......เคยมั้ยครับตอนที่เรามีแฟนเคยไปเที่ยวสถานที่ที่หนึ่งด้วยกันเเล้วมีความสุขมากเเต่วันนี้เราต้องกลับมาเดินคนเดียว กินคนเดียว เที่ยวคนเดียวอีกครั้ง.... เเล้วครั้งนี้เรากำลังจะกลับไปในสถานที่ที่เคยไปด้วยกันอีกครั้งหนึ่งเเต่เป็นการกลับไปเพียงคนเดียว ใช่ครับผมกลับไปในวันเกิดของผมเองครับกลับไปพร้อมกับความทรงจำดีๆความทรงจำเก่าๆ @"ที่นี่เชียงใหม่" ทำไมต้องเชียงใหม่ เพราะเชียงใหม่เป็นสถานที่เเรกๆเวลาที่เราเหนื่อยต้องการชาร์ตเเบตให้ชีวิตผมมักจะนึกถึงที่นี่เป็นที่เเรกๆเพราะอากาศดี เพราะผู้คนเป็นมิตรเเละที่สำคัญผมชอบคุณ"เชียงใหม่" พร้อมที่จะเดินทางไปด้วยกันหรือยังครับ เดินทางไปกับผู้ชายคนนึงที่ชอบการเดินทางด้วยรถไฟ ชอบถ่ายรูป ชอบเที่ยวเเนวเเบ็คเเพ็คเเบกขาตั้งกล้องสไตล์บ้านๆสบายๆชิลๆคูลๆพร้อมกับอารมณ์เหงาๆเเต่ไม่เดียวดาย

ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางของใครหลายๆคน เเต่ที่นี่คือจุดเริ่มต้นของผม @"หัวลำโพง"

รถไฟเป็นสิ่งเเรกๆที่ผมนึกถึงเสมอเวลาไปเชียงใหม่เพราะสามารถเห็นวิว2ข้างทางได้อย่างที่เครื่องบินหรือเเม้กระทั่งรถทัวร์ไม่สามารถเห็นได้ ใช่ครับผมไม่รีบผมอยากจะไปสัมผัสบรรยากาศ2ข้างทางรถไฟยามที่ผ่านหุบเขาผ่านหมอกเเค่คิดก็ฟินเเล้ว ขบวนรถที่ผมใช้เดินทางคือขบวนรถด่วนที่51 กรุงเทพ-เชียงใหม่ที่เลือกขบวนนี้เพราะสามารถเห็นวิวได้ตั้งเเต่เช้าๆที่อุตรดิษย์จนถึงเที่ยงปลายทางเชียงใหม่ว่าเเล้วเราเข้าไปที่หัวลำโพงกันเลยครับ

ด้วยความที่เป็นผู้ชายง่ายๆชิลจึงไม่ต้องพกอะไรให้มากมายในเรื่องเครื่องเเต่งกาย ยกเว้นกล้อง ขาตั้งกล้อง พาวเวอร์เเบ๊งค์ หูฟังสำหรับฟังเพลง

รถไฟออก4ทุ่มตรง เลยเดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆฆ่าเวลารอรถไฟออกครับ

อุปกรณ์ที่ใช้ถ่ายภาพครั้งนี้คือ กล้อง Olympus OM-D E-M10 /กล้อง Samsung SE90 /Samsung note5

การเดินทางครั้งนี้ผมได้จองโรงเเรมล่วงหน้าผ่านช่องทางออนไลน์ของอโกด้าไว้เรียบร้อยเเล้วซึ่งจะได้ส่วนลดมากกว่า walkin เข้าไป เช่นเดียวกับการจองรถมอเตอร์ไซร์ไว้ขับที่เชียงใหม่เป็นเวลา3วันผ่านเวปไว้ล่วงหน้าเช่นกันครับ ว่าเเล้วใกล้จะ22.00 น.เเล้ว ไปขึ้นรถไฟกันครับ

เเพลนที่ผมตั้งไว้ล่วงหน้าก่อนไปตามนี้ครับ ส่วนจะได้ไปครบหรือไปนอกเหนือจากที่วางแผนไว้หรือไม่มาลุ้นกันครับ

พอขึ้นรถไฟได้สักพักก็ฟังเพลงไปเรื่อยจนเผลอหลับไป....เวลาผ่านไป.....ผ่านไป.....รู้สึกตัวอีกทีก็เช้าเเล้วครับ บนรถส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติค่อนข้างเยอะครับ

เพราะว่าวิวเเบบนี้......

หมอกเเบบนี้.........

ภูเขาเบบนี้.........

จนทำให้รู้สึกว่า....ดื่มชีวิตช้า ช้า...แล้วพักผ่อน....................................^^

ถึ ง ก็ ช่ า ง....ไ ม่ ถึ ง ก็ ช่ า ง....

รถไฟมาถึงสถานีขุนตาลครับ @สถานีขุนตาลเป็นสถานีที่อยู่ท่ามกลางหุบเขาครับค่อนข้างสูงจากน้ำทะเลเกือบๆกิโลครับ รถไฟที่ใช้รถจักรลากทุกขบวนต้องมาหยุดที่สถานีนี้ครับเพื่อ"พหุ"หรือต่อรถจักรอีกคัน เพื่อช่วยลากขบวนรถขึ้นเขาหรือลงเขาขุนตาลครับ

การเดินทางด้วยรถไฟเราจะได้เห็นวิถีชาวบ้านครับ พอขบวนรถจอดเทียบชานชลาสถานีก็จะมีพ่อค้าเเม่ค้านำของกินมาขายมากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารท้องถิ่นนั้นๆครับ รับรองว่ามารถไฟไม่อดตายครับมีของขายอยู่เรื่อยๆครับ

รถไฟค่อยๆไต่เขามาเรื่อยๆจนถึง "ทาชมพูครับเป็นสะพานสีขาวตัดกับสีเขียวของธรรมชาติที่สร้างมาตั้งเเต่สมัยสร้างทางรถไฟสายเหนือใหม่ๆครับ ..........ร ะ ห ว่ า ง ท า ง...เพลินจนลืม...ร ะ ย ะ ท า ง ว่า...................มันไกลเเค่ไหน....

