###ม่วงมหากาฬรีวิว#Le Jardin De Maejo บ้านพักสไตล์ยุโรป ในอ้อมกอดขุนเขาและมนต์เสน่ห์ม่อนแจ่มฤดูฝน

ถ้าพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวในฤดูฝนสำหรับเชียงใหม่ หนึ่งในนั้นก็คงต้องมีชื่อของ “ม่อนแจ่ม” เป็นอันดับต้นๆ เพราะในช่วงฤดูฝนหมู่มวลดอกเวอบีน่าสีม่วงจะเบ่งบานเต็มท้องทุ่งเคล้าไปกับสายหมอกซึ่งเป็นภาพที่สวยงามน่าหลงใหลเป็นที่สุดสำหรับบันทึกการเดินทางฉบับนี้เราจะมารีวิวที่พักที่มีชื่อว่า Le Jardin De Maejo ที่เรามีโอกาสได้ไปพักมาควบคู่ไปกับภาพของม่อนแจ่มที่ไม่ไกลจากที่พักแห่งนี้นัก เอาไว้เป็นตัวเลือกสำหรับเพื่อนๆ ที่จะไปเที่ยวเชียงใหม่ในช่วงฤดูฝนนี้กันครับ

ความโรแมนติก ความสวยงามของหมู่มวลดอกไม้ แม้จะเพียงเป็นแค่มุมเล็กๆ บนดอยเตี้ยๆ แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ใครต่อใครต่างเดินทางมาที่นี่ ไม่เว้นแม้แต่ผม...

การเดินทางสู่เมืองเชียงใหม่ในครั้งนี้ พวกเรามาพักกันที่ Le Jardin De Maejo อ่านว่า เลอ จาแด็งเดอ แม่โจ้เป็นที่พักที่ออกแบบสไตล์ยุโรป โอบล้อมด้วยขุนเขา ทุ่งนาและอยู่ไม่ไกลจากม่อนแจ่ม จุดหมายหลักของพวกเรามากนัก

โดยรอบบริเวณที่ตกแต่งสวน ประดับประดาไปด้วยไม้ดอกไม้ประดับ เห็นครั้งแรกก็นึกถึงภาพในจินตนาการที่เป็นบ้านในขนบทของฝรั่ง มีเทือกเขาเป็นฉากหลัง มีลำธารไหลผ่าน มีความรู้สึกเป็นแบบนั้นจริงๆ

เมื่อเดินขึ้นมาชั้นบน ผมรู้สึกชอบมุมนี้อย่างบอกไม่ถูก

มุมเล็กๆ ที่น่านั่งเป็นพิเศษ ด้านหลังคือทุ่งนา โดยมีดอยสุเทพเป็นฉากหลัง

สำหรับห้องพักของ Le Jardin De Maejo ทั้งหลังจะมีเพียง 4 ห้องเท่านั้น เพื่อให้ผู้เข้าพักได้มีความเป็นส่วนตัว เริ่มจากห้องแรกเมื่อขึ้นบันไดมา จะมีชื่อว่า LAVENDER ที่ออกแบบในสไตล์ยุโรป

ทุกห้องจะมีชั้นลอยด้านบนอีกทีและมีเตียงนอนเอาไว้ด้านบนด้วย

จากชั้นลอยมองลงมาด้านล่าง

ห้องที่ 2 ต่อมาคือห้อง HYDRANGEA ภายในห้องจะโปร่งโล่ง มีระเบียงอยู่ด้านหลัง มองออกไปเห็นวิวทุ่งนาและดอยสุเทพ

