สวัสดีครับ ผม หมีครับ วันนี้ผมมาแบ่งปันประสบการณ์ และสถานที่เที่ยวใน สปป. ลาว ต้องบอกเลยว่า ลาว เป็นประเทศนึงที่ผมเดินทางไปบ่อยมากๆ เพราะเป็นสถานที่ที่ไปง่าย ประหยัด และ คนลาวน่ารัก ... ณ จุดนี้ ผมว่านิสัยน่ารักสุดในแถบเพื่อนบ้านเราเลยครับ ;)



ต้องออกตัวก่อนว่า ภาพในกระทู้นี่ที่ผมจะลง ผมมีการเอาภาพ จากการเดินทางไปมากกว่า 1 ครั้งมาลง นะครับ แล้วรวมมาเป็นกระทู้นี้ ให้เพื่อนๆ ได้เก็บความรู้ วางแผนการเดินทาง และ สถานที่ที่เทียวใน สปป. ลาว เพื่อจะได้จำกัด งบประมาณ เลือกกิจกรรมที่เหมาะ กับเงินในกระเป๋าเราได้ มากขึ้น



ไม่รอช้าเรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ เราเริ่มจาก กรุงเทพฯ เลยและกัน



=======================================



จาก กทม. จะไป วังเวียง สปป ลาว ผมแนะนำการเดินที่คิดว่าดีที่สุด และครับ คือ... ให้ตั้งเป้าหมาย เริ่มต้นที่ จังหวัดอุดร ครับ เพราะว่า..มันถูกสุด 555 แค่ 320 บาท!! เท่านั้นเอง



เมื่อเที่ยบกับรถตู้ภายในประเทศลาว จากเวียงจันทน์ – วังเวียง ราคา เกือบ 500 บาท หรือ 110,000-120,000 กีบเลยทีเดียว (แล้วแต่อัตตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ด้วยนะจ๊ะ)



รถทัวร์จากอุดร ไปประเทศลาวนั้น จะออกวันละเที่ยว เท่านั้นครับ เวลา 8:30 น. ของทุกวัน และถึงที่หมาย ราวๆ 15:30 น. โดยการไปซื้อตั๋วต้องมี passport ติดไปด้วย ไม่เช่นนั้น เจ้าหน้าที่จะไม่ให้ซื้อ นะจ๊ะ!!



โดยการเดินทางไปอุดร ก็ไปได้หลายทางคือ

1. สายการบินนกแอร์ เที่ยวบิน 6:00 น. ถึง 7:05 น. ราคา ราวๆ 1200 บาท

2. รถทัวร์ ให้เลือกรถออกจาก กทม. ประมาณ 21:00 น. เพื่อจะได้ถึง อุดร 6:00 น.

3. รถไฟ มี2ขบวนที่แนะไปได้

a. ขบวน 25 ด่วนพิเศษ กรุงเทพ-อุดร ออก 20:00 น. ถึง 5:53 น. ราคาก็ 600-1100 โดยประมาณ ตามประเภทเตียงที่เลือก

b. ขบวน 133 รถเร็ว 20:45 น. ถึง 7:33 น. ราคา ... ในตอนนี้ ฟรี... ฟรี!!! ครับ แค่มีบัตรประชาชน ไปแลกที่นั่งได้ฟรี ใครชอบแนวประหยัด ข้อนี้เลย และปัจจุบัน รถไฟตรงเวลาขึ้นแล้ว มีโอกาศสูงที่จะไปถึง อุดรทันเวลารถทัวร์ข้ามไป สปป ลาว



*tip ใครเลือกรถไฟขบวน 133 รถเร็ว ไปหนองคาย ผ่านอุดร ถ้าเราจะเดินทางในวัน ศุกร์-เสาร์ หรือ ช่วงหยุด นักขัตฤกษ์ ให้รีบไปแลกตั๋ว ตั้งแต่เช้าๆ 6:00 น. เลยครับ มันจะได้มีเลขที่นั่งเป็นของตัวเอง



=======================================



รถทัวร์ใช้เวลาเดินทางราวๆ 2 ชั่วโมง ก็ถึงด่านพรมแดนระหว่างประเทศ ระหว่างนี้กระเป๋าจะแจกใบ ตม. ทั้งฝั่งไทย และ ลาวมาให้ เขียนกันก่อน แต่จะไปถึงค่อยเขียนก็ยังทันครับ ไม่ต้องรีบ