ก่อนถึงสถานีรถไฟลำพูนเราก็ได้โทรไปหาร้านเช่ารถมอเตอร์ไซร์เพื่อบอกว่าเราใกล้จะถึงเเล้วนะ ทางร้านก็ตกลงว่าจะเอารถมาส่งให้ถึงที่สถานีรถไฟเชียงใหม่เลยครับ การเดินทางครั้งนี้ค่อนข้างตื่นเต้นครับเพราะก่อนหน้านี้เวลามาเชียงใหม่จะขับรถกันมาเองครับ เเต่ครั้งนี้เราตื่นเต้นตรงที่ว่า โรงเเรมที่จองไว้เมื่อถึงสถานีรถไฟเชียงใหม่จะไปทางไหนต่อ รถมอไซร์" จะเอามาให้เราจริงๆมั้ย ??...ฝนจะตกมั้ย...?? ตื่นเต้นไปสิ 😆😆

นั่งฟังเพลงไปเรื่อยสักพักก็ถึงสถานีเชียงใหม่ครับ รถไฟค่อนข้างตรงเวลาครับ เลทจากตารางไปเเค่15 นาทีเท่านั้นครับ

ทีนี้ก็รีบไปดูป้ายโปรโมทการท่องเที่ยวเมืองเชียงใหม่ที่อยู่หน้าสถานีรถไฟทันทีครับหาพิกัดที่จะไปคร่าวๆระหว่างรอรถมอไซร์" มาส่ง อืมมมม....เข้าใจง่ายดีนะ 😆😆

พอได้รถคู่ชีพที่จะเป็นเพื่อนสนิทกันเป็นเวลา3วันก็เช็คสภาพรถกันก่อนครับ พอเรียบร้อยก็จ่ายเงินครับ 600 บาท3วันครับคนส่งรถถามว่า "พี่เอาหมวกกี่ใบครับ2ใบหรือใบเดียว"

เรา....(หือ!! นี่เรามาคนเดียวเเต่ไม่มีคนซ้อนนึกเเล้วตะเตือนไต T__T ) ใบเดียวครับ

น้อง...โหพี่เเล้วมันจะสนุกมั้ยเที่ยวคนเดียวเหงาเเย่เลย

เรา....ต้องสนุกสิ (หึ้ยยย !! ยังจะย้ำอีก 55)

😅😅เเนะนำร้านนะครับชื่อร้าน Bikky ครับอยู่ตรงขนส่งอาเขตเองครับบริการดีครับ

สถาพอากาศ ณ.ตอนที่ได้รถเเล้วครับ...ครึ้มมมม มาเชียว😂😂

ไม่รอช้าครับ ควักมือถือขึ้นมาหาพิกัด GPS ของโรงเเรมที่จอง อืมมม 3กิโลเองซาบายยย 😆😆ไว้ใส่เสื้อกันฝนพร้อมรบ !! มือขวาบิดคันเร่ง มือซ้ายถือมือถือดูเส้นทางใส่หูฟังเพื่อฟังเสียงบอกทางจากระบบนำทาง(ไม่ควรทำนะครับอันตราย)

เราอยากจะบอกว่าวันนี้เป็นการขับรถมอไซร์ครั้งเเรกในรอบ3ปีเลย😅😅ขับไปเรื่อยๆครับ ฝนตก !! ซะงั้น เปียกสิครับ

ขับมาจนถึงโรงเเรมบรรยากาศข้างล่างโรงเเรมเป็นบาร์สำหรับนั่งชิลๆตอนกลางคืนครับ ฝรั่งมาพักค่อนข้างเยอะครับ ตามโปรเเกรมที่เราตั้งไว้คือรถไฟถึงเชียงใหม่เที่ยงเข้าที่พักไม่เกิน 13.00 จากนั้นจะไปขึ้นดอยสุเทพครับ เเต่ไปถึงโรงเเรมเเล้วยังเข้าพักไม่ได้ครับ คือต้องเช็คอินได้ 14.00 ครับ รอไปสิ ตัวเปียก... ชื้นนนน... อยากอาบน้ำ....เลยเวลาที่คำนวนไว้

....จะขึ้นดอยสุเทพทันมั้ย ????

พอ14.00น.เช็คอินเรียบร้อยเดินไปที่ห้องพักเปิดประตูเข้าไป หือ!! จองเตียงเดี่ยวไว้ทำไมได้เตียงคู่ คืออ้ลไล...?? ไม่เคยมานอนคนเดียว ผีละจะมีมั้ย ?? เเล้วเวลานอนละทำไงดี ?? วิธีเเก้คือขยับเตียงมาติดกันเป็นเตียงเดียวเเล้วเอาของวางให้รกๆบนเตียงที่ว่าง 555

อาบน้ำเเต่งตัวสั่งอาหารโรงเเรมมากินเรียบร้อยเราก็รีบขับมอไซร์เพื่อหาปั๊มน้ำมันเพื่อเติมให้เต็มถังไปก่อน ก่อนที่จะขึ้นดอยสุเทพครับ วนหาปั้มอยู่นานสุดท้ายก็มุ่งหน้าไปทางสวนรุขชาติห้วยเเก้วครับบรรยากาศค่อนข้างไม่เป็นใจครับ ครึ้มมมมม มากกก ⛆🌧🌫

จอดเเวะอนุสาวรีย์ครูบาเจ้าศรีวิชัยขอพรเอาฤกษ์เอาชัยให้ขึ้นเขาลงเขาปลอดภัยครับ @อนุสาวรีย์ครูบาเจ้าศรีวิชัยอยู่ผ่านที่จะขึ้นดอยสุเทพครับ

เสร็จเเล้วก็เเว้นขึ้นดอยสุเทพเลยครับ บรรยากาศไม่ค่อยเป็นใจครับความรู้สึกเหมือนว่าฝนจะต้องตกเเน่ๆ เเต่อาศัยใจสู้ครับเปียกเป็นเปียก ลุยยยยยย !!

บรรยากาศระหว่างทาง.....เราค่อนข้างขับเร็วเพราะกลัวฝนจะตกก่อนถึงดอยสุเทพ

ฟินไป.........

ยาวไป......

ยิ่งขึ้นสูง....อากาศเริ่มเย็นครับยังพอทนได้เเต่เอ๊ะ !! "หมอก"เริ่มมา...

ฟ้าเริ่มมืดครึ้มขึ้น.....หมอกเริ่มหนาขึ้น....

สุดท้ายหมอกหนาจนรู้สึกว่าเราไม่ไหวเเล้วมันหนาวมากกกก หนาวจนปากสั่นฟันขบกันสุดท้ายจึงถอดใจครับ เราตัดสินใจวนรถกลับลงมาข้างล่างตัวเมืองเชียงใหม่

ลงมาตัวเมืองเชียงใหม่ครับขับรถไปเรื่อยๆช้าๆดูนู่นนี่นั่นตามวิถีสโลวไลฟ์ รถค่อนข้างเยอะครับ ขับมาเรื่อยๆจนถึง"ตลาดประตูเชียงใหม่"เริ่มหิวครับมาเชียงใหม่ทั้งทีต้องหาอะไรพื้นเมืองกินซะเเล้ว เดินหาของกินครับ ไหน...อาหารพื้นเมือง...หนายยย....อยู่หนายยยน๊าา....😎😎

หาอยุ่นานสุดท้ายมาจบด้วยเจ้านี่ครับ

"เกี๊ยวน้ำ"......!!😬😬

กินอิ่มก็ขับรถไปเรื่อยๆครับวนไปวนมาจนมืด เรามาวันธรรมดาไม่ตรงกับ เสาร์ อาทิตย์ เลยไม่มี"ถนนคนเดิน" "ถนนวัวลายให้เดินครับ มาจบที่นี่ @"ประตูท่าเเพ"ถ้าเสาร์อาทิตย์ก็จะมีพ่อค้าเเม่ค้าตั้งของขายบริเวณนี้ด้วยนะครับ

