สวัสดีทุกคน เรามาอีกแล้ว เรายังไม่ได้เลิกเดินป่านะ แต่ช่วงนี้ ไม่ได้เขียนรีวิว เพราะยังไม่เจอวิว เจ๋งๆเราเจอแต่หมอกฟุ้งๆ บางที่เราไม่เจอวิวสวยๆ

มีบางทริปรถติดหล่มเราไปไม่ถึงยอดก็มี แต่ทุกทริปสนุกนะ ได้เพื่อนเพียบเอาล่ะ เราว่ามันถึงเวลาแล้วล่ะ มันเป็นวันของเราแล้วล่ะ เรามีทริปที่วิวทำให้หัวใจเราพองโตมาฝาก และอยากให้เพื่อนๆไปกัน

กับทริป เดินป่าม่อนปุยหมอก อช.แม่เมย จ.ตาก 2 วัน 1 คืน 26-27 สิงหาคม 60

เอาภาพไปดูก่อนอ่ะ

ข้อมูลม่อนปุยหมอกค่ะ

เป็นจุดที่ชมทะเลหมอกได้กว้างไกลและชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกได้งดงามอีกแห่งหนึ่ง

การเดินทาง จากตัวอุทยาน ต้องเดินทางขึ้นไปด้วยเท้าระยะทาง 4 ก.ม.ใช้เวลาเดินเท้าเข้าไปประมาณ 4-5 ชั่วโมง และ ต้องพักค้างแรม 1 คืน ก่อนมาเดิน ต้องเตรียมร่างกายมาให้พร้อมเลย เพราะ 4 ก.ม.นี้ ทางชันและขึ้นเขาอย่างเดียว จะมีทางราบและลงเพียงเล็กน้อย เท่านั้น หากมาในช่วงปลายฝนต้นหนาว จะได้ ชมไม้ แมลงและความเขียวขจีของเฟรินไปตลอดทางเดิน

แต่ก็ไม่ได้โหดอะไรมากมายหรอก เชื่อเรา ด้านบน ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ มีน้ำจากลำธาร ที่ลูกหาบไปตักให้ ใช้ล้างผักทำกับข้าวได้

เดี๋ยวๆๆๆๆ รู้จักกันมากขึ้น อยากทักทาย พูดคุย ขอคำแนะนำ ได้หมดค่ะแต่ห้ามขอยืมตังค์ 5555

หรือใครอยากไปเดินป่ากับเรา เข้าไปดูทริปต่างๆได้นะ

ที่นี่ เพจ นักเดินทางตัวน้อย ค่ะ

https://www.facebook.com/journeymemories/

ขายของเสร็จเราก็สบายใจ เดินทางกันต่อค่ะ อิอิ

ดูภาพสวยๆจากด้านบนกันแล้ว อยากไปกันยังจ๊ะ

เด็กน้อยขี้สงสัย : พี่คะๆๆๆถ้าหนูอยากไปเดินม่อนปุยหมอก ทำไงอ่ะคะ

แจ๊คผู้ใจดี : ไม่ยากค่ะลูก(น้ำเสียงอ่อนโยน เอ็นดูเพื่อนมนุษย์) โทรไปเบอร์นี้ อช.แม่เมย 088 2907964 ติดต่อเจ้าหน้าที่ไว้ ว่าหนูจะไป

เดินม่อนปุยหมอกค่ะ

ต้องใช้เจ้าหน้าที่นำทางนะหนู ไม่งั้นหลงแน่นวลราคา 800 บาท ลูกหาบ กิโลละ 15 บาท

ค่าเข้าอช.40 บาท ค่ากางเต๊นท์ 30บาท จุดเริ่มเดินอยู่ที่อุทยานเลย

เด็กน้อยขี้สงสัย : พี่ใจดีจังเลย ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ

แจ๊คผู้ใจดี : ยินดีค่ะ

เดี๋ยวววววว แจ๊คเป็นอะไรมากมั้ย ถามเอง ตอบเอง อะไรของแก 5555

มาเล่าต่อดีกว่า แจ๊คไปเห็นภาพทะเลหมอกสวยมาก พอดูๆข้อมูล อ้าว ต้องเดินเท้าขึ้น แบบนี้หนีไปคนเดียวไม่ได้

จัดทริปดิ่ แจ๊คเลยจัดทริปในเพจ ชวนๆเพื่อนๆในเพจไป เราก็ได้สมาชิกมา 9 คน รวมเป็น10 คน

แต่วันเดินทางเหลือแค่ 9 ทำไมอ่ะเหรอ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง เป็นการโดนเท ที่ต้องร้องเชี้ยหนักมาก

