Contact and Follow me at Facebook Fan Page or Govivigo Blog

มีคนถามแพนว่า อะไรทำให้แพนต้องกลับมาที่นี่อีกครั้ง???

บ้านพองหนีบ จ.เลย

หมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ใจกลางภูกระดึง

หมู่บ้านเล็กๆ ที่เป็นแหล่งต้นน้ำธรรมชาติ ลำน้ำพอง 

หมู่บ้านเล็กๆ ที่เป็นแหล่งค้นพบศิลาจารึกนับพันปี

หมู่บ้านเล็กๆ ที่มีภูเขารายล้อมรอบด้าน

หมู่บ้านเล็กๆ ที่มีสายหมอกพัดผ่านทุกเช้า

หมู่บ้านเล็กๆ ที่ผู้คนหากินด้วยการทำสวน ทำนา เก็บเห็ด เก็บหน่อไม้ตามฤดูกาล

หมู่บ้านเล็กๆ ที่มีแหนมหน่อไม้แสนอร่อย

หมู่บ้านเล็กๆ ที่มีลำไยหวานจับใจ

หมู่บ้านเล็กๆ ที่มีงานจักสานเป็นอาชีพเสริม แต่มีเรื่องราวในทุกชิ้นงาน

หมู่บ้านเล็กๆ ที่มียาสมุนไพรหาได้จากในป่า

หมู่บ้านเล็กๆ ที่มีชาวบ้านร่วมแรงกันก่อสร้าง วัด ถนน ชุมชน

หมู่บ้านเล็กๆที่แสนจะธรรมดา.........................

บ้านพองหนีบเป็นหมู่บ้านที่เป็นต้นกำเนิดของแหล่งน้ำธรรมชาติ จากภูกระดึง ไหลผ่าน อ.ภูกระดึง จ.เลย ไหลบรรจบแม่น้ำชี ที่มีการก่อสร้างเขื่อนอุบลรัตน์กั้นลำน้ำพอง ที่ อ.อุบลรัตน์ 

แพนเริ่มต้นรู้จักกับหมู่บ้านนี้ครั้งแรกเมื่อ.......

ปี 2561  

ในฐานะ "จิตอาสา"  แพนสมัครเเข้าร่วมกิจกรรมและได้ถูกคัดเลือกให้มาร่วมทำงานอาสาพัฒนาหมู่บ้าน ให้เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวอย่างสมบูรณ์ ถามว่าคาดหวังอะไรกับการไปครั้งนี้ มันก็คงเหมือนกับที่แพนไปทำอาสาครั้งก่อนๆ ไปวาดรูป ก่อสร้าง ทำกิจกรรมกับเด็กๆในโรงเรียน แพนแค่หาที่ฮีลใจแต่ใครจะไปรู้มันกลับกลายเป็นอีกหนึ่งความทรงจำดีๆในชีวิตไปเลย

การมาทำอาสาครั้งนั้นแพนได้นอนกับชาวบ้าน จริงๆแล้วก็เพื่อเป็นการให้ชาวบ้านทดลองรับนักท่องเที่ยวค่ะ เราเป็นตัวแทนนักท่องเที่ยวมาพักโฮมสเตย์ พ่อๆแม่ๆเค้าจะได้รู้ว่าถ้าเกิดมีคนมาพักจริงต้องเตรียมตัวยังไง ขาดตกบกพร่องอะไร เค้าก็จะศึกษาจากที่เราได้ไปเป็นหนูทดลองให้นั่นเองค่ะ 

และนี่ล่ะมั้งคะเพื่อนๆ จุดเริ่มต้นของความรู้สึกดีๆ แพนไปพักกับชาวบ้าน กิน นอน ในบ้านเค้า รู้สึกเหมือนเราเป็นลูกหลานจริงๆเลย แม่ๆเจ้าของบ้านก็ใจดีมาก ถึงตรงนี้ใครอยากมีส่วนร่วมช่วยทำอาหาร กำกับข้าวก็ทำได้เลย เช้ามาถ้าจะตักบาตรแม่ก็จะเตรียมของให้ ฟีลครอบครัวสุดๆ

สายๆ ก็เริ่มทำงานค่ะ แพลนที่ต้องทำก็มีวาดกำแพง สร้างศูนย์ท่องเที่ยว ปลูกต้นไม้ จัดกิจกรรมให้เด็กๆ ประมาณนี้ค่ะ ทีมจิตอาสาเราก็แบ่งๆงานกันไปทำ ส่วนแพนหลักๆจะเป็นงานวาดรูปและเล่นกับเด็กๆ ฮร่าาาา