เดินเล่นเสร็จก็กลับโรงเเรมครับ "Basic Line Hotel at Loikroh" http://basiclinehotel.com/TH/ ด้วยอารมณ์เหงาๆนิดหน่อยเลยใช้บริการบาร์ของโรงเเรมสักหน่อยครับ😆😆

นั่งไป.......😆😆

ชิลไป.........😅😅

มึนไป.......😥😥

หลังจากนั้นเราก็ร่วงงงงงง 555

ขึ้นห้องนอนเพื่อพักผ่อนเพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้ามากเพราะวันนี้เป้าหมายที่ตั้งไว้ผิดพลาดหมดเลย ตามโปรเเกรม ดอยสุเทพควรที่จะได้ขึ้นวันนี้ก็ต้องเลื่อนไปเป็นพรุ่งนี้เเทน ขึ้นห้องไปความกลัวเริ่มคืบคลานเข้ามา.....นอนคลุมโปงสิครัชชชเเต่ไม่น่าเกิน10นาทีเราก็หลับบบ......Zzzzz.....เลยอดกลัวเลย 😠😠😠😠

วันรุ่งขึ้นซึ่งวันนี้เป็นวัดเกิดของเราพอดี ปกติควรที่จะเลือกอยู่ปาร์ตี้กับเพื่อนๆที่กรุงเทพเเต่เรากลับเลือกมาเหงาที่เชียงใหม่...หลังจากทำภาระกิจส่วนตัวเรียบร้อย กล้องพร้อม ขาตั้งพร้อม เเบตสำรองพร้อม มือถือพร้อม หูฟังพร้อม หมีบราวน์พร้อม ??? ก็ลุยยย มุ่งหน้าสู่ดอยสุเทพเลยครับ เปิด GPS นำทาง

จากโรงเเรม อืมมมม....19กิโลเองชิลๆ...Let go..

เส้นทางตรงอย่างเดียว 555 (คดเคี้ยวสุดๆต่างหาก)😆😆

ขับไปเรื่อยๆครับ บรรยากาศดีพอมีเเดดรำไรบ้าง

ขับไป.....

ขับไป.....

เราขับไปเรื่อยๆเจอวิวสวยๆ มุมสวยๆเราก็จอดถ่ายรูปตลอดทาง

วิวเเบบนี้ต้องเเว้นมอไซร์เท่านั้นครับถึงจะสัมผัสได้จริงๆจังๆ

ช้าๆๆ.........

ดื่มด่ำบรรยากาศ2ข้างทางไปเรื่อยๆ

เราอยากจะบอกว่ามันสวยมากๆๆกับเเสงแดดอ่อนๆอากาศเย็นๆ

ขับไปเรื่อยๆจนมาเจอน้ำตกเล็กๆครับ

เลยจับ"บราวน์นี่เลียบด่วน"เป็นพรีเซ็นต์เตอร์ซะหน่อย

เอ๊ะๆ เห็นเนินสำหรับโค้งหักศอกเเล้วเเสดงว่าเราใกล้จะถึงดอยสุเทพเเล้วครับ😉😉

ถึงเเล้วครับดอยสุเทพ ว่าเเล้วก็ซัดกาแฟไป2กระป๋องก่อนเลย

@ดอยสุเทพเราสามารถเดินขึ้นไปก็ได้นะครับไม่ไกลเเค่บันได 306ขั้นเองครับหรือจะขึ้นรถรางไฟฟ้าก็ได้นะครับคนไทย20บาทครับ เเต่ระดับเราเเล้วดิบๆเเบบนี้ขึ้นรถรางไฟฟ้าสิครัชชชชช😆😆😆😆

ออกจากรถรางมาเเล้วเราเลือกที่จะเดินเล่นรอบๆพระธาตุก่อนครับ ถ่ายรูป เก็บรูปเป็นที่ระทึกสักเล็กน้อย

*ปรับภาพด้วยแอพ snapspeed

เจอบรรยากาศเเบบนี้ทำให้เราลืมเรื่องเเย่ๆไปได้เลย

บราวน์นี่เลียบด่วนก็มา

บราวน์นี่เเย่งซีนตลอด😍😍

ข้างบนอากาศค่อนข้างเย็นใช้ได้เลยละครับ

บรรยากาศเเบบนี้ชวนเหงาๆได้เหมือนกัน

ถ่ายเซลฟี่ตัวเองสักเล็กน้อย

เพื่อนคู่ใจไปไหนไปกัน "ขาตั้งกล้อง"

เก็บบรรยากาศรอบๆพระธาตุไปเรื่อยครับ มาคนเดียวไม่รีบ "ไปในที่ที่อยากไป หยุดในที่ที่อยากหยุด ด้วยวิธีของตัวเราเอง"

บรรยากาศโดยรวมร่มรื่นสงบดีครับ

เดินไปเดินมาเริ่มเมื่อยเจอร้านกาแฟชิลๆบนพระธาตุดอยสุเทพเเวะเข้าไปชิมซะหน่อย

กาเเฟอร่อยครับ หรือเพราะเราหิวก็ไม่รู้ 55

สายตาเหลือบไปเห็นท่อนไม้เก่าๆเเต่รู้สึกว่าต้องมีอะไรที่มันไม่ธรรมดาอยู่เเน่ๆ

ซูมเข้าไป......

อื้อหือ !! เป็นการเเกะสลักไม้ทั้งต้นไม่ธรรมดาจริง..

วันนี้นักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะครับขนาดวันธรรมดานะ

วันนี้มีน้องๆมารำเเก้บนกันด้วยเเต่ไม่กล้าถ่ายน้องเค้าเยอะ😅😅

บรรยากาศด้านบนของพระธาตุครับ

สวยงามมากกกกก.....

จังหวะถ่ายเริ่มมีเเดดกระทบกับพระธาตุทำให้พระธาตุเงาเเวววาวสวยมากครับ

คนที่ขึ้นมาที่นี้ก็จะนิยมเดินวนขวา3รอบเพื่อขอพรกับพระธาตุกันครับ

พระเเก้วมรกตงดงามมาก

นักท่องเที่ยวต่างชาติเยอะมาก

ไหว้ขอพรพระธาตุกันสักเล็กน้อยครับ

เราเเวะเติมน้ำมันตะเกียงด้วย

ร่มรื่นมาก

เดินไปเดินมาดูเวลาอีกทีเกือบเที่ยงเเล้ว นี่เราเพลินได้ถึง3ชั่วโมงเลย ไม่ได้การเเล้วยังมีที่ที่ต้องไปต่อครับ ว่าเเล้วก็คงต้องกลับซะเเล้วขากลับเราสามารถนั่งรถรางลงได้นะครับเเต่เราขอเดินลงบันไดพญานาคดีกว่า

อื้อหือ!! สูงใช่เล่น

ค่อยๆเดินชิลๆ....