=======================================

เบรคกันกับเรื่อง Sim บ้าง ประเทศลาว มีผู้ในบริการสัญญาณโทรศัพท์ หลายเจ้า ทั้ง Bee line, ETL, Unitel และ Laos Telecom ที่กล่าวมานี้ ผมได้ลองมาทั้งหมดแล้ว ยกเว้น ETL ตัวเดียว ... ในความคิดเห็นผม จากเดินทาง root วังเวียง-หลวงพระบาง บ่อยที่สุด ผมแนะนำ Laos Telecom ครับ ดีสุด สำหรับผมครับ



ส่วนแหล่งที่ซื้อ sim นะครับ ให้ซื้อที่ด่าน ตม ลาว เลยครับ พอเดินออกจาก ตม จะอยู่ทางซ้ายครับ ถ้าซื้อตรงนี้ คิดเป็นเงินไทยก็ 100 บาท ถ้วน!! ใช้ได้ 7 วัน ได้ internet 1.5G ( ตามอัตตราแลกเปลี่ยน ณ เวลา นั้นๆ นะจ๊ะ) แต่ถ้าไม่ซื้อตรงนี้ เข้าไปจะโดนเป็น 100 กว่า แล้วนะคร้าบ



=======================================



มาเรื่อง รถมอเตอร์ไซด์กันบ้าง ที่วังเวียง ราคาเช่ารถมอไซด์ จะอยู๋ที่ราวๆ 70,000-80,000 กีบ บวกลบนิดหน่อยแล้วแต่ร้านที่ให้เช่า

ส่วนในหลวงพระบาง ราคาจะแรงหน่อย ราคาเริ่มต้น 90,000 กีบ ส่วนมากจะเฉลี่ยที่ 110,000 กีบ แต่เช่ากับโรงแรม ก็จะโดนบวกอีกนิดนึง ก็ราวๆ 120,000 กีบ ถ้าแพงกว่านี้ เดินออก อย่าเช่า ไปหาร้านใหม่เถอะคร้าบบบ



=======================================



หลังจากออกจาก ตม ลาว เดินทางไปอีกราวๆ 2-3 ชั่วโมง ก็จะถึงจุดพัก ให้เราแวะทานข้าวกัน .. บรรยากาศก็ ประมาณนี้!

ราวๆ บ่ายสามกว่าๆ ก็ถึง วังเวียงแล้วแหละคร้าบบบ ... จากท่ารถ จะมีรถสองแถวไปส่งในเมืองวังเวียง ฟรีครับ .. ตรงนี้ ถ้าใครจองที่พักมาก่อน แล้ว ก็เอาชื่อโรงแรมไปบอกคนขับได้เลย เขาจะได้วนไปส่งให้ ครับ



แต่ถ้าไม่ได้จองมา เข้าไปในเมืองเดินถามๆเอาก็ได้ ครับ


ส่วนผมนอนที่ Vang Vieng Rock backpacker เป็นห้อง Drom 10 เตรียง ราคา 160 บาท(โดยประมาณ) มีอาหารเช้าให้ด้วยนะคร้าบ



ได้ที่พักปุ๊บ ก็ออกไปเดินเล่นพาเพื่อนไปกิน ปาเต๊ะ! แฮมเบอร์เกอร์ลาว .... จากประสบการณ์ เดินทางในลาว ทั้งปากเซ เวียงจันทน์ หลวงพระบาง สำหรับผม ที่วังเวียง เนี่ย ทำอร่อยสุดแล้วครับ! ฟันธง ... เด็ด แซ่บหลาย



วันนี้อากาศฟ้าครึ้มๆ เพราะก่อนกน้านี้ฝนตกมา ทำให้อากาศดูจะเหงาๆ สบายๆ หน่อย เหมาะแก่การ นั่งจิบเบียร์ ที่สุดเลยครับ



=======================================



1. บาร์ริมน้ำซอง



เป็นสถานที่พบปะสังสรรค์ของเพื่อนฝูงโดยแท้ นั่งริมน้ำ หย่อนขาแช่น้ำเย็นๆ จิบเบียร์ กินข้าวกับเพื่อนๆ

เบรคด้วยภาพจากครั้งก่อนหน้านั้นที่ลุยเดี่ยวเที่ยวลาว ซักนิด



จบไป วันแรกกับการเดินทางหลายชั่วโมง ครับบบบบ



=======================================



เช้าอีกวันที่วังเวียง .. ต้องบอกว่าที่วังเวียงเนี่ย มีกิจกรรมให้ทำเยอะมากๆ แบบ วันเดียวเที่ยวไม่หมดหรอกครับ อย่าพยามเลย ... เชื่อผม!



