ขอต้อนรับทุกท่านสู่การล่องเรือสำราญ โดยลุงเด้ง ป้าไก่

การล่องเรือสำราญ กำลังเริ่มเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเทียวรุ่นใหม่ เพราะการเดินทางด้วยเรือสำราญนั้นหรูหรา สะดวกสบาย

เสมือนเดินทางในเมืองเล็กๆ ที่มีสิงอำนวยความสะดวกครบทุกสิ่งตั้งอต่ ห้องพักระดับ 4-5 ดาว ร้านอาหารนาๆ ชนิด

เครื่องเล่น สระว่ายน้ำ โรงละคร โครงภาพยนต์ คาสิโน และเอนเตอร์เทนเมนท์ และสำคัญที่สุดคือทุกอย่างฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น



โปรแกรมการเดินทาง

Day 01Hong Kong, Chinaเรือออกเดินทาง 17:00

Day 02Kaohsiung, Taiwan เรือเทียบท่า เวลา 14:30/ออกจากท่าเทียบเรือเวลา 22:00

Day 03ล่องทะเล - กิจกรรมภายในเรือตลอดวัน

Day 04Hong Kong, Chianถึงท่าเทียบเรือเวลา07:00



ติดตามเรื่องราวท่องเที่ยวทั่วโลกของลุงเด้ง ป้าไก่ คลิก "Like" ที่
https://www.facebook.com/DiningTravel



เนื้อหาดี กด + / ถ้าชอบ กดถูกใจ นะครับเรือสำราญลำนี้ มีชื่อว่า Mariner of The Seas มีขนาดใหญ่กว่า titanic 3 เท่า

การเดินทางเริ่มต้นที่


สนามบินสุวรรณภูมิ -> สนามบินเช็กแล็บก็อก (ฮ่องกง) -> Kai Tak Cruise Terminal



ลุงเด้ง ป้าไก่ เดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิโดยสายการบิน Hong Kong Airline เที่ยวบิน HX768

เครื่องออกเดินทางเวลา 8.50 AMถึงสนามบินปลายทางเวลา 12:40 เวลาท้องถิ่น (ฮ่องกง)

ดินทางสู่สนามบินปลายทาง เช็กแล็บก็อก (ฮ่องกง) เวลาประมาณ 12:40


จากนั้นต่อด้วย Airport Express ไปลงที่สถานี เกาลูน คนละ HK$90.0

จากนั้นนั่ง TAXI ไปยัง Kai Tak Cruise Terminalเพื่อ ขึ้น เรือสำราญ Royal Caribbean ใช้เวลาประมาณ 30 นาที


ค่า TAXI 97.5 เหรียญ ราคานี้รวมค่าบรรทุกกระเป๋าแล้ว 10 เหรียญ / 1 ใบ

รถ TAXI จะมาส่งที่ Kai Tak Cruise Terminal www.kaitakcruiseterminal.com.hk


เดิมเป็นสนาบบิน ไคตั๊ก ปัจจุบันเปลี่ยนมาเป็นที่จอดเรือสำราญ ตัวอาคารที่สร้างใหม่ สวยงามมากๆ

TAXI นำมาส่งที่ Meeting Point บริเวณนี้จะเหมือนกับ Departure Hall ของสนามบิน



จุดนี้จะมีเจ้าหน้าที่ของRoyal Caribbean อำนวยความสะดวก



การเดินทางเป็นหมู่คณะ

ในแบบ PACKAGE กับบริษัททัวร์ก็จะมีตัวแทนของบริษัททัวร์นั้นๆ ประสานงานให้



เดินทางด้วยตัวเอง

เราต้องติดต่อเจ้าหน้าของ Royal Caribbean เพื่อทำการ โหลดกระเป๋าใบใหญ่ขึ้นเครื่อง โดยเจ้าหน้าที่จะมีเอกสารให้กรอกพร้อมติด TAG ที่ประเป๋า แล้วจะส่งกระเป๋าขึ้นไปบนเรือ โดยกระเป๋าจะได้รับการส่งไปยังห้องพักหลังจากที่เรือออกเดินทางแล้ว

(กรณีของลุงเด้ง ป้าไก่ เรือออกจากท่า ประมาณ 17:00 กระเป๋าจะส่งมาถึงที่ห้องช่วงที่เราทานอาหารเย็น 20:30 พอเสร็จจากอาหารเย็นกระเป๋าก็ถูกส่งมาที่ห้องเรียบร้อยแล้ว)

