จากตอนที่ 1 ที่หยกไปพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวเมืองอิสตันบูล เมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดของประเทศตุรกี ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทั้งใน 2 ทวีป คือ ทั้งเอเชียและยุโรปกันแล้ว วันนี้เรามาเที่ยวกันต่อที่เมืองโบราณ และสถานที่ที่ถือเป็นมรดกโลกของประเทศนี้กันบ้างค่ะ

เริ่มที่ เมืองโบราณเอฟฟิซุส (Ephesus) ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดอิซเมียร์ในประเทศตุรกี เมืองนี้ถือเป็นเมืองหรืออาณาจักรที่ยิ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ของจักรวรรดิโรมันรองจากโรม เมืองโบราณที่เรามาเที่ยวนี้ในอดีตมีคนอยู่อาศัยถึง 250,000 คน จึงถือว่าเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกในยุคก่อนคริสต์ศักราชกันเลยทีเดียว

มาดูร่องรอยความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรเอฟฟิซุสกันค่ะ

บริเวณนี้คือโรงละครเอฟฟิซุส โรงละครกลางแจ้งที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศตุรกี ซึ่งด้วยภูมิปัญญาของชาวกรีกโบราณ โรงละครแห่งนี้ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี ถ้าไปยืนตรงกลางเวทีแล้งร้องเพลง คนที่นั่งชมบนอัฒจันทร์จะได้ยินเสียงอย่างชัดเจน เพราะโรงละครถูกสร้างให้หันหน้าออกสู่ทะเล ทำให้ลมบังคับเสียงให้ย้อนกลับมายังผู้ชมที่นั่งชมอยู่ได้ สุดยอดจริง ๆ ค่ะ

มาดูอัฒจันทร์ใกล้ ๆ กัน ปัจจุบันเค้าก็ยังใช้ที่นี่จัดการแสดงอยู่นะคะ

ส่วนตรงนี้คือหอสมุดประจำเมืองเอฟฟิซุส (The Library of Celsus)

หอสมุดแห่งนี้มีทางเข้า 3 ทาง โดยมีการแกะสลักรูปเทพี 4 องค์เอาไว้ที่ด้านหน้า คือ เทพีแห่งปัญญา เทพีแห่งคุณธรรม เทพีแห่งความเฉลียวฉลาด และเทพีแห่งความรู้ ปัจจุบันยังคงทิ้งร่องรอยความยิ่งใหญ่ไว้ค่อนข้างสมบูรณ์ค่ะ

บริเวณข้างใน อันนี้ห้ามเข้าค่ะ แฮร่

ชมความอลังการของอาณาจักรโบราณ Ephesus เสร็จ ก่อนออก เจอแมวเหมียวนั่งสมาธิอยู่ 1 ตัวค่ะ น่ารักเชียว ประเทศนี้แมวเยอะนะคะ อ้วนท้วนสมบูรณ์

ชมเมืองโบราณสมัยอาณาจักรโรมันกันแล้ว ไปต่อกันที่อีกหนึ่งเมือง ก็คือ เมือง Cappadocia เมืองนี้เป็นเมืองโบราณในประวัติศาสตร์ของคริสต์ศาสนาในประเทศตุรกี จุดเด่นของที่นี่ก็คือภูมิประเทศเค้าจะเป็นหินแท่ง ๆ หินพวกนี้เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ ซึ่งคนโบราณที่อาศัยอยู่เค้าจะขุดคว้านหินเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย รวมถึงเป็นศาสนสถานหรือโบสถ์คริสต์ค่ะ

ที่นี่คือพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรอเม่ ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางการเผยแพร่ศาสนาคริสต์ตั้งแต่ช่วงคริสต์ศักราชที่ 9 สังเกตว่าเค้าจะเจาะผนังเข้าไป ข้างในจะเป็นรูปเกาะสลักต่าง ๆ ไว้ที่ฝาฟนังเพื่อเป็นการเผยแพร่คริสต์ศาสนา มีรูปของพระเยซูและเซนต์บาร์บาราอยู่ด้วยค่ะ ช่วงที่มาเป็นหน้าหนาว หิมะหนามาก บรรยากาศเลยสวยงามอย่างที่เห็น