แต่ไหนๆ ก็มาแล้ว มาเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจทั้งที ก็ชิวๆ ดีกว่าครับ ค่อยๆ ซึมซับกับมันไป ถ้ารอบนี้เวลาน้อย ไว้มาใหม่ก็ได้



มาต่อข้อ 2 กับที่ที่ไม่ควรพลาด ในวังเวียง กันเลยและกัน



2 สะพานส้ม & ถ้ำจัง ประมาณ 2.4 กิโลเมตร จากวังเวียง

อีกหนึ่งที่ที่มาวังเวียง ก็ต้องมา เพราะเป็นอะไรที่ไปง่ายที่สุด และถ่ายรูปออกมาได้ชิค คูล สุดๆ ไปเลย ค่าเข้าด่านแรกไม่กี่บาท แต่ด่านสองตอนจะขึ้นไปถ้ำจัง ต้องเสียค่าเขา 20000 กีบครับผม



และที่นี่มีสายน้ำใสๆ ให้ลงไปเล่นได้ด้วยนะครับ แถมยังว่ายเข้าไปในถ้ำน้ำได้อีก ข้างในสวยงามมากๆ น้ำก็ใส เย็นสุดๆไปเลย เอาจริงตรงนี้ฟินกว่าเข้าถ้ำซะอีก อิอิ .... แต่ต้องระวังนิดนึงนะครับ เพราะมันไม่ได้มีระบบความปลอดภัยอะไรรองรับ.. เราต้องว่ายน้ำเป็น มีไฟฉาย และไม่ไปคนเดียว ต้องมีเพื่อนที่สามารถช่วยเหลือกันได้เข้าไปด้วยกันนะครับ .. ด้วยรักและห่วงใย ^^



3 โดดน้ำที่ ลากูน : ประมาณ 8 กิโลเมตรจาก วังเวียง

เสียวสุดๆ ไปเลย เมื่ออยู่บนจุดสูงสุดของที่นี่ ... lagoon ที่ลาว เป็นสระน้ำสีฟ้า สามารถมองเห็นพื้นดินด้านล่างได้เลย (ตอนที่ไม่มีคนมาโดดอะนะ) แต่เนื่องจากช่วงนี้คนเยอะหน่อย มันก็ไม่ฟ้าแล้วแหละ ... และที่นี่ยังมีถ้ำภูคำ ด้วยครับ สามารถเดินขึ้นไปได้ ผมไม่มีภาพ เพราะ ไม่ได้ขึ้นไปอะครับ แต่เคยขึ้นไปเมื่อหลายปีก่อนกน้านั้น ข้างบนมืดมาก ๆๆๆๆๆ ตอนนั้น ไฟฉายที่มีก็อันจิ๊ด เดียว เข้าไปเลยรู้สึกลึกลับ เสียวซ่าน น่ากลัวหน่อยๆ ถ้าใครชอบก็ ลุยโล้ด^^

4 กินปูภูเขา กับบรรยากาศริมลำธาร ประมาณ 25 กิโลเมตร จากวังเวียง

ต้องบอกว่า อร่อยขั้นสุดเลยขอบอก!! อันนี้อยากให้ไปลอง มันเป็นปูนึ่งซีอิ๊ว กินกับแจ่ว ข้าวเหนียว !! ฟิน .. บินได้ กันเลยทีเดียว 555 สนนราคา ปู 60,000 กีบ แต่มื้อนั้นหมดเป็นแสน!!! แต่ได้ความฟิน เป็นล้าน!!



กินอิ่มแล้วก็เลยไปอีกนิดหน่อย ก็จะเจอ Local market มีปูเผา และของ localๆ ขายอีกมากมาย ลองไปเดินเล่นกันดูได้



5 ขากลับ แวะ Wat Pho Karm Chai Mong Kol

เดินขึ้นหอระฆังชมวิว แบบนี้ได้อีก !!