หลังจาก ส่งมอบกระเป๋าเดินทางใบใหญ่แล้ว ก็เดินต่อไปทำการ Check-in (ขั้นตอนเหมือนกับการ Check-in ที่สนามบินครับ)



เข้าใจว่า ในแต่ละวัน จะมีเรือสำราญมาจอดได้แต่ 1 ลำเท่านั้น

การเดินทางในครั้งนี้ ใช้เรือที่มีชื่อว่า Mariner of the Seas ของ Royal Caribbean



ข้อมูลพื้นฐานของเรือคือ มีผู้โดยสาร 3000 คน พร้อมลูกเรืออีก 1500 คน รวมเป็น 4500 คนภายในเรือ 1 ลำ



ดังนั้น การที่มีผู้โดยสาร 3000 Check - in ในเวลาเดียวกัน ก็ต้องใช้พื้นที่ทั้งหมดของ Kai Tak Cruise Terminal แห่งนี้

กำหนดการ Check-In Time อยู่ในช่วงเวลา 11:30AM - 3:30PM


ย้ำกันอีกครั้ง ขั้นตอนเหมือนกับการ Check-in ที่สนามบินครับ - ไม่ยาก ไม่ยาก ท่องไว้นะครับ



ข้อแนะนำ และต้องปฏิบัติกันทุกคน สำหรับการเดินทางด้วยตัวเอง

ต้องทำ Online Check in ล่วงหน้า

https://secure.royalcaribbean.com/beforeyouboard/boardingDocuments.do?cS=NAVBAR&pnav=4&snav=3



เมื่อทำการ Online Check in ก็จะได้รับ Set Sail เอกสารรายละเอียดในการเดินทาง

ข้อมูลที่สำคัญต่างๆ เช่น

Primary Pass Holder : ชื่อผู้เดินทาง "หลัก"- ชื่อ ลุงเด้ง คนเดียวครับ

Reservation Number : XXXXXXXXXXX

SHIP : Mariner of The Seas- ชื่อเรือ

DATE : วันที่ในการเดินทาง

CHECK -IN TIME RANGE : 11:30 AM-3:30 PM(ช่วงเวลาในการ Check in)



DECK : 2(ชั้นของห้องพักในเรือ-ชั้น 2)

STATEROOM : หมายเลขห้อง2248



ลุงเด้ง ป้าไก่ อยู่ DECK 2ก็ต้องมาทำการ Check in ตามหมายเลยนี้ครับ

มาทำการ Check in ให้เรียบร้อยรอไม่นานครับ เอกสารทางเรือจัดมาพร้อมสรรพ ตรวจเอกสารให้ครบ แล้วรับบัตร ก็เป็นอันจบพิธี


ถ้าเอกสารไม่ครบ ต้องการเอกสารเพิ่ม ก็มีเครื่องถ่ายเอกสารบริการฟรีครับ


แนะนำ ให้ถ่ายสำเนาหน้า PASSPORT และ เอกสาร VISA ไปเพิ่มคนละ 1 ชุด (เผื่อไว้นะครับ)

หลังจาก Check in เป็นที่เรียบร้อย ก็ได้รับ บัตร SeaPass®


บัตรใบนี้ต้องพกติดตัวตลอดเวลาที่อยู่บนเรือนะครับ



ข้อมูลที่สำคัญในบัตร

DINING ROOM : Rhapsody in Blue - ชื่อห้องอาหารค่ำอยู่ชั้น DK3(ชั้น 3)

SEATING : 08:00 เวลาในการทานอาหารค่ำ

TABEL : หมายเลขโต๊ะ 342



หมายเลข B9 คือ บริเวณจุดซ้อมหาเกินกรณีฉุกเฉิน ทุกคนจะต้องมารวมตัวกันที่จุดตามหมายเลขบัตร

ซึ่งกลุ่มของลุงเด้ง ป้าไก่ ต้องมารวมตัวกันที่ ตำแหน่ง B9 จะทำการซักซ้อมกัน 1 ครั้ง และทุกคนต้องมายังจุดนี้ตามเวลานัดหมาย

(เหมือนกันการชมการสาธิต หากเกิดกรณีฉุกเฉินบนเครื่องบิน)

หลังจากได้ SeaPass® ก็ไปยัง Security Check เพื่อทำการ X-Ray กระเป๋า


ผ่าน พิธีการตรวจคนเข้าเมือง


เดินทางไปขึ้นเรือ (ถ้าเป็นเครื่องบินก็เดินไปที่ GATE ครับ)


ตรวจเอกสารขั้นตอนสุดท้าย (ตอนนี้เดินเข้ามาในบริเวณตัวเรือแล้วครับ)