ระหว่างลงเจอน้องๆชาวเขาเลยเข้าไปขอน้องถ่ายรูปพร้อมกับให้ทิปน้องๆไปเล็กน้อยครับ

มองจากทางลงขึ้นไปบนพระธาตุ

ขากลับระหว่างเเว้นมอไซร์มาเรื่อยๆฟังเพลงมาชิลๆเรารู้สึกเหมือนได้ปลดปล่อยเราตะโกนออกมาสุดเสียง โว้ยยยยยยยยยยยย....... 555 คือมันเศร้านิดหน่อยครับเลยเก็บกด อิอิ

....ขับมาได้สักพักเจอจุดเเวะชมวิวครับจอดรถเเวะเก็บภาพกันสักหน่อย

คือมุมนี้สามารถมองเห็นเมืองเชียงใหม่ได้ค่อนข้างสวยเลยครับ

พอลงมาถึงสวนสัตว์เชียงใหม่ก็เริ่มหาพิกัดจุดหมายต่อไปคือ "พระธาตุดอยคำ"หาพิกัดได้เเล้วก็ลุยยยยย !!! เราขับรถเบี่ยงออกทางขวาของตัวเมืองเชียงใหม่ไปตามเส้นเลี่ยงเมืองเชียงใหม่ครับ ค่อยๆขับไปไม่รีบสักพักGPS บอกเลี้ยวขวาเเล้วยูเทิร์น ตามGPS ไปสิครัชชช กลัวอัลไล.....

เลี้ยวตาม GPS ไปครับ

เอ่อ.......

คืออัลไล.....มันใช่หรอทำไมมาทางนี้กันดารมาก ?? หรือเราจะหลงทาง

***เดี๋ยว4ทุ่มมาอัพต่อนะครับ

ขับมาเรื่อยๆเหมือนสวรรค์โปรด เจอป้ายทางขึ้นพอดี

ตามทางยาวๆไปทางขึ้นไม่ค่อยชันมากครับ

ถึงเเล้วครับ@"วัดพระธาตุดอยคำ"

วัดพระธาตุดอยคำเป็นวัดเก่าเเก่ของจังหวัดเชียงใหม่มีอายุประมาณ1พันปีขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อทันใจซึ่งถ้าใครมาขอพรจะขอได้เเค่ปีละ1ครั้งถ้าสำเร็จจะต้องกลับมาเเก้บนในปีนั้นๆด้วยดอกมะลิไม่ต่ำกว่า50พวงขึ้นไปนะครับ

คนค่อนข้างเยอะครับวันนี้

มุมมองจากด้านบนครับ

บรรยากาศรอบๆวัดครับ

หลังจากขอพรกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆเรียบร้อยเเล้วจุดหมายหลักของการมาครั้งนี้คือการเเก้บนครับ

ใช่ครับเเก้บนเรามาเเก้บนให้กับเเฟนเก่าเราถึงจะมาคนเดียวเราก็เต็มใจมาให้ เราเเก้บนด้วยดอกมะลิคนเเก้บนเยอะมาก

ซึ่งเวลามาบนเราไม่เคยบนให้ตัวเองเลยสักครั้งมีเเต่ขอสิ่งดีๆให้กับแฟนเราพ่อเเม่เรา เเต่หลังจากเเก้บนเสร็จเเล้วเราได้บนให้กับตัวเองเป็นครั้งเเรกขอให้ครั้งหน้าเรากลับมาที่นี่อีกขอให้มีคนมากับเราด้วย😆😆😆😆😆😆

เดินออกมาตรงจุดชมวิวของวัดครับจุดนี้ถ้ามองลงไปข้างล่างค่อนข้างสวยเลยมีภูเขาเป็นเเบ๊คกราวด้านหลังตัวเมืออยู่ด้านหน้า

มุมนี้ครับภูเขาที่อยู่ด้านหลังของวัด

บันไดพญานาคสำหรับลงไปด้านล่างของวัด

"วัดพระธาตุดอยคำ"อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ20กว่ากิโลครับ 😎😎ถึงตอนนี้เเบตมือถือสำหรับใช้นำทาง GPS เราใกล้จะหมดเเบตกล้อง พาวเวอร์เเบ๊งค์ก็จะหมดเลยต้องกลับไปตั้งหลักที่โรงเเรมก่อนครับ ขากลับไปไม่เบาฝนตกตลอดทางเช่นกัน หลังจากเรากลับโรงเเรเอาเเบตสำรองก้อนใหม่เสร็จเราก็ออกเดินทางไปวัดศรีสุพรรณครับ

วัดอยู่ไม่ห่างจากโรงเเรมมากครับ ไม่นานก็ถึง ที่นี่วัดศรีสุพรรณ อุโบสถเงินหลังเเรกของโลก อุโสถที่ผู้หญิงห้ามเข้าไป

ทางเข้าร่มรื่นดีครับ

บรรยากาศค่อนข้างเงียบวันนี้เพราะไม่ตรงกับเสาร์-อาทิตย์ด้วย

อุโบสถหลังใหญ่หลังนี้ผู้หญิงเข้าได้ปกตินะครับ

เราเดินไปดูอุโบสถเงินกันบ้างครับ

เดี๋ยวเเดดเดี๋ยวครึ้มได้อารมณ์ไปคนละเเบบครับ

เป็นการเเกะสลักลวดลายลงบนเเผ่นเงินครับ

เราลองเดินไปที่อุโบสถบ้าง

ตามป้ายครับ ผู้หญิงห้ามเข้า

ภายในอุโบสถครับเหมือนว่ายังจะสร้างไม่เสร็จดี

ถ้ากลางคืนวัดนี้จะประดับไฟที่อุโบสถนะครับจะสวยงามมากเดินเล่นบริเวณวัดจนมืดเพื่อรอถ่ายไฟตอนกลางคืน

หลังจากเก็บภาพจนหนำใจเเล้วเราก็กลับโรงเเรมเพราะค่อนข้างเหนื่อยครับวันนี้

ก่อนนอนเรากินนมเพื่อสุขภาพครัชชชชช

เริ่มต้นวันใหม่ด้วยเป้าหมายหลักครับ @"วัดอุโมงค์ วัดห่างจากตัวเมืองไม่ไกลมากครับประมาณ 15กิโลครับว่าเเล้วก็เปิด GPS เเล้วขับตามไปเลย Let go !!