แถมระหว่างทาง ก็ยังมีวิว แบบนี้อีก

ไปเถอะ รออัลลัย ว่าไหมคร้าบ ^^



6 บินได้ดั่งนก กับบอลลูน กับพารามอเตอร์

ที่วังเวียงเราสามารถซื้อ packet บอลลูน และ Paramotor ในราคา 90$ เท่ากันทั้งคู่ ที่โรงแรม หรือที่พัก ที่เราพักได้เลย ส่วนมากก็ Due กันไว้หมด อะครับ

บอลลูน จะใช้เวลาราวๆ 40-45 นาที บินสูง ไปเรื่อยๆ มาเรียงๆ ได้วิวมุมสูงปรี๊ด สวยสุดๆ ไปเลย



ส่วน Paramotor ป๋มไม่ได้ขึ้นก้าบบบ เพราะมันขึ้นสูงน้อยกว่า และจบเร็วกว่า ราวๆ 30 นาที และที่สำคัญสุดๆ เลยนั่นก็คือ ตังค์ !! 555 ไปต่อข้อต่อไปกันเถอะ!

** จากตรงนี้ไป ไม่มีรูปที่ผมถ่ายนะก้าบ แต่เอาข้อมูลมาบอกเพื่อนๆ ไว้ สำหรับวางแผน เดินทางไปเที่ยว คร้าบบบ



7 ถ้ำน้ำ 12.8 กิโลเมตร ห่างจากวังเวียง

การไปถ้ำน้ำ อันนี้ผมแนะนำสำหรับคนชอบ adventure ให้ซื้อ packet one day trip ถ้ำน้ำ เลยครับ ดี ตอนปี 58 ราคามันอยู่ที่ 450 บาท มีรถพาไปที่ถ้ำน้ำ พร้อมอาหาร 1 มื้อ และ พายเรือคายัค ระยะทาง 12 กิโลเมตร ตามน้ำ กลับมาที่ วังเวียง



8 Blue Lagoon 3 18.8 กิโลเมตร จากวังเวียง

เป็นสถานที่ที่สร้างขึ้นมาให้โดนน้ำเล่นมันส์ๆ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งที่ที่น่าสนใจมากๆ สำหรับคนชอบลงน้ำ



9 ผาเงิน 4.7 กิโลเมตร จากวังเวียง

จะบอกว่า 4.7 กิโลเมตร จากวังเวียง ใช่ว่าจะขับรถไปถึงนะครับ เพราะต้องเดินเท้าอีก 20 นาที(ตามป้าย) แต่เอาเข้าจริง เดินร่วมชั่วโมงกันทั้งนั้น เอ๊ะ หรือป้ายที่บอกว่าไอ้ 20 นาที จะเป็นขาลง? เอิ๊ก



ผาเงินเป็นวิวมุมสูง สำหรับคนที่ชอบเดินเขา ชอบวิวงามๆ ด้วยหยาดเหงื่อของตัวเอง ^^ ก็ต้องจัดไป เพราะเป็นอีกสถานที่ที่เหมาะแก่การไปดูตะวันตกดินม๊วกกก

===========================================



จริงๆแล้ววังเวียงยังมีที่เที่ยว และกิจกรรมอีกมากมาย ให้เราได้ทำ เช่น



- Tubing จิบนั่งในห่วงยางล่องไปตามแม่น้ำซอง



- น้ำตก Kaeng Nyui ราวๆ 10 กิโลเมตรจากวังเวียง แนะนำไปช่วงหน้าน้ำ นะครับเพราะหน้าแล้ง มัน แล๊งแล้ง



- Elephant Cave (ถ้ำช้าง) ราวๆ 14 กิโลเมตรจากวังเวียง



- Heart Beat Pub คนลาว เกาหลี เที่ยวเยอะที่นี่



- Sakura Bar จะมีฝรั่ง คนไทย เกาหลี หลายเชื้อชาติ



เยอะเนอะ เยอะขนาดนี่แล้ว วันเดียวจะเที่ยวหมดได้อย่างไร??

