9th July 2017




เช้านั้น...

ผ่านคืนนั้นที่เมาหัวไม่ทิ่มสมใจหมาย ก็นะ..

ผิดแพลนตั้งแต่คนเดินทางด้วยแล้ว ผิดแผนทุกอย่างจนกระทั่งวันได้เดินทาง

ผิดแผนจนกระทั่งไม่มีรถจากอุดรไปวังเวียง ผิดแผนที่ได้ต่อรถตั้ง สี่ ห้า

รอบจนถึงวังเวียงเที่ยงคืนกว่า ๆ เกือบตีหนึ่ง

ผิดแผนที่หาที่ซุกหัวนอนกลางสายฝน ได้เรื่องรุงรังหลายเรื่องที่นั่น...

ผ่านวันรุงรังไปหนึ่งวัน หนึ่งคืนแล้ว...
เช้านั้น... เราหวังว่า เราคงไม่รุงรังกันอีกแล้ว (สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด)



แต่เช้านั้น...

เราสวย เราแต่งหน้าทาปาก เขียนคิ้ว โป๊ะแป้งกันแดด บลา ๆ ๆ อ้าว

แดดไม่มีเหรอ มีแต่ฝน ๆ ๆ และก็ฝน กินข้าวเช้าก็แล้ว

เก็บรูปรอบที่พักก็แล้ว ฝนที่หยุดไปสักพัก แต่ก็มีทีท่าว่าจะตกอีกแล้ว

และคงหนักกว่าเมื่อวานนี้อีกนะ ....

ลางสังหรณ์เรื่องความรุงรังของอีชั้นมันกลับมาชัดเจนอีกครั้งนึง ชัดกว่าเดิม



ວັງວຽງ


วังเวียง เป็นเมืองท่องเที่ยวในแขวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว

ห่างจากเวียงจันทน์ ประมาณ 160 กิโลเมตร

สภาพทางภูมิศาสตร์เป็นที่ราบระหว่างภูเขาหินปูน

ป่าไม้สมบูรณ์ ได้ฉายาว่า เมืองกุ้ยหลินแห่งเมืองลาว


เครดิต : wikipedia




"วังเวียง เป็นเมืองน่ารัก เวลาเดินช้า

เนิบนาบเหมือนน้ำซองที่ไหลเอื่อย

ผู้คนที่นี่ต่างพึ่งพาอาศัยธรรมชาติ

ทุกอย่างสวยงาม ขุนเขา สายน้ำ สายหมอก

แม้ว่าการเดินทางมาที่นี่จะไม่ค่อยสะดวกสบายนัก

ซึ่งดูเหมือนจะลำบาก แต่ก็ไม่ลำบากขนาดนั้น

หรือถ้าจะให้สบายก็เรียกอย่างนั้นก็ไม่ได้

แต่ก็ไม่ยากเกินไปถ้าใจจะมา...


วิถีชีวิต และวัฒนธรรมที่พึ่งอิงธรรมชาติอย่างนี้

อยากให้คงอยู่ตลอดไป

แต่.. หลายสิ่งเหมือนกำลังจะถูกทำลายโดยนักท่องเที่ยว

และผู้ไปเยือน

จขบ.เห็นขยะมากมาย ไหลไปพร้อม ๆ กับสายน้ำซอง

รีสอร์ทและที่พักหลาย ๆ หลังที่กำลังรุกล้ำ

พื้นที่ธรรมชาติสีเขียว ๆ

วัฒนธรรมอันงดงามที่เติบโตมาช้านาน

กำลังไหลต้านกระแสของโลกที่แปรเปลี่ยนไป

อยากให้คงเดิมไว้นาน ๆ นะ "วังเวียง" - mariabamboo"









.
.
.