ขับไปเรื่อยๆมาทางเดียวกับพระธาตุดอยคำครับ เราขับมาได้สักระยะครับนึกได้ว่าขับมา2วันเเล้วเราไม่ได้เติมน้ำมันเลยนี่นา มองดูเข็มน้ำมันไม่ยุบเลยเเฮ๊ะ (หือเกย์วัดน้ำมันเสียหรือป่าวเริ่มร้อนรนครับกลัวน้ำมันหมดกลางทาง)วนไปครับหาปั้มซึ่งหายากมากเพราะเราขับมาเส้นเลี่ยงเมืองค่อนข้างไกลพอเจอปั้มก็เติมครับ หมดไป60บาท โอ๊ววววววว....มันประหยัดน้ำมันมากกกกก 2วันเราขับไปมาเกือบจะ200กิโล

ทางเข้าวัดค่อนข้างงงครับเพราะท้องฟ้าปิดเหมือนฝนจะตกทำให้มือถือรับสัญญาณ GPS หลุดบ่อยเลยอาศัยถามทางเอาครับจนสุดท้ายเราก็มาถึง @"ที่นี่วัดอุโมงค์"

บรรยากาศค่อนข้างวังเวงครับนักท่องเที่ยวเเทบไม่มีเลย

จากความรู้สึกวังเวงมันกลายเป็นความอยากค้นหาครับ เพราะวัดอุโมงค์ค่อนข้างลึกลับ😆😆😆

พอเห็นทางเข้าอุโมงค์เราก็นึกขึ้นได้วัดนี้นี่นาที่รายการทีวีมาถ่ายทำสารคดี

เดินเข้าไปใกล้ๆครับ สีเขียวๆเราเข้าใจว่าเป็นตะไคร่น้ำเกาะครับ

มองเข้าไปในอุโมงค์ อื้อหือ !! 😲วังเวงจังวุ้ย มืดด้วย😲

เเต่ไหนๆก็มาเเล้วเข้าไปเลยกลัวอัลไล !!

มืดตื๊ดตื๋อเลยอ่า~~~T___T

มองไม่เห็นทางครับต้องเปิดเเฟลชจากมือถือส่องทางครับ

เเสงแฟลชส่องสว่างค่อยอุ่นใจขึ้นมาหน่อย

บรรยากาศข้างในเย็นมากครับ เงียบมาก เหม็นขี้ค้างคาวด้วยวังเวงด้วยเดินไประเเวงไปคิดไปเรื่อยว่าจะมีสิ่งลี้ลับเฝ้าสมบัติเหมือนในละครมั้ยเพราะมันวังเวงจริงๆครับ

จะมีพระพุทธรูปตั้งไว้เป็นจุดๆครับ

เงียบมากกกกก เงียบซะจนได้ยินเสียงหายใจของตัวเอง

เดินไปเรื่อย ข้างหน้ามีเเสงครับเป็นบันไดลงไปชั้นล่าง

เดินลงไปตามใจเรียกร้อง(แอบกลัวนิดนึง😅😅)

พอลงไปเป็นห้องเหมือนท้องพระโลงครับมีเเสงจากด้านบนส่องเข้ามาถึง

สำรวจไปเรื่อยๆครับจากความแอบกลัวเป็นความอยากค้นหาเเทนครับตอนนี้ตื่นเต้นมากเพราะมาคนเดียว😆😆

เดินวนไปวนมาเหมือนจะหลงครับสักพักก็เจอทางออกจนได้😂😂

เเบบนี้สินะที่เค้าเรียกกันว่าเเสงสว่างปลายอุโมง ^^

พอออกมาได้ดันเป็นทางออกด้านหล้งครับ เอาไงละทีนี้จะต้องเดินกลับเข้าไปในอุโมงค์เพื่อออกทางด้านหน้าอีกหรอ ไม่เอาด้วยหรอก

"บราวน์นี่เลียบด่วน"จงนำทางข้าไปเดี๋ยวนี้

ตรงไปมันเป็นป่านะเฮ้ยยยย !!😬😬😬

เดินย้อนกลับไปด้านหลังครับเป็นทางขึ้นไปด้านบนของอุโมงค์ครับ

เดินขึ้นไปโอ้ววววววว...มันสวยงามมาก ที่สวยเพราะว่าอยู่ท่ามกลางป่าครับจึงไม่ค่อยมีสิ่งรบกวนจากภายนอกสักเท่าไหร่

เจดีย์ยักษ์ตั้งอยู่ท่ามกลางความเงียบสงบมาหลายร้อยปียังคงสถาพงดงามตามกาลเวลา...

หญ้าที่นี่เค้าเขียวดีจริงๆอาจเป็นเพราะอากาศชื้นตลอดเวลาประกอบกับเป็นช่วงกับหน้าฝนด้วย

จับ"บราวน์นี่เลียบด่วน"เซลฟี่สักเล็กน้อย🤗🤗

เดินเล่นหมดเวลาไปร่วม2ชั่วโมงฝนเริ่มลงเม็ดครับถึงเวลาต้องรีบออกจากวัดซะเเล้ว

พอหาทางกลับเข้ามาในตัวเมืองได้เรียบร้อยเเล้วจุดหมายต่อไปที่ตั้งใจไว้คือ ร้าน iberry ของ"พี่โน๊ตอุดม"พิกัดอยู่เเถวถนนนิมมานเหมินทร์ 17 ว่าเเล้วก็จับ GPS ลุยกันเลยเเต่เนื่องจากฝนตกฟ้าปิด GPS เลยรับสัญญาณไม่ได้ทำไงทีนี้ ถามสิครับถามคนเเถวนั้น ขับไปเรื่อยๆจนถึงซอยนิมมานเหมินทร์17จะมี4เเยกเล็กๆในซอยเจอพี่ตำรวจกำลังจะออกจากซอยไอ้เราก็ใจดีชลอรถให้พี่ตำรวจไปก่อนพี่เเกก็คงหวังดีให้เราซึ่งมาทางตรงไปก่อน "ยึกยัก"กันไปกันมาพี่ตำรวจซึ่งซ้อนมา2คนตะโกนมาว่า "ลงมาเลยๆ"

เรา ....ครับมีอะไรครับ

ตำรวจ...รถขโมยมาหรือเปล่าน้อง

เรา.....(%$#@คืออัลไลหาว่าขโมยรถหน้าเราให้ขนาดนั้นเลยหรอเเบกขาตั้งกล้องซะขนาดนี้) เปล่าครับพี่

ตำรวจ...ไหนใบขับขี่หรือบัตรประชาชนเอามาดูหน่อย

เรา.....ไม่มีหรอกครับผมเอาบัตรไปเช่ารถหมดเเล้วครับ

ตำรวจ...เเล้วมาจากไหนเรานะ

เรา.....กรุงเทพครับมาเที่ยวคนเดียว

ตำรวจ...น้องบ้าหรือเปล่ามาเที่ยวคนเดียวไหนขอดูรูปหน่อยไปเที่ยวมาจริงหรือเปล่า

เรา.....ยื่นให้ดูนี่ครับ

ตำรวจ...มองไปที่หน้ารถมีโลโก้ร้านเช่ารถอยู่ โอเคน้องพี่เพิ่งเห็นว่าเป็นรถเช่าจริง โอเครๆไปได้น้อง

เรา.....(!#$#เสียเวลาอิ๊บอ๋าย😅😅😅)

ทีนี้หมดอารมณ์ครับออกจากซอยไม่ไปแล้วร้านโน๊ตอุดมออกไปตั้งหลักหาอะไรกินก่อน

หลังจากเติมพลังเรียบร้อยนึกไม่ออกว่าจะไปไหนต่อดีในเมืองก็ขับรถเล่นไปเรื่อย...เรื่อย...เรื่อย....เรื่อยซะจนจะออกเเม่ฮ่องสอนเเล้ว😅😅😅

ตั้งสติใหม่ ทีนี้ได้จุดหมายใหม่เเล้วครับ @"วัดเจดีย์หลวง"อยู่ใกล้ๆคูเมืองเชียงใหม่ครับหาพิกัดGPSเรียบร้อยก็ลุยย !!

