เคยรู้สึกมั้ย ?? อยากหลีกหนีความวุ่นวายจากสังคมเมือง ไปพักกายพักใจ ได้อยู่กับตัวเอง ได้ชาร์จแบตให้ร่างกายพังๆของเรา แต่ก็น่ะ มนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ที่มีวันลาค่อนข้างจำกัดมีน้อยเท่าหอยมด จะหอบร่างแบกสังขารไปที่ไหนไกลๆ สักที่ก็ค่อนข้างยาก หาข้อมูลอยู่สักพัก ก็มาสะดุดกับที่นี่ เหมาะกับทริปสั้นๆ 2 วัน 1 คืน ของเราสุดๆ ที่สำคัญคือไม่ไกลจากตัวเมือง บรรยากาศดี ที่พักถูก อาหารพร้อม


" พิ ษ ณุ โ ล ก " จังหวัดที่หลายๆ คน มักจะนึกถึง วัด และอุทยานต่างๆ แต่สำหรับผมจังหวัดนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่อีกมาก สำหรับคนที่อยากใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์เรียบง่ายแบบไม่ต้องปรุงแต่งให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านเราเองที่ " นครชุม "

" น ค ร ชุ ม " เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในร่องเขา อยู่ในอำเภอนครไทย จ.พิษณุโลก ที่นี่เงียบสงบ อากาศดี ผู้คนน่ารัก การมาพักที่นี่เพียงแค่ 2 วัน 1 คืน ทำให้เราได้สัมผัสกับวิถีชีวิตที่เรียบง่าย และรับรู้ประวัติความเป็นมาของนครชุมจากผู้เฒ่าผู้แก่ของที่นี่ ว่านครชุมถือเป็นต้นกำเนิดของประเทศไทยเราเลยทีเดียว ที่นี่มีกิจกรรมให้ทำหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็น การดำนา ปลูกข้าว ทำจักสาน การทำขนม การนั่งรถอีแต๊กไปชมทุ่งนา และการเดินขึ้นเขาโปกโล้นเพื่อชมทะเลหมอกและวิวแบบ 360 องศา ในยามเช้า

ติดตามการเดินทาง - ท่องเที่ยว - ฝากกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะค้าฟ
https://free.facebook.com/tiewhaikonaijchaa/



เราเริ่มต้นออกเดินทางที่เย็นวันศุกร์ ขึ้นรถทัวร์รอบ 20.30 น. เพื่อไปเช้าที่ บขส. พิษณุโลก เวลาตีสี่
เช่ามอเตอร์ไซค์ที่ร้านจ่าเอก https://www.facebook.com/PhitsanulokMotorBikeAndCa...
ออกแว๊นซ์ไปที่ อ. นครไทย ประมาณ 128 กิโลเมตร


การเดินทาง :

ขับรถไปตามเส้นทางพิษณุโลก - นครไทย ห่างจากตัวเมืองพิษณุโลกประมาณ 100 กิโลเมตร จากนั้นขับรถไปที่ ต.นครชุมอีกเพียง 28 กม. หรือ ติดต่อสอบถามได้ที่ อบต.นครชุม 055-009808

ผมออกเดินทางด้วย ซูเมอร์ X คันนี้

ระหว่างทางอากาศโคตรดี ลมเย็นๆพัดใส่หน้า โคตรฟิน ฝนตกลงมาประปราย ขับมาได้สักพักก็เข้าเขตนครไทย สังเกตด้านซ้ายมือ อนุเสาวรีย์พ่อขุนบางกลางท่าว หรือที่รู้จักกันในนาม พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ กษัตริย์ผู้ทรงก่อตั้งชาติไทย แวะสักการะเอาฤกษ์เอาชัยซะหน่อยก่อนเข้าตัวเมืองนครชุม (ที่นี่มีดอกไม้ธูปเทียนไว้ให้บริการ)


หลังจากสักการะพ่อขุนบางกลางท่าว (พ่อขุนศรีอินทราทิตย์) ก็แว๊นซ์มอเตอร์ไซค์เข้าเขตเมืองนครชุมอีกประมาณ 20 กิโล ระหว่างทางเต็มไปด้วยทุ่งนาข้าว มันออกจะเขียวๆ หน่อย กับบรรยากาศค่อนข้างโรแมนติก ลมพัดนิดๆ ฝนปรอยหน่อยๆ