ของที่ติดตัวมาก็มีแต่ Carry Bag กับ SeaPass® ของใช้จำเป็น และเอกสารต่างๆ



PASSPORT ทางเรือจะเก็บไว้ตลอดการเดินทางนะครับ

บรรยากาศภายในเรือ ชั้นที่สำคัญที่สุดคงจะเป็น DECK 5 ชั้นนี้มีชื่อว่า Royal Promenade



ในชั้นนี้มีร้าน Café Promenade เป็นร้านที่ลุงเด้ง ป้าไก่ จะต้องเดินผ่านก่อนกลับไปที่ห้องพัก

บริการของว่าง "ฟรี"ตลอด 24 ชั่วโมง แซนวิชชนิดต่างๆ พิซซ่า คุ๊กกี้ ชา กาแฟ

จะทานที่ร้าน หรือถือมาทานที่ห้องพักก็ได้ครับ

ทันทีที่เข้ามาภายในเรือ ก่อนเวลาเรือออกเดินทาง ก็สามารถทานของว่างได้เลยครับ


อิ่มแล้วก็ไปสำรวจห้องพักกันครับ เป็นห้องแบบไม่มีระเบียง


มีหน้าต่างที่มองเห็นวิวทะเล อยู่หัวนอน

ห้องน้ำ


ปลายเตียงจะมี โซฟา 1 ชุด โต๊ะทำงาน ตู้เย็น TV ตู้เสื้อผ้า อุปกรณ์อำนวยความสะดวกคร


ยังพอมีเวลาเหลือก่อนที่จะออกเดินทาง ก็มาเดินสำรวจ ชมวิวรอบๆ เรือกันครับ


แอบมาถ่ายภาพคู่กันแถวๆ สระว่ายน้ำ


เวลา 3:30 pm ผู้โดยสารทุกคนควรจะอยู่บนเรือทุกคนแล้ว


4:00 pm ทุกอย่างบนเรือจะหยุดให้บริการ ผู้โดยสารทุกคนต้องมารวมตัวกันที่ Deck 4 และ 5 เพื่อรวมตัวและอบรมการใช้เสื้อชูชีพ



ถ้าเราไม่ทราบกำหนดการ ก็มีพนักงานตรวจสอบแต่ละชั้น และแจ้งให้ไปรวมตัวกันหรือถ้าเราอยู่ในห้องก็จะมีพนักงานมาเคาะประตูถึงให้ห้อง

เพราะต้องมีการสแกนบาร์โค้ด และจะทราบว่าห้องไหนยังไม่มารวมพล ก็จะถูกตามมากันทุกคน

ในบัตร SeaPass® ระบุหมายเลข B9 เราต้องเดินไปรวมพลกันในตำแหน่ง B9 ครับ


ทุกคนจะได้รับการเช็คคือโดยการ สแกนบาร์โค้ด หลังจากนั้นก็จะเป็นการสาธิตการใช้เสื้อชูชีพ และต้องทำตัวอย่างไรเมื่อเกิดภาวะฉุกเฉิน


หลังจากจบการสาธิตแล้วก็เป็นอิสระ ลุงเด้ง ป้าไก่ ก็เดินขั้นไปชั้นบน ชมวิว ตอนที่เรือออกจากท่า


ระหว่างรอ อาหารเย็น ก็มาเดินเล่นภายในเรือ ถ่ายรูปสวยๆ มาได้มากพอสมควรครับ


มุมนี้ก็สวย เล่นสี แสง ได้งดงามจริงๆ ครับ


ห้องนี้ก็สวยแบบผู้ใหญ่ ตกดึกมีนักเปียโนฝีมือดีมาขับกล่อม


เนื่องจาก มีผู้โดยสารมากถึง 3000 คน การที่จะมาทานอาหารเย็นพร้อนกันก็คงจะเป็นงานช้าง


ทางเรือก็แบ่งการทานอาหารออกเป็น 2 รอบ ลุงเด้ง ป้าไก่ ได้รอบ 2 ทุ่ม ตามที่แจ้งไว้ใน SEAPASS

