คุณรู้จักกันไหม Medan ประเทศอินโดนีเซีย???
เริ่มต้นตอนแรกฉันก็ไม่รู้จักเมืองนี้เลยค่ะ...ข้อมูลท่องเที่ยวก็หาได้น้อยมาก ๆ
ฉันเลยอยากมาแชร์เมืองนี้ไว้เผื่อเป็นทางเลือกสำหรับนักเดินทางคนอื่น ๆ
แต่ฉันชอบไปเมืองที่มันยังคงมีธรรมชาติที่สวยงาม เรียกว่า 'เมืองที่มันยังคงความดิบไว้'
ตอนที่ตัดสินใจจองตั๋วไปแล้ว..บอกเพื่อนจะไป Medan ทุกคนงง มันคือที่ไหน?? ไม่เคยได้ยิน
ทริปนี้เป็นการไปเยือน อินโดนีเซีย เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ครั้งแรกเราไป บาหลี
ฉันว่าประเทศนี้มีที่เที่ยวเยอะมาก ๆ เลยค่ะ
กำลังเก็บเงินว่าจะไปขึ้นภูเขาไฟที่ อินโด อีก
12- 17 ธันวา 57 ก็หลายปีมาแล้วนะเนี่ย..พวกเรา 3 สาวได้มีโอกาสไปตะลุยเมือง เมดาน ประเทศอินโดนีเซีย
ตอนแรกก็ไม่ได้ตั้งใจว่าจะไปตะลุยเมดานหรอกนะค่ะ ตั้งใจจะไปพม่าแต่บังเอิญว่าซื้อตั๋วโปรแอร์เอเชียไม่ทัน
ก็เลยเลือกไปเมดานแทน จริง ๆ ก็เป็นเมืองในฝันที่อยากไปอยู่แล้วนะค่ะ
เพราะชอบเมืองที่ยังคงความเป็นธรรมชาติ...
พอซื้อตั๋วได้เรียบร้อยไปดูฤดูที่เมดาน อั๊ยยะ..เค้าบอกว่าเป็นช่วงฤดูฝน ถ้าไปเที่ยวแล้วเจอฝนไม่สนุกแน่ ๆ
แต่ก็นับว่าโชคดีที่แทบจะไม่เจอฝนเลย มาเจอก็วันท้าย ๆ แล้วค่ะ..
แต่หาข้อมูลได้น้อยมาก แล้วที่หามาได้ก็เป็นข้อมูลเก่า ๆ บางอันก็ผ่านมา 3-4 ปีแล้ว
แต่ยังไงก็ต้องเก็บข้อมูลไว้ค่ะ..
และได้ไปรู้จักพี่ที่เค้าเคยไปมาก่อนก็เลยสอบถามข้อมูลพี่เค้าได้เยอะเลยค่ะ
พวกเราต้องบิน 2 ต่อเหมือนเดิม คือ ชร.-กทม.-เมดาน
...เราจองที่พักทุกที่ผ่านเวป Booking ยกเว้นที่เมือง Bukit Lawang ไปหาข้างหน้าเอาค่ะ
...ส่วนรถเช่าเราได้ติดต่อไปที่ Medanrentcar เช่าไป 4 วัน ได้ Avanza มา
(จริง ๆ ติดต่อผ่านเมล์ไป 2 บริษัท แต่ที่นี่เค้าตอบกลับมาเร็วมาก ก็เลยได้ของที่นี่)
เค้าคิดค่าเช่ารถ + คนขับ วันละ 2,000,000 Rp. และสำหรับค่าอาหาร + ที่พักคนขับวันละ 100,000 Rp.
รวมค่าเช่ารถ + คนขับ วันละ 2,500,000 Rp. หารกัน 3 คนก็โอเครนะค่ะ
วิธีคิดเงินอินโด ตัด 0 ออก 3 ตัว คูณด้วย 3 (ประมาณนั้นค่ะ)
เวลาที่อินโดเท่ากับเวลาที่ประเทศไทยนะค่ะ
โปรแกรมการเดินทาง
วันแรก : เชียงราย- กทม. - Medan (ถึงค่ำ)
วันที่ 2 : Medan – Parapat – เกาะ Samosir - Lake Toba
วันที่ 3 : Parapat -น้ำตก Sipiso-piso -เมือง ฺBerastagi
วันที่ 4 : ภูเขาไฟ Sibayak - เมือง Bukit Lawang
วันที่ 5 : เมือง Bukit Lawang - Medan
วันที่ 6 : Medan - กทม.- ชร.
วันแรกของการเดินทาง
เดินทางออกจากท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง 09.25 น. นั่ง ๆ นอน ๆ รอเครื่องไป Medan รอบเย็นที่สนามบินดอนเมือง...เครื่องเราออกจากสนามบินดอนเมือง 16.10 ตรงเวลาดีมากค่ะ
เจอให้เขียนใบ ตม. เป็นภาษาอินโด เอาซะงงเลยยยยยยยย ช้านนนนอ่านไม่ออกนะเนี่ย
ถามแอร์มั่ง เดามั่วกันมั่ง..
![](/f/11956/59a66bf1be816601d11faa1b.jpg)
เห็นแล้วววววววว เมืองเมดาน เรากำลังจะร่อนเครื่องลงสู่สนามบินแล้ว
![](/f/11956/59a66c15be816601d11faa1c.jpg)
ถึงสนามบิน Kualanamu International Airpot เวลา 18.05...สนามบินใหญ่โต สวยงามดีค่ะ ดูทันสมัยมากกกกกก..
แต่เข้าข้างในทำมันมันดูเล็ก ๆ หว่าาาา...
...ด่าน ตม. เห็นคนอื่น ๆ เดินผ่านกันสบาย ๆ ไม่โดนถามอะไรกันสักกะอย่าง แต่พอถึงตาเราตายยยยย ทำไม ตม.ถึงถามอะไรฉันมากมาย
แต่โชคดีเตรียมทุกอย่างมาพร้อม แบบว่าไม่คิดว่าจะโดนถามเยอะขนาดนี้ค่ะ
ถึงสนามบินไปเจอน้องคนไทยผู้ชายมาคนเดียว คุยกันไปมาปรากฎว่าน้องเค้าพักที่เดียวกันกะพวกเรา
ก็เลยชวนน้องเค้าเหมา Taxi ไปด้วยกัน จะได้มีคนช่วยหารค่า Taxi ด้วย
...ตอนอยู่บนเครื่องพอดีเจอไกด์คนไทยที่เค้าพาทัวร์มาเมดานบ่อย ๆ
ก็เลยถามพี่เค้าว่า Taxi เข้าเมืองเค้าคิดราคาเท่าไหร่
พี่แกก็แนะนำมาว่า 150,000 Rp. พอเรามาเดินหา Taxi โดนเรียก 200,000 Rp.
แต่เราบอก Noooo อย่างเดียว
บอกว่าถ้าได้ 150,000 Rp. จะไปด้วย ในที่สุด Taxi ก็ยอมราคานี้ แต่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ..ไว้ก่อน
![](/f/11956/59a66c7ebe816601d11faa1e.jpg)
Taxi พาไปแลกเงินข้างนอกก็ได้เรทดีอยู่เหมือนกันนะค่ะ..
และก็พาพวกเราไปซื้อ Simpati ซื้อกันคนละอัน ในราคา 3,000 Rp.
![](/f/11956/59a66ce8be816601d11faa20.jpg)
![](/f/11956/59a66d1abe816601d11faa21.jpg)
พอถึงที่พักพวกเราก็กะว่าจะเพิ่มทิป ให้ Taxi อีก 10,000
ปรากฎพี่แกเรียก 170,000 แกบอกว่าอุตส่าห์พาไปแลกเงิน
พาไปซื้อซิมอีกตั้งนาน ขอเพิ่มอีกหน่อยนะ พวกเราก็ขี้เกียจมีปัญหาก็เลยให้ไป 170,000 Rp.
โอ้ววว โน..นึกว่าเป็นการบริการ
เราพักกันที่ Hotel City international Sun Yat set จองห้องสำหรับ 3 คน แต่มันเป็น 2 ห้องนอน
แต่สุดท้ายเรา 3 คนก็ยัดนอนในห้องเดียว อีกห้องก็ทิ้งไว้งั้นแหล่ะ...
