วย เพรียงมันคมมาก บาดแล้วเหมือนโดนมีดโกนบาดนั่นหล่ะ ใครอยากได้ภาพสวยแบบนางเงือกแอ๊ะหรือพะยูน นั่งสยายผมบนโขดหล่ะก็ ต้องระวังด้วยนะ

ได้ยินเสียงพี่ทหารเค้าประกาศเรียกทำกิจกรรมเรือพร้อม ระดับน้ำสามารถดำได้แล้ว เราก็เดินกลับไปจุดบริการไปเลือกชูชีพขนาดพอดีกับตัวเรา โอ่งมังกรที่เห็นนั้นคือโอ่งใส่น้ำจืด เวลาดำน้ำเสร็จเอาชูชีพมาเก็บต้องจุ่มล้างน้ำจืดในโอ่งก่อนตากทุกครั้งนะจ้ะ หยิบอุปกรณ์ดำน้ำ (อยู่ในถังสีฟ้า) เอากล้องเก็บใส่ล๊อคเกอร์ให้เรียบร้อย

ใครที่อยากดูปะการังแต่ไม่อยากเปียก ก็ขึ้นเรือท้องกระจกไปคนละ 20 บาท ส่วนใครจะไปดำน้ำก็ขึ้นเรือยางสีส้ม เด๋วพี่ทหารเค้าจะพาไปตรงเกาะปลาหมึก ก่อนจะไปก็เหมือนเดิม เทสต์การใช้อุปกรณ์ เรียนรู้สัญญาณมือกรณีขอความช่วยเหลือ ข้อควรระวังต่างๆ แต่ที่แน่ๆ หอยเม่นเพียบ หนามยาวด้วย ต้องตั้งใจฟัง

นี่หล่ะเกาะปลาหมึกแหล่งปะการังที่สวยมากๆๆเราว่าสวยกว่าเกาะขาม สวยกว่าหาดเทียนที่ดำเมื่อเช้าอีกนะ ตรงจุดนี้นุ้ยเจอหอยมือเสือตัวเท่ากระทะทำอาหาร ปลาปักเป้าตัวเท่าแตงโม ปลาการ์ตูน ปลานกแก้ว ปะการังสวยๆเพียบ หอยเม่นเพียบเช่นกัน ชอบมากเรย ก็เหมือนเดิมทริปนี้พลาดไม่มีกล้องถ่ายใต้น้ำมา เสียดายจัง

พอดำน้ำเสร็จตามรอบเวลา ก็เดินกลับมาบนหาดคนเริ่มทยอยกลับบ้างแล้ว แต่เราจะกลับเรือเที่ยวสุดท้าย ต้องอยู่ให้คุ้มอิ อิ

เหมือนเดิมอาบน้ำคือแค่ล้างตัว ห้ามสบู่ แชมพู ปฏิบัติตามกฎกันด้วย ไม่มีใครไปแอบดูหรอกว่าแค่ล้างตัวจริงมั้ย แต่สามัญสำนึกนะ เราทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎเพื่อให้สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามคงอยู่ตลอดไป

อาบน้ำทาแป้งแต่งหน้า เพราะเด่วกลับฝั่งแล้วจะต้องไปท่ารถตู้เพื่อกลับกทม.เรย ลมเย็นมากแป้ปเดียวผมแห้งแล้วอ่ะ เอิ่มรูปนี้นี่แต่งหน้าแล้วเหรอ.. !! เขียนคิ้วเป็น 2 แฉกด้วย ทามไปด้าย..555

ด้านหลังจุดบริการเป็นทางขึ้นไปจุดชมวิวบนของหาดนี้ เวลามี รออัลไร ไปซิ่คะ ไม่ไกลเท่าไหร่ ทางไม่ลำบากเหมือนเกาะขาม เดินง่ายๆ ข้างบนจะมีหลายจุดให้ยืนถ่ายรูป แหวกหญ้ารกๆนี้กันหน่อย สงสัยไม่ค่อยมีใครขึ้นมาแฮะ รกจัง แหวกหญ้างูจาตื่นมั้ยหว่า..??

บนจุดชมวิวนี้นักถ่ายภาพอย่ามัวหลงวิวสวยต้องระวังกันด้วย เพราะไม่มีไม้กั้น ถ้าพลัดลื่นตกไปก็งานเข้าแน่นอน มาไกลแค่นี้หล่ะ ไกลกว่านี้อันตราย มาคนเดียวด้วย ต้อง Save ตัวเองหน่อย มองเห็นเกาะขามด้วยนะ

เรือท้องกระจกกำลังจะขนคนไปดูปะการัง เรือยางมาส่งคนที่ดำน้ำพอแล้ว แนวทุ่นเชือก คือเขตปลอดภัยเล่นน้ำชายหาด วิวตรงนี้สวยใช้ได้เรยเน๊อะ ^^

อีกด้านแหวกหญ้ามาจะมองเห็นเกาะปลาหมึก ยังมีคนดำน้ำอยู่ด้วยนะ พวกไม่รีบกลับเหมือนเรางัย