รายการอาหารเย็นเป็นแบบ 3 Course Dinner Menu


ประกอบด้วย อาหารเรียกน้ำย่อย/อาหารจานหลัก/ ของหวาน

จากในเมนู ก็มีตัวเลือกมากมายครับ

อาหารเรียกน้ำย่อย มี 5 ตัวเลือก ไม่ว่าจะเป็น สลัด หรือ ซุป

อาหารจานหลัก มี 8 รายการ

ของหวาน 5 ชนิด ไม่รวมไอศกรีม อีก 3 ชนิด

ขนมปัง


สลัด : Seasonal Salad with Crispy Bacon

ซุป : Aromatic Asia Coconut Seafood Soup

อาหารจานหลัก


อาหารจานหลัก ลุงเด้งเลือกเมนูปลาป้าไก่เลือกเมนูไก่


ถึงตรงนี้ เพื่อนๆ หลายท่านคนสงสัยว่า ถ้าไม่อิ่มละครับ สั่งเพิ่มได้หรือป่าว


สั่งเพิ่มได้ครับ สั่งเมนูอะไรเพิ่มก็ได้ กี่จานก็ได้ แต่พนักงานเค้าจะ เซอร์ไพรเราก่อนครับ คือจะนำอาหารจานหลักมาเพิ่มให้อีก 1 จาน

ถ้าชอบก็ลองทานดูได้ ถ้าไม่ชอบก็ให้เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ครับ ไม่เสียเงินเพิ่ม ขอเพียงให้อยู่ในเมนูพื้นฐาน



อย่างในภาพ พนักงานประจำโต๊ะก็ยกบะหมี่เนื้อมาให้ทาน ซึ่งก็อร่อยดีครับ

ระหว่างทานข้าวก็มี การต้อนรับจากพนักงานทุกคนในห้องอาหารจัดเป็นการแสดงโชว์เล็กๆ แต่น่าประทับใจมากครับ


ปิดท้ายมื้อนี้ด้วยของหวาน


ขอบอกว่าของหวานบนเรือ อร่อยอย่างที่สุดเลยครับ


ไอศกรีมทานได้ไม่อั้นนะครับ เพราะเป็นแบบโลว์ แคลอรี่

ป้าไก่ยืนยันความอร่อยของขนมหวานครับ


หลังอาหารก็มีการแสงมากมาย ตลอดเวลา ก่อนนอนช่วงประมาณ 4 ทุ่มครึ่ง - เที่ยงคืนก็เปิดเพลงชวนกันเต้นกันสนั่นเรือครับ

จบกิจกรรมวันแรกประมาณนี้ครับ


ลืมบอกไปนะครับว่า Cruise Compass คือเอกสารรวมกิจกรรมทุกอย่างบนเรือพร้อมเวลาชัดเจน


เราสามารถวางแผนตามเอกสารชิ้นนี้ได้เลยครับ โดย Cruise Compass สามารถหาได้ที่ Guest Service และจะส่งมาให้ที่ห้องพักทุกเช้า

กำหนดการ วันที่ 2 เราจะถึง Kaohsiung เวลา 14:30


ตอนเช้าเรือสำราญลำนี้ก็ยังแล่นอยู่กลางทะเล บริเวณ Deck 5 Royal Promenade ก็มีของมาวางขาย ให้เลือกซื้อในราคาพิเศษ

แต่ลุงเด้ง ป้าไก่ ก็ได้แต่ชมนะครับ ไม่ได้เป็นขาช๊อป

นาฬิกาข้อมือ เครื่องประทับ ก็จัดมาวางขายกันเหมือนถนนคนเดินแบบย่อๆ


ใครที่ชอบ COACH แบบปลอดภาษี ก็เลือกซื้อกันได้ครับ


ยังเช้าอยู่ก็เลยมานั่งจิบ ชา กาแฟ กันก่อน เพราะช่วงเช้า


ผู้โดยสารจะไปกระจุกตัวกันที่ห้องอาหารกันเยอะเลยครับหลบมานั่งทานกาแฟ ที่ Cafe Promenade แบบเงียบๆ สบายกว่าครับ

มาแอบถ่ายภาพป้าไก่ ระหว่างจิบกาแฟ ตอนเช้า อิ อิ


สายๆ ก็แวะไปที่ ห้อง Windjammer ตั้งอยู่ที่ DECK 11 ให้บริการ BUFFET เช้า กลางวัน เย็น


ห้องอาหารนี้ใหญ่มากครับ อาหารมีให้เลือกมากหลายชนิด ทานไม่ครบครับ อิ่มก่อน 555


ตักมาทานอย่างละนิด อย่างละหน่อย ก็อิ่มแล้วละครับ


ของหวานก็อร่อยครับ


เครื่องดื่มมี น้ำส้ม น้ำมะนาว น่ำเปล่าแต่ น้ำส้ม กับ น้ำมะนาว ไม่อร่อยเลยนะครับ จืดเชียวอ่ะ