บริเวณชั้นลอยของห้อง HYDRANGEA ก็จะมีเตียงนอนอีกเช่นกัน

ห้องต่อมาซึ่งเป็นห้องที่ 3 มีชื่อว่าห้อง TULIP ห้องนี้จะออกแบบสไตล์โมเดิร์น

บริเวณชั้นลอยของห้อง TULIP

อีกมุมของชั้นลอยจะมีมุมนั่งเล่น

ห้องที่ 4 ซึ่งเป็นห้องสุดท้ายมีชื่อว่า ROSE เป็นห้องที่งดงามที่สุด

ภายในตกแต่งได้สวยงามอลังการในแบบสไตล์ยุโรป

ด้านบนชั้นลอยมีเตียงนอนเล็กๆ น่ารัก

ห้อง ROSE มีอ่างจากุซซี่อยู่ในห้องน้ำด้วย นอนแช่น้ำดูวิวทุ่งนาและภูเขาคงฟินไม่ใช่น้อย

บันไดทางเดินเชื่อมระหว่างชั้นล่างขึ้นมาชั้นบน

ด้านล่างเป็นที่นั่งดื่มกาแฟ เบเกอรี่

ห้องอาหารของที่นี่ดูโล่งสะอาดสะอ้าน

เมนูอาหารส่วนหนึ่งจากหลายๆ เมนูที่หลากหลายทั้งไทยและเทศ ในภาพชื่อว่า ยำยอดทานตะวันทอดกรอบ

หมูกรอบเลอจาแดง (เมนูพิเศษ)

ซี่โครงหมูอบ อันนี้คอนเฟริมเนื้อนุ่มละมุน ทานกับข้าวสวยร้อนๆ จัดว่าเด็ด

สปาเก็ตตี้หมึกดำซอสอกเป็ด

ในยามหัวค่ำกับบรรยากาศที่เงียบสงบเป็นส่วนตัว

รุ่งเช้าวันใหม่กับอากาศที่บริสุทธิ์ ถ้าวันไหนโชคดีอาจเจอหมอกเต็มทั่วบริเวณ เพราะอยู่ไม่ไกลจากดอยสุเทพมากนัก

เดินเล่นยามเช้าในสวนของรีสอร์ทก็เพลิดเพลินดีเหมือนกัน

บทสรุปสำหรับรีสอร์ทแห่งนี้ แม้จะมีจำนวนห้องพักเพียง 4 ห้องเท่านั้น แต่กลับรู้สึกอบอุ่นเสมือนได้มาเยี่ยมบ้านญาติ อีกทั้งอาหารและบรรยากาศที่ดีและที่สำคัญไม่ไกลจากสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ

แผนที่การเดินทางมายังรีสอร์ท Le Jardin De Maejo

ผมเดินทางออกมาจากรีสอร์ทเพื่อไปยังม่อนแจ่ม ซึ่งอยู่ห่างกันแค่เพียง 20 กว่ากิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางราวครึ่งชั่วโมง

บรรยากาศในฤดูฝนของม่อนแจ่มยังตราตรึงอยู่ในวามทรงจำและถ้ามีโอกาสผมมักจะแวะมาที่นี่เสมอๆ

ไฮไลท์สำคัญในช่วงฤดูฝนคือหมู่มวลดอกเวอบีน่าสีม่วงสดที่เบ่งบานเต็มพื้นที่ม่อนแจ่ม สร้างความประทับใจและความโรแมนติกเป็นที่สุด

ทางเดินลงสู่เพิงนั่งพักทานอาหารที่ตั้งเรียงรายกับบรรยากาศที่มองลงไปช่างสวยงามจับใจ

อีกหนึ่งไฮไลท์ในการมาเยี่ยมเยือนม่อนแจ่มในช่วงฤดูฝนก็คือดอกบัวดินที่บานอย่างสวยงาม

ในส่วนของโซนด้านหลังม่อนแจ่มจะมีการปลูกกะหล่ำเอาไว้อย่างเรียงรายสวยงาม

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมชม แล้วพบกันใหม่ในโอกาสต่อไป สวัสดีครับ

อีกหนึ่งพื้นที่การเดินทางในแบบฉบับของผม ม่วงมหากาฬ LIFE FOR TRAVEL https://www.facebook.com/PEESAT.PANTIP