ทักทายและรู้จักกันเพิ่มขึ้นได้ทีhttps://www.facebook.com/Paikontay/

หรือhttp://www.govivigo.com/user/MEEpanda


บันทึกการเดินทาง 23 ก.ค. 60

ช่วงปลายเดือนแบบนี้แพนว่าหลายๆคนน่าจะกำลังติดเชื้อกระเป๋าแบนกันทั่วหน้า ฮร่า แพนก็เช่นกัน แต่เพื่อนๆเป็นมั้ยแบบว่า ไม่มีตังค์แต่อยากเที่ยวอะ วันนี้เลยมีเรื่องมาเมาท์ให้ฟัง

ตั้งงบไว้ว่าวันนี้แพนจะใช้เงินไม่เกิน 300 บาท หู้ยยยยยย จะไปไหนดี เข้าห้าง ดูหนัง กินข้าว ก็เกิน 500 แระ พลันสมองอันปราดเปรื่องของแพนก็นึกไปถึงคุ้งบางกระเจ้า อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ก็เอ้อ!เราเองอยู่พระรามสอง ขับรถไปไม่เกิน 20 นาทีก็ถึงละ


~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~

มีแบบวีดีโอด้วยนะ แพนถ่ายกับเพื่อนทำเป็นรายการสั้นๆ 2 part รวมกัน 10 กว่านาที เผื่อสนใจลองดูได้ค่ะ



~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~



เดินทางยังไง?

สำหรับคนในเมือง นั่ง BTS เลยค่ะ : ลงสถานีบางนานะคะ แล้วเดินมาขึ้นรถที่วัดบางนาในไปท่าเรือวัดบางนานอก จากนั้นก็นั่งเรือข้ามฟากมาลงวัดบางน้ำผึ้งนอกเลยค่ะ (โอยย อะไรนอกๆ ในๆ งงไปหมด ฮร่า)

ส่วนคนชานเมืองอย่างแพน จะขับรถมาก็ได้ หรือไม่ก็ : นั่งรถเมล์มาลงท่าน้ำพระประแดง(สาย 82,6,138) แล้วต่อรถสองแถวมาลงตลาดบางน้ำผึ้งก็ง่ายดี


เริ่ม Start กันเถอะ

แพนเลือกขับรถมาค่ะเพราะไปกัน 2 คนกับเพื่อน หารค่าก๊าซแล้วประหยัดกว่าเยอะ อิอิ มีทริคเล็กน้อย กรอกน้ำดื่มใส่ขวดใหญ่ไปจากบ้าน ช่วยประหยัดไปอี๊กกกก อย่างที่บอกค่ะ ใช้เวลาแปปเดียวก็มาถึงตลาดบางน้ำผึ้งแล้ว วันนี้วันอาทิตย์ คนจะเยอะเป็นพิเศษ แพนเลยต้องไปจอดรถไกลมาก


ประมาณกิโลนิดๆ จากทางเข้าตลาดมาลานจอดรถตรงนี้ แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะเค้ามีบริการขับรถไปส่งถึงตลาด ชีวิตดี๊ดี อากาศร้อนไปนิด แต่พอทนได้ เราไปลุยกันดีกว่า


มาถึงตลาดก็เดินเล่นซะให้ทั่วค่ะ มีทั้งของกิน ของเล่น สินค้าโอท็อป เยอะแยะเต็มไปหมด ถ้าเดินทุกซอกทุกมุมก็กลัวจะกินเวลาเกินไป เพราะแพนมาถึงก็เกือบเที่ยงแล้ว พาไปดูมุมนี้ดีกว่า แล้วเดี๋ยวไปปั่นจักรยานกัน

