"นครพนม"
เช้าวันนี้ก็เหมือนทุกๆวัน
ผู้คนที่นี่ก็ยังคงใช้ชีวิตกันตามปกติ ไม่ได้ช้าหรือเร็ว
เหมือนที่นักท่องเที่ยวหลายๆคน ยกมาใช้ให้มันสโลไลท์ ดูเก๋ๆ
หอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์ก็ยังทำงาน หมุนตามจังหวะของเวลาเป็นปกติ
จะมีแต่หนุ่มนักเดินทางคนเดียวที่ดูเหมือน จะเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาของชาวบ้านที่นี่ไปแล้ว
...
พระอาทิตย์ในฤดูฝนยังคงขี้อาย
ไม่ยอมโผล่ออกมาให้เห็น บรรยากาศคลึ่มฟ้าคลึ้มฝน
ที่โปรยลงมาในตอนเช้าและตกหนักในช่วงเย็น
...
ยายบัว หญิงสาววัยชรา ที่ออกนั่งมารอใส่บาตรในทุกๆเช้า
บริเวณหอนาฬิกา ยังคงยิ้มทักทายในไมตรีให้ทุกวัน
ในทุกๆวันก็จะมีคำถามเดิมๆว่ามาจากไหน ? .. กลับวันไหน.? ...
เป็นบทสนนาที่คุ้นเคย ที่แกอาจจะลืมในความชรา
..
คุยยายขายขนมใข่หงษ์ที่อยู่ในซอยแคบๆ มาหลาย 10 ปี
ที่มีแมวที่พึ่งออกลูกมาใหม่ 4-5 ตัวเป็นเพื่อนแก้เหงา
กับพิกัดร้านจะหายากหน่อย..วันนี้คุณยายตื่นสายหน่อย
เพราะไม่ค่อยสบาย ช่วงสายๆแกบอกค่อยกลับมาใหม่
..
คุณตาหลังจากที่มาใส่บาตรริมแม่น้ำโขง
ก็นั่งให้อาหารนกพิราบเหมือนเคยทุกวัน พร้อมคำกล่าวสวัสดี ยกมือไหว้
ของผู้คนที่มาออกกำลังกายตอนเช้า ผ่านไปผ่านมาด้วยความเคารพ ..
ก่อนที่ฝนจะโปรยลงมาในเช้าวันนี้เช่นเคย
======================
"ที่นี่นครพนม"
เมืองที่ไม่สิ้นมนค์ขจลัง , เมืองสงบริมฝั่งโขง,เมืองแห่งความสุข ริมฝั่งโขง
และอีกหลายคำ หลายๆนิยาม ที่ผู้คนต่างยกขึ้นมาหากเอ่ยถึงจังหวัดนี้

ครั้งนี้ผมได้กลับมาเยื่องเมืองนครพนมอีกครั้งในช่วงฤดูฝน
ฤดูที่หลายๆคนอาจจะต้องนั่งแช่อยู่แต่ในร้านกาแฟ หรือโรงแรม
วันนี้ผมจะนำภาพนครพนมมาให้ได้ชมกัน ไม่ว่าจะเป็นในด้านของธรรมชาติ
วัฒนธรรม บ้านมือง ในจังหวัดนครพนม เผื่อจะทำให้หลายคนอยากจะมาชื่นชมเมืองนี้สักครั้ง

ตามกันไปดูได้เลยครับ



การเดินทางไปยังจังหวัดนครพนม ก็มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ
1.โดยรถยนต์
จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) จนถึงจังหวัดสระบุรี บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 107 แยกขวา เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 2 (มิตรภาพ) ผ่านจังหวัดนครราชสีมา จนถึงอำเภอบ้านไผ่ แยกขวาเข้าสู่ทางหลวง หมายเลข 23 ไปจนถึงจังหวัดมหาสารคาม แล้วแยกใช้ทางหลวงหมายเลข 213 ผ่านจังหวัดกาฬสินธุ์ จนถึง จังหวัดสกลนคร แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 22 ต่อไปจนถึงจังหวัดนครพนม รวมระยะทางประมาณ 740 กิโลเมตร