ปิดท้ายด้วย ผลไม้


โยเกิร์ต มีหลากรสหยิบติดมือ มาแช่ตู้เย็น ในห้องพัก เผื่อหิว ... สุดท้ายไม่ได้ทานหรอกครับ เพราะอิ่มตลอดวัน 555


สุดท้ายก็ทิ้งไว้ในตู้เย็น ไม่ได้ทานเลยซักกล่อง

อิ่มแล้วก็ไประเบิดพลัง บนดาษฟ้าเรือ


กิจกรรมปีนเขาก็มีด้วยนะครับ ใครก็ปิดถึงยอดครับ เพราะมีพนักงานช่วยดึงให้ 555


เที่ยวเรือ ต้องศึกษา Cruise Compass ให้ดีนะครับ จะได้ร่วมกิจกรรมของทางเรือที่จัดให้ได้ครบ


แวะมาถ่ายภาพกับ Alex the Lion จากเรื่อง Madagascar

เดินเล่นในเรืออีกซักพัก ก็ไปถ่ายรูปกับ Panda Kung Fu


ก่อนอาหารกลางวัน กินอีกแล้วครับ ร้านเดิม Cafe Promenade ฟรี 24 ชั่วโมง


กิน กับ ถ่ายรูป ไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะทริปนี้แหละครับ กลับมาถึงบ้านน้ำหนักขึ้น 2 กิโลทันที 555


ของว่างก็ เปลี่ยนไปตาม ช่วงเวลานะครับ


ได้เวลาไปชม ICE UNDER THE BIG TOP การแสดงทำได้ดีกว่าที่คาดครับ


สนุกมากๆ ถ่ายรูปได้ แต่ห้ามใช้ FLASH ที่สำคัญห้ามถ่าย VDO ครับ

การแสดงทำได้ดีครับ อาจจะไม่ใช่ระดับโลก แต่ประทับใจมากๆ


ชมภาพถ่ายไปเรื่อยๆ นะครับ


การแสดงชุดนี้ถ้าจำไม่ผิด มากกว่า 1 ชั่งโมงเลยครับ


ชมกันเพลินไปเลยครับ


การแสดงมีหลายชุดมากครับ


นักแสดงสาวคนนี้น่ารักที่สุดครับ


จบโชว์ ICE UNDER THE BIG TOP ก็เตรียมตัวไปเที่ยวเมืองเกาสงกันครับ


ออกเดินทางเที่ยวเมืองเกาสง ประเทศไต้หวัน


ลุงเด้ง ป้าไก่ ซื้อ TOUR กับทางเรือ คนละ US$ 69 ประมาณ 2 พันกว่าบาท ใช้เวลา 4ชั่วโมงครึ่ง ไม่รวมอาหาร

รายละเอียดในการเที่ยวเมืองเกาสง จะนำมารีวิวให้ทราบในตอนต่อไป ตอนนี้เน้นเรืออย่างเดียวนะครับ

หลังจากเที่ยงเมืองเกาสง ซึ่งจะเป็นทัวร์วัด ประมาณ 3 วัด ก็ได้เวลาส่งกลับขึ้นเรือ


กลุ่มของเราถึงเรือเวลา 2 ทุ่ม ได้เวลาทานอาหารเย็นพอดีเลยครับ

อาหารเย็นมื้อนี้ อร่อยกว่าเมื่อวานเยอะเลย เปิดตัวด้วย Scallop Skewer


หอยเชลล์ ตัวใหญ่มากๆ ย่างมาหอมฉุยเลย

อาหารเรียกน้ำย่อย อีก 1 จาน ANTIPASTI : Cured Italian ham, seasonal melon, grilled vegetables, marinated pottabella mushroom


and bake caramelized garlic

อาหารจานหลัก GARLIC TIGER SHRIMP กุ้งย่างเนย เครื่องเทศ ทานกับข้าวสวย


จานนี้ของป้าไก่ : Chicken Breast with Seasonal Herbs


จานหลักอีก 1 จาน ถ้าทานไม่อิ่มก็ขอเพิ่ม เมนูอะไรก็ได้นะครับ


SILK ROAD BRAISED LAMB SHANK : สตูขาแกะ ใช่บริเวณ หน้าแข้ง ขนาดกลาง เคี่ยวจนเปื่อย แต่ยังคงเป็นชิ้นสวยงาม