ชื่มชมวิวสวย สมควรแก่เวลาก็เดินลงมาขึ้นรถราง กลับมาฝั่งหน้าหาดเพื่อรอเรือกลับฝั่ง เวลายังมีแวะถ่ายรูปที่ศาลาทะเลซักนิด

ด้านหน้าคือเกาะแรด เกาะอนุรักษ์ ที่บอกห้ามนักท่องเที่ยวขึ้นไง

เกาะแสมสาร ถ้ามีโอกาสฉันจะมาอีกนะ ฉันหลงรักทะเล ฉันรักคนบนท้องฟ้า ฉันจะใช้ชีวิตให้คุ้มเผื่อเธอ เมื่อถึงเวลาได้เจอกันเราจะจับเข่าเม้าท์กันอย่างสนุก กลับล่ะนะ ป่าเมืองกรุง และงานท่วมโต๊ะรออยู่ ฮิ้ว ฮิ้ว !!

เรือเที่ยวสุดท้ายมาแล้ว 2 วันนี้สนุกจัง ขอบคุณทุกคนที่ได้ช่วยเหลือเรา ทริปประทับใจ ไปคนเดียวแต่ไม่เหงา รักเอยอยู่รอบตัวเรา รักที่มาในรูแบบน้ำใจ ความห่วงใย ความช่วยเหลือ มิตรภาพและกำลังใจ

กลับขึ้นมาบนฝั่งลูกน้องของพ่อพี่เค้าก็ขับมอร์ไซด์มาส่งนุ้ยที่ท่ารถตู้ ท่ารถตู้ติดกัน 2 ท่า ท่ามหานครเดิมที่นุ้ยขึ้นมาจากอนุเสารีย์ชัยน่ะ ราคา 140 บาท แต่ออก 18.00 น. รถยังไม่มา ตอนนี้ 17.00 น. นุ้ยก็เรยเดินไปท่าติดกันเค้าบอก 145 บาท ลงใต้ทางด่วน ออก 17.30 น. รถมาแล้ว นุ้ยจึงเลือกจ่ายแพงกว่า 5 บาท แถมเดินไกลอีกนิด เพื่อจะได้ออกจากสัตหีบเร็วขึ้น เพราะไม่อยากจะถึงบ้านดึก แต่รถออกจริงๆ 17.45 น.

ประมาณ 3 ทุ่มนุ้ยก็ถึงบ้านปลอดภัยเรียบร้อย ลูกน้องพ่อเค้าให้ปลาหมึกมาด้วยหล่ะ ตอนเช้านุ้ยเรยส่งไปให้โจ๊ก ส่งไปทางบาตรพระน่ะ

ปิดทริปความสุข 2 วัน 1 คืน รักเอยอยู่รอบตัวเรา ไม่ใช่เราคนเดียวหรอกนะที่มีความทุกข์ ทุกข์ของคนอื่นอาจหนักหนาสาหัสกว่าเรา มองคนที่แย่กว่า หากเราช่วยเหลือเค้าได้ เราจะไม่รีรอที่จะช่วยเหลือเค้าเรย ในเมื่อเรากำหนดอะไรไม่ได้ ชะตาถูกขีดชีวิตมีพรหมลิขิต ก็จงใช้เวลาที่ยังมีอยู่สร้างความสุขให้ตัวเอง สร้างความสุขให้สังคม ออกไปเห็นโลกที่กว้างกว่า ใช้ชีวิตให้คุ้มก่อนตาย ใช้ชีวิตเผื่อคนบนฟ้า คนที่ที่เรารักและรักเรามากที่สุดต่อจากพ่อแม่ของเรา อีกไม่นานก็ได้เจอกันเน๊อะ อย่างที่บอกตอนแรก บทความนี้ไม่ใช่รีวิวท่องเที่ยว แต่มันคือเรื่องราวของเราในวันที่ได้ไปเที่ยว มันคือภาพที่ถ่ายโดยมุมมองของช่างภาพที่ทิ้งกล้องไว้ให้

ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบ ขอบคุณทุกท่านที่แชร์ออกไป ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม ขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจกันเสมอมาในทุกๆเรื่อง ขอบคุณคุณพ่อของพี่ที่น่ารัก ทริปนี้คงไม่สำเร็จถ้าพี่และพ่อไม่จัดให้ ขอบคุณจากใจ เราหวังว่าเรื่องราวของเราคงเป็นกำลังใจ แรงบันดาลใจให้หลายๆคนต่อสู้กับทุกสถานการณ์ของชีวิต และกล้าที่จะออกเดินทาง กล้าที่จะใช้ชีวิต แล้วพบกันใหม่ เจอกันทริปหน้า ขอบคุณค่ะและรักแท้ยังมีอยู่จริง ตอนนี้นุ้ยสร้างอีกเพจหนึ่งสำหรับคนชอบเที่ยวทะเล ชื่อว่า Blue or sea ฝากติดตามกันด้วยค่ะ กดที่ลิ๊งค์นี้ได้เรย https://www.facebook.com/Blue-or-sea-1916956046863...