2. โดยรถประจำทาง
มีรถโดยสารปรับอากาศของบริษัท ขนส่ง จำกัด และของเอกชน สายกรุงเทพฯ-นครพนม ออกจากสถานีขนส่ง สายเหนือ (หมอชิต 2) ถนนกำแพงเพชร 2 ทุกวัน วันละหลายเที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 ชั่วโมง สอบถาม รายละเอียดได้ที่บริษัท ขนส่ง จำกัด โทร.1490 www.transport.co.th
ปัจจุบันบริษัท ขนส่ง จำกัด ได้เปิดให้บริการจองตั๋วรถโดยสารออนไลน์แล้ว ติดต่อได้ที่ www.thaiticketmajor.com นอกจากนี้ยังสามารถซื้อตั๋วออนไลน์ได้ที่ไทยรูท ดอทคอม www.thairoute.com

3.เครื่องบิน นกแอร์เปิดเที่ยวบินตรงสู่จังหวัดนครพนมโดยเข้าไปเลือกเที่ยวบิน และโปรโมชั่นได้ที่ www.nokair.com

4.รถไฟ สามารถเดินทางไป - กลับ ด้วยรถไฟ ขบวนต้นทางกรุงเทพฯ - ปลายทางหนองคาย
แล้วลง สถานี จ.ขอนแก่น หรือ จ.อุดรธานี แล้วต่อรถโดยสาร หรือรถตู้เข้าสู่จังหวัดนครพนม

สิ่งแรกเมื่อมาถึงนครพนม ในยามเช้าคือการใส่บาตรริมโขง
ในบรรยากาศที่เงียบสงบ



คุยยายขายขนมใข่หงษ์ที่อยู่ในซอยแคบๆ มาหลาย 10 ปี
ที่มีแมวที่พึ่งออกลูกมาใหม่ 4-5 ตัวเป็นเพื่อนแก้เหงา
กับพิกัดร้านจะหายากหน่อย


สายๆ ปั่นจักรยานชมเมือง หรือจะใช้บริการรถสามล้อเครื่องก็ดูคลาสสิค
และที่จังหวัดนครพนมนี้ เป็นเส้นทางจักรยานที่สวยงาม อีกแห่งของประเทศ
จัดการได้อย่างมีระเบียบลงตัว โดยเฉพาะเส้นตลอดริมฝั่งแม่น้ำโขง



ในตัวเมืองนครพนมมีที่ไหนน่าสนใจบ้าง
เรามาเริ่มปันจักยานกันเลยครับ เพราะนครพนมเป็นเมืองเล็กๆ
การปั่นจักยานเที่ยวถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ไม่ใช่แค่ประหยัดในราคาเช่าวันละไม่กี่บาท
แต่เป็นการออกกำลังกายไปในตัว แถมถนนจักยานที่นี่สวยไม่แพ้ที่อื่นแน่นอน

เรามาเริ่มจาก หอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์ เป็นหอนาฬิกาที่ชาวเวียดนามได้สร้างไว้เป็นอนุสรณ์แก่ชาวนครพนม
เมื่อคราวย้ายกลับ ปิตุภูมิประเทศเวียดนาม สร้างเมื่อ พ.ศ.2503 สูงประมาณ 50 เมตร
ตั้งอยู่ที่ถนนสุนทรวิจิตร เลียบริมฝั่งแม่น้ำโขง ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครพนม
เป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของเมืองนครพนมโดดเด่นเป็นสง่า



จากหานาฬิกสสองขาปั่นสองล้อตามถนนอภิบาลบัญชา มาไม่ไกลก็จะมาถึง
หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
ที่เดิมเคยเป็น ศาลากลางจังหวัดนครพนม (หลังเก่า) มาก่อน
อาคารเก่าแก่สีเหลืองสวยงามที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมผสมระหว่างสถาปัตยกรรมไทยและยุโรป
สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๕๘ ตรงกับ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕



หอสมุดแห่งนี้ เป็นแหล่งรวบรวมมรดกทาง สติปัญญาของชาติที่อยู่ในรูปของหนังสือ สิ่งพิมพ์ โสตทัศนวัสดุ
หนังสือภาษาโบราณ หนังสือตัวเขียน จารึก คัมภีร์ใบลาน เรียกได้ว่าเป็นแหล่งรวมหนังสือหายากเลยก็ว่าได้



