ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของจังหวัดแม่ฮ่องสอนในช่วงฤดูฝน

กรีนซีซั่นจะสวยเขียวเพียงใด ตามผมไปรับชมกันได้เลยครับ

ภาพในโลกออนไลน์ที่ทะเลหมอกท่วมท้นปกคลุมร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขาบ้านจ่าโบ่จูงใจให้ใครต่อใครมาที่นี่ ไม่เว้นแม้แต่ผม

เราใช้เส้นทางจากสนามบินเชียงใหม่มายัง อ.ฮอด ผ่านออบหลวง สวนสนบ่อแก้วซึ่งตั้งอยู่ริมทาง จะไม่แวะก็อดใจไม่ไหว ก็มันสวยขนาดนี้ เลยแวะซักหน่อย ก่อนไปยัง อ.แม่สะเรียง ซึ่งเป็นจุดหมายหลัก

อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ฤดูฝนเขียวสดชื่น ทุ่งนาเขียวขจี

มา อ.แม่สะเรียง ก็ต้องไปไหว้ 4 พระธาตุ คือพระธาตุจอมแจ้ง พระธาตุจอมทอง พระธาตุจอมกิตติ และพระธาตุจอมมอญ ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันในตัวอำเภอแม่สะเรียง ในภาพคือ วัดพระธาตุจอมแจ้ง

วิวจากด้านบนวัดพระธาตุจอมแจ้ง สวยงามเต็มไปด้วยมวลหมอก

ถัดออกมาไม่ไกลจะเป็นที่ตั้งของวัดพระธาตุจอมทอง

องค์พระธาตุจอมทอง

พระธาตุที่3 คือวัดพระธาตุจอมกิตติ

และสุดท้ายคือ วัดพระธาตุจอมมอญ ซึ่งทั้ง 4 พระธาตุนี้จะตั้งอยู่บนเนินเขา ทำให้เห็นวิวทิวทัศน์ ทุ่งนา บ้านเรือนในมุมสูงได้อย่างกว้างไกล

วิวด้านบนพระธาตุจอมมอญ

เส้นทางการเดินทางเที่ยวแม่ฮ่องสอนที่หลายคนอาจคุ้นเคยคือการเที่ยวเป็นวงกลมตามภาพ บางทีก็อยากวงรี หรือสี่เหลี่ยมดูบ้างเหมือนกันนะ

จาก อ.แม่สะเรียงมุ่งหน้าสู่ อ.แม่ลาน้อย ระยะทางราว 30 กิโล

มาแม่ลาน้อยทั้งทีก็ต้องแวะเฮินไตรีสอร์ท ที่พักหลักร้อยวิวหลักล้าน เบอร์โทรที่พัก 053 689 033

บรรยากาศโดยรอบเฮินไตรีสอร์ท

จากเฮินไตรีสอร์ทมุ่งหน้าสู่บ้านห้วยห้อม อ.แม่ลาน้อย รู้สึกชอบวิวข้างทาง

จากเฮินไตรีสอร์ทมุ่งหน้าสู่บ้านห้วยห้อม อ.แม่ลาน้อย นี่คือวิวข้างทาง

ก้าวย่างแรกของการเข้ามาสัมผัสบ้านห้วยห้อม หมู่บ้านในหุบเขา เส้นทางรถยนต์ไปได้ หรือจะแบ็กแพ็คก็มีรถสองแถววิ่งจาก อ.แม่ลาน้อย

ถึงละ ที่นี่บ้านห้วยห้อม

มุมมหาชนที่มาบ้านห้วยห้อมต้องมาเก็บภาพ

ที่บ้านห้วยห้อมมีโฮมสเตย์ที่พักแบบเรียบง่าย ในราคาคืนละ 150 ต่อคน อาหารก็มื้อละ 70 บาทต่อคน ทั้งหมู่บ้านก็มีโฮมสเตย์อยู่หลายหลัง เบอร์โทรโฮมสเตย์บ้านห้วยห้อม 0898540914