ขนม ของหวาน บนเรือ อร่อยทุกจาน คืนนี้จัดเต็มเลยครับ


ปิดท้ายด้วย ชาร้อน


หลังอาหารมีโชว์ ตระกาลตาให้ชมกันอีก แบบเต็มพิกัด


ชื่อว่า Gallery of Dream เล่นดนตรีสด ร้องกันสดๆ ตลอดงาน

นักแสดงโชว์กันแบบจัดเต็มครับ


ก็เกินความคาดหมายของลุงเด้ง ป้าไก่


ที่เพิ่งเดินทางท่องเที่ยวกับเรือสำราญเป็นครั้งแรก รู้สึกได้เลยว่า กิจกรรมต่างๆ ที่ทางเรือจัดมานั้น คุ้มค่ามากๆ

จบโชว์ไม่นานก็มีอีก 1 กิจกรรม (ความจริงมีหลายกิจกรรม) ลุงเด้งเลือกมาชมการเต็นบนดาดฟ้าเรือ โดยทีมตัวการ์ตูนจาก DreamWorks


สนุกสนานกันพอสมควรครับ


จบโชว์ ก็เปิดเพลงโดย DJ เต้นกันจนถึงเที่ยงคืนครับ


บอกลาคืนที่ 2 ด้วยภาพนี้จากดาษฟ้าเรือ


แต่ยังก่อนครับ...


ก่อนเข้าห้องพัก แวะมาที่ Royal Promenade มีออกร้านขายของ คืนนี้จัดทุกชิ้นราคา US$ 10.00

เฮ้ย... ถูกมากมาย แต่เราก็ไม่ได้ซื้อ 555

ก่อนนอน เดินผ่านร้านกินฟรีอีกแล้ว จัดมา คุ๊กกี้ กับ พิซซ่า 2 ชิ้น 555


GOOD NIGHT ครับ

DAY 03 : วันนี้ตื่นเช้าเป็นพิเศษ เพราะ พรุ่งนี้เช้าก็ต้องลงจากเรือแล้วครับ คิดแล้วก็ใจหาย 555


ตั้งใจมาเดินสำรวจเรือ เพราะวันก่อนหน้านี้ ยังเดินสำรวจเรือไม่ครบทุกห้องเลยครับเรือใหญ่จริงๆ



การทำความสะอาด นอกจากจะเช็กให้สะอาดแล้ว ยังต้องใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ เช็ดเป็นครั้งสุดท้ายครับ

ยังเช้าอยู่ คนบนเรือน้อยมาก ยังคงสลบไสลกันทั้งเรือ


คาสิโน จะมีเวลาเปิด / ปิด นะครับ


Slot machine มีหลายแบบให้เลือกเล่นได้ตามชอบ


นักเล่นขาใหญ่ มือหนัก ระดับ VIP ก็จัดเป็นห้องส่วนตัวไว้ให้เลยครับ


ร้านปลอดภาษี DUTY FREE ราคาสินค้าพอๆกับ ในห้างบ้านเราตอนลด 10-20%


รายได้พิเศษของเรือก็คงเป็นการขายรูปภาพของ ผู้โดยสารบนเรือ เพราะตอนทานข้าว ตอนถ่ายรูปกับตัวการ์ตูน ก็จะมีช่างภาพมาช่วยถ่ายภาพของเราด้วย แล้วใครสนใจก็เชิญเลือกชม เลือกซื้อกันได้เลยครับ


ใครอยากแต่งงานเชิญที่ chapel บนเรือ เป็นโบสถ์เล็กๆ


สามารถประกอบพิธิแต่งงานได้ โดยกัปตันจะเป็นผู้ทำพิธีแต่งงาน



- ประมาณว่า กัปตัน ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการให้สามารถประกอบพิธีแทนบาทหลวงได้อย่างถูกต้อง -

เช้านี้ก็ยังเดินถ่ายภาพไปเรื่อยๆ จนได้เวลาอาหารเช้า


หลังอาหารเช้าก็มีกิจกรรมขายเสื้อการกุศล รายได้จากการขายเสื้อทั้งหมด นำไปบริจาก


และพิเศษไปกว่านั้นก็คือ กัปตันจะมานั่งเซ็นชื่อลงในเสื้อด้วยครับ

กิจกรรมถ่ายรูปกับ ตัวการ์ตูน DreamWorks แต่ครั้งนี้คิวยาวเลยมาถ่ายรูปคู่กับ ทีมงานแทน 555