ວັງວຽງ

เพราะเช้านั้น... ผ่านค่ำคืนเข้าพรรษาที่ฝนตกหนักหน่วง ความรู้สึกมันก็จะถ่วง ๆ อยู่นะว่า "เราจะรอดกันไหม" ทริปวันนี้ แต่มันเปลี่ยนแผนไม่ได้แล้วล่ะ เพราะเราไม่มีทางเลือกนัก ไม่งั้นไม่ถึง ไม่ถึงจริง ๆ นะวังเวียง

เก็บรูปที่พัก และบรรยากาศเช้านั้น หลังตื่นนอน ได้เรื่องเนาะ สวยดีแม้น้ำจะหลาก จนน่ากลัว แต่ก็สวยอีกแบบ








บันไดที่วานนี้ยังเปิดประตูลงไปนั่งหย่อนขาอยู่เลย แต่เช้า ๆ ที่น้ำหลากอย่างนี้ ไม่เอาด้วยแล้ว กลัว






เวียงธารา จมธาราไปค่อนวัน... ณ เวลานั้นยังไม่รู้หรอกว่าฝั่งตรงข้ามกันนั้นคือเวียงธาราที่อยากพัก

















ขอบคุณนะฝน ... อุตส่าห์ หยุดตกให้ได้แบกกล้องมาเก็บรูป ให้หายอยากได้บ้าง








หมอกหยอกเขา - เขาเคล้าหมอก






กับเช้าที่น้ำหลาก... ทางเดินเข้าที่พักถูกท่วมไปซะครึ่ง..











ข้าวเช้าเสร็จแล้ว..

ฝนยังไม่หยุดหรอก แต่ก็ได้เวลาแล้วล่ะ

ลุยวังเวียงกลางฝนอีกครั้งจะเป็นไรไป เป้าหมายวันนี้...

ธรรมชาติรออยู่ตรงนั้น รอเราไปหา ว่าแล้วก็ไปหาที่เช่าแวนซ์ ๆ

สองล้อของเรากันเนาะ



.
.
.














ວັງວຽງ

จากที่พัก... เลี้ยวซ้ายเดินสักร้อยเมตรกลางฝนแฉะ ๆ เราได้รถมอร์ไซต์ราคา 75000 กีบ สองร้อยกว่าบาทไทย (มั้ง-เริ่มมีมั้ง)
เติมน้ำมันอีก 19000 กีบ เริ่มเอามือกุมหัวอีกครั้งคือ ตรู งง เงินกีบ









ช๊อตเด็ดมันอยู่ตรงเดิมน้ำมันนี่แหล่ะ

หลังจ่ายเงินเช่ารถ
เจ้าของร้านให้แผนที่วังเวียง แม่เจ้า!!! เราเมาจับ

เวียนหัวกับแผนที่และลายมือที่ถ่ายเอกสารมาให้จุงเบย..

งานเข้าตรงหาปั๊มน้ำมัน... เมืองทั้งเมืองมีอยู่ 2 ปั๊ม..

ซึ่งต้องฝ่าเมืองออกไปถนนเมน

เอ่อ.. ถนนเมนที่ว่านี่ที่ตรูนั่งหลับมากับรถนอนใช่ป่ะ


แล้วมันไปทางไหน
ฝนก็ฝน หมวกกันน๊อคเขาก็ไม่มีให้นะคะ..

แล้วที่แต่งหน้า เขียนคิ้วมานี่

เพื่อล้างหน้ากับน้ำฝนรึไง ???
สู้กับฝนไม่เท่าหาปั๊มดีหน่อยที่เจ๊ขับเพราะกลัว

จขบ.เอาไปล้มมั้ง 555 คือไม่ขี่แมงกะไซต์นี่ก็นานเหมือนกันเนาะ

ว่าแล้วก็พากันไปตามแผนที่...