เปิดน้ำในที่พักนี่แดงงงเชียวเหมือนกับไม่เคยมีคนใช้มาก่อน
ห้องน้ำที่นี่ไม่มีประตูค่ะ มีแต่ผ้าเป็นฉากปิดกั้นไว้ ต๊ายยยยย แล้วพวกตรูจะ คลี่ กันยังไงเนี่ย
อิอิ..แต่ดีที่มีอีกห้องที่ไม่ได้ใช้ เลยใครอยากจะคลี่ ก็ไปใช้อีกห้องเลยค่ะ...
![](/f/11956/59a66d5bbe816601d11faa22.jpg)
![](/f/11956/59a66dbc1f304605c645f25a.jpg)
นี่อีกห้องค่ะ ไม่มีใครมานอน แต่มาใช้ห้องน้ำ...
ถึงพี่พักก็เกือบ 3 ทุ่มแล้วค่ะ เก็บของเสร็จก็ขอไปหาอะไรทานก่อน ก็ไปเจอร้านก๋วยเตี๋ยวใกล้ๆ ที่พักค่ะ ไม่อยากเดินไปไหนไกลมันดูเปลี่ยว ๆ ไงไม่รู้
สั่งก๋วยเตี๋ยวน้ำ 1 แห้ง 2 เค้าพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย พวกเราก็ชี้ ๆ เอา
อาหารไทยต้องมีเครื่องปรุงเยอะๆ แต่ที่นี่ไม่มีอะไรให้ปรุงเลยทานจืด ๆ แบบนั้นแหล่ะค่ะ แต่เส้นเค้าอร่อยดีค่ะ
บรรยากาศในร้าน ดูไปเหมือนร้านบ้านเราสมัยก่อน มีรูปดาราติดเต็มเลยยยยย
![](/f/11956/59a66eb11f304605c645f25b.jpg)
![](/f/11956/59a66f301f304605c645f25d.jpg)
![](/f/11956/59a66f491f304605c645f25e.jpg)
![](/f/11956/59a66f7c3226570a90baf28d.jpg)
อาหารทุกที่เค้าจะห่อแบบนี้หมดเลยค่ะ...มีใบตอง
![](/f/11956/59a66f953226570a90baf28e.jpg)
คืนนี้หลังจากทานก๋วยเตี๋ยวเสร็จพวกเราก็ต้องขอนอนพักผ่อนก่อนแล้วค่ะ
เพราะตื่นตั้งแต่ตี 5 จากเชียงราย มารอเวลาอยู่ที่ดอนเมืองอีกเป็นวัน วัน ถึง เมดานก็ค่ำแล้ว
พรุ่งนี้นัดรถมารับแต่เช้าอีก..คืนนี้ฝันดีค่ะ
วันที่ 2
แต่เสียดายที่เมื่อคืนเรามาถึงค่ำเกินไปค่ะ
เลยไม่ได้เตร็ดเตร่แถวรอบ ๆ ที่พัก
วันนี้พวกเราตื่นตั้งแต่ 6 โมงเช้าค่ะ เพราะจะเดินทางต่อไปยังเมือง Parapat
เป็นเมืองท่าเรือสำหรับข้าม Toba lake
เราจะข้ามไปนอนที่ Sarmosir Island ค่ะ กะว่าจะไม่ให้ถึงเย็นเกินไปเลยออกแต่เช้าหน่อย
และเราได้นัดรถเช่า Medanrentcar ให้มารับตรงที่พักตอน 7 โมงเช้าค่ะ
แต่ไป ๆ มา ๆ พวกเราก็ออกเกือบ 8 โมงแล้วค่ะ เพราะมัวแต่ทานอาหารเช้า
แบบว่าห้องอาหารโรงแรมเปิดตอน 7 โมงเลยขอจัดอาหารเช้าก่อนนะคร้าาาาาาาาาาาา
วิวหน้าห้องของพวกเราค่ะ มีแต่ตึกรามบ้านช่อง คงไม่ต่างกับบ้านเรา
![](/f/11956/59a670cd3226570a90baf291.jpg)
ตอนแรกก็กังวลว่ารถเค้าจะมาตามนัดป่าววววววหนอ!!!
เค้าจะมาไหม กังวลไปหมดค่ะ เพราะผ่านไปครึ่งชม. ก็ยังไม่มีใครมาตามหาเรา
เอ๊ะ!! หรือเค้ามาแล้วไม่เจอเรา เลยเอาเมล์ที่ปริ้นมาไปถามที่เค้าท์เตอร์ของโรงแรม
เค้าก็ติดต่อให้ปรากฎว่าเค้ามารออยู่ข้างล่างแล้วค่ะ....
เมื่อเจอหน้ากันก็ทักทายกันเพื่อสร้างมิตรภาพกับคนขับรถ
เราได้คนขับเป็นผู้ใหญ่สูงวัย ชื่อ MR.ERNOVE อายุ 50 ปี ดูใจเย็นดีค่ะ
เลยบอกแกว่าขอเรียก Uncle นะ แบบชื่อเรียกยากอ่ะ
ก่อนออกเดินทางก็แวะเติมน้ำมันให้เต็มถังก่อน หมดค่าน้ำมันเต็มถังรอบแรกไป 285,005 Rp. 900 บาท
สังเกตได้ว่าปั๊มน้ำมันที่นี่เค้าจะแยกเป็นสัดส่วนระหว่างรถยนต์ กับ รถมอเตอร์ไซค์ค่ะ เข้าคนละทางเลย
![](/f/11956/59a6713f3226570a90baf293.jpg)
แต่แหม!!! ตอนขับรถนี่ลุงแกก็ซิ่งมากเลยนะค่ะ ตอนแรกก็มีกลัวค่ะ
เพราะช่วยเหยียบเบรคไปตลอดทางเลย หายใจไม่ทั่วท้องเลย
และที่สำคัญ ที่นี่เค้าไม่หวงแตรเลยคร้าาาาาาาาา บีบแตรตลอดทาง
จนเราพูดเลียนเสียงแตร ปิ้น ปิ้น คุณลุงแกก็หัวเราะชอบใจ
แล้วเราเหมือนเป็นหัวหน้ากลุ่มในการเที่ยวครั้งนี้ เลยต้องนั่งหน้าเป็นคู่ไปกะลุงแกจะแวะที่ไหนก็บอก
แต่เราทำโปรแกรมเป็นตารางมาให้แล้ว สะดวกหน่อย แกก็ไปตามที่เราต้องการ
แต่เราก็บอกว่าที่ไหนสวย ๆ ก็แวะให้หน่อยนะคร้าา
ชอบวิวตามทางมาก ๆ ค่ะ อุโมงค์ต้นไม้ ดูแล้วร่มรื่นมาก
![](/f/11956/59a6724b3226570a90baf298.jpg)
สถานที่แรกที่พวกเราแวะเที่ยวคือวัดเจ้าแม่กวนอิม Kwan Im Temple
![](/f/11956/59a6728d3226570a90baf299.jpg)
![](/f/11956/59a672ac3226570a90baf29b.jpg)
![](/f/11956/59a672cb3226570a90baf29c.jpg)
![](/f/11956/59a672ee3226570a90baf29d.jpg)
![](/f/11956/59a672ff3226570a90baf29f.jpg)
ระหว่างทางที่ขับรถไปก็เจอขบวนแห่งานแต่งงาน (ถามคุณลุง)
แกบอกว่าขบวนคู่บ่าวสาวกำลังพากันเดินทางไปบ้านเจ้าสาว
เลยบอกแกว่าขอลงไปถ่ายรูปหน่อยนะค่ะ แกก็จอดให้ทันทีค่ะ (คุณลุงน่าร๊ากกกกเป็นที่สุด)
![](/f/11956/59a6732b3226570a90baf2a1.jpg)
ระหว่างเดินทาง เพื่อนเราส่วนใหญ่แทบจะหลับไปตลอดทาง เพราะการเดินทางใช้เวลานานมาก
เราก็เลยต้องคุยไปกับคุณลุง แกจะได้ไม่เหงา...แกก็ถามว่าร้องเพลงไทยให้ฟังได้ไหม
ฮ่าาาาาาาาาา..... ณ.เวลานั้นนึกเพลงไม่ออกจริง ๆ ค่ะ เลยลองเพลงจงรักให้แกฟัง
แต่ร้องไปได้นิดเดียวแกโบกไม้โบกมือพร้อมหัวเราะ บอกว่าถ้าร้องแบบนี้ได้พากันหลับหมดแน่ ฮ่าาาาาาาา...