เดินขึ้นไปชมข้างบนได้ค่ะ แต่ใครมาช่วงหิมะเยอะ ๆ ก็เดินระวัง ๆ กันหน่อยนะคะ ไม่ต้องรีบร้อน เดี๋ยวหกล้มไปไม่คุ้มค่ะ อ้อ แล้วก็สวมรองเท้ามาให้เหมาะกับการเดินบนหิมะนิดนะคะ

ชมเมืองโบราณกันเสร็จ ก็หลบหนาว ลงมานั่งดื่มกาแฟกันสักหน่อย บอกแล้วค่ะว่าพ่อค้าแม่ค้าที่นี่น่ารัก

เมือง Cappadocia ที่นี่มีโรงงานเครื่องเคลือบ ซึ่งถือเป็นของฝากขึ้นชื่อด้วยนะคะ ได้ชมวิธีการวาดลายและการปั้นงานแฮนด์เมดของจริงกันด้วย

อันนี้เป็นเหยือกใส่ไวน์นะคะ สวยงามมีเอกลักษณ์มาก ๆ

ออกจาก Cappadocia ขอพาไปสถานที่สุดท้ายที่บอกเลยว่าเป็นไฮไลท์ของการมาเยือนตุรกีไม่แพ้กับการล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัสที่อิสตันบูล

ที่นี่คือ ปามุคคาเล่ (Pamukkale) สถานที่ที่ยูเนสโกประกาศให้เป็นมรดกโลก ภาษาตุรกี Pamuk แปลว่า ปุยฝ้าย Kale แปลว่า ปราสาท สถานที่แห่งนี้จึงถูกเรียกว่า ปราสาทปุยฝ้าย คือ เนินหินปูนสีขาวที่เกิดจากน้ำพุร้อนที่พัดเอาแคลเซียมคาร์บอเนตมาตกตะกอน เกิดเป็นความสวยงามตามธรรมชาติ อีกทั้งน้ำแร่หรือน้ำพุร้อนที่นี่ยังเชื่อว่ามีคุณสมบัติในการรักษาโรคต่าง ๆ ได้อีกด้วยค่ะ

วันที่มาถึงปามุคคาเล่เป็นช่วงเช้าพอดีเลยได้ภาพสวย ๆ เป็นวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่ปามุคคาเล่กลับมาฝากกัน

ปามุคคาเล่นี่สวยงามมาก แต่เวลาเดินไปบนเนินหินปูนต้องถอดรองเท้านะคะ บอกเลยว่ามาช่วงหน้าหนาวนี่หนาวสุด ๆ เลยค่ะ ต้องเดินไปเอาเท้าแช่ในน้ำอุ่นไปถึงจะรอด แต่ถ้ามาช่วงหน้าร้อนนี่จะเห็นบางคนใส่บิกินี่ลงไปนอนแช่ในบ่อน้ำร้อนกันได้เลย

จบทริปนี้ไปด้วยความสวยงามและประทับใจ ตุรกีเป็นประเทศที่มีความสวยงามมากกว่าที่คิดนะคะ แต่ละสถานที่ของเค้ามีเรื่องราวที่น่าสนใจมาก ใครกำลังวางแผนมาเยือนรับรองว่าไม่ผิดหวัง ราคาทัวร์ก็ไม่แพงนะคะ หยกมากับทัวร์สะดวกดี เพราะแต่ละสถานที่จะอยู่ต่างเมืองกันต้องใช้เวลาเดินทางนิดนึงค่ะ

ปิดท้ายกันด้วยวิวบนเครื่องบินสักหน่อย หิมะเต็มไปหมด

ทริปนี้ Transit เครื่องที่เตหะราน ประเทศอิหร่าน อันนี้เป็นวิวแบบไม่มีหิมะกันบ้างค่ะ

ทริปหน้าหยกจะพาไปเที่ยวที่ไหน คอยติดตามกันได้นะคะ ทริปนี้ลาไปก่อน สวัสดีค่ะ

อ่าน Unseen Turkey ตอนที่ 1 Istanbul ได้ที่ https://th.readme.me/p/10898

https://www.facebook.com/YokoGoAround/