นอนแบบนี้นะ มีมุ้งกางให้ มีฟูก ไม่มีผี

อาหารก็แบบนี้ ไปกัน 2 คน จุกเลย ข้าวเติมได้ไม่อั้น

กาแฟแก้วละ 30 บาท วิว 3 แสนแปด

มุมมหาชนอีกซักใบ

หมู่บ้านห้วยห้อมประมาณนี้

อาชีพของชาวบ้านที่นี่จะเป็นการทอผ้าขนแกะ แกะก็จะเลี้ยงเอง ตัดขนเอง ทอเอง

ด้านหลังหมู่บ้านมีนาขั้นบันได้น้อยๆ เดินเล่นเที่ยวรอบหมู่บ้านได้ มีแต่รอยยิ้ม

อีกอาชีพคือการปลูกกาแฟ

จากบ้านห้วยห้อมพวกเราเดินทางมาที่โครงการหลวงแม่ลาน้อย ซึ่งห่างกันเพียง 5 กิโลเมตร รถยนต์ไปได้ทุกชนิดเว้นรถเมล์สิบล้อ55+ ในภาพคือ บ้านดง หมู่บ้านที่อยู่ก่อนถึงโครงการหลางแม่ลาน้อย

ว่ากันว่าบ้านดงแห่งนี้มีนาขั้นบันไดสวยที่สุดในสยามเลยนะ

ถ้าเอาป่าบงเปียงมาเทียบ ก็รักพี่เสียดายน้องแล้วล่ะ

ถัดจากบ้านดงก็มาถึงโครงการหลวงแม่ลาน้อย อีกหนึ่งโครงการของพ่อเพื่อให้ชาวเขามีอาชีพ มีวิถีชีวิตที่ดีขึ้น

ชาวบ้านกำลังคัดแยกผักสดๆ ที่ปลูกในโครงการหลวง

จากแม่ลาน้อย พวกเราเดินทางมุ่งหน้าสู่ตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ระหว่างทางขอแวะเติมน้ำตาลกันที่ร้านกาแฟสามหมอก ซึ่งตั้งอยู่ตรงจุดชมวิวแม่ลาหลวง

หน้าฝนก็จะเงียบๆ หน่อย

บรรยากาศดีงาม ชวนง่วงนอน

กาแฟสามสิบ วิวสามหมื่น

เมื่อเดินทางมาถึงตัวเมืองพวกเราแวะเที่ยวกันที่ซูตองเป้ สะพานไม้แห่งศรัทธา

สะพานไม่ไผ่ที่สร้างขึ้นจากแรงศรัทธาเพื่อให้พระภิกษุสงฆ์ได้เดินบิณฑบาตรไปมา

บรรยากาศโดยรอบเขียวขจี

ยามเย็นวันนี้เราขึ้นมาด้านบนพระธาตุดอยกองมู วิวจากด้านบนมองลงไปเห็นตัวเมืองแม่ฮ่องสอน

อีกฝั่งก็สวยงาม

ร้านกาแฟก่อนตะวันลาลับแนวเหลี่ยมภูผา ชื่อร้านยาวไปนิด ตั้งอยู่บริเวณลานจอดรถพระธาตุดอยกองมู

องค์พระธาตุดอยกองมู ยามพลบค่ำ งดงามตระการตา

อีกหนึ่งไฮไลท์การมาเยือนแม่ฮ่องสอนคือไปถ่ายภาพ วัดจองคำ-จองกลาง

ฤดูฝนสำหรับปางอุ๋งจะค่อนข้างเงียบสงบ นักท่องเที่ยวน้อย

ไม่ว่าจะฤดูไหน ปางอุ๋งยังสวยงามเสมอ

บรรยากาศโดยรอบในฤดูฝน

ถ้ามาปางอุ๋งก็ต้องแวะไปเที่ยวบ้านรักไทย ซึ่งอยู่ห่างกัน 6 กิโล

หมู่บ้านชาวจีนยูนานโบราณ ที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์วัฒนธรรมเอาไว้ได้อย่างงดงาม

มาบ้านรักไทยก็ต้องมาเก็บภาพลีไวน์รักไทย

ที่พักที่โอบล้อมด้วยไร่ชา ช่างเหมือนภาพในจินตนาการ

ค่ำคืนนั้นเรามาพักที่บ้านจ่าโบ่ อ.ปางมะผ้า ที่นี่จะมีโฮมสเตย์ที่พักมากมายของชาวบ้าน ราคาก็ตกคนละ 200 บาท บวกกับค่าอาหารอีกคนละ 100 บาท อะไรจะถูกปานนั้น