ปะ ไปต่อกันที่หลวงพระบางกันเถอะ ... เช้าวันใหม่แล้ว ก็ต้องเติมพลังกินข้าว สร้างแรงบันดาลใจกันก่อน... ด้วยการดวลบอลกับเพื่อน… ต้องบอกว่าผมเก่งมาก 555 ชนะไป 10-7 เย้ๆ

การเดินทาง จากวังเวียงสู่หลวงพระบางนั้น มีรถออก สูงหลวงพระบาง แทบทุกชั่วโมง ตั้งแต่เช้าจนถึงบ่าย 3 โมงได้ เพราะงั้นไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีรถไปครับ และสถานที่จองรถนั้น ก็ตามโรงแรม กับร้านขายทัวร์ ที่มีอยู่เกลื่อน วังเวียงเลยครับ ราคาก็ราวๆ 400-500 บาท แล้วต่อรอบแล้วแต่ชนิด รถ



การเดินทางสู่ หลวงพระบางนั้น จะมี 2 เส้นทาง

1. เส้นทางสายเก่า จะใช้เวลาเดินทาง 5-6 ชั่วโมง เส้นทางจะโค้งเยอะมากกกกก เยอะขนาดที่ชาวต่างชาติ ที่นั่งไปด้วยอ๊วกแตกในรถ .... - -‘ เพื่อนๆ คิดดูดิ ผมต้องดมอ๊วก จนถึงที่หมาย ... มันจะสยองขนาดไหน!!? เส้นทางจะเป็นการขับรถ เลาะเขา กับผ่านหมู่บ้านไปเรื่อยๆ และแวะให้ทานข้าว 1 จุดครับ วิวสองข้างทางก็จะเป็นวิถีชีวิตชนบท



2. เส้นทางสายใหม่ ใช้เวลาราวๆ 4 ชั่วโมงซึ่งเร็วกว่า สายเก่า แต่จะมีรอบรถวิ่งแค่เพียงวันละ 2 รอบ คือรอบ 9:00 กับรอบ 13:00 เท่านั้น ... เส้นทางนี้ จะไม่โค้งเยอะเหมือนเส้นแรก แต่จะเวิ้งว้างงง..มาก มีจุดแวะพัก 1 จุดเหมือนกัน ส่วนวิว 2 ข้างทางก็คนละแบบ อะครับ อันนี้จะได้วิวธรรมชาติ กว่า



ราวบ่ายๆ กว่าๆ ก็ถึงหลวงพระบางแล้วครับ จากท่ารถหลวงพระบาง ที่รถตู้จอดนั้น ยังห่างจาก ใจกลางหลวงพระบาง โขอยู่ ราวๆ 2 กิโลกว่าๆ แต่มีรถบริการราคาคนละ 20,000 กีบ และมันช่างเป็นวันที่ร้อนนนนนสั....... รัซเซียเลย ครั้นจะเดินก็ .... สงสัยจะแห้งตายแน่ๆ เลยนั้งรถแหละ ดีแล้ว

==============================================



ผมเริ่มต้นที่ พระบรมมหาราชวังหลวงพระบาง

แล้วก็เดินหาที่พักไปเรื่อยๆ จนได้ที่พักที่มีชื่อว่า Joy Friends Hostel ราคา 4$ ก็ เกือบๆ 150 บาท/คืน นี่นี้ห้องนึงแออัดหน่อย เพราะใช้เตียง 3 ชั้น เลยทีเดียว ใครนอนชั้นที่สาม ก็จะถูกลงอีกนิด นึง



แต่ข้อดีของที่นี่ ผมว่ามันจะดีมากๆ ถ้ามานอนหลายคืน และมากับเพื่อนๆ เพราะมีครัว ให้ใช้ด้วย สามารถทำกับข้าวนั่งกินกันกับเพื่อนๆ มันคงจะโคตรฟิน+

เย็นวันนั้น ในเมื่อมันยังไม่หมดวัน เราก็ต้องเที่ยวให้คุ้มกันหน่อย มาเริ่มเที่ยวหลวงพระบางกันเลยดีกว่า กับที่เที่ยวที่ พลาดได้ไง!