บนถนนเลียบริมโขง ปั่นไปเรื่อยๆ ใช้แรงไม่มากนักก็จะมาถึง
วัดนักบุญอันนา หนองแสง
เป็นโบสถ์คริสต์ที่มีความเก่าแก่สวยงามแห่งหนึ่งในจังหวัดนครพนม ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำโขง
เป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามแปลกตา และยังมีอาคารที่ทำการศาสนกิจของบาทหลวงนิกายคาทอลิก
ก่อตั้งโดยบาทหลวงเอดัวร์นำลาภ ที่ใช้ประกอบพิธีทางศาสนาของชาวคริสต์



บนเส้นทางจักรยานที่สวยงามร่มรื่นริมแม่น้ำโขง
ปั่นกันต่อยามไปเรื่อยๆ มุ่งหน้าสู่สะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว แห่งที่ 3



สะพานมิตรภาพไทย-ลาว 3 (นครพนม-คำม่วน) เป็นสะพานที่เชื่อมต่อระหว่างประเทศไทย (นครพนม) กับประเทศลาว (คำม่วน) พื้นที่ฝั่งไทยที่บ้านห้อม ตำบลอาจสามารถ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม ฝั่งลาวอยู่ที่บ้านเวินใต้ เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน



จากนั้นปั่นกลับเข้าสู่ในเมืองไปยังพระธาตุนคร สิ่งที่ขาดไม่ได้คือการได้กราบไหว้พระธาตุต่างๆ
ใครมีเวลาก็เดินสายไหว้ให้ครบทั้ง 8 พระธาตุเลยก็ได้
1 พระธาตุพนม พระธาตุประจำวันเกิดวันอาทิตย์ อ.ธาตุพนม
2 พระธาตุเรณู พระธาตุประจำวันเกิดวันจันทร์ อ.เรณูนคร
3 พระธาตุศรีคุณ พระธาตุประจำวันเกิดวันอังคาร อ.นาแก
4 พระธาตุมหาชัย พระธาตุประจำวันเกิดวันพุธ อ.ปลาปาก
5 พระธาตุมรุกขนคร พระธาตุประจำวันเกิดวันพุธ (กลางคืน) อ.ธาตุพนม
6 พระธาตุประสิทธิ์ พระธาตุประจำวันเกิดวันพฤหัสบดี อ.นาหว้า
7 พระธาตุท่าอุเทน พระธาตุประจำวันเกิดวันศุกร์ อ.ท่าอุเทน
8 พระธาตุนคร พระธาตุประจำวันเกิดวันเสาร์ อ.เมือง
หรือจะไหวะพระธาตุประจำวันเกิดของตัวเองก็ดี
ครั้งนี้ผมไม่สารมารถไปครบทั้ง 8 พระธาตุได้ด้วยเวลาไม่อำนวย
แต่ก็จะพาไปชมพระธาตุหลักๆ ที่ขาดไม่ได้เมื่อมานครพนมกัน มีที่ไหนบ้างตามมาเลยครับ
=================================================

"พระธาตุนคร"
พระธาตุนคร เป็นพระธาตุที่อยู่บนถนนสายเลียบโขง ตั้งอยู่ในวัดมหาธาตุ
รอบองค์พระธาตุมีลานประทักษิน (พื้นรอบพระธาตุที่อยู่ในกำแพงแก้ว) ลักษณะการสร้างก็มีความสวยงามตามแบบของพระธาตุพนม
ด้านหน้าพระธาตุประดิษฐานพระพุทธรูปปางนาคปรก พระพุทธรูปประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันเสาร์

จากตัวเมืองจะเช่ามอเตอรไซค์ นั่งสองแถว หรือขึ้นรถตู้ก็ตามแต่สะดวก
มุ่งหน้าไปยังพระธาตุพนม ที่ถือว่าถ้ามานครพนมแล้ว ถ้าไม่ได้มาไหว้พระธาตุพนม
ถือว่าทริปที่มานั้นจะไม่ครบถ้วน

ครั้งนี้ผมบิดมอเตอร์ไซต์ด้วยระยะทางกว่า 50 กิโลเมตรเพื่อมาไหว้พระธาตุ
และเวียนเทียนในช่วงวันอาสาฬหบูชาพอดี ก็จะเป็นช่วงที่ชาวพุธททั้งหลายให้ความศรัทธา
ผมใช้เวลาอยู่ที่พระธาตุพระนมตั้งแต่ช่วงบ่ายจนถึงตอนเย็น เพื่อจะรอเก็บภาพในช่วงตอนกลางคืน