แกเลยเปิดเพลงในรถให้ฟังแทน เราก็โยกตามเพลงเพราะจังหวะมันสนุกดี แกก็ชอบใจใหญ่ ^^
พวกเราใช้เวลาเดินทางเกือบ 5 ชม. ก็เข้าสู่เมือง Parapat เริ่มมองเห็นทะเลสาป คุณลุงก็บอกให้เราดู
เราเลยต้องรีบเรียกเพื่อน ๆ ตื่นขึ้นมาดูวิว ทุกคนตื่นเต้นกันมาก เพราะมันสวยจริง ๆค่ะ
แต่ตอนนั้นอยู่ในรถถ่ายรูปมาไม่ได้
อย่าลืมเสียค่าเข้าเมือง Parapat เรา 3 คน โดนไป 10,000 Rp.
แต่ก่อนที่พวกเราจะข้ามทะเลสาบ มันก็เกือบบ่ายแล้ว ขอเวลาไปหาข้าวทานกันก่อน...
ร้านนี้บอกเลยว่าอร่อยมากค่ะ หรือพวกเราหิวข้าวกันหรือป่าวไม่รู้จิ...มื้อนี้หมดไป 175,000 Rp.
![](/f/11956/59a6739d3226570a90baf2a2.jpg)
![](/f/11956/59a673a83226570a90baf2a3.jpg)
อิ่มแล้วววววววววว.....ได้เวลาเตรียมตัวจะไปขึ้นเรือข้ามไปเกาะ Sarmosir แต่ว่าาาาาาาาาาาา
คุณลุงเค้าก็ไม่อยากให้พวกเราเสียเงินค่าเรือ ferry ข้ามฟาก ซึ่งต้องเอารถไปด้วย
แกเลยบอกว่าแกจะนอนรออยู่ฝั่ง Parapat ก็ได้ค่ะ...
โดยให้เรา 3 คนนั่งเรือไปกันเอง ซึ่งจะทำให้ประหยัดเงินไป 420,000 Rp.
ลุงแกก็อธิบายว่า ถ้าเอารถข้ามไปด้วย ก็ต้องเสียค่าเรือไปกลับรวม 600,000 Rp.
และค่าคนไปกลับอีก 90,000 Rp.
แกเลยถามว่าพวกเราข้ามไปกันเองได้ไหม...OK คร้าาาาาาาาา มิมีปัญหา
แกก็เลยพาพวกเราไปส่งที่ท่าเรือ แกก็นัดแนะพวกเราว่า พรุ่งนี้เช้าแกจะโทรหานะ
แล้วจะมารอที่ท่าเรือตอน 10 โมง
ให้เราขึ้นเรือรอบ 9 โมงนะ เรือของ Tuk Tuk คันที่เราขึ้นไปนะ ให้บอกเค้าว่าให้ไปรับตรงที่พักตอน 9 โมง
![](/f/11956/59a673fd3226570a90baf2a4.jpg)
![](/f/11956/59a6742d3226570a90baf2a6.jpg)
![](/f/11956/59a674133226570a90baf2a5.jpg)
ขณะนั่งรออยู่บนเรือ มีคนมาขายของกิน...มีเด็กมาร้องเพลงให้ฟังค่ะ ก็เพลินดีนะค่ะ.
.เสร็จก็ให้ทิปไป 1,000 Rp. (3 บาทเองอ๊าาา) .......จ่ายค่าเรือไปคนละ 15,000 Rp.
![](/f/11956/59a674923226570a90baf2a7.jpg)
สักพักก็ได้เวลาเดินทางแล้วววววว
เราต้องเดินทางข้าม ทะเลสาบ Toba ไปยังเกาะ Sarmosir ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที
ทะเลสาบ Toba เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดและลึกที่สุดในเอเชีย
เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อ 7 หมื่นกว่าปีมาแล้ว
จึงทำให้เกิดทะเลสาบใหญ่ขนาด 1,707 ตร.กม. และเมื่อเกิดการระเบิดต่อ ๆ มาก
ก็ทำให้บริเวณด้านข้างภูเขาไฟยิ่งยุบตัว
เมื่อฝนตกลงมาน้ำก็ถูกกักขังไว้ในแอ่ง เวลาผ่านไปเนิ่นนานจึงกลายเป็นทะเลสาบบนปากปล่องภูเขาไฟ
ยาวกว่า 100 กม. กว้างกว่า 30 กม. และมีจุดที่ลุกที่สุด 505 เมตร
![](/f/11956/59a674e03226570a90baf2a8.jpg)
![](/f/11956/59a6750f3226570a90baf2a9.jpg)
รีสอร์ทตรงนี้แพงค่ะ...พวกเราไม่มีปัญญาจะพักค่ะ ได้แค่ชะเง้อมองก็พอ
เห็นขากลับน่าจะเป็นคนจีนซะเยอะเลยค่ะ
![](/f/11956/59a675383226570a90baf2aa.jpg)
![](/f/11956/59a675553226570a90baf2ab.jpg)
![](/f/11956/59a675853226570a90baf2ac.jpg)
![](/f/11956/59a675b13226570a90baf2ad.jpg)
คืนนี้พวกเราพักกันที่ Lekjon Cottage เพิ่มเตียงเสริมซะหน่อยเพราะนอนกัน 3 คน
แต่แหม!!! ดูใน Booking นี่ห้องมันสวยซะจริง ๆ แต่มาถึงนะค่ะ เฮ้ออออออ กลอนประตูไม่ดี มุ้งลวดขาด
เพื่อนมันก็นอยซ์อีก เพราะมันเห็นบันไดพาดอยู่ตรงประตูห้องน้ำมันก็กลัวว่าจะมีคนปีนเข้าห้อง
ก็ต้องล็อคหน้าต่างห้องน้ำอีก...ไปถึงว่าจะชาร์ตแบตกันสักหน่อย อ้าวววววววว ขอโทษค่ะ ไฟไม่มา
ไปถามเจ้าของรีสอร์ท เค้าบอกว่าช่วงนี้เค้ากำลังทำไฟกัน กว่าไฟจะมาก็ประมาณทุ่มโน่นค่ะ
เราถึงเกาะประมาณบ่าย 3 กว่า ก็เลยไม่รู้จะทำอะไร เลยไปขอเช่ารถมอเตอร์ไซค์ของรีสอร์ท
ขอเช่าแกคันเดียว เราจะซ้อน 3 ฮ่าาาาาาาา...แกบอกไม่ได้ ไม่ได้ เลยเช่า 2 คัน 120,000 Rp.
ปกติเค้าให้เช่า 24 ชม. แต่พวกเราไปขอต่อรองบอกว่าขอเช่าแค่ 3 ชม. นะ Pleaseeeeeeeeeee...
ตอนแรกป้าแกก็ไม่ยอมหรอกค่ะ แต่พวกเราก็ขอแล้วขออีกเพราะอยู่ในห้องก็ไม่รู้จะทำอะไร
ไฟก็ไม่มีแกก็เลยใจอ่อน..อิอิ
แต่ต้องรีบไปนะค่ะ เพราะท้องฟ้าเริ่มตั้งเค้าเมฆฝนมาแต่ไกลเลยค่ะ
เวลามีน้อยใช้สอยอย่างประหยัดจริง ๆ ได้เวลา ลุยยยยยย
![](/f/11956/59a675f33226570a90baf2ae.jpg)
![](/f/11956/59a676153226570a90baf2af.jpg)
หนทางข้างหน้าอีกยาวไกล ยาวไป ยาวไป
![](/f/11956/59a676363226570a90baf2b0.jpg)
![](/f/11956/59a676793226570a90baf2b1.jpg)
![](/f/11956/59a676893226570a90baf2b2.jpg)
![](/f/11956/59a676af3226570a90baf2b3.jpg)
![](/f/11956/59a677583226570a90baf2b4.jpg)
![](/f/11956/59a677723226570a90baf2b7.jpg)
หมู่บ้านชาวบาตักค่ะ ซึ่งเป็นชนเผ่าพื้นเมืองที่อาศัยอยู่บนเกาะนี้มานานแล้วค่ะ
ในนี้จะมี Stone Chair of King Siallagan ซึ่งทำมาจากหินภูเขาไฟ 3 คนเสียค่าเข้า 10,000 Rp.