เช้านี้อากาศดี เลยมาซ้อมบิน กับบนดาษฟ้าเรือ อีกแล้วครับ 555


ก่อนอาหารกลางวันก็ยังคงสำรวจเรือลำนี้ต่อไป


ห้องเกม Adventure Ocean

มารอถ่ายรูปกับ Puss in Boots


Puss in Bootsตัวโปรด จากการ์ตูนเรื่อง Shrek


มื้อกลางวัน


จัดมาเต็มๆ


จัดมาเต็มๆ


ไม่อิ่มก็ขอเพิ่มได้นะครับ


ของหวาน เน้นๆ กันอีกครั้ง อร่อยทุกมื้อครับ


เหมือนเดิม ก่อนกลับไปนั่งเล่น นอนเล่น ที่ห้องก็ต้องมาหยิบอะไรติดไม้ติดมือไปบ้าง


กลับไปที่ห้องพักช่วงเย็น ก็มีเอกสาร พร้อมข้อปฏิบัติก่อนออกจากเรือในวันพรุ่งนี้เช้า


รายละเอียดประมาณนี่ครับ


1.TAG สีเขียว กรอกข้อมูลให้ครบ แล้วติดที่กระเป๋าเดินทาง

2.นำกระเป๋าเดินทางที่ต้องการนำส่งออกจากเรือมาไว้ที่หน้าห้องนอนเวลา 5 ทุ่ม

3.ในตอนเช้าเมื่อออกจากเรือแล้ว ไปรับกระเป๋าได้ที่ช่องทางหมายเลข 25



4.ก่อนขึ้นเรือในวันแรก เราจะต้องแจ้งว่า ถ้ามีค่ามใช้จ่ายอื่นๆ จะชำระด้วยเงินสด หรือ บัตรเครดิต

- บนเรือถ้ามีการใช้บริการพิเศษ แล้วชำระด้วยบัตรเครดิต ไม่ต้องเซ็นเอกสารอะไร ทางเรือจะเรียกเก็บอัตโนมัติ (ออกจากเรือได้เลยครับ)

5.เวลาในการออกจากเรือ ลุงเด้ง ป้าไก่ ได้กลุ่มหมายเลข 25

จะมีการแจ้งในเอกสารว่า ให้ไปรับเอกสาร PASSPORT เวลา 8:30 AM ที่จุดนัดหมาย ห้องอาหาร SAVOY THEATRE

ข้อดีของ Royal Caribbean คือ ราคาที่เราจ่ายค่าเรือจะรวมค่า ทิป พนักงานแล้ว


ดังนั้นไม่ต้องจ่ายทิปเพิ่มแต่... เอกสารใบนี้คือใบประเมินผลครับ



ทางโรงแรมจะจัดพนักงานดูแลเราไว้แล้ว โดยเฉพาะพนักงานเสิร์ฟ ที่เราใจเราสารพัด อยากทานอะไร จัดให้

ไม่อร่อยเปลี่ยนใหม่ให้ช้อนหล่นมาเก็บให้ผ้าเช็ดปากหล่นพื้น เปลี่ยนใหม่ให้ทันที



เงินเดือนไม่มีครับ ความเป็นความตาย อยู่ที่ ใบประเมินผลใบนี้ ถ้าได้คะแนนดี ก็ได้ค่าทิปเต็มที่ ถ้าบริการไม่ดี ใบประเมินผลออกมาต่ำ ก็ได้เงินน้อยตามส่วน



ดังนั้นวันสุดท้าย พนักงานเสิร์ฟจะบอกว่า อย่าลืมกรอกนะครับ



กรอก แล้ว ก็ต้องนำไปหยอดลงในตู้รับ ที่ GUEST SERVICE DECK 5

เพราะถ้ากรอกแล้ว แต่ทิ้งไว้ในห้อง อันนี้ ไม่ได้เลยซักบาทนะครับ

4:45 pm -5:45 pm เป็นงานเลี้ยงส่ง "Captain's Farewell Reception with the Suave Band @ Royal Promenade


ในงานมีเลี้ยงแชมเปญ และน้ำพันซ์ ให้กับแขกทุกคนบนเรือ


งานนี้เต็มที่ครับ


แชมเปญ ก็เปิดกันตลอด กี่แก้วก็ได้ จัดไปครับ


ไปประชุมก่อนนะครับ ดึกๆ จะมา update คืนสุดท้ายให้ชมกันครับเลิกประชุมแล้วครับ มารีวิวกันให้จบซะก่อนที่จะ ปิด office ครับ ...