เราออกเดินทางกัน คืนวันศุกร์ที่ 25 สิงหา ประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง

ไปถึงท่าสองยางก็สว่างแล้วล่ะ ประมาณ 6 โมงเช้าเห็นจะได้

เราซื้อของสด ที่ตลาดเทศบาลแม่ต้าน อ.ท่าสองยาง

ไม่มีอาหารทะเลขายนะ ที่นี่จะมีเซเว่นด้วย ขาดเหลืออะไรก็ซื้อมันซะที่นี่ให้ครบเลยเด้อ

เดี๋ยวจะยิงยาวไปอุทยานเลย

จากบ้านแม่ต้าน เราตรงไปอุทยาน วิวข้างทางสวยมาก ทุ่งนาเขียวๆ มีภูเขาเป็นฉากหลัง

มีหมอกลอยคลอเคลียร์อยู่ตามยอดเขา บรรยากาศตอนนั้น มันดี๊ดี ไม่รู้สมาชิกดูวิวกันบ้างรึป่าว

รู้สึกเม้าท์มอยกันอย่างเดียว ขนาดเพิ่งรู้จักกันนะเนี่ย นี่แหระความน่ารักของสายป่า

ไม่นานเราก็ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่เมย มันเงียบมากจริงๆ ช่วงนี้ไม่ค่อยมีคนเที่ยว นั่นแหละที่เราต้องการ

จุดชมหมอกของที่นี่ จะมี ม่อนคูบาใส ม่อนพูนสุดา ม่อนกิ่วลม ทั้งหมดนี้ รถไปถึง มีเฉพาะม่อนปุยหมอก ที่ต้องเดินเท้าขึ้นไป ค้างคืน กางเต๊นท์ที่จุดชมวิวเลย แบบเปิดเต๊นท์มาแล้วเจอวิว คือดี เราเลยไม่ต้องรีบขึ้นไป งั้นก็ขึ้นไปที่ม่อนครูบาใสก่อน ขับรถขึ้นไปประมาณ 9 โล

แต่เราได้แค่หมอกฟุ้งๆ ไม่เห็นเหมือนในรีวิวคุณชานมเลย 5555

มารู้ที่หลังนี่มันทริปรวมพวกดวงหมอกฟุ้งนี่หว่า โอ้ยยยยย ใจคอไม่ค่อยดี

กลับมาที่ทำการอุทยาน จัดแจงสัมภาระ เปลี่ยนเสื้อผ้า

ขอบคุณภาพจากพี่ฝนค่ะ

นี่เป้เรา ไหนๆๆๆ กี่กิโลว่ามา

9กิโล แบกไปดิ่

งานป้ายต้องมา

เรียบร้อยแล้วเราก็เริ่มเดินเท้า ฝ่าดงทาก ขึ้นม่อนปุยหมอกกัน

ตรงที่ทำการอช. มีน้ำตกด้วยค่ะ

แผนที่จ้าาาา

พร้อมยัง พร้อมแล้วก็ตามเรามา

ก็ยังมีน้ำตกอยู่นะคะ สดชื่นดีจัง

ระหว่างทางเจอชาวบ้านแบกหน่อไม้ออกมาจากป่า แถวนี้หน่อไม้เยอะมากๆ

คุณยายดูแข็งแรงจุง

ขอบคุณภาพจากฟ๊อก

ตามมาๆๆๆๆค่ะ

เฮ้ยยยพี่อย่านั่งๆๆๆ เดี๋ยวมันหัก 5555

ทางมันก็จะชันหน่อยๆ

เราไปช่วงหน้าฝน ทางเดินจะเขียวๆ สดชื่นมากๆค่ะ แต่ทากก็เยอะมากเช่นกัน

ทากเกาะรองเท้าทุกๆ 5 นาที เกาะทีกรี๊ดที ไม่กล้าจับ ต้องเอาน้ำมันมวยฉีดให้ทากหลุดไปเอง

แจ๊คแมร่งมีกรรม ชอบเดินป่าแต่ดันกลัวทาก

เดินเรื่อยๆ จะเจอน้ำตกผาเทวะ

ขอบคุณภาพจากฟ๊อก

ขอบคุณภาพจากนน

เดินไปพักไป รอกันไป ไม่งั้นหลงนะ มันมีทางไปได้หลายทาง

แน่นอนว่า ยืนงงในดงทากค่ะ ไปทางไหนดี ถ้าหลงก็คงจะบันเทิง ตอนนี้ป้ายบอกทางขาดแคลนมาก