แวะแว๊นซ์มอเตอร์ไซค์กลางทุ่งนาสักรูป (กว่าจะได้ถ่ายประมาณ 10 รอบ) 5555+

ตำบลนครชุม อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก เดิมทีเรียกหมู่บ้านนี้ว่า (นครซุ่ม หรือ เมืองบัวชุม) เป็นเมืองหน้าด่านของพ่อขุนบางกลางท่าว ปฐมกษัตริย์ มีเขาล้อมรอบทั้ง 4 ทิศ ชาวนครชุมเชื่อว่า พ่อขุนบางกลางท่าว เคยเสด็จประทับอยู่ที่นครชุมก่อนเสด็จมาครองที่เมืองบางยางที่ทรงให้ขุนหาญห้าว หรือท้าวแสงเมือง ทหารเอก รักษาเมืองนครชุม และซ่องสุมไพร่พลฝึกทหาร ซึ่งที่นครชุมมีชัยภูมิที่เหมาะสมทางการทหาร สามารถมองเห็นภูมิทัศน์ และการศึกได้อย่างชัดเจน จึงเรียกกันว่านครซุ่ม และกลายมาเป็นเมืองนครชุมในปัจจุบัน

และทุกปีก็จะมีประเพณีปักธงปฐมฤกษ์ บนยอดเขาโปกโล้น ซึ่งจะทำกันในวันที่ 13 เมษายน ของทุกๆปี เพื่อระลึกถึงวีรกรรมของพ่อขุนบางกลางท้าว และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของตำบลนครชุม ที่มีประวัติอันยาวนานอีกด้วย นอกจากนี้ตามเส้นทางเดินยังมีจุดสำคัญให้ศึกษา ไม่ว่าจะเป็นบ่อเสือตก น้ำบ่อศักดิ์สิทธิ์ ถ้ำผาปอง เป็นต้น นอกจากจะสัมผัสอากาศที่สดชื่นแล้วยังสามารถสัมผัสกับวิถีชีวิตของคนในชุมชนนครชุม ที่มีอัธยาศัยดีอีกด้วย


ก่อนถึงทางเข้าหมู่บ้าน จะมีป้าย " ร่องเขาแห่งนครชุมและจุดชมวิว " ให้ถ่ายรูปเช็คอินก่อนเข้าหมู่บ้าน

จุดชมวิวก่อนทางเข้าหมู่บ้าน สามารถถ่ายรูปวิวทั้งหมดของนครชุมได้

แว๊นซ์มอเตอร์ไซค์มาได้สักพักหน้าสถานีอนามัยก็จะมีจุดถ่ายรูปเช็คอิน " ร่องเขาแห่งนครชุม "

แบบมีสีสันเหมือนที่อยู่หน้าเพจเลยละค้าฟก็ถ่ายรูปกันไป

ที่พักธรรมดา ที่ซ่อนตัวอยู่ภายในร่องเขาท่ามกลางขุนเขาที่สลับซับซ้อน เงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อน
เป็นที่พักใจสำหรับใครที่เหนื่อยล้า ได้มาชาร์จแบต ให้ร่างกายรู้สึกมีชีวิตชีวาได้อีกครั้ง

ในหมู่บ้านสะอาดสะอ้านไม่มีขยะเลย ชาวบ้านก็สนิทกันมาก รู้จักกันหมดที่นครชุมมีทางเข้าออกทางเดียว
จึงตัดปัญหาเรื่องขโมยได้เลย(เพราะถึงขโมยก็หนีไม่รอด ถูกจับได้อยู่ดี)

หลังจากผ่านสถานีอนามัยมาแล้วก็แว๊นซ์ต่อไปอีก 2 สะพาน พอข้ามสะพานที่ 2 แล้ว ก็ให้มองซ้ายมือ
* * สังเกตุบ้านหลังสีเหลืองที่มีต้นขนุนอยู่หน้าบ้าน * *
นี่แหละค้าฟ " โฮมสเตย์ ป้าติ้ง & ลุงโย่ง " ที่พักของผมในคืนนี้

วันนี้เราจะไปสำรวจหมู่บ้านกัน ที่นี่มีกิจกรรมอะไรให้ทำบ้าง

--> ไปชมพิพิธภัณฑ์ลุงช่วง ที่นี่เก็บของเก่าแก่โบราณสมัยก่อนไว้เยอะแยะมากมาย ให้เราได้ศึกษา

--> หัดทำขนมตาล ทำกันสดๆ ใหม่ๆ ตรงนี้เลย

--> ฝึกหัดทำจักสานกัน อยากลองนะ แต่กลัวของคุณตาพัง เลยนั่งดู
วันนึงคุณตาทำได้ 1 ใบ ราคาใบละ 60 บาท (ต้องออเดอร์กันเป็นวัน)