และจอดรถถามอีก 3 จอด

ก็ งม ๆ งง ๆ กันไป

ตามถนน และสายฝนนั่นแหล่ะ

จนในที่สุดเราก็เจอปั๊ม

ออกถนนเมนแล้วเลี้ยวซ้ายวิ่งไป

ทางหลวงพระบางที่เราจากมานั่นแหล่ะ

ซึ่งก็ไม่น่าจะไกล สัก 2 3 โลได้


ณ เวลานั้นแผนที่เริ่มเปียก และฉีกแล้ว
จำเป็นต้องใช้ทั้งวันด้วยนะ

เปื่อยไปครึ่งนึงแล้วทำไงดี

จขบ.ได้ไอเดียไหน ๆ ก็เปียก

เปื่อยแล้วแปะมันซะเลย หลังซือเจ๊นี่แหล่ะ 555

ง่ายต่อการใช้งานมว๊ากกก ขำกันยันไทย






จ่ายค่าเสียหายที่ปั๊มแล้ว... ขับกลับเข้าเมืองเพราะอยากไปที่บลูลากูนที่เขาร่ำลือกันหนักหนา
ถ้ายังจำสะพานที่เราพากันมาหลงวันก่อน...

ใช่ค่ะ เรามุ่งหน้าไปสะพานนั้นกัน เสีย 10000 kip เป็นค่าผ่าน

ตื่นเต้นดีนะ สะพานแขวนแบบวันเวย์

นี่ถ้าโชคร้ายรถพุ่งตกน้ำตายใครคงช่วยใครไม่ได้แหล่ะเนาะ น้ำเชี่ยวมาก






ผ่านสะพานที่ว่าจะถึงหมู่บ้านอีกชื่อ จำไม่ได้แล้วค่ะ หมู่บ้านนี้อยู่ตรงกันข้ามกับ วิลล่าน้ำซองที่เราพัก
แหล่ะนี่สภาพน้ำท่วมเวียงธารา.. สะพานทางเขา หายไปเลย











ไป ๆ ๆ ไปกัน



.......





ธรรมชาติ กะ วิว สวย ๆ เรียกสาวกไปเข้าเฝ้าอยู่ ^^








ผ่านสะพาน ผ่านหมู่บ้าน ผ่านท้องนา และตะลึงกับสวรรค์บนดินข้าง ๆ ทาง
หยิกตัวเอง ตบตัวเอง
หมอกที่หลงรัก อยู่วังเวียงเต็ม ๆ







จะเอียงไปไหน 5555













พาราโนมาที่ไม่ต้องเสียตังค์
กับชบวนหนุ่มเกาหลีเท่ห์ ๆ ๆ มากันละ มารอบหน้าจะลองคันนี้บ้างละ









เจ๊บอก ถ่ายไปอย่าได้ยั้ง กรุ๊บกรอบ ๆ ๆ 555

















ไปเรื่อย ๆ 7 km. แรก ๆ ถนนก็ดี ๆ อยู่หรอก คุณหลอกดาว !!!
ผ่านสองสาว และวิถีนี้ไปแล้ว ตับสลับกับม้ามกันเลยทีเดียว คุณพระ(เยซู)






และเพลงก็มา ไกลแค่ไหนคือใกล้ บลา ๆ ๆ
บางที่น้ำตัดถนน



บางหลุมที่รถเกือบดับ แต่ขอบคุณพระเจ้านะ ถ้ามันดับขึ้นมานี่ยังไงกันละทีนี้ ขอบคุณซือเจ๊ด้วย ห้าวจริงไรจริง











และเพลงเพื่อชีวิตก็เริ่มมา แฮร่ !!!
ณ เพลานี้ถ้ามีหน้าอก นมคงตีหน้าไป 100 ครั้งละ เอิ่ม เป็น 7 km. ที่โหดมากอ่ะ











แต่ ๆ ๆ



แต่ !! ยอม




















วิถีที่ตรึงใจ หาไม่ได้แล้วในสังคมไทย
ถึงหาได้ก็หายากนะ จขบ.ว่า













และมาสคอตของวัวเวียง เอ้ย วังเวียง
และซือเจ๊ ยกให้เป็นศัตรูตัวฉกาจของนาง มอ ๆ ๆ





.
.
.















ວັງວຽງ



ผ่านหมู่บ้าน และฝูงวัวนี้ไปแล้ว ใกล้ถึงและเห็นป้ายบลูลากูน 2 นะคะย้ำ !!! เพราะมีบลูลากูนสามที่
เราเลือกที่นี่เพราะ..