จากพระธาตุพระนม ขากลับเข้าเมือง
ก็ยังทันเวียนเทียนอีกหนึ่งพระธาตุที่ พระธาตุมรุกขนคร
เป็นความบังเอิญที่สังเกตุเห็นตั้งตระหง่านอยู่ข้างทาง
ถือว่าคุ้มมาก เพราะการเดินทางไม่ไกลกัน
ยังแอบเสียดายที่ไม่ได้ไปพระธาตุเรณู



กลับเข้าสู่ในเมืองอีกครั้ง เราตรงไปที่หอนาฬิกา
เพราะว่าทุกๆคืนวันศุกร์และเสาร์ของที่นี่จะมีถนนคนเดิน
เป็นถนนเล็กๆ จัดวางของได้อย่างน่ารัก ดูอบอุ่นของคนที่นี่
โดยตั้งต้นเริ่มจากท่าเทียนบเรือท่องเที่ยว มาจนถึงลานคนเมือง
เลียบฝั่งแม่น้ำโขง



ชื่อภูเขาฟังไพเราะมีที่มากจากเจดีย์ทรงลังกา
ตั้งอยู่บนยอดภู ภายในในอุทยานแห่งชาติภูลังกา
ที่มีพื้นที่ครอบคลุม ตำบลไผล้อม อ.บ้านแพง
จังหวัดนครพนม และ อ.บึงโขงหลง อ.เซกา จังหวัดบึงกาฬ
....
อุทยานแห่งชาติภูลังกา
ห่างจากตัวอำเภอบ้านแพงประมาณ 6 กิโลเมตร
การเดินทาง จากตัวเมืองนครพนมใช้เส้นทาง
สายนครพนม-บ้านแพง ระยะทางประมาณ 105 กิโลเมตร
และเลี้ยวซ้ายบริเวณกิโลเมตรที่ 220
สภาพโดยทั่วไปเป็นป่าดงดิบ ป่าเบญจพรรณ
และป่าแดงที่สมบูรณ์มีสัตว์ป่าชุกชุม
เป็นต้นกำเนิดของน้ำตก และลำธารใหญ่น้อยหลายสาย
ด้านบนภูลังกามี เจดีย์กองข้าวศรีบุณเนาว์ ตั้งอยู่บนลานหินที่มีลักษณะคล้ายกองข้าวซึ่งเป็นจุดสูงสุดของภูลังกาสูงประมาณ 563 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง มีจุดชมวิวดูพระอาทิตย์ขึ้นจากแม่น้ำโขงและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวในตอนเช้าที่สวยมาก เจดีย์นี้อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูลังกาประมาณ 4 กิโลเมตร และต้องเดินเท้าขึ้นเท่านั้น
====================================
แต่ที่อธิบายมาทั้งหมดนี้คือเส้นทางปกติที่นักท่องเที่ยวทั่วไปเขาใช้ในการเดินขึ้นกัน ส่วนคนไม่ปกติอย่างเราๆ ครั้งนี้เราจะเดินขึ้นในเส้นทางใหม่ ที่ใต่ลัดเลาะไปตามน้ำตกที่สวยงาม



ตามที่กล่าวไว้ข้างต้นคนไม่ปกติอย่างเราต้องหาอะไรใหม่ๆเข้ามาเพิ่มรสชาตินั้นก็คือการเดินขึ้นยอด ภูลังกา ที่เดินตามธารของน้ำตกแห่งใหม่ ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวเท่าไหร่นัก แม้กระทั้งคนในพื้นที่หลายๆคนยังไม่คุ้นชื่อ เพราะน้ำตกแห่งนี้จะสวยงามก็ต่อเมื่อมีฝนตกลงมาเท่านั้น
น้ำตกแห่งนี้มีนามอันไพเราะว่า
"น้ำตกตาดวิมาทิพย์"



"น้ำตกตาดวิมานทิพย์"
อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูลังกา จ.นครพนม
ส่วนตัวน้ำตกจะอยู่ที่ฝั่ง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ
แน่นอนการเริ่มตนเราก็จะเริ่มกันที่พื้นที่ของอำเภอบึงโขงหลง
บริเวณสำนักสงฆ์ฐิติสาราราม ที่หางไปจากอำเภอบ้านแพง
จ.นครพนม ไปประมาณครึ่งชั่วโมง
โดยครั้งนี้เราจะเริ่มเดินสำรวจจากชั้นแรกขึ้นไปเรื่อยๆ
โดยสรุปแล้วเรานับชั้นใหญ่ๆได้ทั้งหมด 7 ชั้น
โดยชั้นที่1 เป็นชั้นที่เข้าถึงง่ายที่สุด