--> ไปเรียนรู้ภาษานครชุม สมัยพ่อขุน กับป้าติ้ง

ที่ผมชอบที่สุดก็คงเป็น อาหารเย็น (รูปอาหารถ่ายไม่ทัน หิวมาก)
ของหวานตบท้ายมันคือผลไม้จากสวนหลังบ้าน สด กรอบ อร่อย ที่สำคัญรู้สึกเหมือนอยู่บ้านตัวเองมากๆ



ห้องนอนของเราคืนนี้ ห้องพัดลมไม่มีแอร์ อากาศไม่ร้อนนอนหลับได้แบบสบาย พร้อมกับนัดกับพี่ตั้ม
จะมารับไปพิชิตเขาโปกโล้น ทะเลหมอก ยามเช้า นัดกันที่ 05.30 น.


5:20 AM ลืมตั้งนาฬิกาปลุก . .

คุณพระ!! เราสะดุ้งตื่นมา 5.20 คิดว่าตายละ พี่ตั้มจะมาตรงเวลารึเปล่าว่ะเนี่ย รีบอาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปดูทะเลหมอกยามเช้า (5555 +++) นั่นคือที่เราคิดไว้ แต่เอาเข้าจริง แค่ล้างหน้าแปรงฟันปะแป้ง ใส่เสื้อคลุม แค่นั้นแหละ พี่ตั้มก็มาตะโกนเรียก มาตรงเวลาชะมัดเลย

การขึ้นชมวิวธรรมชาติและทะเลหมอก ที่บริเวณเขาโปกโล้น อยู่บริเวณด้านข้างหมู่บ้าน จะมีจุดชมวิว และจับหมอก ที่เราสามารถขึ้นไปชมได้ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและโชค ระยะทางเดิน 2 กิโล แต่ทางค่อนข้างชัน และลื่น เพราะเป็นหิน แนะนำให้ออกจากที่พักประมาณตี 4 ครึ่ง เป็นลานหินแก่ง

แล้วพี่ตั้มก็พาเราขี่มอเตอร์ไซค์ไปที่จุดเริ่มต้นเดินขึ้นเขาโปกโล้น บอกเลยเส้นทางโคตรดิบ ทางเป็นหลุม มอเตอร์ไซค์ตกหลุมบิดแทบไม่ขึ้น แล้วเราก็ทุลักทุเลมาจนถึงจุดเริ่มเดินขึ้นเขาโปกโล้นประมาณ 06.00น. ได้แต่คิดในใจ พระอาทิตย์กับหมอกจะไปยังวะ

แล้วก็เริ่มเดิน ระยะทางช่วงแรกจะผ่านป่ายางพารา ชาวบ้านมากรีดยางแต่ดึกแล้ว ยุงค่อนข้างเยอะ อากาศอบอ้าวพอสมควร * * * ออกเดินทางขึ้นไปดูทะเลหมอก ถ้าจะให้ดีต้องออกจากโฮมสเตย์ตั้งแต่ ตีสี่ครึ่ง เพราะกว่าจะถึงจุดเริ่มเดิน และเดินขึ้นไปอีก 2 กิโล * * *







ชาวบ้านเตรียมเข้าป่า หาเห็ดหลินจือ ช่วงหน้าฝน มีเยอะมาก


เส้นทางการเดินไม่ยาก เดินได้เรื่อยๆ พี่ตั้มก็เล่าประวัติของนครชุมให้ฟัง เพลินสุดๆ


ช่วงเช้ากับไอหมอกจางๆ เป็นอะไรที่โคตรสวย คุ้มค่ากับการตื่นเช้ามาดู





บ่อเสือตก ตามคำบอกเล่าของชาวบ้าน คือเสือมากินน้ำแล้วพลัดตกลงไป ไม่สามารถขึ้นมาได้


ระหว่างทางพิชิตเขาโปกโล้น ต้องผ่านการไต่ผาหลังจระเข้


บ่อน้ำทอง บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์สามารถรักษาโรคภัยได้ ** บริเวณจุดกางเต๊นท์ **





อากาศเย็นสบายสุดๆ ราวๆ 28 องศา โค้งนี้มีแค่เรา จองพื้นที่เลยฮะ ถ่ายมันทุกมุม 5555