แต่อนาคตทางอุทยานจะนำไปติดให้ค่ะ

ระหว่างทางมีมุมสวยๆให้ถ่ายภาพเยอะ ชอบตรงนี้จัง หญ้าเขียวๆ ก้อนหินดำๆ

ตรงนี่มีสัญญาณนะ เรา live facebook กันแถวๆนี้


ถ่ายรูปกันตลอดทาง555 ขอบคุณภาพนี้จากพี่ลี่ค่ะ



ก็ยังเดินกันต่อไป ขอบคุณภาพจากฟ๊อก

เหนื่อยก็พัก

ขอบคุณภาพนี้จากพี่ลี่

เดินกันต่อเถอะพวกเรา ลุงเจ้าหน้าที่บอกว่า อีก10 นาทีก็ถึงแล้ว เดี๋ยวววววว นี่หนูเดินมาตั้งนานแล้วน๊า ไม่ใช่ 10 นะหนูว่า

photo by fox

โอ้ยยยยยย สี คิดว่าพนักงานดับเพลิง

เดินกันสักพักเราจะเจอบ่อออนเซ็น แต่ไม่ใช่ของคนนะ เป็นของน้องควาย จากหมู่บ้านหลังนู้นนนนน

แสดงว่าใกล้ถึงแล้วค่ะ เดินอีกนิด และแล้วววววววววววววว เราก็.....

ถึงแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยย

แต่ ทุกอย่าง ขาวววววววว มากกกกก พวกเรารีบตั้งแค้มป์ กางเต๊นท์ เพราะไม่มีวิวอะไรให้ดู แล้วก็นั่งกินมื้อกลางวันกัน


ไม่มีอะไรทำ มาทำกับข้าวกันดีกว่า

มีอะไรก็ใส่ๆเข้าไป

ไข่ของนน

กับข้าวยังไม่ทันจะสุก ฝนเทลงมาอย่างหนักจ้า

เลยได้ภาพอาหารแบบไม่สวยเท่าไร 5555 ฝนดูท่าแล้ว ไม่หยุดง่ายๆแน่ พวกเรา กินข้าว แล้วแยกย้ายกันเข้าเต๊นท์ ฝนตกหนัก จนเที่ยงคืนตี1 โชคดีที่ทริปนี้ กัดฟันซื้อเต๊นท์ K2 กันน้ำ สบายใจ

เปิดเต๊นท์มา ตอนยังไม่สว่าง เห็นหมอกรำไร เฮ้ยยยย เราว่าเราน่าจะโชคดี

เข้าเต๊นท์ เตรียมของจะออกมาถ่ายภาพ

ปริ้งๆๆๆๆๆๆๆๆ เราได้ภาพแบบนี้ ว๊ายยยยยยยย ตั่ยแล้วววววว

อ้าวทะเลหมอกไปไหนแล้ว ยืนเฝ้าหมอกกันสักพัก ฟ้าเริ่มเปิดนิดๆ เราเก็บภาพกันรัวๆๆๆ

ยืนเฝ้ากันต่อไป มาแล้วๆๆๆๆๆๆ

สุดท้ายเราก็ชนะ 555555 ฟ้าเปิดให้เราด้วย สาธุ ที่ต้องสาธุเพราะ

ไอ้น้องแบ้งค์บอกว่า เมื่อคืนผมสวดมนต์ทั้งคืนเลยนะ โอ้ยยยยย มีสวดมนต์ขอทะเลหมอกด้วย เอากะเค้าสิ้


photo by uu

ถ่ายภาพเยอะมาก

หลังจากนี้ก็รัวชัตเตอร์กันไม่ยั้งเลยจ้าาาาาา

นายแบบของฉัน5555 อนาคตน่าจะเป็นสายพร็อบนะคนนี้

เราถ่ายรูปกันตรงนี้ ประมาณ 3 ชั่วโมง ทั้งถ่ายคน ถ่ายวิว

รัวชัตเตอร์กันไม่ยั้ง






ยิ่งสายหมอกยิ่งแน่น ฟ้าเป็นฟ้า

มาโดดกันบ้างดีกว่า

photo by พี่ลี่

แบ้งค์รองเท้าบิน

ช่างภาพตั้งหลายคน อีฟ๊อกบอก ยังไม่ได้ภาพที่พอใจ โดดจนกางเกงขาดเลยจ้า 55555

มาดูบรรยากาศกันต่อค่ะ

เย็นสบายดีมั้ยหนู

มีไม่กี่ครั้งที่ได้เจอวิวแบบนี้

หลายที่เราเจอหมอกฟุ้งบ้าง ไม่เจอหมอกเลยก็เคย

ติดหล่มไปไม่ถึงยอดก็เคยมาแล้ว

แต่ทุกๆอย่าง มันมีเรื่องราว มีคุณค่า

มันทำให้เราโตขึ้น

โตด้วยประสบการณ์.....

