จังหวัดภูเก็ตบ้านเราขึ้นชื่อเรื่องที่พักที่หลากหลายมีทั้งเก่าใหม่ มีตั้งแต่ระดับ2- 5 ดาว
ให้เลือกใช้สำหรับพักผ่อนรีเฟรชร่างกายวันนี้ผมจะพาไปรู้จักกับอีกหนึ่งโรงแรม นั่นคือ
COMO Point Yamu, Phuket
โคโม่ พอยต์ยามู เป็นโรงแรม 5 ดาวระดับไฮเอนครับ เปิดบริการมาได้ประมาณ 4-5 ปี
ตั้งอยู่พื้นที่ส่วนปลายสุดของแหลมยามู อยู่ห่างจากสนามบินใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที
จุดเด่นของที่นี่คือสามารถมองเห็นวิวทะเลอันดามันและวิวอ่าวพังงาได้เกือบ360 องศา แทบทุกมุมของโรงแรม
แต่ที่นี่ไม่ชายหาดให้นะครับ ทางโรงแรมจึงมี Como beach club สำหรับแขกที่ต้องการเล่นน้ำ
ตั้งอยู่ที่ เกาะนาคาใหญ่ โดยมีเรือสปีดโบ๊ทของทางโรงแรมพาไปยังเกาะนาคาใหญ่ ใช้เวลาเพียง 15 นาที
เอาหละครับ เพิ่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปทำความรู้จักกับ โคโม่ พอยด์ ยามู กันครับ
สำหรับการไปพักผ่อนที่ภูเก็ตครั้งนี้ เราเลือกเดินทางกับ สายการบินบางกอกแอร์เวย์
ที่ให้บริการ ไป-กลับ 9 เที่ยวบิน/วัน มีให้เลือกตั้งแต่ 6 โมงเช้า จนถึง 3 ทุ่ม กันเลย
แถมมีเลานจ์ และ อาหารให้บริการบนเครื่องบินด้วย ดีงามพระรามแปด ที่สำคัญไม่ต้องเสียเงินค่าโหลดกระเป๋าเดินทางอีก
เดินทางมาถึงจังหวัดภูเก็ตด้วยควาสวัสดิภาพ รับกระเป๋าและรถเช่ามุ่งหน้าสู้ โคโม่ พอยด์ ยามู กัน
มาถึงประมาณเที่ยงนิดๆยังเช็คอินไม่ได้ นะครับ เราเลยไปทานมื้อกลางวันกันที่ห้องอาหาร ลาเซียน่า กันก่อนครับ
หลังจากทานมื้อกลางวันเสร็จภรรยาขอถ่ายรูปกับวิวพาโนรามาของสระว่ายน้ำที่ยาวกว่า 100 เมตร
วิวอลังการงานสร้างมาก ถึงแม้ว่าแดดจะร้อนสักแค่ไหน ก็ยอมกับความสวยระดับเทพของที่นี้ครับ ภรรนาแฮปปี้ สุดๆ
ปรกติเจอแดดนางบ่นไปแล้ว แต่เจอวิวแบบนี้ต้องยอม
หลังจากทานมื้อเที่ยงเสร็จ พนักงานแจ้งว่าห้องพักเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ
สองสามีภรรยาเดินตามพี่พนักงานมาเช็คอินที่ล็อบบี้ ต้อนรับด้วยผ้าเย็น พวงมาลัย และ เวลคัมดริ้ง
ล็อบบี้ที่นี้ใหญ่โต โอโถ่งมากครับ ตกต้องเก๋มากนำเอาความเป็นไทยเข้ามาใช้ได้อย่างลงตัว
ตอนกลางวันดูธรรมดา แต่พอตอนกลางคืน นี้สวยงามอร่ามตาเลยครับ