1. พระธาตุภูสี (พูสี)

เป็นที่ที่ต้องไป เมื่อมาถึง หลวงพระบาง ก็เพราะว่า นอกจากจจะไปชมไปสักการะพระธาตุแล้ว ข้างบนยังเห็นวิว เมืองหลวงพระบาง แบบ 360 องศาได้อีกด้วย แต่ก็ต้องเดินบันไดขึ้นไป 328 ขั้น นะจ๊ะ ... แต่เชื่อเถอะว่า คุ้ม! ยิ่งวิวพระอาทิตย์ตกดิน ยิ่งถือเป็นสุดยอดไฮไลท์ อีกอย่างนึงของหลวงพระบางเลยก็ว่าได้ ราคาค่าเข้าก็ 20,000 กีบ ... ปล. ถ้าใครไม่อยากเสียตัง ก็ขึ้นหลังพระอาทิตย์ตก ได้ ฟรี ครับ

คนก็เยอะเป็นปกติ อะครับ ของดีใครก็อยากมา จริงไหม ฮะ



ว่าแล้วก็ จัดไปชุดใหญ่ไฟกระพริบ ปิ๊บๆ กับรูป วิวบนยอดพูสี กันเลย



ถึงแม้แสงตะวันลับขอบฟ้าไปแล้ว ก็ยังมีดวงดาวบรพื้นดินให้เรามอง

2. ตลาดมืด

ตลาดมืด .. หลังจากชมวิวมุมสูง ของหลวงพระบางแล้ว เมื่อเราเดินลงมา ตลาดก็จะ เต็มไปด้วยผู้คนเดินจับจ่ายใช้สอยกัน ถ้าบ้านเราก็เรียนว่าถนนคนเดิน นั้นแหละครับ แบบนั้นเลย ส่วนของที่เอามาขายก็ งานฝีมือ ศิลปะ วัฒนธรรม เงิน ทอง อัญมณี ภาพวาดจากศิลปินท้องถิ่น ผ้าพื้นเมือง เสื้อผ้าแบบพื้นเมือง และของกินตามสไตล์ หลวงพระบาง



3. ใส่บาตรข้าวเหนียว

สำหรับคนที่ตื่นเช้าๆ สูดอากาศบริสุทธิ์ และอยากจำทำบุณใส่บาตร ก็ให้ออกมารอ บริเวณ ตลาดมืด นั้นแหละ ครับ ราวๆ 6:00 น. พระ และ เณร ก็เริ่มเดินบิณฑบาต กันแล้ว .. ส่วนของใส่บาตร อันนี้ไม่ต้องห่วงครับ เพราะมีชาวบ้าน ทำเตรียมไว้ให้บริการเราอยู่แล้วครับ

4. เดินตลาดเช้า หลวงพระบาง

หลังจากใส่บาตรเสร็จ ก็ลองเดินเล่นดู ตลาดจะเริ่มตั้งแต่ตี 5:30 น. ก็ตั้งของขายกันเสร็จหมดแล้ว ตลาดเช้าของหลาวพระบางจะเน้นของของสด เช่น กบ เขียด ปลา เป็นๆ โดยเฉพาะผักต่างๆ ขายกันจำนวนมาก ที่นี่ไม่มีห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ทำให้ตลาดสดแห่งนี้คึกคักทุกวัน

5. กาแฟประชานิยม

เป็นอีกร้านนึงที่ pop มากๆ ยามเช้า ... จำได้ว่าครั้งที่ไปหลวงพระบางครั้งแรก ร้านประชานิยม ยังไม่ได้เพิ่มโต๊ะ จนล้นไปถึงริมน้ำของ เลย แต่ตอนนี้ pop ซะเป้นอีกที่นึง ที่ใครไปแล้วก็ต้อง Check-in กันเลยทีเดียว

ร้านนี้นอกจากกาแฟ แล้ว ยังมี เฝอ ข้าวเปียก ขายอีกด้วย เรียกว่า มาร้านเดียว มื้อเช้า จบแบบประหยัดๆกันเลยทีเดียว!

6. น้ำตกกวางสี (Kuang Si Waterfall) 29 กิโลเมตรจากหลวงพระบาง

เรามาเริ่มเดินทางออกนอกตัวเมืองหลวงพระบางกันบ้าง เราจะเริ่มต้นที่ Kuang Si Waterfall กันก่อนเลยครับ



ที่นี่ต้องเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในหลวงพระบาง มีหลายชั้น สามารถขึ้นไปได้ ความสูงก็ราวๆ 70 เมตร ที่นี่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้เล็กใหญ่รอบด้าน

