พอเอ่ยถึงท่าดินแดง หลายคนต้องนึกถึง "ห่านพะโล้" ใช่ค่ะ แต่วันนี้ไม่ใช่วันกินห่าน เราเลยไปกินหมูกันแทน เรื่องของเรื่องนั่ง ๆ ทำงานกันอยู่แล้วเกิดอยากกินหมูสะเต๊ะซะงั้น ไอ้ร้านปากซอยก็ไม่ถูกใจ อยากจะกินอาหารขึ้นชื่อ ได้กัน

นั่นหละค่ะ นั่งแท็กซี่ไปท่าดินแดงตอนสามทุ่มกว่า ๆ ไปถึงบรรยากาศเงียบสงัดมาก ร้านที่เราตั้งใจมากินเลย คือ ร้านโอกี่ (เจ้าเก่า) หมูสะเต๊ะ เพราะน้องที่เป็นคนแถวนั้นบอกว่าอร่อยต้องมา มองเห็นไฟริบรี่บริเวณที่หมาย ฮิ้ววววววววววว ยังขายอยู่ ไม่รอช้า หาที่นั่งให้ตัวเองแล้วสั่ง ๆ ๆ ๆ ๆ ทันที


ได้ผลค่ะเจ้าของร้านบอกว่า เหลือแต่หมูสะเต๊ะ 30 ไม้ พวกลื้อจะเอามั้ย เอาสิคะแหม๋ ดั้นด้นกันมาซะขนาดนี้ รอไม่นานค่ะ แต่มีเสียงประกอบการรอประมาณว่า มาทำอะไรป่านนี้เค้าจะเก็บร้านกันแล้ว แฮ่ !!! เก๊าขอโทษ ไม่นานนักหมูสะเต๊ะจานสุดท้ายของร้านก็มาถึง พร้อมกับเสียงปฏิเสธลูกค้าหลาย ๆ รายที่แวะมาซื้อว่าหมดแล้ว จานนี้ของโตีะโน้น ภูมิใจไปอีก ได้กินโต๊ะสุดท้าย ดูสิว่าคุ้มค่าแท็กซี่ กะคุ้มค่าเฮียบ่นรึเปล่า

เนื้อหมูสะเต๊ะ ชุ่มฉ่ำมากค่ะ ไม่ได้มีแต่เนื้อล้วน ๆ แบบเนื้อกระดาษ แต่มีมันแทรกมาบ้างให้เนื้อนุ่มและชุ่มฉ่ำเครื่องสะเต๊ะที่นำหน้าด้วยผงกะหรี่ก็เข้มข้น ทั้งกลิ่นและรส 30 ไม้ 3 คน แม่เจ้า อยากจะกรี๊ดดดดดดดดดดดด ทำไมไม่มาตั้งแต่เลิกงานฟระ !!!

น้ำจิ้มสะเต๊ะ หรือน้ำจิ้มถั่วบดรสชาดดีมากค่ะ แทบจะขอเฮียว่าใส่ถุงไปทาขนมปังปิ้งที่บ้านได้มั้ย ก็กลัวเฮียจะเอาเก้าอี้ทุ่ม เลยต้องตัดใจ ไว้วันหลังเถอะเฮีย !!! ส่วนน้ำจิ้มอาจาด ถึงสีจะไม่สวย (ไม่มีพริกแดง) แต่ผักสด ๆ ทั้งแตงกวา หัวหอม น้ำก็เปรี้ยวหวานสะใจ ไม่เหมือนบางเจ้าเหมือนเอาน้ำเชี่อมมาโรย กินหมูสะเต๊ะแกล้มอาจาด สุขสุด ๆ ใครว่าง ๆ ไปแถวนั้นก็แวะไปลองกินดูนะคะ นี่ก็ยังว่ากันว่าจะเหมาแท็กซี่ไปนั่งกินกันอีกที

ขอบคุณที่เข้ามาชมค่ะ

สายลม ที่ผ่านมา

 วันศุกร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 11.05 น.

ความคิดเห็น