จากชั้นที่ 1 เดินเท้าไปยังชั้นต่างๆ เส้นทางค่อนข้างลาดชัน และลื่น ควรใช้ความระมัดระวัง
และควรมีคนนำทาง เส้นทางจากนี้ขึ้นไปจะไม่ชัดเจน



ชั้นที่ 2-3-4-5-6-7 ก็ตามไปชมบรรยากาศกันได้เลยครับ
ก่อนที่เราจะไปนอนค้างบนยอดภูลังกากัน



..ถามว่า...
เดินยากมั้ย ???
สำหรับผมไม่ยาก...แต่ถ้าเป็นนักเดินทางทั่วไปจะลำบากนิดหน่อย
ถ้าไปแค่ชั้นแรกไปได้สบาย มาเที่ยวเองได้ แต่ถ้าชั้นต่อๆไป
นับมาได้หลักๆ ไม่รวมยิบย่อยก็ 7 ชั้น
หลายจุดยังอันตราย ยังมีความเสี่ยง ทางชัน หินลื่นมาก
(ขนาดผมที่เดินมาเยอะก็เกือบหลุด ต้องถอยหลังไปตั้งหลักใหม่)
..
และเส้นทางที่จะขึ้นไปชั้นอื่นๆในแต่ละชั้นก็ไม่ชัดเจน
ต้องมีคนนำทาง
..
ติดต่อได้ที่ไหน ??
ติดต่อไปที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูลังกา จ.นครพนม
ได้โดยตรงเลยครับเพื่ออำนวยความสะดวก
พิกัดจุดเริ่มเดิน : ตั้งอยู่ ที่ บ.วิมานทิพย์ อ.บึงโขงหลง
ทางขึ้น สำนักสงฆ์ฐิติสาราราม
+++++++++++++++++++++++++++
และที่สำคัญควรเช็คอากาศก่อนเดินทาง
เพราะน้ำตกที่นี่จะสวยงามก็ต่อเมื่อหลังฝนตกเท่านั้น
ถ้าฝนไม่ตกติดกันนานๆ น้ำจะน้อย สายน้ำตกจะบางๆความสวยงามก็หายไปบ้าง



หลังจากเดินสำรวจลัดเลาะมาตามน้ำตกแล้ว
จุดหมายเราไม่จบเพียงเท่านี้ ครั้งนี้เราจะเดินกันต่อไปอีกไม่ไกล
ก็จะถึงยอดภูลังกา (ฝั่งทิศใต้) สำหรับค้างแรม 1 คืน



ตัดบรรยากาศมายังเช้าอีกวัน หลังจากเมื่อคืนตั้งใจ เตรียมกล้องจะถ่ายทางช้างเผือกกัน
แต่ท้องฟ้าในหน้าฝนก็ไม่ยอมเปิดให้เราสักที
ก็จะมีแต่วิวยามเช้าบนยอดภูลังกาที่พอจะได้เก็บมาให้ชม



เสร็จสิ้นภารกิจพิชิตภูลังกา สำรวจน้ำตกตาดวิมานทิพย์
สายๆ เราก็อำลาลงจากเขา โดยใช้อีกเส้นทาง
เพราะว่าเส้นทางที่เดินตามน้ำตกทั้งชัน และลื่น
อาจจะทำให้เสียเวลา เพราะว่าช่วงบ่ายวันนี้เราจะไปชมงานรำบวงสรวง พญาศรีสัตนาคราช
ที่เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาก ของจังหวัดนครพนม