บริเวณทางเข้าน้ำตกเป็นยังศูนย์อนุรักษ์และดูแลหมีดำ ซึ่งเราสามารถชมหมีดำตัวใหญ่ได้อย่างใกล้ชิด ที่นี่มีอากาศบริสุทธิ์



นักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินิยมมาเล่นน้ำกันที่น้ำตกแห่งนี้มาก เพราะทำใส่ เย็นสบาย สามารถกระโดดลงจากต้นไม้ใหญ่ลงสู่แอ่งน้ำได้อย่างสนุกสนาน มาก รวมทั้งผม ด้วย ^^

7. ฟาร์มกาแฟขี้ชะมด Oum Huck (อุ้มฮัก)

อยู่ระหว่างทางไป น้ำตกกวางสี ฝั่งริมแม่น้ำ ครับ เป็นร้านกาแฟที่เพิ่งสร้าง ค่อยๆทำ และมีฟาร์ม ชะมด เพื่อทำกาแฟขี้ชะมดด้วย ครับ



โดยเจ้าของบอกว่า เริ่มแรก ได้มีชาวบ้านไปจับชะมดในป่ามาขายให้ แล้วก้ค่อยๆ เริ่มทำการเลี้ยง เพื่อผลิตกาแฟ ... ที่นี่มีกาแฟ ปกติในราคากิโลกรัมละไม่กี่บาท จน หลายหมื่นบาท



อุ้มฮัก ออแกนิค ฟาร์ม เป็นสถานที่ที่สร้างขึ้นมาให้นักท่องเที่ยวแวะพักจิบกาแฟ ชิวๆ โดยราคากาแฟ ก็ 15,000 กีบ แต่ถ้าจะกินกาแฟขี้ชะมด ก็แก้วละ 500 บาทอีกนะ (แพงเนอะ T-T)



โดยวิธีการทำ ก็เอาเมล็ดกาแฟสดๆ ไปให้ชะมดกิน แล้วถ่ายออกมา แล้วก็เก็บขี้มันไว้ 2 ปี !!! 2 ปี โคตรนาน เลยเนอะ

เครื่องคั่วกาแฟ



เนี่ยแหละ หน้าตากาแฟ กิโลละ 24,000 บาท !!!



8 น้ำตกตาดแส้ Tad Sae Waterfall 15 กิโลเมตร จากหลวงพระบาง



เป็นอีกน้ำตกนึงที่มีกิจกรรม เยอะมากๆ แถมการเดินทาง ต้องนำรถไปจอดที่ท่าเรือ แล้วนั่งเรือ ต่อไปอีก ครึ่งนึง ด้วยครับ การเดินทาง ก็ไปตาม Google ได้เลย ไม่หลงครับ



แถมที่นี่มีกิจกรรม ขี่ช้าง และ Zipline อีกด้วย

9 น้ำดง Nahm Dong Park 10 กิโลเมตร จากหลวงพระบาง



แหล่งท่องเที่ยวน้ำดง นี่เพิ่งจะเกิดใหม่ได้ไม่นานมากนัก ผมได้คำแนะนำจากเพื่อนชาวลาวมา จึงได้รู้จัก และอยากจะเอามาแชร์มากๆ ที่นี่ห่างจาก หลวงพระบาง แค่ 10 กิโลเมตร แต่... แต่ 6 กิโลเมตรก่อนถึง (โดยประมาณ) จะเป็นถนนลูกรังแดง เจอรถใหญ่สวนมาทีนี่ไม่ต้องพูดถึง ! แทบสำลักออกมา

แต่ถ้าไปถึงแล้ว ที่นี่มีสเน่ห์มากๆๆๆๆๆๆ นอกจากเพื่อนๆ จะได้เล่นนั่งชิลๆ ฟังเสียงน้ำตกแล้ว ที่นี่ยังมีสะพานเชือก สูงมากกกก ให้เดินกันเสียวสันหลัง อีก แค่นั้นยังไม่พอ ยังมีฟาร์มเลี้ยงผึ้งเล็กๆ ด้วย แถมมีร้านกาแฟ ชมวิวภูเขา ชิลๆ อีก ... สุด! ครับขอบอกว่าสุด!