ช่วงนี้เป็นปลายฝน ทำให้อากาศที่นครชุมในช่วงเช้าและช่วงเย็นกำลังสบาย โดยอยู่ที่ประมาณ 20 องศา


ขอบคุณพี่ตั้ม (ไกด์สุดหล่อ) ที่เล่าประวัติและพาทำกิจกรรมหลายๆอย่าง (ถ่ายรูปให้อีกต่างหาก)






สามารถนั่งพักผ่อนชมวิวได้ 360 องศา ด้านหน้ามองเห็นนครชุม
และด้านหลังก็คือเขาค้อ ถ้ามาช่วงฤดูหนาวที่นี่จะถูกปกคลุมไปด้วยทะเลหมอก



ในช่วงนี้ตอนเช้าบางวันก็จะเห็นทะเลหมอกไหลจากหัวหมู่บ้านไปจนท้ายหมู่บ้านทีเดียว
แต่ช่วงฤดูหนาวก็จะเห็นทุกวัน
(** ของผมโชคดีมาก ได้เห็นทุกบรรยากาศเลย **)



ตื่นเช้ามารับอากาศบริสุทธิ์กับวิวหลักล้าน เราโชคดีที่ขึ้นมาแล้วได้ทุกบรรยากาศเลย
ทั้งทะเลหมอก แสงแดด และฝนปรอย



หมอกเริ่มเคลื่อนตัวมาปกคลุม

จะออกไปแตะขอบฟ้า

จุดสูงสุดของเขาโปกโล้น คือธงที่ชาวบ้านจะช่วยกันทอ และนำมาติดไว้ทุกวันที่ 13 เมษายน ของทุกปี

หลังจากถ่ายรูปและนั่งชมพระอาทิตย์ขึ้นบวกทะเลหมอกจนอิ่มใจแล้วท้องก็เริ่มหิว เริ่มเดินลงจากเขา ใช้เวลาลงประมาณ 15 นาที เดินไป แล้วก็รีบแว๊นซ์มอเตอร์ไซค์กลับบ้านป้าติ้ง

มื้อเช้าของเราวันนี้~ อาหารง่ายๆ แต่รสชาติโคตรโดน


เมนูพิเศษจาก ป้าติ้ง " ไข่ปาม " มีเฉพาะที่นครชุมนะค้าฟ

หลังจากถ่ายรูปกันจนเหนื่อยก็กลับมาเติมอาหารให้กระเพาะน้อยๆ อิ่มมาก และอร่อยมาก

กินอิ่มก็ตบท้ายด้วยผลไม้จากสวนหลังบ้าน ทั้งเงาะ ฝรั่งไร้เมล็ด น้อยหน่า แก้วมังกร มังคุด
ป้าติ้งใจดีสุดๆ ให้ปีนเก็บเองเลย ฟินสุดๆ

ได้เวลากลับ แต่ยังไม่อยากกลับเลยย เป็นทริปชิลๆ ที่ไม่ได้มีอะไรมาก แต่มันดีต่อใจมาก



นครชุม
อาจเป็นโฮมสเตย์ที่พักธรรมดาๆ ที่น้อยคนนักจะรู้จัก เพราะหลบอยู่ในร่องเขา แต่ถ้ามีโอกาสได้มาเยือนสักครั้ง รับรองว่าจะต้องหลงรักเหมือนผมอย่างแน่นอน

โปรแกรม 2 วัน 1 คืน 450 บาท / คน

– พักที่ โฮมสเตย์ป้าติ้ง&ลุงโย่ง ** มีผลไม้สดให้กินตลอดจากสวนหลังบ้าน **
– สัมผัสวิถีชีวิตชุมชน การทำจักสาน ทำขนม ดำนา
– ฟังประวัติความเป็นมาของนครชุมจากคำบอกเล่าต่อๆมา
– อาหาร 2 มื้อ (เย็น - เช้า)
– ค่าไกด์ขึ้นเขาโปกโล้น ทำกิจกรรม คนละ 100 บาท
** ที่นี่มี wifi ให้ใช้ด้วยนะคร้าฟ **


ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านเรื่องราวจนจบกระทู้นะค้าฟ ไว้เจอกันใหม่

ใครอยากตามรอยเที่ยว นครชุม โฮมสเตย์ชนบท ติดต่อได้ที่ :

FB : นครชุมโฮมสเตย์ โฮมสเตย์วิถีชนบท 095-568-3380

เ ที่ ย ว ใ ห้ ค น อิ จ ฉ า

 วันจันทร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 17.27 น.

ความคิดเห็น