ขับไปเรื่อยๆครับใจเย็นมาก

เรื่อยซะจนหลงรักเชียงใหม่ซะเเล้ว

ใกล้ถึงเเล้วครับ

เห็นวัดไกลๆเเล้ว .....

ถึงเเล้วครับ "ที่นี่วัดเจดีย์หลวง"วัดที่ซ่อนตัวอยู่ใจกลางเมืองท่ามกลางความวุ่นวาย

บรรยากาศภายในอุโบสถครับสวยงามมาก

อดใจไม่ได้ที่จะจับ"บราวน์นี่เลียบด่วน"เซลฟี่ซักหน่อย

ไฮไลท์อยู่ตรงนี้ครับข้างนอกรอบๆวัดเป็นเจดีย์ยักษ์ที่ถูกสร้างมาร่วมหลายร้อยปี

สำรวจไปรอบๆ....

คือมีความรู้สึกว่าข้างในรอบๆเจดีย์ เย็น สงบ วังเวง เหมือนหลุดเข้าไปอีกมิติหนึ่งเลยทั้งๆที่วัดตั้งอยู่รอบๆร้านเหล้าเเหล่งสถานบันเทิงต่างๆ

อุโบสถเล็กๆใกล้เจดีย์ครับ

ต้องเข้าไปสำรวจสักหน่อย

ภายในอุโบสถหลังเล็กครับ

บรรยากาศฝนตกอารมณ์เหงาก็มา......

สำรวจรอบๆ....

เเล้วก็รอบๆ.......

รอบๆจริงๆเพราะวนมาครบรอบพอดี🤗🤗🤗

**เที่ยงๆพรุ่งนี้มาอัพต่อนะครับ** ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ😙😙😙😙

ทิ้งท้ายวัดเจดีย์หลวงด้วยภาพนี้ครับ บราวน์นี่@วัดเจดีย์หลวง

หลังจากเดินสำรวจจนครบเเล้วจุดหมายต่อไปของผมคือ @วัดโลกโมฬี

หลังจากจับพิกัด GPS วัดโลกโมฬีได้เรียบร้อยก็ไปกันครับ

ใน GPS @Sygic บอกค่อนข้างละเอียดครับนำทางสบาย

ขับไปครับ ผ่านสะพานนวรัฐเลยจอดรถเก็บภาพสักเล็กน้อย

ขับไปสักพักใกล้จะถึงเเล้วครับ

ถึงเเล้วก็เดินสำรวจรอบๆวัดครับ

วัดโลกโมฬีสร้าขึ้นเมื่อ พ.ศ.2070 ในเเบบศิลปะลานนาครับ

ฟ้าครึ้มมาอีกเเล้ว.....

สวยงาม......

อากาศกำลังดีครับเเดดไม่ค่อยมีไม่ร้อนดี

เข้าไปกราบไหวข้างในสักเล็กน้อย😆😆

จับบราวน์นี่เป็นพรีเซ็นเตอร์กันซะหน่อย

สักพักฝนก็เหมือนว่าจะตกเลยตัดสินใจหาที่หลบฝนเเว๊บเเรกที่นึกถึง"ห้างเซ็นทรัลแอร์พอร์ทเชียงใหม่"ก็ไปหลบฝนที่ห้างครับ เเล้วก็ได้เจอพี่สาวที่รู้จักกันทำงานออกบูธอยู่ที่ห้างพอดีเลยนัดเเนะกันให้เจ้เค้าพาเราไปหาร้านนั่งกินชิลๆตอนกลางคืนสักหน่อย หลังจากนั้นก็นัดเจอกันที่ร้าน chachabar เป็นร้านดนตรีสดกึ่งผับครับอยู่ไม่ไกลจากห้างเซ็นทรัลแอร์พอร์ทเชียงใหม่สักเท่าไหร่ 20.00เราก็นัดเจอกันที่ร้านครับพึ่งพาเจ้า GPS Sygic นำทางมาเช่นเคย

บรรยากาศดีมากครับออกเเนววินเทด

เพลงเพราะอาหารรดชาติอร่อยดีครับ

ส่วนเราก็ตามที่เห็นครับ นั่งกินนั่งคุยกันตามประสาคนไม่เจอกันนาน

😅😅งานเบียร์ต้องมา😅😅

เผยโฉมพี่สาวผู้ใจดี😆😆

เราก็นั่งคุยไปเรื่อยครับจนเจ้เค้าบอกว่าพรุ่งนี้ทำไมไม่ลองไปร้านกาแฟขาจุ่มน้ำดูห่างจากตัวเมือง20กว่ากิโลเอง ได้ยินเท่านั้นเเหละความอยากบังเกิด^^

ไม่ลืมที่จะพาบราวน์นี่เซลฟี่ด้วย ครั้งนี้เหมือนว่าจะเป็นการฉลองวันเกิดของเราไปในตัวเเบบเหงาๆ พอใกล้จะเที่ยงคืนเราก็ต้องรีบกลับเพราะกินเยอะค่อนข้างจะมึนเเล้วเราไม่มีบัตรประชาชนไม่มีใบขับขี่ด้วยเนื่องจากใช้เป็นหลักฐานการเช่ารถมอไซร์กลัวจะเจอด่านเลยต้องถึงเวลาร่ำลาพี่สาวคนสวยไว้เเค่นี้งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลาปีหน้าฟ้าใหม่เราจะมาเจอกันอีก

พอกลับมาถึงโรงเเรมดันนอนไม่หลับอีกไม่รู้ว่าเป็นอะไรเหมือนกันเลยนั่งดูหนังถึงเช้า เรามีโปรเเกรมสำหรับวันใหม่ตามนี้ครับ

1 ร้านกาเเฟขาจุ่มน้ำในเส้นทางไป อ.สเมิง

2 แกรนเเคนยอนเชียงใหม่ที่มีข่าวนักท่องเที่ยวตายทุกปี

3 ม่อนเเจ่มครับ

เนื่องจากโปรแกรมวันนี้เเต่ละที่ค่อนข้างไกลกันมากจึงต้องออกกันเเต่เช้าเเต่การอดนอนทำให้สภาพเป็นเช่นนี้😪😪

เเต่เนื่องจากสภาพอากาศทำให้เราไม่เเน่ใจว่าฝนจะตกหรือป่าวเลยอาศัยวัดใจเอาข้างหน้าครับ หลังจากจับพิกัด GPS Sygicเจ้าเดิมได้เรียบร้อยเเล้วก็จัดไปครับ

เขาไปในเขตภูเขาเล็กน้อยสบายนะเเค่นี้เองเราก็ขับไปเรื่อยๆครับมาได้ประมาณ70%ของเส้นทางฝนก็ตกลงมาเราเลยต้องหาที่หลบฝนอีกทำให้เสียเวลาไปพอสมควร

เห็นร้านไกลๆเเล้วครับ

ลองเดินเข้าไปดูครับ

สำรวจไปเรื่อยครับ....