ก่อนขึ้นบ้านต้องเปล่งเสียงว่า Horas ประมาณว่า Welcome นั่นแหล่ะ ยินดีต้อนรับนะจ๊ะ
![](/f/11956/59a677bf3226570a90baf2b8.jpg)
ภายในบ้านก็จะโล่ง ๆ แบบนี้ค่ะ..ใต้ถุนก็จะมีเลี้ยงสัตว์
ทุกบ้านจะมีสัญลักษณ์เป็นรูปตุ๊กแกติดอยู่หน้าบ้าน ซึ่งตามความเชื่อชาวบาตัก ตุ๊กแกคือสัตว์นำโชค
และถ้าอยากรู้บ้านหลังใดมีภรรยากี่คนให้สังเกตุที่จำนวนเต้านมที่แกะสลักจากไม้ซึ่งติดอยู่หน้าบ้าน
ยิ่งมีมากจะแสดงถึงฐานะที่มั่งคั่ง
![](/f/11956/59a677d33226570a90baf2b9.jpg)
พวกเราขี่มอเตอร์ไซค์วนรอบเกาะเลยค่ะ...พอเริ่มจะค่ำ อากาศก็เริ่มเย็นขึ้นทุกที แล้วพวกเราก็เริ่มหิว
ก่อนถึงที่พักไปเจอร้านอาหารอิตาเลี่ยน เลยจอดดดดดดด
จัดพิซซ่าอิตาเลี่ยน & สเต๊ก & เบียร์ Bintang เบียร์อินโด กันซักหน่อย
พิซซ่าแป้งบางกรอบ บวกกับชีส เยิ้ม ๆ อร่อยเป็นที่สุด
เบียร์นี่แก้หนาวหรือป่าววว
![](/f/11956/59a678033226570a90baf2ba.jpg)
![](/f/11956/59a6789e3226570a90baf2bb.jpg)
มื้อเย็นของพวกเราเลยจบลงที่ร้านนี้ค่ะ ... แต่ยังมีแวะซื้อ บะหมี่คัพของอินโดไว้กินมื้อเช้าพรุ่งนี้ด้วยนะค่ะ
คืนนี้สรุปว่าถึงที่พัก พวกเรายังจัดเบียร์กันอีกคนละ 2 ขวด >> เด็ก ๆ อย่าทำตามนะค่ะ ☺☺
แล้วก็พากันสลบไปพร้อมสายฝนที่เทลงไม่ขาดสาย....
คืนนี้ฝันดีราตรีสวัสดิ์ค่ะ ง่วง มึน งง หรือ เมา ไม่รู้ ;-)
วันที่ 3 ของการเดินทาง
สำหรับฉันการไปเที่ยวทุกครั้งฉันจะตื่นเช้าตลอด เพราะไม่อยากพลาดกับบรรยากาศในตอนเช้าของแต่ละวัน
และเวลาที่จำกัดของเรามันก็จะหมดไปอย่างรวดเร็ว...
วันนี้อาหารเช้าของเราคือ บะหมี่ถ้วยอินโด (จืดชืดมากกกคิดถึงมาม่าไทย)
แถมความเกรงใจเจ้าของที่พักเพราะไปขอน้ำร้อนเค้ามา..เลยสั่งสลัดชีสมา 1 อย่างแล้วกัน ^^
ทานกัน 3 คน พออิ่มก็เพราะแล้วค่ะ ...
![](/f/11956/59a68eb7306159154d463715.jpg)
เราต้องรีบทำเวลาค่ะ เพราะเมื่อวานนัดเรือ TUK TUK ไว้ 9 โมงเช้า
ได้เวลาแล้ววว พวกเราก็รีบไปรอพี่เรือ อยู่ที่ท่าน้ำทันทีเลย กลัวตกเรือ..อิอิ
![](/f/11956/59a68ed3306159154d463716.jpg)
![](/f/11956/59a68ee8306159154d463717.jpg)
ขณะยืนรอก็จะเห็นคนเล่น บานานาโบ๊ท เจ๊ทสกี พวกเรือเจ๊ทก็มาชวนให้ไปนั่งเรือเล่นก่อน
ถ้ามีเวลาก็คงจะเล่นนะ
เขาบอกพวกเราว่าไม่ต้องกลัวเปียกหรอก แค่ขับเรือเล่น ม่ายยยยยยย ไม่ค่ะ รอเรือจะกลับเข้าฝั่งแล้ว
9 โมงแล้ว ทำไมไม่เห็นมีเรือผ่านมาสักลำเลยเนี่ยยยย...
ฉันว่าเมื่อวานฉันบอกคนเรือแล้วนะเค้าก็ผงกหัวรับทราบแล้วนะ
เลยขึ้นไปถามเจ้าของที่พักว่าเรือ TUK TUK มากี่โมง แกก็บอกว่า 9.30 งั้นรอต่อไป
นัดคุณลุงคนขับไว้ที่ฝั่ง 10 โมง นี่ 9.30 ฉันยังไม่ได้ไปไหนเลยยยย ยังนั่งรอเรืออยู่เลยเนี่ย
9.30 แล้ัว ก็ยังไม่เห็นเรือสักลำ ห่วยยย ไรเนี่ย ตรูจะได้กลับเข้าฝั่งไหมเนี่ย
จน 10 โมงมีเรือโดยสารลำหนึ่งแล่นผ่านมา ฉันก็กระโดดเหยง ๆ โบกมือ ตะโกนเรียก
โอ๊ะ !!! เรือหันหัวกลับมา ตรูจะได้กลับฝั่งแล้ว แต่มีคนลงมา 3 คน เลยถามว่าไปฝั่ง Parapat ไหม
เค้าบอกว่ายังไม่ไป อ้าวตายหล่ะตรูทำไงดีเนี่ย...แต่เค้าบอกว่าจะไปกะเค้าก็ได้นะเดี๋ยว 11 โมงเรือจะกลับมารับ
และคนของเค้าก็อยู่ที่นี่รอด้วย น่าจะรอรับกรุ๊ปทัวร์จากจุดนี้ด้วย
ก็ไม่รู้ทำไงหล่ะทีนี่เลยบอก OK แต่ผ่านไปสักครึ่ง ชม. มีเรือโดยสารบีบแตรผ่านมา ปู้นนนนนนนนน
เย้ ๆ จะได้กลับฝั่งก่อนเวลา 11 โมงแล้ว เราเลยตัดสินใจกลับไปพร้อมกับเรือลำนี้
คุณลุงคนขับรถโทรมาหาฉันตอน 10 โมงกว่าแล้ว แกก็ถามว่าอยู่ไหน ฉันบอกกำลังขึ้นเรือ
![](/f/11956/59a68f07306159154d463718.jpg)
กว่าจะถึงฝั่ง เรือก็วนไปวนมา เดี๋ยววกกลับมารับที่เดิมอีก ไอ้เราก็หงุดหงิด ไม่อยากเสียเวลา
แต่ทำไงได้ ต้องสงบนิ่งไว้ เดี๋ยวก็ได้ขึ้นฝั่งไปเที่ยวต่อแล้ว
11 โมงกว่า เราก็ถึงฝั่ง Parapat จนได้ เราเห็นคุณลุงคนขับแกชะเง้อมองหาพวกเรา
เราก็โบกมือให้แกอย่างด่วน..แกมองไม่เห็น
ถึงฝั่งปุ๊บ ขึ้นรถปั๊บ เดินทางต่อ
แต่ก่อนเดินทางเราต้องแวะไปรับน้องม่อนคนไทยที่เจอกันวันแรกที่สนามบินให้ไปเที่ยวด้วยกัน
เพราะน้องเค้ารออยู่ที่ฝั่ง Parapat พอดีไลน์คุยกัน เลยชวนน้องว่าไปด้วยกันไหม น้องเค้าก็ตกลงไปด้วย
หลังรับน้องเรียบร้อยพวกเราก็เดินทางไปชมวิวต่อ
ชมวิวสวย ๆ ของทะเลสาป Toba
...ตอนแรกท้องฟ้าก็สดใสดีอยู่หรอกค่ะ สักพักเมฆฝนเริ่มตั้งเค้ามาแล้ววว ไม่อยากให้ฝนตกเลยยยย บ่นในใจ
![](/f/11956/59a68f1f306159154d463719.jpg)
![](/f/11956/59a68f35306159154d46371a.jpg)
![](/f/11956/59a68f53306159154d46371b.jpg)
รูปสวย ๆ จากน้องม่อน ที่เราแวะไปรับค่ะ
![](/f/11956/59a68f65306159154d46371c.jpg)
แวะพักจอดรถกันสักหน่อย...ไปเจอสละ อร่อย กรอบ หวาน รุมกันใหญ่เลย
![](/f/11956/59a68f87306159154d46371d.jpg)
![](/f/11956/59a68f98306159154d46371e.jpg)
เริ่มหิวกันแล้่วเห็นอะไรก็อยากทานไปหมด ไปเจอรถขายสะเต๊ะ..