บริเวณล็อบบี้ มีทั้ง ช็อปสำหรับขายของที่ระลึกและสินค้าจากโรงแรม รวมถึงห้องให้คำปรึกษาเกี่ยวกับทัวร์
และห้องอาหารส่วนตัวหรือมาเปฌรหมู่คณะใหญ่ ห้องมิตติ้ง มีเก้าอี้และ หมากรุกไว้ให้นั่งเล่นเพลินๆ
สามารถชมพระอาทิตย์ตกจากห้องนี้ได้เลยครับ
ห้องพักของเราในทริปนี้อยู่ในโซน South wing ครับ ไปดูห้องพักกันเลย กับห้อง เบย์ สวีท ก่อนเข้าห้องพัก
มีขันใส่น้ำลอยดอกไม้ไว้ด้วยครับ เปลี่ยนดออกไม้ทุกวันไม่ซ้ำกันเลย ไม่แน่ใจว่าเค้าใช้ทำอะไร แต่มันดีต่อใจ สวยงาม
ห้องพักผมติดกับทางเดินไปยังอีกฝั่งหนึ่งซื่องทางเดินนี้ถือเป็นแลนด์มาร์คอีกหนึ่งอย่างของ โคโม่ครับ ใครมาก็ต้องถ่ายรูป
เข้าห้องพักกันดีกว่าครับ เปิดประตูเข้ามาจะพบกับห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ ด้วยโซฟาสีฟ้า และโทรทัศน์
โต๊ะทานข้าวพร้อมกับเวลคัมฟรุตไว้ต้อนรับ สำหรับการตกแต่งของ โคโม่ พอยต์ยามูจะเป็นแนวผสมผสาน
ความเป็นไทยกับความทันสมัยแบบตะวันตกโดยนักออกแบบชาวอิตาลี ภายในแต่ละห้อง โทนสีจะแตกต่างออกไปบางห้องสีเข้ม
บางห้องสีอ่อน ตามสีของน้ำทะเลในเวลานั้น ทำให้เห็นถึงความละเอียดอ่อนในการตกแต่ง
เมื่อเดินเข้าไปด้านในจะพบกับโซนห้องน้ำ มี ที่ว่างกระเป๋า และ ที่แขวนเสื้อผ้า ส่วนของห้องน้ำ
จะเจอกับพระเอกเลย คืออ่างอาบน้ำใหญ่สะใขมาก แช่ได้สองคนสบายเลย อ่างล้างหน้า 2 อ่างไม่ต้องแย่งกัน
อุปกรณ์อาบน้ำใช้ของแบรนด์ตัวเองที่ผลิตโดยโรงงานจากต่างประเทศ
ไปดูในส่วนของห้องนอนกันบ้างครับ ห้องโล่งสบาย เตียงนอนถูกปูไว้อย่างเรียบตรึง ดูน่านอนมาก
มองออกไปด้านนอกระเบียงเห็นวิวทะเล ห้องพักของ โคโม่ มีข้อดีอยู่อย่างหนึ่งคือ ทุกห้องมองเห็นทะเลครับ
แตกต่างกันที่ระดับความสูงและมุมมองของแต่ละห้อง
ด้านหัวเตียงมีโคมไฟ นำเข้า อันละ 150000 บาท ครับ คู่รักโปรดระวังอย่างเล่นท่ายากนะครับ ตกแตกมาเสียดายแย่เลย
ที่นอนหนานุ่ม มีหมอนให้ถึง 4 ใบเลยทีเดียว ด้านปลายเตียงมีโทรทัศน์ดูหนังหรือฟังเพลงได้ในครับ
สำรวจด้านในกันหมดแล้วดูระเบียงด้านนอกกันบ้าง ระเบียงยาวมาก มีโซฟาเบด และเก้าอี้ไว้ให้นั่งชมทะเลและพระอาทิตย์ตก
หรือใครอยากจะนั่งรับลมเบาๆก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ
เหนื่อยมากับการเดินทางขอนอนพักเอาแรง ช่วงเย็นๆออกไปเดินชมบรรยากาศกันชิลๆวันนี้ไม่เน้นกิจกรรมครับ