บรรยากาศดีครับตรงนี้มีเเดดเเต่เวลาไม่เอื้ออำนวยเพราะต้องไปอีกหลายที่เเล้วไกลด้วยเลยไม่ได้สั่งอะไรมากินได้เเค่เก็บบรรยากาศเท่านั้น

น้ำเย็นมากครับไม่ลึกระดับเกือบๆหัวเข่าครับ เราว่าร้านเเนวนี้กำลังบูมในต่างจังหวัดครับเพราะเวลานั่งกินคงได้อารมณ์ปลาตอดสุดๆ

ถึงเวลาต้องวนกลับเข้าตัวเมืองอีกเเล้วครับเพื่อไป @แกรนเเคนยอนเชียงใหม่ เเต่เนื่องจากค้นหาจากGPS Shgicไม่เจอจึงต้องพึ่งพาแผนที่กูเกิ้ลเเทนครับ

*อ้างอิงจากรูปภาพจะได้เข้าใจง่ายขึ้นครับ* เเว้นมอไซร์ไปทางเส้นเลี่ยงเมืองไปทาง อ.หางดงครับ ขับรถประมาณ40นาทีครับทางเข้าจะค่อนข้างกันดารสักนิดเเต่จะมีป้ายบอกทางเป็นระยะๆครับ @การมาเเกรนเเคนยอนจะไม่มีรถโดยสารมาถึงนะครับต้องจ้างรถเเดงส่วนราคาเเล้วเเต่จะตกลงกันครับ ชาวไทยชาวต่างชาติเสียค่าเข้าเท่ากันครับคนละ 50 บาท ข้างในจะมีร้านอาหารมีร้านกาแฟไว้ให้นั่งชิลๆด้วย ส่วนใครจะเล่นน้ำก็มีร่มชูชีพให้เช่าครับจะมีป้ายเตือนหน้าผาลื่น!! น้ำลึก!! เป็นระยะๆครับ

เดินจนเมื่อยครับขอนั่งพักกินกาแฟสักนิด.....

อยู่เเกรนเเคนยอนจนเพลินดูเวลา อื้อหือบ่าย2เเล้ว!!จุดหมายต่อไปคือม่อนเเจ่มเราเลยรีบออกจากเเกรนเเคนยอนเเล้วรีบหาพิกัดGPS ของม่อนเเจ่มเเต่กลัวเวลาจะไม่เอื้ออำนวยเลยเดินไปถามชาวบ้านเเถวเเกรนเเคนยอนดูครับ....คนเชียงใหม่ทำให้เราประทับใจมากเราเเค่ถามทางถามรายบะเอียดเกี่ยวกับการเดินทางไปม่อนเเจ่มเเทนที่คุณลุงเค้าจะตอบปกติคุณลุงถามเราว่า"มาเที่ยวคนเดียวเเบบนี้เหงามั้ย...กินข้าวมาหรือยังกินกับลุงมั้ย" อื้อหือบอกตรงๆว่าเราตื้นตันมากสักพักคุณลุงเดินเข้าไปในบ้านหยิบเเผนที่ม่อนเเจ่มมาให้เรากับกล้วยน้ำว้า4ลูกอยากจะบอกว่าเป็นกล้วยน้ำว้าที่อร่อยที่สุดในโลกครับนอกจากอร่อยมันอิ่มท้องเเล้วมัน"อิ่มใจ"ครับเเต่เรารีบเลยไม่ได้ถามชื่อคุณลุงไว้ถ้ารอบหน้าเราผ่านไปเราจะเเวะหาคุณลุงอีก 😀😀

เริ่มจับ GPS อืมมมม เกือบ50กิโล ใช้เวลาขับประมาณชั่วโมงกว่าๆ คำนวนเวลาถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดก็จะถึงม่อนเเจ่มไม่เกิน4โมงเย็นมีเวลาเที่ยวชั่วโมงเดียวก็จะ5โมงเย็น กว่าจะกลับอีกชั่วโมงครึ่งมืดพอดี(ลังเลครับตอนนั้น)เเต่ก็เอาฟะไหนๆก็มาเเล้ว ลุย!!

ขับผ่านอุทยานหลวงราชพฤกษ์เเต่ไม่ได้เเวะครับ

ขับไปเรื่อยๆครับใช้ความเร็มประมาณ70-80ครับกลัวไม่ทันเเบตมือถือที่ใช้นำทาง GPSใกล้จะหมดเเล้วใช้ปากถามทางเอาสลับกับดูGPS ครับ

ขับไปเรื่อยๆทางเริ่มจะชันขึ้นครับ

ทีนี้เเบตมือถือหมดครับเลยต้องชาร์จกับพาวเวอร์เเบงค์ไว้ก่อนอาศัยปากถามอย่างเดียวจนไปจอดถามทางก่อนถึงสวนองุ่นเอเดนชาวบ้านเเถวนั้นไม่เเนะนำให้ผมขึ้นไปครับบอกว่ามาตอนนี้ก็ไม่มีอะไรดูเเล้วอีกอย่างฝนตกทางมันลื่นอันตราย(คิดในใจก็จริงนะมอไซร์คันนี้เบรกขาล้อหลังเบรกไม่ค่อยอยู่ต้องย้ำเเรงๆใช้ได้เเต่ดิสเบรกด้านหน้า)ก็เลยตัดใจไม่ไปต่อครับถือว่าขับรถเล่นเอาฝุ่น !! ม่ายช่ายยย ขับรถเล่นชมวิว 😆😆(เพราะมกราคมที่จะถึงนี้เราจะไปใหม่ครับยังไงก็ต้องได้มาเเน่ๆม่อนเเจ่ม)เราเลยวนรถกลับมาถึงตัวเมืองประมาณเกือบๆ 5โมงเย็นเรายังไม่อยากกลับโรงเเรมเลยหาจุดหมายต่อไปหาที่ไม่ไกลจากตัวเมืองเพราะเริ่มล้าเเล้วครับไม่ได้นอนมาด้วยเมื่อคืน สรุปเราได้จุดหมายต่อไปคือ @วัดเชียงมั่นครับ ว่าเเล้วก็ตามไปกันเลยครับ

วัดตั้งอยู่ใจกลางเมืองพอดีครับว่าเเล้วก็ขับไปเรื่อยๆครับขับกินลมกันไปเพราะไม่รีบเเล้ว

ถ้าจำไม่ผิดสะพานนี้ถ่ายหนังเรื่องปิดเทอมใหญ่หัวใจว้าวุ่นด้วย🤗🤗

ถึงเเล้วครับขั้นเเรกเข้าไปสักการะพระในอุโบสถก่อน

@วัดเชียงมั่นเป็นวัดเเห่งเเรกในคูเมืองเชียงใหม่ครับสร้างเมื่อราวๆ พ.ศ.1840 ผสมกับศิลปะลานนา วัดนี้ขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของพระเเก้วขาว

พระเเก้วขาว...ทีนี้มาสำรวจไฮไลท์ของวัดนี้กันครับ "เจดีย์ช้างล้อม"

ลักษณะเจดีย์ไม่ใหญ่ครับเเต่รู้สึกเหมือนมีมนต์ขลังยังไงไม่รู้

ใกล้เข้าไป.........