เลยสั่งมา 1 ชุด เค้าทานกะแป้งที่เอาไปนึ่งค่ะ ไม่ได้ทานกะข้าวนะค่ะ
แป้งมันจืด ๆ ไปหน่อย ถ้ามีรสเค็ม ๆ อีกนิดจะอร่อยมากเลย...แต่สะเต๊ะอร่อยค่ะ
![](/f/11956/59a68faf306159154d46371f.jpg)
![](/f/11956/59a68fb9306159154d463720.jpg)
เราเดินทางต่อเพื่อจะไปน้ำตก Sipiso-piso (เรียกไม่เคยถูกสักกะที)
แต่ก่อนจะเข้าน้ำตก แวะทานอาหารกันก่อนนะ หิว ๆๆๆ แล้ว
คนที่ตักอาหารให้นี่ เป็นคุณลุงคนขับรถให้นะค่ะ...บริการทุกอย่างเลยค่ะ
![](/f/11956/59a68fe2306159154d463721.jpg)
![](/f/11956/59a68fff306159154d463722.jpg)
อิ่มแล้ววววว..ได้เวลาเดินทางไปน้ำตกกันต่อแล้วค่ะ...
ค่าเข้าชมน้ำตก Sipiso-piso คนละ 4,000 Rp.
แต่ว่าฝนตกค่ะ หนักมาก ๆ เลย พวกเราเลยได้เข้าไปนั่งรอในร้านอาหารให้ฝนซาซะก่อน
น้ำตก Sipiso-piso เป็นน้ำตกที่อยู่ระหว่างเส้นทางจากเมือง Parapat ไปยังเมือง Berastagi ซึ่งคืนนี้เราจะพักเมืองนี้
น้ำตก Sipiso-piso มีความสูงถึง 120 เมตร และเป็นน้ำที่ไหลมาจากหุบผา
เรานั่งรถฝนซาอยู่เป็นชั่วโมง...พอฝนซาพวกเราก็เริ่มหาทางออกไปน้ำตกกัน โชคดีที่พกเสื้อกันฝนมา
ก่อนมาเราบอกให้เพื่อนเตรียมเสื้อกันฝนบาง ๆ มาคนละตัวค่ะเลยได้ใช้งานจริง ๆ ซะที
![](/f/11956/59a8d3d9f8c6ec684d58fb9d.jpg)
![](/f/11956/59a8d3fbf8c6ec684d58fb9e.jpg)
![](/f/11956/59a8d436f8c6ec684d58fb9f.jpg)
![](/f/11956/59a8d446a2f20773e6f2c96a.jpg)
![](/f/11956/59a8d460f8c6ec684d58fba0.jpg)
![](/f/11956/59a8d478f8c6ec684d58fba1.jpg)
![](/f/11956/59a8d49ea2f20773e6f2c96b.jpg)
ทุกการเดินทางเราจะพบเจอมิตรภาพได้เสมอค่ะ...
ส่วนใหญ่ที่นี่จะมีแต่คนอินโดมาเที่ยวค่ะ..ชาวต่างชาติรู้สึกจะไม่ค่อยเจอเลยค่ะ
![](/f/11956/59a8d4c4a2f20773e6f2c96c.jpg)
![](/f/11956/59a8d4dbf8c6ec684d58fba2.jpg)
2 รูปสวย ๆ จากน้องม่อนอีกแล้วค่ะ...
![](/f/11956/59a8d51da2f20773e6f2c96d.jpg)
![](/f/11956/59a8d52ca2f20773e6f2c96e.jpg)
ชมน้ำตกกันจนหนำใจแล้ว ได้เวลาเดินทางต่อไปยังเมือง ฺBerastagi
พวกเราแวะส่งน้องม่อนที่ในตัวเมืองนี้ เพราะน้องจะต้องกลับเข้าตัวเมือง Medan
พรุ่งนี้น้องจะกลับไทยแล้ว
เราเลยต้องอำลาน้องม่อนกันที่เมืองนี้เลยและส่งน้องขึ้นรถโดยสารกลับเข้าเมือง
และต้องหาแลกเงินด้วย เงินเริ่มจะไม่พอแล้ว รอบนี้แลกกันหมดตัวไปเลย
3 คนพวกเราได้มา 7 ล้านกว่า แหม !!! ถ้าเป็นเมืองไทยฉันคงเป็นเศรษฐีไปแล้ว
![](/f/11956/59a8d558a2f20773e6f2c96f.jpg)
![](/f/11956/59a8d5a0a2f20773e6f2c970.jpg)
แลกกันจนหมดตัวเลยคร้าาา..รวยรอบนี้
![](/f/11956/59a8dfe1c991c77e4b9dd42b.jpg)
ที่เมืองนี้จะมีตลาดผัก & ผลไม้หลากสีค่ะ คุณลุงเลยพาพวกเราไปเดินตลาด
เลยได้มะม่วง หวานมาก กับ สละมาอีกแล้วค่ะ
และพรุ่งนี้พวกเราจะไปปีนภูเขาไฟค่ะ..คุณลุงได้นัดไกด์ไว้ที่ตลาดนี้ด้วยค่ะ
เพื่อจะให้เราคุยกะไกด์ว่าจะไปยังไง ขึ้นภูเขากี่โมง จะไปเจอกันที่ไหน
เรานี่คือตั้งใจก่อนมาแล้วว่าจะไปปีนภูเขาไฟ พอคุยกะไกด์เท่านั้นแหล่ะ เพื่อน 2 คนเริ่มถอดใจ
แต่เราว่าถ้าเพื่อนไม่ไป เราไปเองได้นะ แต่เพื่อนก็เป็นห่วงบอกถ้าไปก็ต้องไปด้วยกันหมดนี่แหล่ะ
ต่อรองราคากันอยู่นานเค้าเรียกมา 3 คน 600,000 Rp. ต่อได้มา 500,000 Rp.
อาหารเย็นมื้อนี้ก่อนจะกลับเข้าที่พัก เราเห็นเค้าเปิบด้วยมือ ก็เลยจัดการตามเลย
หิว ๆ อร่อย ไก่กรอบมาก ทานกะข้าวสวยนะค่ะ
![](/f/11956/59a8e0ccc991c77e4b9dd42c.jpg)
คืนนี้เราพักกันที่ Mikie Holiday หรูซะ แต่นอนไม่หลับ ตรงทางเดินเสียงมันก้องค่ะ
ใครทำอะไรก็ได้ยินหมด..หรือตื่นเต้นพรุ่งนี้ต้องตื่นตี 3 เพื่อจะไปขึ้นภูเขาไฟก็ไม่รู้ค่ะ
![](/f/11956/59a8e0eac991c77e4b9dd42d.jpg)
พรุ่งนี้เช้าต้องตื่นตี 3.30 เพราะนัดคุณลุงคนขับให้มารับที่พักตอนตี 4
และนัดไกด์ไว้ตอนตี 4 ด้วยค่ะ..ไว้เจอกันที่ภูเขาไฟค่ะ
วันที่ 4 ของการตะลอนทัวร์พวกเรา 3 สาว
ตี 3 ครึ่งนาฬิกาปลุกจากมือถือส่งเสียงร้อง...แต่จริง ๆ เราว่าเรานอนไม่หลับนะค่ะ
ห้องที่เราพักมี 2 ชั้นอ่ะ..เพื่อน 2 คนนอนชั้นบน เรานอนชั้นล่างคนเดียว
และเราก็ตื่นเป็นคนแรกเหมือนทุก ๆ วันอีกตามเคยค่ะ...หลังจากล้างหน้าเสร็จก็เรียกเพื่อนมาจัดการต่อ
ตี 4 เสียงโทรศัพท์จากคุณลุงคนขับโทรมาเรียกว่าพร้อมหรือยัง...
พร้อมแล้ว พร้อมแล้ว จากที่พักออกไปไม่ไกลเท่าไหร่ค่ะ
คุณลุงไปตามที่ไกด์นัดไว้ค่ะแล้วก็ขับรถพาพวกเราเพื่อจะไปปล่อยตีนภูเขาไฟ
ตี 4.30 ได้เวลาเริ่มออกเดินทางเพื่อจะปีนขึ้นภูเขาไฟ Sibayak ทุกคนต้องมีไฟฉายส่วนตัวนะค่ะ
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม. ค่ะ แบบว่าถึงข้างบนแล้วทันดูพระอาทิตย์ขึ้นพอดีค่ะ
![](/f/11956/59a8e131c991c77e4b9dd430.jpg)
ถ่ายกะคนนำทางหน่อยนะค่ะ...