ตื่นมาอีกทีประมาณ 5 โมงเย็น เดินลัดเลาะไปยังสระว่ายน้ำ ระหว่างทางจะพบกับซุ้มไอติม ให้บริการฟรีตั้งแต่
บ่ายสองจนถึงห้าโมงเย็น ดีนะยังทันได้ชิมไอศรีมโบราณ
ได้แล้วเดินไปดูด้านข้างห้องอาหารน้ำยาไทย มีเสาร์ไม้ทาสีแสดเราไม่พลาดที่จะแวะถ่ายรูปกันครับ ทางเดินนี้สามารถเดินไปยังสระว่ายน้ำได้
สระว่ายน้ำของที่นี้ถือเป็นจุดเด่นของ โคโม่ เลยครับด้วยความยาวถึง100 เมตร และสระเป็นสีขาว ไล่ระดับความตื้นไปยังลึก
เด็กๆเล่นได้สบาย เห็นแล้วก็อยากลงเล่นน้ำ แต่ขอเก็บแรงไว้ลงพรุ่งนี้ทีเดียวดีกว่า
นั่งรับลมทะเลเบาๆพร้อมกับอัพรูปลงโซเซียลอวดเพื่อนๆไปกันก่อนวันนี้
เย็นนี้อากาศเป็นใจถึงแม้ฟ้าจะไม่ระเบิด ขอแค่ฝนไม่ตกก็พอครับ
ชมพระอาทิตย์ตกจนหน่ำใจ ท้องก็ร้องสิครับ เย็นนี้เราขับรถไปทาน ข้าวต้มแห้งโกเบนซ์ กันใช้เวลาประมาณ 30นาที
คนค่อนข้างเยอะครับแต่รอไม่นานมาก จัดไปกันคนละ 2 ชาม เบาๆ
กลับโคโม่กันดีกว่า ไปนอนพักเอาแรง
มาถึงที่พักล็อบบี้ตอนกลางคืนสวยมากครับ อย่างที่ผมได้บอกไปในตอนต้นว่ากลางคืนสวยกว่ากลางวัน
เดินย่อยอาหารและเสพความงามยามค่ำคืนของ โคโม่ พอยด์ยามูกันครับ
กลับถึงห้องมีขนมว่างไว้ให้ด้วย ภรรยานั่งดูหนังอยู่ด้านใน ส่วนผมมารับลมเย็นๆอยู่ด้านนอกครับ
ภรรยาไปแช่น้ำตีฟองเต็มอ่างเลยครับ เรียกให้ผมไปถ่ายรูปให้ น้ำแรงดีทั้งน้ำร้อนและน้ำเย็น อุปกรณ์อาบน้ำไม่พอ
สามารถขอเพิ่มได้ครับ ถึงเวลาเข้านอนแล้วลากันไปด้วยภาพนี้ครับ
สวัสดีเช้าวันที่สองของการพักผ่อน วันนี้ตื่นนอนโดยไม่ใช้นาฬิกาปลุกครับ ตื่นเมื่อไรก็อาบน้ำออกไปทานข้าว
เราไปทานมื้อเช้ากันที่ห้องอาหาร ลาเซียน่าเปิดให้บริการตั้งแต่ 6 โมงเช้า จนถึง 10 โมงครับ ห้องอาหารที่นี้สวยมาก
มีไม่กี่แห่งในเมืองไทยที่ห้องอาหารจะดูสวยลงตัวแบบนี้
ส่วนไลน์อาหารมีทั้งบุฟเฟต์ และ แบบตามสั่งครับ สั่งได้ไม่อั้นจนกว่าจะอิ่ม มาพักที่นี้สองวัน สั่งไม่ซ้ำกันเลยครับ
รวมๆกันทั้งสองวันเลยนะครับ ไปดูไลน์บุฟเฟต์กันก่อน เริ่มในส่วนแรกเป็นโซนผลไม้สด มีให้เลือกไม่ว่าจะเป็น แตงโม
สัปปะรด ลำใย มะม่วง ส้ม ถัดไปเป็นโซนของน้ำผลไม้คันสดๆใส้ขวด นม และ กาแฟสด ของ illy ให้พนักงานทำให้ได้เลย