เชื่อมั้ยว่าแพนแทบจำไม่ได้ว่าครั้งนี้แพนพักอยู่บ้านพองหนีบกี่วัน ไม่รู้ 2คืน หรือ 3คืน หรือ 4คืน จำไม่ได้ แต่รู้สึกสนิทและผูกพันธ์กับคนที่นี่มากเลย ทั้งชาวบ้านเอง และเพื่อนๆจิตอาสาที่มาทำงานด้วยกัน คงเพราะเราได้มีประสบการณ์ร่วมกัน เรามีแนวคิดเดียวกัน เลยจูนกันง่ายล่ะมั้ง

ปี 2562

แพนกลับไปอีกครั้งกับโครงการ "ทดลองเที่ยว"

เป็นกิจกรรมของทางอพท.จัดขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมชุมชนในการเปิดรับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการ แพนสมัครไปด้วยความหวังว่าทางผู้จัดคงจะจำเราได้บ้างแหละว่าเคยไปสร้างตำนานเมื่อครั้งก่อน ฮ่าาาาา  เค้าก็เลือกเราจริงสงสัยคงอยากได้ตัวเอนเตอร์เทน

กลับมาอีกครั้งแปลกใจจัง รู้สึกคุ้นเคยเหมือนเพิ่งจากไปไม่นาน คนที่มาร่วมกิจกรรมรอบนี้มีทั้งคนหน้าใหม่และคนก่อนครั้งที่เคยมาทำค่ายอาสา  และภารกิจของการกลับมาคือ........ทำตัวเป็นนักท่องเที่ยว!

เมื่อไม่ต้องเผื่อแรงสำหรับทำงานแบบรอบก่อน ก็ลั้นลาเลยสิคะ จัดเต็มทุกกิจกรรมที่ชาวบ้านจัดให้ ไปชมบ้านจักสาน บ้านยาสมุนไพร เดินป่า เล่นน้ำ ดูหมอกขาว รับโอโซน เย็นจิบเบียร์ บลาๆๆๆ ฟินไม่ไหวเลยแม่!

ปี 2565 

แพนมารอบที่ 3 เป็นการกลับมาเยี่ยมหมู่บ้านในความทรงจำอีกครั้ง.... ในฐานะ "นักทดลองเที่ยว" เหมือนเดิม เป็นการกลับมาดูพัฒนาการของชาวบ้านว่ามีการเตรียมความพร้อมสำหรับจะรับนักท่องเที่ยวจริงๆได้ดีแค่ไหนแล้ว รอบนี้ทางชาวบ้านจะเป็นคนจัดกิจกรรมและวางตารางเวลาทำกิจกรรมทั้งหมดด้วยตัวเอง จากที่เดิมนั้นเป็นทีมงานของอพท.จัดการให้ แพนตื่นเต้นที่ได้กลับมาอีกรอบ ความรู้สึกเดิมๆมันกลับมาอีกแล้ว

แต่ตอนนี้ที่แพนเขียนบทความหน้านี้ ปี 2566 ทุกคนงงกันมั้ย? อะไรที่ทำให้แพนอยากเขียนเรื่องราวของหมู่บ้านนี้ทั้งที่ผ่านมาแล้วเกือบปี *0* 

ก็แพนยังสิงตัวเองอยู่ในกลุ่มไลน์ของทั้ง 3 ทริปน่ะสิคะ แพนกดดูรูปอัลบั้มในไลน์กลุ่มทั้ง 3 กลุ่ม แล้วอมยิ้มอยู่คนเดียว นึกขำอยู่คนเดียว และเหตุผลคงจะเป็นเพราะ

....แพนคิดถึงที่นี่จัง

ลองจินตนาการดูกันหน่อย....

ถ้าตื่นเช้ามาพร้อมไอเย็นของอากาศบริสุทธิ์ที่สัมผัสกับปลายจมูก เราเดินออกกำลังกายจากที่พักไปจุดชมวิวตรงทางเข้าหมู่บ้านเพื่อดูแสงแรก แถมบางวันอาจจะได้เห็นกลุ่มหมอกหนาๆลอยคละกับชั้นเชิงของภูเขา

หรือรอตักบาตรยามเช้าหน้าที่พัก...

สายหน่อยก็มานั่งเมาท์มอยกับแม่ๆในโฮมสเตย์ ไปดูกลุ่มชาวบ้านทำงานจักสาน ไปดูบ้านสมุนไพร ลองทำขนมโบราณ หรือทำอะไรก็แล้วแต่ที่ชาวบ้านเค้าทำกันเป็นปกติอยู่แล้ว อยากแจมด้วยก็แจมได้เลย

เที่ยง บ่าย อยากลุยหน่อยก็ไปเดินป่าค่ะ...