![](/f/11956/59a8e152c991c77e4b9dd431.jpg)
เพื่อนเราคนหนึ่งเดินไปได้สักหน่อยก็ฮอบแฮ๊ก ๆ ไอ้เราก็กลัวเพื่อนจะเป็นลมสลบน็อคไป
เราเป็นคนพาเพื่อนมาก็ต้องคอยดันหลังบ้าง จูงแขนบ้าง ถือกระเป๋าให้ทุกอย่าง
กลัวเพื่อนมันมาตายที่ภูเขาไฟค่ะ..แหะ แหะ...
เดินไปหน่อยสักหน่อยก็ต้องพัก แบบนี้ตลอดทาง เพราะเพื่อนมันไม่ไหวจริง ๆ
ไกด์แกก็บอกไม่เป็นไร ค่อย ๆ ไป
พอพักเราก็ด้วยความห่วง ก็ถามเพื่อน เอาน้ำไหม มันบอก "กุไม่เอา กุเข็ดแล้ว" แต่พวกเราก็ได้แต่ขำ ขำ นะ
กำลังจะเดินทางต่อ ไอ้เราก็ฉายไฟฉายไปทางเดินมันดันเป็นทางชันโค้งพอดี
ไอ้เพื่อนคนนี้กำลังจะลุกเดิน พอเห็นทางปุ๊บมันทิ้งตัวลงทันที พร้อมกับทำเสียง ห๊าาาาาาาาาาาาาา!!!
มันบอกว่า "แจ้งไหนกุจะจอดตี้ฮั้น" (แปลไทยให้ค่ะ มันบอกว่า สว่างที่ไหนมันจะพักที่นั่น)
พอเอาไฟฉายไปส่องหน้าเพื่อน เพื่อนบอก กุรมณ์บ่ดีบ่ต้องเอาไฟมาส่องหน้า ขำ ขำ กันอีกแล้วคร้าาาา ^^
และแล้วไอ้คำว่า แจ้งไหนกุจะจอดตี้ฮั้น สรุปแล้ว มันไปสว่างบนปากภูเขาไฟพอดี ....
![](/f/11956/59a8e19fc991c77e4b9dd433.jpg)
![](/f/11956/59a8e1adc991c77e4b9dd434.jpg)
![](/f/11956/59a8e1cac991c77e4b9dd435.jpg)
ภูเขาไฟ Sibayak ยอดสูงสุด 2212 เมตร บนนี้มองเห็นเมืองเบราสตากีข้างล่าง
ใกล้ปากปล่องมีบ่อกำมะถันควันฟุ้ง เสียงหวีดเหมือนกาน้ำร้อนตอนน้ำต้มสุก
เห็นวิวไปไกลถึง Sinabung ที่ยังพ่นควันฉุย
วันที่ 25 ต.ค.57 ภูเขาไฟ Sinabung ได้เกิดการระเบิดขึ้นครั้งใหญ่
ส่งผลทำให้มีควันก๊าซและเถ้าถ่านลอยขึ้นสู่อากาศสูงถึง 15,000 ฟุต (4.5 กิโลเมตร)
ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 คนในหมู่บ้านละแวกใกล้เคียง
แต่ลูกที่พวกเราปีนขึ้นนี้ไม่ปะทุมานานแล้วค่ะ และบอกได้เลยว่าคุ้มค่าเหนื่อยมาก ๆ ค่ะ
ข้างบนสวยมากค่ะ อากาศหนาวจนเย็นเข้ากระดูก เพราะลมพัดแรง...
ขณะที่พวกเรากำลังถ่ายรูปกันอยู่ Sinabung ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็เกิดการพ่นควันขึ้นมา
ทำให้พวกเราตื่นเต้นกันใหญ่เลยค่ะ ไม่เคยเห็นกับตาแบบนี้มาก่อนเลย
![](/f/11956/59a8e1e3c991c77e4b9dd436.jpg)
![](/f/11956/59a8e23ec991c77e4b9dd439.jpg)
![](/f/11956/59a8e250c991c77e4b9dd43a.jpg)
![](/f/11956/59a8e270c991c77e4b9dd43b.jpg)
![](/f/11956/59a8e2a7c991c77e4b9dd43c.jpg)
![](/f/11956/59a8e2bcc991c77e4b9dd43d.jpg)
![](/f/11956/59a8e2cbc991c77e4b9dd43e.jpg)
![](/f/11956/59a8e2f4c991c77e4b9dd43f.jpg)
คาดวาเราใช้เวลาอยู่บนนั้นเกือบ 2 ชม. ได้ค่ะ ก็ได้เวลาเดินลงแล้ววว แต่ใจจริงไม่อยากลงเลยค่ะ
อยากอยู่บนนั้นนาน ๆ แต่ข้างบนนั้นมีคนไปกางเต๊นท์นอนด้วยนะค่ะ
แต่ที่เห็นจะเป็นคนท้องถิ่นค่ะ...
ขาลงนี่เริ่มล้าแล้ว เกร็งเท้ากว่าเดิมเพราะทางมันชันค่ะ...ปวดน่องเลย
ยังจะมีร้องเพลงไปตามทางกะไกด์เค้าด้วยนะค่ะ
![](/f/11956/59a8e312c991c77e4b9dd440.jpg)
![](/f/11956/59a8e328c991c77e4b9dd442.jpg)
กลับถึงที่พัก รีบทานอาหารในสภาพแบบนั้นเลยค่ะ แล้วก็รีบเข้าห้องพักอาบน้ำ เก็บของ
เพื่อเตรียมตัวเดินทางต่อค่ะ
สถานที่ต่อไปที่เราแวะเที่ยวคือ วัดลุมพินี Lumbini ฟรีค่ะ แหม!! ไอ้ทางเดินเข้านี้เอาพวกเราเวียนหัวเลยค่ะ
![](/f/11956/59a8e353c991c77e4b9dd443.jpg)
![](/f/11956/59a8e362c991c77e4b9dd444.jpg)
ข้างในสงบ สวยงามดีค่ะ เลยนั่งทอดอารมณ์กันสักพักถึงออกมา
![](/f/11956/59a8e375c991c77e4b9dd445.jpg)
![](/f/11956/59a8e38cc991c77e4b9dd446.jpg)
นี่คุณลุงคนขับรถของเราค่ะ ดูแลเราเหมือนลูกหลานจริง ๆ
และเดินทางต่อไปยังโบสถ์คริสต์สไตล์อินเดีย Cathalic Church
![](/f/11956/59a8e3b3c991c77e4b9dd447.jpg)
![](/f/11956/59a8e3cdc991c77e4b9dd448.jpg)
![](/f/11956/59a8fc71b655d47f85c0b7f6.jpg)
![](/f/11956/59a8fc93b655d47f85c0b7f7.jpg)
![](/f/11956/59a8fca5b655d47f85c0b7f8.jpg)
![](/f/11956/59a8fcd41da05f094aad0aea.jpg)
วันนี้เราบอกคุณลุงว่าอยากทาน Bakso แกก็พาไปหาทานเลยค่ะ อิ่มอร่อย
ท้องอิ่มก็เดินทางต่อ วันนี้เราเดินทางไปเมือง Bukit Lawang เป็นเมืองที่อิงแอบธรรมชาติ
มีแม่น้ำ Boharok ไหลผ่าน
Bukit Lawang เป็นหมู่บ้านเล็กๆที่มีชื่อเสียงมาจากการเป็นศูนย์อนุรักษ์ลิงอุรังอุตัง
ที่นี่เราไม่ได้จองที่พักไว้ค่ะ แต่คุณลุงพาติดต่อที่พักไว้ให้แล้วค่ะ
ที่เราพักอยู่ติดแม่น้ำเลยค่ะ ตอนแรกกะว่าจะเล่นน้ำแต่มันเย็นอ่ะเลยไม่เล่น
ก็เลยพากันเดินเทียวรอบ ๆ โดยคุณลุงอีกแล้วที่เป็นคนพาพวกเราเดินลัดเลาะรอบ ๆ
![](/f/11956/59a8fcfdb655d47f85c0b7f9.jpg)
![](/f/11956/59a8fd0db655d47f85c0b7fa.jpg)
![](/f/11956/59a8fd321da05f094aad0aeb.jpg)
![](/f/11956/59a8fd6b1da05f094aad0aed.jpg)
![](/f/11956/59a8fd9fb655d47f85c0b7fc.jpg)
หน้าห้องพักค่ะ..