ปล. หน้าแล้งจะไม่มีน้ำ(เลย) นะครับ

10 วัดในเมืองหลวงพระบาง

ในเมืองหลวงพระบางมีวัดที่งดงามอยู่มากมาย ให้เราได้ไปเดินชมกัน แต่วัดที่แนะนำกันก็ต้อง



- วัดใหม่สุวรรณภูมาราม



- วัดวิชุนราช หรือวัดหมากโม



- วัดเชียงทอง



- พระบรมมหาราชวังหลวงพระบาง



11 ถ้ำติ่ง หรือถ้ำปากอู Pak Ou Caves



ภายในถ้ำติ่งนั้นประกอบไปด้วยพระแกะสลักไม้ ที่วางเรียงรายทั้งขนาดองค์เล็กและองค์ใหญ่สลับกันไป มีจุดให้ไหว้พระขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ส่วนถ้ำติ่งบนจะต้องเดินขึ้นบันไดอ้อมไปทางด้านหลัง ขนาดถ้ำจะมีขนาดใหญ่กว่า มีหินงอกหินย้อยและพระแกะสลักไม้วางไว้ให้ได้เคารพสักการะด้วย



12 Utopia ผับ

เป็นบาร์ฝรั่งที่ Pop ที่สุดเลยก็ว่าได้ เน้นสายชิล ถ้าไปช่วงฤดู หนาว อาจจะได้เห็นหิ่งห้อยด้วย สายชิลไม่ควรพลาด ... ที่นี่ปิด 5 ทุ่มนะครับ



13 ดาวฟ้า ผับ

สายตึ๊ด ดนตรีสด ต้องมา ที่นี่จะเป้นคนในพื้นที่ มาเที่ยวซะส่วนมาก มีเกาหลีบ้างเล็กน้อย ที่นี่จะปิด เที่ยงคืนเท่านั้น นะครับ แต่รับรอง 5 ทุ่มเนี่ย สนุกแน่นอน!



========================================================



แนะนำเพิ่มเติมครับ

ก่อนกลับ ร้านกาแฟ อีก 1 ร้านที่ไม่ควรพลาดก็ Saffron Coffee and Bakery ซื้อแล้วเดินไปนิ่งจิบริมน้ำของ ฟิน รับรอง!

ตามด้วย เฝอหมู 10,000 กีบ อร่อยคุ้ม มื้อเที่ยงที่ร้านในซอยริมถนนตลาดมืด

ได้เวลากลับบ้าน..... จากตัวเมืองหลวงพระบาง เราต้องจ้างรถรับจ้างเพื่อไปที่สนามบิน เราสามารถไปเดินไปถามรถรับจ้างต่างๆ ริมถนนได้ทุกคันเลย ราคาก็จะอยู่ราวๆ 15,000-20,000 กีบ ส่งถึงสนามบินเลย



จากหลวงพระบาง ผมจะไม่แนะนำให้กลับโดยรถโดยสาร นะครับ เพราะว่าราคาตั๋วเครื่องบินที่ไม่ใช่ช่วงวันหยุด ของ air asia เพิ่งจะ 1790 บาท เท่านั้น เดินทางเพียง ชั่วโมงเศษๆเอง แต่ถ้าตรงกับเสาร์หรืออาทิตย์ ก็จะราวๆ 2,300 กว่าบาท ถึงอย่างนั้น ก็ยังคุ้มกว่า เดินทางโดยรถโดยสารเพราะการจะกลับทางรถโดยสารให้ประหยัดที่สุด ก็ต้องนั่งรถ 4-500 บาท มาลง วังเวียง แล้วต่อรถทัวร์ของ บขส. ที่วังเวียง 300 กว่าบาท ข้ามมาอุดร แล้วก็ต้องนั่งรถจากอุดร อีก ราวๆ 500 บาท เพื่อมาถึง กทม ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องใช้เงินโดยประมาณ 1300-1400 บาท และต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 20 ชั่วโมง (ถ้าหลวงพระบาง แล้วยิงยาวมาเวียงจันทน์ จะใช้เงินเยอะกว่านี้)



บ๊ายบาย สปป ลาว



แล้วพบกันใหม่



หวังว่าเพื่อนๆ จะได้ประโยชน์ ไม่มากก็น้อยนะคร้าบ


หรือแวะเข้ามาพูดคุยกันได้ที่

FB https://www.facebook.com/ThanaphongA

Page ลุยเดี่ยวเที่ยวไทย https://www.facebook.com/MheePaTheiyw

ความคิดเห็น