ใกล้เข้าไปอีกกกก.........

ใกล้ไปมั้ย..........!!😅😅

อากาศกำลังดีครับเเดดร่มลมตกพอดีเลยไม่ร้อนพาบราวน์นี่เข้ากล้อง

ถ่ายตัวเองบ้าง🤗🤗🤗อาศัยวิ่งเข้ากล้องเอาครับก็มาคนเดียวนี่นา

เบื้องหลังการถ่ายทำ555

😄😄😄OMG!!😄😄😄

เดินสำรวจรอบๆวัดกันบ้างครับ

เดินไปเรื่อยๆ.......

เรื่อยๆ......

เดินวนไปครับ......

เอ๊ะๆๆมุมสวย

บราวน์นี่มีหรือจะพลาด🤗🤗🤗

อีกรูป😍😍😍😍

หญ้าเขียวมากครับคงเพราะเป็นช่วงหน้าฝน

ศาลาอยู่หลังวัดครับ

ติดไว้ใกล้ๆจะได้รู้ว่าบราวน์นี่มาเเล้ว😊😊หลังจากหมดวันนี้เราก็กลับไปสั่งอาหารกินที่โรงเเรงเพราะหมดเเรงเนื่องจากไม่ได้นอนมาทั้งคืน...............

กินเสร็จก็อาบน้ำ.............

นั่งเล่นสักพัก...............

ก็นอนเล่น.................

เเล้วววววก็................

Zzzzzzzzzzz.....😵😵😵😵😵หลับยาวยันเช้าครับ

ตื่นขึ้นมาพร้อมกับเช้าวันใหม่ซึ่งวันนี้เป็นวันสุดท้ายของการอยู่เชียงใหม่เราไม่ได้ไปไหนอยู่โรงเเรมจนถึงเที่ยงก็เก็บของเช๊คเอาท์เพื่อไปคืนรถมอเตอร์ไซร์ไอ้เพื่อนยากที่สถานีรถไฟเชียงใหม่

เราก็รีบไปเติมน้ำมันให้เต็มถังเช่นเดิมเพื่อคืนรถที่สถานีรถไฟทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีครับ ร้านนี้บริการดีมากครั้งหน้าจะมาใช้บริการอีกเเน่นอน "bikky อาเขต"ครับชื่อร้าน

เราก็ถ่ายรูปไปเรื่อยเปื่อยเพื่อรอเวลารถไฟกลับ เรากลับรถด่วนขบวนที่52 เชียงใหม่-กรุงเทพ ขากลับเราเลือกนั่งชั้น2พัดลมเพื่อที่จะดื่มด่ำกับธรรมชาติให้มากที่สุด

ภายในสถานีรถไฟเชียงใหม่

มาครั้งนี้เราได้ประสบการณ์มากมายที่เชียงใหม่

พบเจอมิตรภาพพบเจอน้ำใจระหว่างการเดินทางคนเดียว

รถไฟใกล้ออกเเล้วครับ 14.00น."เชียงใหม่เราจะกลับมาหานายอีกครั้งเเน่นอน"รถไฟออกเรานั่งมาได้สักพักก็ฟังเพลงไปเรื่อยครับความสวยงามของธรรมชาติระหว่างทำให้ลืมเรื่องราวอะไรที่เเย่ๆไปได้หลายๆอย่าง

สักพักก็ถึงสถานีลำพูนครับ....

วิวข้างทางเเบบนี้......

เเบบนี้...........

เเละเเบบนี้เราจะไม่ได้สัมผัสเลยถ้าไม่ใช่รถไฟ.......

สักพักก็ถึงสถานีรถไฟลำปางครับ ที่นี่ตู้ปรับอากาศได้เสียครับแอร์ไม่เย็นต้องจอดซ่อมกันพักใหญ่ทำให้เราได้มีเวลาซื้อเสบียงมาตุนไว้กินเผื่อหิวตอนกลางคืน😆😆😆😆

รอเวลารถไฟออก..........

ขบวนรถได้"พหุ"หรือต่อหัวรถจักรเพิ่มอีก1คันเพื่อช่วยกันลากขบวนรถด่วนที่52ขึ้นเขา,ลงเขาขุนตาลครับ

วิ่งมาได้สักพักก็เจอไฮไลท์ครับ "สะพานทาชมพู

เเสงเเดดเริ่มหาย...ไม่นานก็ถึงสถานีรถไฟขุนตาลครับการนั่งรถไฟเราจะเห็นวิถีชาวบ้านนำอาหารท้องถิ่นมาเร่ขายกันที่สถานีครับ

กำลังลอดอุโมงค์ขุนตาลครับ เเล้วเราก็หลับยาวจนถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพตอนตี5ครับ............

"ร ะ ห ว่ า ง ท า ง" มันทำให้ลืมว่า"ร ะ ย ะ ท า ง "มันไกลเเค่ไหน รถไฟไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดนะครับ

....บางครั้งการไปไหนมาไหนคนเดียวไม่ได้เหงาไม่ได้เเย่อย่างที่คิดครับ มันทำให้เราเปิดโลกใหม่โลกที่ไม่เคยได้ทำ ทำให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น ได้พบเจอมิตรภาพระหว่างการเดินทาง เเละสุดท้าย"ไปในที่ที่อยากไป หยุดในที่ที่อยากหยุดด้วยถิธีของตัวเราเอง" กันเถอะครับ....🤗🤗🤗

🏧🏧สรุปค่าใช้จ่ายนะครับนับเฉพาะค่าที่พัก,ค่าเข้าชม,ค่าเช่ารถมอไซร์,ค่าน้ำมัน🏧🏧 เผื่อจะเป็นเเนวทางให้ใครหลายๆคนที่อยากมาเที่ยวเชียงใหม่เเบบเราบ้าง 💸(** ไม่รวมค่าเเก้บน ** ค่ากิน ** ค่าเบียร์นะครับ )💸

ค่ารถไฟขาไปชั้น2นั่งพัดลม = 431 บ.

ค่ารถไฟขากลับชั้น2นั่งพัดลม = 431 บ.

ค่าโรงเเรมจองผ่านเวปอโกด้าลด 20 % คืนละ 450×3 = 1,350 บ.

ค่าเช่ารถมอเตอร์ไซร์วันละ 200 ×3 = 600 บ.

ค่าน้ำมันรถมอไซร์ = 120 บ.

ค่าเข้าเเกรนเเคนยอน = 50 บ.

รวม = 2,982 บ.

สุดท้าย...ขอคุณครับที่ยอมเสียเวลามานั่งอ่าน🤗พบกับเราได้ที่เพจ  🤗เดี๋ยวพาไป - Deawpapai  https://www.facebook.com/Taeremix.Backpacker/



Taeremix

 วันศุกร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 14.35 น.

ความคิดเห็น