และน้ำผลไม้สามารถหยิบไปทานได้เลยครับ ที่สำคัญมีน้ำมะพร้าวเผาให้ด้วย อันนี้ได้ใจผมมากให้ไปเลย 5 ดาว
ถัดไปเป็นไลน์ ซีเรียล และ ธัญพืช มีให้เลือกเยอะมากจริงๆถ่ายรูปมาไม่หมด ไลน์ถัดไป เป็นขนมปัง แฮม ซีส
เบอร์เกอรี่ ไลน์อาหารที่นี้ถือว่าถูกใจผมมากครับทั้งปริมาณและคุณภาพ
ส่วนของอาหารตามสั่งกันบ้างครับ ขอแนะนำเมนูของคาวก่อน เริ่มกันที่ ข้าวเหนียวหมูทอด ใครที่มาแล้วไม่สั่งถือว่าพลาดมาก
เมนูถัดไปคือ Egg Benedict หรือจะจัดชุด Yamu Breakfast ก็ได้ครับ เมนูไทยก็มีนะจ๊ะกับเมนู ผัดซีอิ้ว ข้าวต้ม และก๋วยเตี๋ยว
ต่อกันด้วยของหวาน Coconut Waffles อีกสองเมนูไม่ได้สั่งมาทานเนื่องจากอิ่มมากครับส่วนใครที่ทานคลีนไม่ต้องกลัวครับ
ทางโคโม่มี Real toast และ Scrambled Tofu เป็นอาหารเพื่อคนรักสุขภาพ
ทานมื้อเช้าเสร็จวันนี้เราจองเรือเพื่อไปบีช คลับช่วง 11 โมง มีรถตู้ไปส่งที่ท่าเรือสองรอบ คือ 10.00 / 11.00 น.
ส่วนขากลับ มีสองรอบเช่นกันคือ 14.00 / 15.00 ใช้เวลานั่งนถตู้ไปนังท่าเรืออ่าวปอแกรนด์มารีน่า ประมาณ 30 นาที
และนั่งสบีดโบ๊ตไม่เกิน 15 นาที
เกาะนาคาใหญ่ที่เป็นที่ตั่งของ โคโม่ บีชคลับ มีสระว่ายน้ำ และกิจกรรมทางน้ำเช่นพายคายัค และโซฟา ฟรีครับ
ถ้าใครต้องการบ้านพักต้องจองและจ่ายเงินเพิ่มเพื่อความสะดวกสบาย
มีห้องน้ำและผ้าเช้ดตัวพร้อมเล่นน้ำได้เต็มที่ไม่ต้องหอบผ้ามาให้เปลืองแรง
สำหรับผมและภรรยา นั่งเล่นหน้าหาดถ่ายรูปชิวๆนั่งฟังเสียงคลื่นมองดูทะเลแค่นี้ก็สุขใจแล้วครับ
ช่วงบ่ายสองใครที่จองเรือไว้ จะมีเจ้าหน้าที่เดินมาตามเพื่อขึ้นเรือกับโรงแรมครับ
มาถึงโรงแรมเข้าห้องเปลี่ยนชุดไปเล่นน้ำที่สะรว่ายน้ำกันครับ หลายคนอาจสงสัยว่าทำไม่ไม่เล่นที่บีชคลับ
ตอบง่ายๆเลยครับ กลัวดำ เราขอแค่เปลี่ยนบรรยากาศไปนั่งฟังเสียงคลื่นสัมผัสทะเลให้รู้ว่ามาเที่ยวทะเลก็พอ ฮ่าๆ
ก่อนลงสระใหญ่ ผมขอพาไปชมในส่วนของสปา (Como Shambhala Retreat) กันก่อนครับ มีด้วยกันสองชั้น
ชั้นบนเป็นห้องนวดทั้งห้องคู่และห้องเดี่ยว มีห้องบริการ 8 ห้อง รวมถึงห้องสำหรับคู่รักและพื้นที่กลางแจ้ง
มีบริการนวดอโรมา นวดแผนไทยกดจุด ทำทรีทเมนต์ดูแลผิวหน้า ขัดสครับผิว อ่างสปา ห้องอบไอน้ำ ซาวน่า
เปิดให้บริการตั้งแต่ เวลา 10.00-16.00น.