คืนนั้นเป็นคืนปีใหม่ของอิสลามพอดีค่ะ
เค้ามีปาร์ตี้สไตล์แขก ๆ ยังไงไม่รู้ค่ะ เห็นเค้าเต้นเหมือนในหนังอินเดียค่ะ
เปิดเพลงปาร์ตี้กันสนุกสนานมากเลยค่ะ เรานี่ออกมาชะโงกดูหลายครั้ง
ที่ออกมาดูนี่ไม่ได้รำคาญนะค่ะ แต่เพลงมันเร้าใจอยากกระโดดเข้าไปเต้นด้วยค่ะ
แต่ก็ต้องอดใจไว้ค่ะ...อิอิ
จริง ๆ พรุ่งนี้พวกเราตั้งใจจะไปดูลิงอุรังอุตังนะค่ะ แต่แพงเกินค่ะ 450,000 Rp.
เลยตกลงกันว่าไม่ไป แล้วอีกอย่างคืนนี้ก็ขอชิลล์ ชิลล์ สบาย ๆ กันดีกว่าค่ะ
สรุป...คืนนี้พวกเรา 3 คน ตบท้ายด้วยเบียร์กันอีกแล้วค่ะ และบะหมี่คัพของอินโดคนละถ้วย
เหนื่อยกันตั้งแต่ตี 3 กว่าแล้ว วันนี้ขอนอนสบาย ๆ แต่หัวค่ำกันสักหน่อยนะค่ะ....
พรุ่งนี้พวกเราจะกลับเข้าไปเที่ยวในเมืองเมดาน กันต่อค่ะ
วันที่ 5 ของการเดินทาง
วันนี้เป็นวันที่เราไม่เร่งรีบค่ะ ตื่นสายได้เพราะนัดคุณลุงไว้ 9 โมงเช้า
แต่เราชินกับการตื่นเช้าค่ะ 6 โมงกว่าเราก็ตื่นแล้วค่ะ ออกมารับอากาศข้างนอกสักนิดให้สดชื่นหน่อย
ประมาณ 8 โมงกว่า ทุกคนก็พร้อมค่ะ ออกไปทานอาหารเช้ากันดีกว่าค่ะ...อาหารอร่อยทุกอย่างจริง ๆ ค่ะ
ผลไม้หวาน สด ยิ่งน้ำส้มนี่บอกเลยว่าน้ำส้มสดจริง ๆ ค่ะ...ชื่นใจ
![](/f/11956/59a90210b655d47f85c0b802.jpg)
วันนี้พวกเราเดินทางเข้าตัวเมือง Medan กันแล้วค่ะ..เข้าไปเทียวในเมืองกัน
แต่ว่าพอเข้าถึงในตัวเมือง ฝนตกหนักมาก ๆ ค่ะ แต่ยังดีที่มันยังหยุดให้พวกเราบ้างนะค่ะ..
![](/f/11956/59a902361da05f094aad0aef.jpg)
![](/f/11956/59a902531da05f094aad0af0.jpg)
ที่แรกที่พวกเราแวะไปคือ Mesjid Raya แต่ที่นี่เราไม่ได้เข้าไปชมข้างในนะค่ะ
เลยขอแค่ถ่ายรูปด้านนอกมาก็พอค่ะ ... พอดีเพื่อนมันไม่ลงกัน..ใจจริงเราอยากเข้าข้างในนะค่ะ
อยากเห็นความสวยงามข้างใน....แต่ก็ไม่เป็นไร ได้แต่รูปภายนอกมา แต่เราว่าเป็นศิลปะที่สวยค่ะ
![](/f/11956/59a902811da05f094aad0af1.jpg)
เพื่อนเริ่มบ่นหิวแล้ว...พอขับรถผ่านร้านพิซซ่าฮัท..เพื่อนเลยบอกว่าอยากทานพิซซ่าที่อินโด
คุณลุงก็จัดให้ค่ะ ก็พาพวกเราไปทานพิซซ่ากัน พวกเราก็ชวนให้คุณลุงทานด้วยกันค่ะ..
ไส้กรอกในร้านพิซซ่าฮัท ที่นี่เครื่องเทศแรงมากค่ะ สำหรับเรา เราว่าไส้กรอกไม่อร่อยเท่าไหร่
แต่พิซซ่าก็ OK นะค่ะ...สาวร้านพิซซ่า สวยน่ารัก
![](/f/11956/59a902ae1da05f094aad0af2.jpg)
![](/f/11956/59a902c21da05f094aad0af3.jpg)
พวกเรานั่งอยู่ที่ร้านพิซซ่ากันอยู่นานเลยค่ะ เพราะรอให้ฝนซาก่อน ถึงจะเริ่มเดินทางต่อ
สถานที่ต่อไปคือวังสุลต่าน Maimoon Palace ค่าเข้าชมคนละ 5,000 Rp.
วังสุลต่านในเมืองเมดาน เป็นคอนกรีตกึ่งไม้ 2 ชั้น สถาปัตยกรรมทรงปั้นหยาผสมตะวันตก มีอายุร้อยกว่าปี
ภายในวังสุลต่าน เราสามารถเช่าชุดสาหรี่ถ่ายรูปได้ค่ะ คิดค่าเช่าชุดคนละ 30,000 Rp.
![](/f/11956/59a90328b655d47f85c0b803.jpg)
![](/f/11956/59a9033eb655d47f85c0b804.jpg)
![](/f/11956/59a90354b655d47f85c0b805.jpg)
![](/f/11956/59a90361b655d47f85c0b806.jpg)
![](/f/11956/59a9036eb655d47f85c0b807.jpg)
![](/f/11956/59a903d61da05f094aad0af4.jpg)
เรากะเพื่อนได้เช่าถ่ายรูปกันมาด้วยค่ะ...
แต่เขินอ่ะค่ะ..ตอนแต่งตัวอยู่มีเด็กนักเรียน 3 คน มายืนมอง ยืนรอ
พอเราแต่งตัวเสร็จน้องนักเรียน 3 คนนี้ ก็วิ่งมาขอถ่ายเซลฟี่ด้วย..เลยจัดให้ค่ะ ^^
ทำยังกะเป็นดาราซะงั้น ☺♥
![](/f/11956/59a90405b655d47f85c0b808.jpg)
![](/f/11956/59a9047db655d47f85c0b809.jpg)
ด้านนอกของวังสุลต่านค่ะ...สวยงามอลังการดีนะค่ะ
สถานที่ต่อไปคือ บ้านเศรษฐีชาวจีน Tjone A Fie Mansion ค่าเข้าชมสถานที่ คนละ 35,000 Rp.
เป็นบ้านโบราณสไตล์จีน สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1900
เจ้าของคฤหาสน์เป็นมหาเศรษฐีคนแรกแห่งเกาะสุมาตราที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก
ท่านชื่อ Tjong A Fie ท่านเกิดในปี ค.ศ. 1860 ในหมู่บ้าน Sung Kow รัฐกวางตุ้ง ประเทศจีน
ได้ย้ายเข้ามาทำการค้าเป็นร้านขายของชำในเมืองเบลาวัน ในปีค.ศ. 1877 จนกิจการขยายใหญ่โตรุ่งเรือง
บทบาทหน้าที่ของท่านเจ้าสัวคือ การดูแลชุมชนชาวจีนบนเกาะสุมาตรา
Tjong A Fie ได้สิ้นลมในปี ค.ศ. 1921
กระเบื้องปูพื้นของแต่ละห้องมักจะใช้กระเบื้องนำเข้าอย่างดีจากประเทศอิตาลี
อายุอานามก็แทบจะเกิน 100 ปี
การออกแบบบานพับหน้าต่างก็คล้ายกับเรือนปั้นหยาทางภาคใต้ของบ้านเรา
การตกแต่งเพดานห้องนั้นงดงามมาก ประดับด้วยโคมไฟระย้านำเข้าจากอิตาลี
ชั้นบนมีทั้งห้องนอน ห้องแต่งตัว ห้องแสดงภาพถ่ายของตระกูลตั้งแต่อดีตไล่มาจนถึงปัจจุบัน
พวกเราใช้เวลาในการชมแต่ละห้องนานพอสมควรค่ะ..
