ทริปนี้เดินทางเมื่อต้นเดือน กรกฎาคม ที่ผ่านมา

จริง ๆ ไปเชียงดาวก่อน แล้ววกมาอินทนนท์

แต่ก็อยากรีวิวอินทนนท์ก่อนอย่างไม่มีเหตุผล

เริ่มที่นี่ค่ะ สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์

ตั้งใจไว้นานหละ ถ้าไปอินทนนท์จะพักที่นี่



บ้านพักเกษตรหลวงอินทนนท์มีห้องพักดังนี้

๑.บ้านพักสิริภูมิ A พักได้ ๕ คน

๒.บ้านพักสิริภูมิ R พักได้ ๔ คน

๓.บ้านพักสิริภูมิ B พักได้ ๒ คน



ทริปนี้ของเรา จองบ้านพักสิริภูมิ B

ราคา ๑,๑๐๐ บาทรวามอาหารเช้าบุฟเฟ่ต์



ความที่ออกมาจากเชียงดาวก็บ่าย มาถึงอินทนนท์ก็มืดหละค่ะ

ว่าแล้วก็เช็คอินกันก่อน



อาคารนี้ค่ะ ด้านบนเป็นห้องอาหาร

ห้องพักของเรา สิริภูมิ B

มีห้องใต้หลังคาด้วย

มีชา กาแฟ ให้ในห้อง

ห้องน้ำเก่าสักนิด แต่สะอาดสะอ้านดีค่ะ

ระเบียง ถ่ายตอนเช้านิดนึง

ภายในห้องมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบค่ะ

ทีวี ตู้เย็น กาต้มน้ำ ไดซ์เป่าผม รองเท้าแตะ ร่ม

อุปกรณ์อาบน้ำ เครื่องทำน้ำอุ่น



แต่ ไม่มีแอร์ ไม่มีแม้แต่พัดลมค่ะ

ที่แรกก็คิดนะ เราเป็นคนขี้ร้อน ไม่มีแม้แต่พัดลมจะไหวไหม

แต่ก็ได้ยินมาบ้างว่า อินทนนท์อากาศเย็นทุกฤดูกาล



ซึ่งจริงค่ะ จริงมาก กลางคืนนี่หนาวเลย แอร์ พัดลมไม่จำเป็นจริง ๆ



เอาหละ เข้าห้องพักเก็บของเสร็จก็รีบไปหาอะไรกินก่อนดีกว่า หิวมาก

ครัวปิดประมาณสองทุ่มครึ่งค่ะ

สั่งชาร้อนมาดื่มหน่อย อากาศเย็นมาก

หอม นุ่ม ละมุน

มาดูอาหารมื้อค่ำของเราค่ะ

อร่อยมาก อร่อยทุกอย่าง อร่อยติดลิ้นเลยค่ะ ราคาก็เป็นมิตรสุด ๆ

โพสรูปไปก็คิดถึง อยากกลับไปกินอีก



อิ่มแล้วก็นอนสบายหละ

ฝนตกปรอย ๆ ยามเช้าก็ออกไปเดินเล่นรอบ ๆ สักหน่อย

ลักษณะบ้านสิริภูมิ

สิริภูมิฝั่งนี้น่าสนใจมาก มีสายเหมืองไหลผ่านหน้าบ้านด้วย

ดอกไม้มากมาย ชื่นใจชื่นตา

มองขึ้นไปเห็นน้ำตกสิริภูมิ

หมอกจาง ๆ บางเบา

ไปทานมื้อเช้ากันนนนน

ดอกไม้บนโต๊ะ สดชื่นดีจัง

อาหารเช้าเป็นบุฟเพต์ มีให้เลือกเยอะค่ะ เยอะมาก

แต่อาหารอาจขาดช่วงถ้าคนเยอะ อันนี้อยากให้รอค่ะ อย่าหงุดหงิด

จากที่สังเกตนะ เขาไม่ได้ทำอาหารที่ละเยอะ ๆ แล้วยกหม้อมาวางเหมือนบุฟเฟต์ทั่วไป

แต่จะทำทีละจาน แล้วเอามาเติมเรื่อย ๆ อาจเป็นมาตรฐานของเขาหรือเปล่า ไม่แน่ใจ

เผื่อถ้าทำที่ละเยอะ ๆ มันอาจจะชืด รสจะเสียไรงี้

(อันนี้เดาล้วน ๆ ค่ะ )