วันก่อนที่ซื้อตั๋วกลับอุดรพี่ที่ขายทัวร์บอก บลู 1 เหมือนปายไปแล้ว คือ

ไม่เหลือความงาม ความใส ไว้ให้ชมละ เราเลยมาที่นี่

ที่ยังถือว่าเวอร์จิ้นอยู่ให้เชยชม (ว่าไปนั่น)








ถึงพอดี กับที่ฝนก็หยุดตกพอดี ขอบคุณนะ









เราหาน้ำใส ๆ ล้าง แข้ง ขา กันก่อน ไม่ไหวจะเคลียร์











ได้ยินเสียงกรี๊ด ๆ นึกว่าป่านั้นมีชะนี
เอ้าคนเหรอ

... จับภาพได้ก่อนนางจะโดน ถีบ ลงมาแล้วก็โดนทิ้งให้ห้อย ๆ

อยู่อย่างนั้น.. ไปอีกนาน (นี่ถ้าเสียเงินเล่นแล้วมาแกล้งตรูอย่างนี้)





.
.
.










จากนางน้อย ห้อยโหน เราบ่ายหน้าหาสระน้ำสีฟ้า ที่ไม่ค่อยฟ้าเพราะน้ำเจิ่งนองได้ที่ ตลิ่งอยู่ไหน หาไม่เจอ



แหมบรรยากาศแบบ น่าเมาอ่ะ 555




























เห็นเด็ก ๆ มันส์กันละป้าก็อยากบ้างนะ แต่กลัวกล้องเปียกจ๊ะ ไม่ไหว ๆ ป้าไปหาที่นั่งหย่อนขากันก่อนเนาะ



ฝนตกหนักมาก คืนที่ผ่านมา น้ำนองทั่ว









ตลิ่งอยู่ไหนค่าบ













ตาน้ำ







มันซิลดีนะ
เท้าไม่ได้แห้งกันเลยทริปวันนี้
หัวเหอ คิ้วเคิ้ว หาย !!!


















สักพักใหญ่ ๆ ฟ้ามืดมาก ก่อนฝนลงอีกครั้ง...ที่นี่บูล 2













ขาออกมา...เอาสองล้อของเรา เสียงเพลงดังมากอ่า "แค่โสด" ฟังที่ไหนก็ไม่ฟินเท่าที่นี่ ถิ่นภาษาเขาเลยเนาะ ฟินนนนนนนนน
มาจากคันนี้ ทะเบียนหลวงพระบาง



เราติดฝนกันที่นี่สัก

15 นาทีก่อนแว๊นซ์ ๆ ไปถ้ำปูคา และบลู 3 ห่างเข้าไปอีก 5 km.

(บลูสามจะไกลกว่าถ้ำปูคา) ที่ถามพี่เก็บตั๋วว่าไกลไหม ทางดีไหม

เขาบอกไม่ไกล และทางดีกว่าที่มา เราดีใจ แต่... รู้สึกพี่จะพูดสลับกันนะคะ

ฟันกระทบกันจนจะหลุดอยู่แล้ว... แฮร่ !!!




แต่แม้คุณจะหลอกดาว... เต็มใจขร่ะ (เสียงสู๊ง)





สำหรับ จขบ.แล้ว... ธรรมชาติคือหนึ่งคำตอบที่ตรึงใจ
แต่สิ่งที่ตรึงใจกว่านั้นคือ..

วิถีเด็กน้อยกลุ่มนึง เปลือยตัวเล่นน้ำฝน กวักน้ำ

วิดน้ำที่ขังที่พื้นใส่กันสนุกสนาน เขามีความสุขอย่างที่ตัวมี เขาไม่ทุกข์

ไม่ร้อน เขาพอใจ และรักสิ่งรอบตัวเขา... "วังเวียง" ฉันจะกลับไป




.........






Mariabamboo

 วันพฤหัสที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2560 เวลา 15.23 น.

ความคิดเห็น