บ้านเรือนไทยโบราณ เรียกได้ว่าเป็นมุมโปรดมุมประจำของแพนเลยก็ว่าได้ มาบางน้ำผึ้งทีไรต้องแวะมานี่ทุกที ก็จะไม่ให้ชอบได้ไงล่ะคะ ด้านในของที่นี่เค้ามีการจัดแสดงโชว์ของโบราณด้วยนะ แพนชอบมาเดินดู คนส่วนใหญ่เค้าก็มาถ่ายรูปกัน เก๋ๆ ชิคๆ คูลๆ ดูวินเทจอะไรประมาณนั้น แพนเองก็เช่นกัน พาลูกๆมาถ่ายรูปเล่น ชิคๆ คูลๆ อย่างที่บอกมั้ยล่ะ

บริเวณภายในเค้าไม่ได้มีแค่จัดแสดงของเก่านะยังมีของกินขายด้วย หนึ่งในสิ่งที่ทำให้แพนชอบมาจุดนี้ก็คือ..


เมี่ยงคำ ใช่ค่ะ เมี่ยงคำนั่นแหละค่ะที่ทุกคนรู้จักกัน แต่แพนชอบของที่นี่ก็ตรงเค้าจัดถาดมาน่ารักมาก เป็นคำๆ วางบนใบพลู สำหรับราคาก็แสนถูก มีแบบ 20 บาท แล้วก็ 30 บาท พอได้กินของว่างนิดหน่อยก็รู้สึกเหมือนเอนีจี้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ว่าแล้วก็ไปปั่นจักรยานกันต่อเลย

~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~

และร้านเช่าจักรยาน ที่แพนมาเช่าประจำก็ร้านนี้เลยค่ะ มีทั้งอาหาร เครื่องดื่ม แล้วก็เช่าจักรยาน ซึ่งคิดวันละ 80 บาท คืนรถก่อนร้านปิด ประมาณ 6 โมงเย็น


แผนที่การปั่นจักรยาน Cr.ตามภาพเลยนะคะ


ในปี 2549 นิตยสารไทม์เอเชีย ได้ยกย่องให้บางกะเจ้าเป็นปอดกลางเมืองที่ดีที่สุดในเอเชีย ที่นี่เลยมีอีกชื่อว่า "ปอดกรุงเทพฯ" หรือบางทีก็ถูกเรียกว่า "กระเพาะหมู" เพราะมีรูปทรงคล้ายกระเพาะหมูตามที่เห็นในแผนที่เลยค่ะ แพนคุยกับคุณลุงเจ้าของรถเช่าเรื่องเส้นทางปั่นเรียบร้อยก็ออกสตาร์ทเลยค่ะ ระหว่างทางที่ไปจะเจอม่านเขียวจากธรรมชาติ ปกคลุมไปทั่ว บางทีก็อาจเห็นบ้านคน หรือร้านกาแฟซุกซ่อนตัวอยู่ในมุมเล็กๆตามทาง


และจุดหมายแรกของแพนก็คือ "บ้านธูปหอม" แต่ไปวันนี้เค้าปิดอ่า T^T เลยไปต่อที่

"Bangkok Three House"

เรียกได้ว่าเป็นอีกจุดไฮท์ไลท์ของคุ้งบางกระเจ้าเลยนะคะร้านนี้ ด้วยการตกแต่งที่ผสานกับธรรมชาติ ด้วยทำเลที่อยู่ติดแม่น้ำ ด้วยมุมถ่ายรูปที่มีมากมายเหลือเกิน ทำให้ผู้คนมักจะแวะเวียนมาเยี่ยมชมร้านนี้อยู่บ่อยๆ จะนั่งกินอาหารเค้าหรือจะแค่มาถ่ายรูปก็ไม่ว่ากัน ในส่วนของแพนวันนี้ มาเพื่อถ่ายรูปอย่างเดียวค่ะ ต้นเดือนค่อยว่ากันนะ ฮร่า ^"^