ไม่ใช่โตเพราะอยู่บนโลกนี้มานาน....

มีสาระก็เป็นนะ

ถ่ายรูปเหนื่อยละ ขอแปรงฟันแป๊ปปปปนึงนะ

photo by fox


photo by พี่ลี่ น่ารักจังคู่นี้

เปิดเต๊นท์ ไล่ความชื้นค่ะ

พี่บอลเท่าจุง


เดี่ยวววว แล้วเราเนี่ย ยังไง ขโมยขาตั้งกล้องใช่มั้ย อิอิ

หมอกแบบนี้ มันน่าถ่าย time lapse

วางโทรศัพท์ไว้คนก็เตะล้มหมด 55555 เค้าผิดอัลไร

สุดท้าย นี่แหละ วิธีแก้ปัญหา เวิร์คมาก พูดเลย ผูกไม้เซลฟี่ไว้กับต้นไม้ซะเลย


มัวแต่ถ่ายรูปกัน แต่พี่ลภผู้เสียสละ ไปนั่งทอดหมูให้พวกเรา

หมักไว้เมื่อคืน เช้านี้ รสชาติกลมกล่อมมาก

สองพ่อครัว

แอบขโมยภาพพี่ฝนมาด้วย

ถ่ายรูปกันจนหนำใจ เราสนุกกับหมอก อยู่ตรงนั้น ประมาณ 3 ชั่วโมง หมอกเริ่มลอยฟุ้งละ

ถ่ายรูปเพลินลืมดูทาก มามองเท้าอีกที ทากก็เกาะเท้า แล้วเริ่มดูดเลือดได้นิดนึง

เรามีอาวุธประจำกาย นั่นคือ น้ำมันมวย ฉีดเข้าไป ทากหลุด เหลือรอยเลือดไว้นิดนึงแค่นี้ โชคดีที่กลับมาแล้วไม่คัน

พอหมอกเริ่มไป ได้เวลาแล้วก็กินๆๆๆๆๆ

อาหารในป่า จะเอาอะไรมาก มีอะไรก็กินๆๆๆๆไปเหอะ อิอิ


กินเสร็จมาเก็บภาพหมู่กัน ลุงเจ้าหน้าที่ถ่ายให้ ขอบคุณคร๊าาา


ภาระกิจต่อไปก็เก็บเต๊นนท์ เก็บขยะ เตรียมเดินลงเขากัน ก่อนเดิน ขออีกสักหน่อย


พอออ เลิกถ่ายละ เดินตามลุงเจ้าหน้าที่ไป ไม่งั้นหลง หมอกเต็มเลย มองไม่เห็นทาง

แล้วพวกเราก็ทยอยเดินถึงที่ทำการอุทยาน อย่างปลอดภัย อาบน้ำ สระผม เปลี่ยนเสื้อผ้า

เตรียมตัวร่ำลา อุทยานแห่งชาติแม่เมย

จบแล้วค่ะ เรื่องเล่าจากม่อนปุยหมอก ในวันที่หมอกมาแบบแน่นๆ คุ้มค่ากับการวิ่งฝ่าดงทากขึ้นไป

ขอบคุณทุกคนที่ร่วมเดินทาง พี่ลี่ พี่บอล พี่ฝน พี่ลภ นน ฟ๊อก เกด และแบ้งค์แอดมินเพจเที่ยวอย่าหยุดสะดุดก็แค่เงิน

ถ้าตัดเรื่องโดนเททริป ทริปนี้คือดีมาก ทั้งเพื่อนร่วมทริป ทั้งวิวสวยๆ อาหารอร่อย อิอิ

ใครอยากได้บรรยากาศแบบนี้ลองหาเวลาไปนะคะ ม่อนปุยหมอก สวยจริง แนะนำค่ะ

อยากให้รีบไป ดอยยังไม่ดัง ยังมีความเป็นส่วนตัว เดี๋ยวคนเยอะแล้วจะไม่สนุกนะ เชื่อเรา

แจ๊คมีเรื่องเล่าอีกตั้งหลายดอย แล้วจะทยอยเขียนให้นะคะขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนถึงบรรทัดสุดท้าย

แจ๊คหวังว่ารีวิวนี้จะสร้างแรงบันดาลใจให้หลายๆคนออกเดินทาง

--------------------------------------------------------------------------

ไม่สบายเหมือนเดินห้างแต่มีคนเดินข้างๆมันโอเค

นักเดินทางตัวน้อย

https://www.facebook.com/journeymemories/

ความคิดเห็น