![](/f/11956/59a904c31da05f094aad0af5.jpg)
จะเจอป้ายแบบนี้อยู่ตรงหน้าบ้าน
![](/f/11956/59a90b7b1da05f094aad0b03.jpg)
ด้านหน้าของตัวบ้านค่ะ
![](/f/11956/59a905171da05f094aad0af6.jpg)
![](/f/11956/59a905791da05f094aad0af7.jpg)
![](/f/11956/59a90597b655d47f85c0b80b.jpg)
![](/f/11956/59a905b5b655d47f85c0b80c.jpg)
![](/f/11956/59a905dfb655d47f85c0b80d.jpg)
![](/f/11956/59a905ef1da05f094aad0af8.jpg)
![](/f/11956/59a9060fb655d47f85c0b80e.jpg)
![](/f/11956/59a9062bb655d47f85c0b80f.jpg)
![](/f/11956/59a90648b655d47f85c0b810.jpg)
![](/f/11956/59a90659b655d47f85c0b811.jpg)
![](/f/11956/59a906701da05f094aad0af9.jpg)
![](/f/11956/59a906981da05f094aad0afa.jpg)
![](/f/11956/59a906a61da05f094aad0afb.jpg)
![](/f/11956/59a906e2b655d47f85c0b812.jpg)
![](/f/11956/59a906f0b655d47f85c0b813.jpg)
![](/f/11956/59a907461da05f094aad0afc.jpg)
![](/f/11956/59a9076d1da05f094aad0afd.jpg)
ข้างบนบ้านจะมีร้านตัดเย็บ และขายเสื้อผ้าอยู่ภายในบ้านด้วยค่ะ ชอบตัวไหนซื้อเลยค่ะ
![](/f/11956/59a9077d1da05f094aad0afe.jpg)
![](/f/11956/59a907a21da05f094aad0aff.jpg)
![](/f/11956/59a907d61da05f094aad0b01.jpg)
เราใช้เวลาอยู่กับบ้านเศรษฐีชาวจีนนานพอสมควร
และชอบบ้านไม้แล้วยิ่งมาเจอสไตล์จีนแบบนี้ยิ่งชอบเลยค่ะ
เวลาเดินดูสิ่งของภายในบ้านก็ดูคลาสสิคมากเลยค่ะ ของทุกอย่างยังเก็บไว้เป็นอย่างดี
เดินออกมาจากบ้านเศรษฐีชาวจีนก็ขอเก็บบรรยากาศบ้านเมืองรอบ ๆ นี้สักหน่อยค่ะ..ฝนไม่น่าตกเลย
![](/f/11956/59a907fbb655d47f85c0b814.jpg)
![](/f/11956/59a90824b655d47f85c0b815.jpg)
และพวกเราก็เดินทางต่อไปยัง Maha Vihara Matreya เราว่าเป็นศิลปะแบบชาวฮินดูค่ะ
สีสันข้างในสวยสดใสมาก ๆ เลยค่ะ
![](/f/11956/59a9083cb655d47f85c0b816.jpg)
![](/f/11956/59a9084eb655d47f85c0b818.jpg)
![](/f/11956/59a9086bb655d47f85c0b819.jpg)
![](/f/11956/59a90889b655d47f85c0b81a.jpg)
![](/f/11956/59a9089eb655d47f85c0b81b.jpg)
![](/f/11956/59a908b1b655d47f85c0b81c.jpg)
การทำความเคารพของที่นี่จะแปลก ๆ ค่ะ เค้าจะไหวตรงรูปเคารพข้างหน้าก่อนค่ะ
แล้วเค้าก็จะเดินพนมมือไหว้ถอยหลังออกประตูไป แล้วก็ก้มลงกราบ
![](/f/11956/59a908ccb655d47f85c0b81d.jpg)
![](/f/11956/59a908ddb655d47f85c0b81e.jpg)
หลังจากออกจากที่นี่คุณลุงก็ถามพวกเราว่าจะไปที่ไหนต่อไหม..พวกเราก็ไม่รู้จะไปไหนแล้วค่ะ
เลยบอกให้คุณลุงขับรถพาชมเมือง แต่ว่าฝนมันตกหนักมาก ๆ แทบจะมองไม่เห็นอะไรเลย
เราเลยบอกคุณลุงว่าไปส่งพวกเราเข้าที่พักเลยดีกว่าค่ะ...ไปแล้วก็ไม่เห็นอะไรแล้ว
และคุณลุงเค้าจะได้กลับบ้านไปพักผ่อนด้วยสงสารแกค่ะ เหนื่อยกับพวกเรามาตั้ง 4 วันแล้ว
วันนี้เราพักกันที่ Swiss-Belinn Medan
![](/f/11956/59a908fdb655d47f85c0b820.jpg)
และวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่พวกเราทั้ง 3 กับคุณลุงจะต้องจากกันแล้ว
บอกตามตรงเลยว่าพวกเราเศร้ามาก ๆ เลยค่ะ พอคุณลุงไปส่งพวกเราที่พักแล้ว
พวกเราก็จ่ายค่าเช่ารถทั้ง 4 วัน 2,500,000 Rp. ให้กับคุณลุง
แต่ด้วยความมีน้ำใจของคุณลุงที่ดูแลพวกเราอย่างดี เลยให้ทิปคุณลุงไป 200,000 Rp.
จริง ๆ เรากะเพื่อนอีกคนอยากให้ทิปไป 300,000 Rp. แต่เพื่อนอีกคนเค้าไม่ยอมก็เลยตามนั้นค่ะ
ก่อนจะจากกันพวกเราถึงกับน้ำตาคลอเลยค่ะเพราะอยู่กับคุณลุงแทบจะ 24 ชม.เลยก็ว่าได้
หัวเราะ ร้องเพลง คุยเล่นกันตลอดทาง...คุณลุงแกก็เหมือนอยากจะร้องไห้เหมือนกันค่ะ
แกบอกว่าถ้ามีโอกาสมาอีกให้โทรมาหาแกนะ...
...ขนาดคืนที่แกกลับไปแล้ว แกก็ยังส่งข้อความมาที่มือถือ
บอกว่าคิดถึงพวกฉันทั้ง 3 คนมาก และขอให้พวกเราโชคดี
...วันจะกลับฉันก็ส่งข้อความไปหาแกบอกแกว่าพวกเรากำลังจะเดินทางกลับแล้ว คิดถึงคุณลุงมาก ๆ...
วันที่ 6 วันสุดท้ายเตรียมตัวเดินทางกลับ
วันนี้พวกเราไม่ได้ไปเที่ยวไหนแล้วค่ะเพราะต้องเตรียมตัวกลับแล้วต้องไปถึงสนามบินประมาณ 11 โมง
เราเลยใช้บริการรถจากโรงแรมไปส่งที่สนามบิน
เพื่อน ๆ กรี๊ดกร๊าดพนักงานขับรถน่ารัก ^^
![](/f/11956/59a9093eb655d47f85c0b821.jpg)
![](/f/11956/59a90982b655d47f85c0b823.jpg)
แต่ละคนเริ่มหมดสภาพแล้ว...รอเวลาเช็คอินหน้า AirAsia
![](/f/11956/59a909a4b655d47f85c0b824.jpg)
ได้เวลาเดินทางเข้า Gate กันแล้วคะ
![](/f/11956/59a909c5b655d47f85c0b825.jpg)
ข้างในสนามบินจะมีนักร้อง ร้องเพลงให้ฟังด้วยนะค่ะ...นักร้องสวยมาก ๆ เลยขอไปแช๊ะภาพหน่อย
แถมไม่พอนั่งฟังกันเพลินเลยค่ะ...เกือบลืมไปว่าต้องไปผ่าน ตม. อีกนะ
![](/f/11956/59a909e4b655d47f85c0b826.jpg)
![](/f/11956/59a90a01b655d47f85c0b827.jpg)
...และแล้วก็ได้เวลาเดินทางขึ้นเครื่องกลับประเทศไทยแล้วค่ะ...บอกเลยว่าเป็นทริปที่สนุกจริง ๆ ค่ะ..
...เดินทางกลับสู่ประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ...
- เวลาที่อินโดนีเซียจะเท่ากับเวลาที่ประเทศไทย
- อย่าลืมที่แปลงปลั๊กไฟ ที่โน่นจะเป็นแบบหัวกลม
- ขาออกจ่ายค่าภาษีสนามบินคนละ 200,000 Rp/คน
- ไฟฉายสำหรับใช้เดินขึ้นภูเขาไฟ
- เสื้อกันฝน
- ทริปนี้เราหมดไปประมาณคนละ 8,000 บาท (ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน)
คนเหนือจวนแอ่ว
วันศุกร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 14.54 น.