ยามเช้าที่บ้านจ่าโบ่

อีกหนึ่งไฮไลท์คือการเดินขึ้นมาด้านบนภูผาหมอก เดินเท้าไม่ไกลราว 2-300 เมตร แต่ชันนิด ควรมีคนนำทางซึ่งเป็นชาวบ้านให้พาขึ้นมา

หิวละ แวะทานก๋วยเตี๋ยวห้อยขากันหน่อย เปิดร้านไว 7 โมงก็เปิดให้บริการละ

ยังไม่มีคน ร้านก๋วยเตี๋ยวธรรมดาแต่วิวเกินบรรยาย

ก๋วยเตี๋ยวชามละ 30 วิวเอาไปเลย 3 ล้าน

มาดูห้องครัวของโฮมสเตย์ที่พวกเราพักกันบ้าง ประมาณนี้

ยามเช้าชาวบ้านออกไปทำสวนทำไร่ เลี้ยงสัตว์

ผู้หญิงอยู่บ้านก็เย็บปักถักร้อยกันไป สร้างรายได้

จากบ้านจ่าโบ่พวกเราเดินทางมาที่ อ.ปาย

สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย เอกลักษณ์อย่างหนึ่งเมื่อมาปายต้องแวะมาสัมผัสบรรยากาศ

ไม่ไกลกันเป็นที่ตั้งของกองแลน ประหนึ่งแกรนแคนยอน ชาวต่างชาตินิยมมาเดินเล่นกันมาก

ไปกันที่บ้านแพมบก ใน อ.ปายกันบ้าง ที่นี่เป็นที่ตั้งของสะพานบุญโขกู้โส่ อ่านยากเนอะ เส้นทางเข้ามารถยนต์สามารถมาได้ แม้ทางแคบซักนิด

สร้างขึ้นเพื่อให้พระภิกษุสงฆ์ได้เดินบิณฑบาตร ยาวราว 800 เมตร

ชาวต่างชาติชอบมาเดินอีกเช่นกัน ปายยามนี้ฝรั่งเยอะมาก

มาปายก็ต้องแวะมาสัมผัสวิถีชีวิตความเป็นชุมชนชาวจีนยูนานที่บ้านสันติชล

บรรยากาศโดยรอบหมู่บ้านสันติชล

มีสินค้า ใบชา ถ้วยชาม แก้วน่ารักๆ แบบชาวจีนจำหน่าย

บรรยากาศโดยรอบของหมู่บ้านสันติชล

ได้เวลาหาที่พักค้างคืนใน อ.ปาย เคล็ดลับของลุงม่วงคือ เปิดเวป Traveloka พิมพ์ที่พักปาย ค้นหาง่ายฉับไว เอาที่นี่ละกัน คืนละ 800 กว่าบาท

ที่พักที่เราเลือก ชื่อว่า Maripai resort

บรรยากาศในห้องพัก

ที่นี่เค้าจัดสวนได้งดงาม มีคู่รักมาถ่ายภาพพรีเวดดิ้งกันด้วยนะ

ค่ำคืนนั้นเรามาเดินที่ถนนคนเดินปาย

ฝนตกตลอดเวลา ทำให้ไม่ค่อยมีคนเดินมากนัก

เช้าวันนี้เราเดินทางมายัง จุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหล ซึ่งขึ้นมาทางเดียวกันกับบ้านสันติชล

บรรยากาศด้านบนไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมากนัก เช้านี้มีทะเลหมอกให้ได้ชม สวยงามประทับใจ

พวกเราอยู่ด้านบนราวชั่วโมงกว่าๆ ก็เดินทางลงมา แม้จะสายแล้วแต่สายหมอกก็ยังทำงาน

ปิดทริปกันที่ คอฟฟี่อินเลิฟ ก่อนเดินทางกลับสู่เชียงใหม่

การเดินทางครั้งนี้ใช้ระยะทางราว 8-900 กิโลเมตร

เที่ยวแม่ฮ่องสอนวิ่งเป็นวงกลม ในฤดูฝนเขียวสดชื่น

สุดท้าย ขอบคุณผู้สนับสนุนการเดินทาง

สายการบิน Nok Air

รถเช่าเชียงใหม่ Tcarrent รถเช่าเชียงใหม่

ขอบคุณที่ติดตามอ่านมาจนจบ แล้วพบกันใหม่ครับ

ม่วงมหากาฬ

 วันศุกร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2560 เวลา 16.37 น.

ความคิดเห็น