โดยงานงานรำบวงสรวงพญาศรีสัตนาคราช นั้นทางจังหวัดนครพนมได้ร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง
กำหนดจัดงานบวงสรวงเปิดฟ้าสักการะพระธาตุพนม รวมถึงพระธาตุประจำวันเกิดในพื้นที่ จ.นครพนม
รวม 8 พระธาตุ และขอพรมงคลจาก พญาศรีสัตนาคราช แลนด์มาร์กพญานาคศักดิ์สิทธิ์ ริมฝั่งแม่น้ำโขง
ซึ่งได้มีการจัดสร้างขึ้น เมื่อปี 2559 ที่ผ่านานมา ง จึงได้มีการจัดงานบวงสรวงขึ้น
ระหว่างวันที่ 7 – 13 กรกฎาคม 25620 รวม 7 วัน 7 คืน เพื่อเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์
ส่งเสริมการท่องเที่ยว ให้ประชาชน นักท่องเที่ยว ได้มาร่วมทำบุญ
=================
การเดินทางมานครพนมครั้งนี้ผมเลยได้มีโอกาศได้เข้าไปเที่ยว เก็บภาพภายในงาน
โดยเฉพาะปีนี้ได้มีน้องแต้วจากละครนาคี ร่วมรำบูชา พญานาคริมโขง ด้วย
ไปชมบรรยากาศภายในงานกันได้เลยครับ



จากแหล่งท่องเที่ยวทั้งชุมชน วัฒนธรรมและธรรมชาติกันว่า
มาดูร้านกาแฟ และที่พัก ร้านอาหารที่อยากแนะนำกันบ้าง
...
สำหรับร้านกาแฟก็ต้องที่ The P Cafe ที่โรงแรม The P Hometel Hotel
ร้านกาแฟเล็กๆ น่ารักๆ ใกล้กับหอนาฬิกา ฝั่งโขง และถนนคนเดิน
ด้านบนของร้านเปิดให้บริการที่พักด้วย มีจักยานให้ยืมฟรีสำหรับลูกค้าด้วย



ที่พัก The River Nakhonphanom
โรงแรมใหม่ Modern Style ตั้งริมหาดทรายทองศรีโคตรบูรณ์ ติดริมแม่น้ำโขง
ที่มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็น River Bar & Restaurants ร้านอาหารสุดคูล
ดีไซน์สไตล์นิวยอร์ค มีทั้งไวน์ชั้นเลิศกับอาหารอร่อยหลากรสที่ต้องลองสัมผัส
และ River Coffee ร้านกาแฟเท่ห์ๆ ก็มีมุมให้นั่ฃชิล



ร้านอาหาร ที่นครพนมก็มีให้เ้ลือกมากมายหลายแบบ
ตามความต้องการ ทั้งร้านใหม่ ร้านดั่งเดิม
หนึ่งในนั้นก็ต้องมีร้านพรเทพ ร้านอาหารเช้าที่ชาวท้องถิ่นแนะนำมา บอกว่าเด็ด
ที่มีเมนูมีหลากหลายให้เลือก ทั้งโจ๊กหมู ต้มวุ้นเส้น ต้มเลือดหมู ไข่กระทะ ไข่ดาว+หมูแฮม
ขนมปังยัดไส้ แซนวิส และเครื่องดื่ม ชาร้อน กาแฟร้อน ไมโล โกโก้ และอีกมากมาย



การเเดินทาทงท่องเที่ยวในจังหวัดนครพนมในครั้งนี้
ถึงแม้ว่านครพนมจะเป็นจังหวัดเล็กๆ ไม่ใหญ่โตมากมาย
แต่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่หน้าสนใจอยู่ามากมาย
ไม่ว่าจะเป็นในด้านของธรรมชาติ วัฒนธรรม ชุมชน
ศาสนา อาหารการกิน รวมไปถึงการข้ามไปเที่ยวยังประเทศเพื่อนบ้าน

บอกได้เลยว่าการมาเที่ยวนครพนม อาจจะทำให้คุฯหลงรักเมืองนี้
เมืองที่มีความสุขที่สุด ,เมืองสงบริมฝั่งโขง

ที่นี่ "นครพนม"

=========

ขอจบรีวิวทริปนครพนมไว้เพียงเท่านี้
แต่ยังไม่สิ้นสุดของการเดินทาง เพราะความงามของนครพนมในช่วงฤดูอื่น
บังคงน่าสนใจ และในช่วงหน้าหนาว ความสวยงามของที่นี่ก็คงจะสวยไปอีกแบบ

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยวชม
ครั้งน่าจะพาไปที่ไหน เอาไว้จะนำมาให้ชมกันอีกครับ



สะพายเป้ เท่ทั่วไทย

 วันจันทร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 01.33 น.

ความคิดเห็น