นอกจากร้าน Bangkok Three House แล้ว ก็ยังมีอีกหลายร้านที่น่านั่งอย่าง "ร้านพบรัก ณ บางน้ำผึ้ง" ร้านนี้ก็มีคนแวะเวียนไปดื่มด่ำบรรยากาศชิลๆไม่แพ้กัน พักกันจนหายเหนื่อยแล้วเราไปต่อกันดีกว่า จุดต่อไปคือ "วัดบางนำผึ้งนอก" ตรงนี้เองค่ะที่เป็นท่าเรือข้ามฟากมาจากฝั่งในเมือง ใครมาโดย BTS ก็ต้องมาข้ามฝั่งกันตรงท่าน้ำที่วัดนี้ล่ะค่ะ แอบกระซิบนิดนึง แพนได้ยินเค้าโฆษณามาว่าจักรยานตรงนี้ เช่าทั้งวัน 50 บาท ไม่รู้จริงหรือหลอก


ภายในวัดก็จะเปิดให้ทำบุญค่ะ ตามทั่วไปของวัดพุทธเรา แต่พอดีวันนี้แพนใส่กางเกงขาสั้น เลยขอถ่ายรูปอยู่ด้านนอกก็พอแล้ว ฮร่าาาาาาาาาาา

ถัดออกมาจากวัดบางน้ำผึ้งนอก ก็จะเจอกับโบสถเก่า อายุหลายร้อยปี มีนั่งร้านผูกรอบโบสถ คาดว่ากำลังทำการบูรณะรักษาอยู่ ซึ่งแพนว่าก็ดีนะ เก็บไว้ลูกหลานจะได้เห็นเนาะ

เดินเข้าไปถ่ายรูปได้นิดเดียวค่ะ เพราะเค้ากั้นเป็นที่ก่อสร้าง แพนก็แวบออกมาปั่นจักรยานต่อ คราวนี้แพนจะไปที่แลนด์มาร์คของบางกระเจ้าแล้วล่ะ "สวนศรีนครเขื่อนขันธ์"

แต่...............................................................................................................................................ระหว่างทางที่จะไป แพนดันเหลือบไปเห็นป้าย "พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน หมู่2"

รอช้าอยู่ใย ก็รีบปั่นไปตามทางสิคะ ด้านในมีการจัดแสดงวิถีชาวบ้านสมัยก่อนค่ะ ของใช้โบราณ หนังสือพิมพ์เก่า ธนบัตรเก่า แล้วก็อะไรอีกหลายๆอย่าง น่าสนใจมาก แต่แพนว่าพิพิธภัณฑ์นี้มันอยู่ในซอยลึกไปหน่อย คนทั่วไปที่ปั่นจักรยานไม่น่าจะมีคนเห็น คุณป้าเจ้าของเค้าบอกว่าส่วนใหญ่คนที่มาเยี่ยมชมจะเป็นนักเรียนที่มาเป็นหมู่คณะ ก็นะดันอยู่หลืบขนาดนี้ใครจะไปเห็นล่ะ ถ้าไม่ใช่แพนเนี่ย


ไหนๆก็มาแล้วแพนเลยเอาลูกๆมาถ่ายรูปเล่น เพราะในพิพิธภัณฑ์นี้มีมุมน่ารักๆอยู่เยอะเลย ตรงหน้าทางเข้าก็จะมีร้านข้าวด้วย พนักงานต้อนรับส่งยิ้มทักทายมาด้วยแหละ "มีไร มองหน้าหาเรื่องไง!!!"

แพนจะบอกว่า การที่ได้มาเข้ามาเยี่ยมชมที่นี่ ทำให้แพนได้พบเจอคนใจดีอีกแย้วววววววววว เย้ๆ อย่างที่บอกตอนต้นว่าแพนกรอกน้ำไปจากบ้าน ตอนนั้นน้ำก็เริ่มหมดเลยไปขอเติมน้ำ กับขอซื้อน้ำแข็งเปล่าใส่ถุงมาไว้กิน แต่คุณป้าใจดีบอกไม่เป็นไรไม่คิดตังค์ แถมย้งบอกทางลัดด้านหลังพิพิธภัณฑ์ที่จะสามารถไปโผล่ยังสวนศรีฯได้เร็วและร่มรื่นกว่าทางปกติ ดูได้จากในวีดีโอเลยนะคะ