ผัดปวยเล้ง แนะนำเลย อร่อยมาก ๆๆๆ

ขนม ผลไม้ ก็เช่นกัน มาเติมทีละจาน

อย่างซาลาเปา อร่อยมากกกกกกกกกก ต้องรอกันนานเลย เพราะมาทีละ 4-6 ลูก

ทานมื้อเช้าเสร็จ เก็บของ เช็คเอาท์ เดี๋ยวจะไปเดินอ่างกากัน

ดินแดนมหัศจรรย์...อ่างกา

เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา อยู่บนยอดดอยอินทนนท์

สภาพผืนป่าน่ามหัศจรรย์มาก เหมือนหลุดเข้าไปในโลกโบราณ

เหมือนอยู่ในมิติแห่งความฝัน



เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่อยู่ในจุดสูงสุดของประเทศ



จากสถานีเกษตรหลวงขึ้oไปเรื่อย ๆ จนถึงยอดอินทนนท์

มีป้ายอยู่ จอดรถเดินลงไปได้เลยค่ะ

เหมือนดินแดนในนิทานจริง ๆ

เราตัวเล็กนิดเดียวเมื่ออยู่ในที่แห่งนี้

สวยจนอยากเดินวนไปวนมานาน ๆ

ไว้จะมาใหม่แล้วกันนะ ทริปนี้เวลามีน้อย

ป่ะ ไปน้ำตกผาดอกเสี้ยวกันต่อ

ลงกลับมาทางเดิมค่ะ

แวะกินมื้อเที่ยงที่สถานีเกษตรหลวงก่อน

เพราะผาดอกเสี้ยวต้องเดินกันเยอะพอสมควร

ตุนพลังงานไว้ก่อน



ยังติดใจชาร้อนเมื่อคืน วันนี้สั่งอีก

อาหารกลางวัน อร่อยตามเคย อร่อยมากกกก

แต่ตอนเที่ยง ๆ นี่คนเยอะน่าดู รอนานสักหน่อย

อิ่มแล้วสบายใจ มีแรงไปเดินป่าหละ

น้ำตกผาดอกเสี้ยว

การเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติผาดอกเสี้ยว ต้องติดต่อที่หมู่บ้านแม่กลางหลวง

ต้องมีไกด์นำทาง ซึ่งเป็นชาวบ้านท้องถิ่นนั่นแหละค่ะ



มีสองเส้นทางให้เลือก คือ

ถ้าเดินจากในหมู่บ้าน ก็มีระยะทางราว ๕ กิโลเมตรไปและกลับ

อาจจะเหนื่อยหน่อย ต้องเดินขึ้นเขา และกลับลงมา



แต่ถ้าเลือกอีกเส้นทางคือ ให้รถไปส่งที่จุดเดินลง

ก็จะเดินลงอย่างเดียว เป็นระยะทางราว ๒.๕ กิโลเมตร อันนี้เดินง่ายหน่อย ไม่เหนื่อยมาก