เนื่องจากวันที่ 3 เป็นวันที่ล่องเรืออยู่ในทะเล ทั้งวัน

มีเวลาว่างวันนี้ ป้าไก่ของเราปีนขึ้นไปถ่ายรูปกับป้ายเรือ 555

JOHNNY ROCKETS


ใช้ Slogan ว่าเป็น The Original Hamburger

เป็นหนึ่งใน หลายๆ ห้องอาหารพิเศษที่ต้องเสียเงินเพิ่ม แต่เพิ่มเพียงคนละ US$ 4.50 เหรียญ เท่านั้น (ประมาณ 140.- บาท)

ถ้าสั่งน้ำอัดลมก็เพิ่มคนละ US$ 2.25 เหรียญ (ประมาณ 70 บาท)

จ่ายคนละ US$ 4.50 เหรียญ (ประมาณ 140.- บาท) + น้ำอัดลมก็เพิ่มคนละ US$ 2.25 เหรียญ (ประมาณ 70 บาท)


ราคาต่อหัวนะครับ เพราะมันคือ BUFFET



ลุงเด้ง ป้าไก่ ก็เพิ่งทราบครับตอนแรกนึกว่าเป็น SETถามไปถามมาคือ

จะทาน HAMBURGER กี่ชิ้นก็ได้ จะทานของว่าง ของทอด อะรไกี่จานก็ได้ หรือจะทาน ราเมง กี่ชามก็ได้

จ่ายเพียง 4.50 + ค่าน้ำ 2.25 เหรียญเท่านั้น



สุดคุ้มเลยครับ...



แฮมเบอร์เกอร์ก็มีหลายแบบให้เลือก ถ้าไม่อิ่ม จัดราเมน แบบญี่ปุ่นมาเพิ่มก็ไม่ได้คิดเงินเพิ่มนะครับ


จัดมากี่ชิ้น กี่จานก็ได้แต่ต้องทานให้หมดนะ

แบบว่าคุ้มมากๆ แต่...ก็ทานไม่ได้มากหรอกนะครับเพราะอิ่มมาทั้งวันแล้ว


6:10 pm - 6:30 pm DreamWorks meet & Greet with Shark & Finona in their Formal Wear @ Lotus Lounge


ถ่ายรูปคู่กันซักหน่อย


7.00 pm: การแสดง Fare Well Spectacular Showtime @ the Savoy Theater


เสมือนการแสดงอำลา เพราะคืนนี้เป็นคืนสุดท้ายแล้วครับ

นักแสดงเปิดตัวด้วย Juggling ตอนจบมาจับกีตาร์ร้องเพลงจีน เรียกเสียงกรี๊ดสนั่นห้องเลย


การเแสดงนำเดินไปอย่างต่อเนื่อง ปิดท้ายด้วยการกล่าวคำอำลา


ตามธรรมเนียม มื้อสุดท้ายจะต้องแต่งตัวแบบสากลนิยมไปทานอาหาร


ผู้โดยสารบางคนแต่งเต็มที่เป็นสูท เป็นชุดราตรีแบบทรงเครืองกันเลยครับ



ลืมบอกไปว่า อาหารค่ำที่ทานในห้องนี้ ห้ามใส่ขาสั้น / เสื้อกล้าม / และห้ามเดินเท้าเปล่ามาทานนะครับ

อาหารค่ำบนเรือมื้อสุดท้าย


เนื้ออย่างอร่อยเลยอ่ะ


ภายในห้องอาหารก็มีการแสดงความขอบคุณโดยทีมงานจากห้องอาหาร


ของหวานมื้อสุดท้าย


ตอนเช้าเดินทางออกจากเรือ พร้อมกับความประทับใจบนเรือสำราญ นับเป็นความประทับใจที่ดียิ่ง


ได้เห็นถึงการทำงานของทีมงานที่ต้องดูแล ผู้โดยสารพร้อมกันถึง 3000 คน ในเรือ 1 ลำ

การบริหารจัดการ เรื่องการรับส่งกระเป๋า อาหารการกิน และโชว์ต่างๆ จัดมาแน่นมาก



ในรีวิวเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นนะครับ เพราะกิจกรรมมีตลอดวัน บางช่วงเวลา มีกิจกรรมพร้อมกันถึง 4 แห่ง ต้องเลือกชม ตามความชอบส่วนบุคคล



สุดท้ายนี้ขอบคุณที่ติดตามชมกันมาตลอด



พบกันใหม่เร็วๆ นี้



ติดตามเรื่องราวท่องเที่ยวทั่วโลกของลุงเด้ง ป้าไก่ คลิก "Like" ที่
https://www.facebook.com/DiningTravel

ลุงเด้ง ป้าไก่

 วันอังคารที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 17.51 น.

ความคิดเห็น