ด้วยความที่หมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านต้นน้ำพองภูกระดึง เราจึงมีโอกาสได้ไปเห็นแหล่งต้นน้ำธรรมชาติจริงๆ ถึงตรงนี้ต้องติดต่อให้ไกด์ชาวบ้านพาเข้าไปนะคะ ไปช่วงกี่โมงก็ว่ากันไป บางคนไปสายๆหน่อย เล่นน้ำเสร็จ เที่ยงก็กินข้าวป่า ใครใคร่เล่นน้ำก็เล่น ใครอยากลองทำกับข้าวในกระบอกไม้ไผ่ ลองปิ้งปลา ทำอาหารป่าก็ทำไปค่ะ ไกด์เค้าจะพาเราทำเอง 

เพราะหมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านต้นน้ำ

ตอนไปเดินป่า จะบอกว่ามีจุดแวะพัก แวะเล่นน้ำ หลายจุดเลย ถ้าไปช่วงน้ำเยอะแพนบอกเลยว่าเล่นน้ำมันส์มาก ถ้าไปช่วงน้ำน้อย ก็จะได้เดินไปถ่ายรูปง่ายหน่อย มีจุดเล่นน้ำแบบซอฟๆ นั่งพัก นั่งเล่นได้หลายมุม อันนี้ต้องสอบถามกับชาวบ้านเอานะคะว่าไปช่วงเดือนไหนดี ส่วนแพนโชคดีเพราะไปหลายรอบเลยได้เห็นทั้งตอนน้ำเยอะและน้ำน้อย

รวมๆแล้วบ้านพองหนีบ เป็นหมู่บ้านที่สุดแสนจะธรรมดาค่ะ...

ใครอยากเที่ยวฟีลค่าเฟ่ ถ่ายรูป แฟชั่นชิคๆ นอนแอร์ จิบไวน์ สะดวกสบายแบบนั้น แนะนำให้ปิดหน้านี้ไปเลย แต่ถ้าใครอยากหาที่พักผ่อน พักผ่อนที่แปลว่าพักจริงๆ มุมเงียบๆ ได้นั่งโง่ๆจิบเบียร์เบาๆ หรือเดินสำรวจหมู่บ้าน คุยกับชาวบ้าน เล่นกับเด็กน้อย หรือใครอยากหาที่ WFH แบบสงบๆ แพนว่าคุณมาถูกที่แล้ว

เหนืออื่นใดถ้าถามว่าเสน่ห์ของบ้านพองหนีบคืออะไร?

ตอบได้ไวมาก ก็ชาวบ้านไง การพาตัวเองไปอยู่ท่ามกลางพลังบวก มันฮีลใจมากเลยนะ ความธรรมดาของคนที่นี่แหละมันคือความน่ารัก และความประทับใจ แพนไปกี่รอบก็ได้ของฝากเล็กๆน้อยๆกลับมาทุกที หน่อไม้บ้าง แหนมบ้าง ผลไม้ ของจักสานกระจุ๋มกระจิ๋ม ฮร่าาาาา แต่ๆๆๆๆๆๆ ของฝากที่ได้กลับมาแบบใหญ่โตมากเลยก็คือ "ความทรงจำแสนอบอุ่น"

การเดินทางมายังบ้านพองหนีบ

ใครมีรถส่วนตัว เปิด Mapขับมาเอง ก็ตามสะดวกเลยจ้า

มาเครื่องบิน : ลงสนามบินเลย ต่อรถสองแถวมาลงอุทยานภูกระดึง แล้วติดต่อรถชาวบ้านมารับ

มารถทัวร์ : บอกแอร์บัสว่าลงป้ายผานกเค้า แล้วนั่งรถสองแถวภูกระดึงมาลงที่อุทยานฯ ติดต่อรถชาวบ้านมารับ หรือจะให้รถชาวบ้านไปรับถึงผานกเค้าก็ได้นะจ๊ะ บวกๆๆๆตังค์เพิ่มไปเลย

ติดต่อ​ : การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บ้านพองหนีบ https://www.facebook.com/pongn...

หรือยกหูโทรหา แม่เหรียญทอง​ 098 105 4341​ 

หมู่บ้านนี้ทำให้แพนเข้าใจคำว่า

ความธรรมดา.....ที่แสนวิเศษ

*ขออนุญาติภาพบางส่วนจากผู้ร่วมทริปทั้ง 3 ทริปนะคะ และขออภัยผู้อ่านที่ภาพประกอบในบทความนี้ดูจะคนละโทน คนละสี เพราะมาจากกล้องของหลายคน หลายเวลา หลายสถานะการณ์ค่ะ อันนี้คือพยายามปรับแสงแล้วน่าาา โทษทีค้าบ!