แพนปั่นจักรยานมาตามทางที่คุณป้าบอกจนมาโผล่ด้านข้างสวนศรีฯ แวะกินข้าวเที่ยงเล็กน้อย แล้วคุยกับเพื่อนว่าเราน่าจะไปดูพิพิธภัณฑ์ปลากัดกันก่อนค่อยมาเข้าสวนศรีฯหลังสุดจะได้เปื่อยๆอยู่ในสวนยันเย็นเลย

แพนมาบางกระเจ้าก็บ่อยนะคะ แต่สารภาพตรงนี้ว่าเพิ่งมาดูปลากัดเป็นครั้งแรก ตอนแรกนึกว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆที่มีโหลปลาวางเรียงราย ที่ไหนได้ ปาร์คเลยค่ะ ด้านในใหญ่มากมีหลายมุมให้เลือกถ่ายรูป หรือจะนั่งชิลๆจิบกาแฟ เช็คอินเฟสบุ๊กก็เก๋ไปอีก

มีเหยี่ยวตัวใหญ่นั่งรอถ่ายรูปด้วยนะ แพนเลยจัดให้ลูกชายไปถ่ายรูปคู่ด้วย มีใครเห็นลูกชายแพนบ้าง ฮร่า

หันมามองโซนของเด็กเล่น เจอหนุ่มน้อยหน้ามุ่ยเล่นรถไม้ ของเล่นวินเทจนะจ๊ะ ถ้าคุณแม่บังเอิญเจอรูปนี้ ต้องขออนุญาติเอารูปมาลงนะคะ น้องน่ารัก


ออกจากพิพิธภัณฑ์ปลากัด ปั่นจักรยานมาอึดใจเดียว เลี้ยวเข้าสวนศรีฯเลยจร้าาาาาาา

~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~0~

"สวนศรีนครเขื่อนขันธ์"

หรือบางคนว่า "สวนบางกระเจ้า" ที่สวนแห่งนี้ได้จัดเป็นสวนสาธารณะที่มีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้หลากชนิด แถมบางจุดยังดูเหมือนกับป่าตามธรรมชาติด้วย มีเนื้อที่ประมาณ 200 ไร่ ปั่นจักรยานกันมันส์เลยค่ะ


มีหอดูนกด้วยนะ ที่คนเค้าชอบไปถ่ายรูปกันเยอะๆอะค่ะ เพราะขึ้นไปบนนี้จะเห็นวิวของสวนจากด้านบน มีความกรีนเว่อร์

ก็เดินๆ ปั่นๆ จนทั่วสวนนั่นแหละค่ะ ใครมาสวนศรีอย่าลืมแวะมาถ่ายรูปที่สะพานไม้กลางสวนนะคะ คอนเฟิร์มได้รูปถ่ายสวยๆกลับบ้านแน่นอน


หมด 1 วันของทริปสั้นๆ สิ้นเดือนแบบนี้ ตังค์ไม่มี เที่ยวนี่ก็ได้ @บางกระเจ้า แค่ 200 กว่าบาท มันก็จะดูเป็นวันที่เหนื่อยนิดๆ ร้อนหน่อยๆ แต่สุขใจเว่อร์ สุดสัปดาห์นี้เงินเดือนยังไม่ออก ใครงบน้อย คุ้งบางกระเจ้า ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอยู่นะ ลองดูๆ

สำหรับแพน ก็เดินทางกลับบ้านแล้วนะจ๊ะ ขอให้ทุกคนโชคดีและสนุกกับการเดินทางค่ะ

Good bye (^.^) See you leter [ *.* ]


สรุปค่าใช้จ่ายกันนะจ๊ะ

ก๊าซ 100 บาท, เช่าจักรยาน 2 คัน 160 บาท (คันละ 80 บาท), อาหารประมาณ 300 บาท รวม 560 บาท หารสองคน

คนละ 280 บาท

Cr.ภาพถ่ายบางส่วน จาก หมูโอ๊ต https://www.facebook.com/muoatphoto/

MEEpanda

 วันพุธที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 12.48 น.

ความคิดเห็น