แน่นอน เราเลือกเส้นทางเดินลงอย่างเดียวอยู่แล้วววว 55555

หากเลือกเส้นทางแบบทริปเรา ก็ต้องจอดรถไว้ที่หมู่บ้านค่ะ

แล้วติดต่อรถรับจ้างของหมู่บ้านให้ไปส่งที่จุดเริ่มด้านบน

#ค่ารถ 200 บาท

#ค่าไกด์ 200 บาท



รถแบบนี้ค่ะ

และนี่ไกด์ของเรา

อ่านป้ายกฎ กติกาก่อนนะคะ

เอาหละ เริ่ม

เดินเข้าป่าดงมาพักใหญ่ ๆ จะเจอแปลงเบญจมาศสีขาว



สวยงามทีเดียวเชียว

หันหลังจากแปลงเบญจมาศมาก็เจอนี่



ลำธารน้ำใสไหลเย็น

เดินเลาะ ๆ กันไปเรื่อย ๆ ขึ้นเนินลงเนินเลียบริมน้ำตกแต่ละชั้น

ผาดอกเสี้ยวเนี่ย ตามข้อมูลเห็นว่ามี ๑๐ ชั้น แต่ชั้นที่สะดวกสำหรับนักท่องเที่ยว

ก็คือ ชั้น ๖-๑๐ ชั้นที่เป็นไฮไลท์ที่เป็นฉากในเรื่อง รักจัง คือชั้น ๗ ค่ะ



เราก็ลัดเลาะลงมาจากชั้น ๑๐ ลงมาเรื่อย ๆ สวยงามทุกจุดบอกเลย

บางช่วงก็เป็นบันไดขึ้นลงแบบนี้

ชีวิตเล็ก ๆ ริมทาง

และแล้วเราก็มาทะลุชั้น ๗ แล้วววว

นั่นฉันเอง

ส่วนนั่น มีคนนั่งกางร่มสีสันสดใส แหม เหมาะเจาะอะไรเช่นนี้

ทำให้รูปที่ได้มารู้สึกมีความสดใสขึ้นเยอะเลย

สะพานในตำนาน รักจัง



ดื่มด่ำกันไปพักใหญ่ ๆ ให้สมกับความเหนื่อย

แล้วก็เตรียมเดินต่อ เราจะลงไปยังหมู่บ้านแม่กลางหลวง

หมู่บ้านแม่กลางหลวง



จากน้ำตกผาดอกเสี้ยวเราเดินลงมากันเรื่อย ๆ

เส้นทางเดินในป่า สวยงาม ธรรมชาติแน่น ๆ สด ๆ

เดินผ่านป่า ผ่านธารน้ำไหล ผ่านวิถีชีวิตที่งามงด



ในทริปเรา นอกจากทีมเรา

ก็มีทีมฝรั่งอีกสองคนที่มาเดิน ไม่มีคนอื่นเลย เงียบดีแท้



ตามพี่ไกด์กันต่อปายยย

ผ่านนาขั้นบันไดเป็นช่วง ๆ

บ้างก็เป็นแปลงผัก แปลงสตรอเบอรี่

เอ๊ะ คืออะไร นี่คืออะไร?

คำตอบ ห้องน้ำจ้า แหม ก็เดินป่ากันราว ๆ ๓-๔ ชั่วโมงนะ

เผื่อใครปวดหนักปวดเบา ก็มีห้องน้ำให้เข้าระหว่างทาง

เข้าห้องน้ำเรียบร้อยก็ไปต่อ

ใกล้ถึงหมู่บ้านแล้ว ยู้หู้ววว

ในที่สุดก็ลงมาถึงหมู่บ้าน

ไปดื่มกาแฟกันก่อน มาถึงนี่แล้วต้องไปชิมกาแฟสด ส๊ด สด นะคะ



ร้านกาแฟสดศูนย์แม่กลางหลวง

อยากให้ไปชิม สดส๊ดสด ห๊อมหอม

ดื่มฟรีค่ะ แต่มีผลิตภัณฑ์กาแฟขาย

ใครชอบก็ซื้อกันโลดดดด

รสละมุนหอมกรุ่นทีเดียวเชียว

เครื่องบดกาแฟ

อิ้มมม หอม

นี่ค่ะ เป็นซองแบบนี้ ซื้อกลับบ้านกันเถอะ

บรรยากาศร้าน

เมื่อหันไปเห็น ก็น้ำตาซึมจนได้

ไป ลงไปดูหมู่บ้านกันสักเล็กน้อย

ไปเอารถที่จอดไว้ด้วย

นาข้าวช่วงนั้นยังไม่โตมาก แต่ตอนนี้คาดว่าเขียวขจีเลยหละค่ะ

ที่แม่กลางหลวงที่พักค่อนข้างเยอะอยู่ค่ะ แนวโฮมสเตย์

แต่ความสะดวกสบายก็พอสมควรค่ะ ค่อนข้างดีเลยหละ

สำหรับการเดินทางในเส้นทางอินทนนท์นะคะ



#รถส่วนตัว

ก็ตรงมาอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์เลยค่ะ

ถ้าหากจะแวะแม่กลางหลวงก่อนก็ประมาณกิโลเมตรที่ 26 ค่ะ

ซ้ายมือ ป้ายบ้านแม่กลางหลวง เลี้ยวเข้าไปนิดเดียวถึงหละ

ถ้าหากขึ้นไปเที่ยวบนดอยอินทนนท์ก่อน ขาลงก็มองขวามือค่ะ



#รถโดยสาร

#จากกรุงเทพฯ

นั่งรถ กทม.- จอมทอง

แล้วต่อรถสองแถวสีเหลือง คิวข้างวัดศรีจอมทอง สาย จอมทอง-แม่เจ่ม

ถ้าลงแม่กลางหลวง ก็บอกคนขับว่าลงบ้านแม่กลางหลวง

พอถึง ลงรถก็เดินเข้าหมู่บ้านไม่กี่ร้อยเมตร หากลงจุดอื่น ๆ ก็แจ้งไปค่ะ เพราะสายนี้ไปถึงแม่แจ่ม



#จากเชียงใหม่

ไปขึ้นสองแถวที่ประตูเชียงใหม่ สาย เชียงใหม่-จอมทอง

ลงจอมทองก็ต่อสองแถวเหลืองรายละเอียดเหมือนข้างบน



หรืออาจจะติดต่อรถรับจ้างที่แม่กลางหลวงพาเที่ยวที่อื่น ๆ บนอินทนนท์ก็ได้ค่ะ



หรือจะนั่งเครื่องและเช่ารถจากสนามบินเลยก็ได้ค่ะ สะดวกดี



จบรีวิวแต่เพียงเท่านี้ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมค่ะ



Paramee Na Prasri

Paramee Na Prasri

 วันศุกร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 18.19 น.

ความคิดเห็น