ส่วนด้านล่างเป็นห้องออกกำลังกาย ห้องฟิตเนส ที่ขายผลิตภัณฑ์สำหรับสปา
ด้านนอกมีสระว่ายน้ำ โซฟาเบรดไว้ให้ ใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสามารถมาใช้ที่นี้ได้ครับ
ภรรยาขอถ่ายรูปแล้วก็ลงไปเล่นสระด้านล่างครับ นางบอกอยากเล่นข้างล่างมากกว่า ได้บรรยากาศมากกว่า
รอเวลาจนแดดร่มลมตกก็ลงใหญ่กันได้เลย สระว่ายน้ำไล่ระดับตั้งแต่ตื้นไปยังลึกสุดที่ 1.50 เมตร ครับ
สระยาวมากจริงๆแค่เดินยังเหนื่อยเลยเล่นน้ำกันสักพักจนพระอาทิตย์ตก เปลี่ยนกันถ่ายรูปให้กันไปมา สนุกดีครับ แถมได้รูปสวยๆมาเพียบ
กลับห้องไปอาบน้ำ ทานมื้อเย็นเสร็จเตรียมตัวเข้านอนดีกว่าวันนี้ทำกิจกรรมเยอะไปหน่อย
ถึงห้องพักแม่บ้าน เทรินดาวน์ให้เรียบร้อย อาบน้ำ กินข้าววันนี้ลืมถ่ายมาเนื่องด้วยความหิว ทานเสร็จล้างหน้าแปรงฟัน เข้านอนครับ
หว่า วันสุดท้ายของการพักผ่อนแล้วครับ วันนี้ก็ตื่นตามใจฉันเหมือนเดิม อาบน้ำออกไปทานมื้อเช้า
ตอนกลับเลยเดินสำรวจส่วนต่างๆ มีทั้ง คิดส์คลับที่ใหญ่มากเสียดายลูกสาวไม่ได้มาด้วย
ห้องเกมส์ มีปาเป้า โต๊ะพูล และวิดีโอเกมส์ไว่ให้เล่นด้วยครับ มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะมากจริงๆ บอกได้เลยว่าที่นี้สาวๆต้องชอบแน่นอน
หมดเวลาสนุกแล้วสิ เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าเดินทางต่อไปแต่ขอไม่บอกว่าเป็นที่ไหนนะครับ ใบ้ให้เป็นโรงแรมเปิดใหม่อยู่ที่เขาหลัก
ก่อนเช็คเอาท์ เราได้แวะไปที่ห้องอาหารอีกห้องหนึ่งคือห้องอาหาร Nahmyaa Thai จะเป็นแนวอาหารไทย
ตกแต่งสวยมากออกแนวโมเดริน มีปลาทองเป็นจุดขเด่นของที่นี้ใครมาก็ต้องแวะมาถ่ายรูปกันครับ
ตลอดสามวันสองคืนกับการพักผ่อนกับโคโม่ พอยด์ ยามู นับเป็นการพักผ่อนที่เต็มอิ่มมากครับ กินอิ่ม นอนอุ่น
ได้พักผ่อนแบบจริงจัง มีกิจกรรมชิวๆให้ทำและเปลี่ยนบรรยากาศ ได้ใช้เวลารวมกัน แค่นี้ก็มีความสุขมากๆแล้ว
Mr'Napat Ittiyos
วันเสาร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2560 เวลา 16.22 น.