ห้องอาหาร Mori Grill เป็นชื่อที่ฟังครั้งแรกแล้วทำเอาเข้าใจว่าเป็นร้านแนวปิ้งย่าง แต่พอเดินเข้าร้านแล้วพบว่านี่ไม่ใช่แค่ร้านปิ้งย่าง แต่เป็นร้านบุฟเฟ่ต์ที่มีอาหารหลากหลายอย่างให้เลือก และมีเมนูเด่นหลายอย่างเช่น เนื้อแกะเทปันยากิ ซาซิมิ และชาบู หรือแม้แต่คอเบียร์ก็คงถูกใจเพราะมีบุฟเฟ่ต์เบียร์ด้วย

Mori Grill ให้ข้อมูลมาว่ามีเมนูในร้านทั้งหมดกว่า 100 เมนู รองรับลูกค้าได้ 115 คนและมีห้องส่วนตัวแบบ Private Room ให้เลือกใช้บริการได้ด้วย ส่วนเวลาที่เปิดให้บริการแบ่งออกเป็น 2 ช่วงคือ

  • มื้อกลางวันเวลา 11.30 – 14.30 น.
  • มื้อค่ำเวลา 18.00 – 22.00 น.

โดยทั้ง 2 ช่วงเวลาเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ที่ราคาเท่ากันคือ 899 บาทถ้วน และช่วงนี้ยังมีโปรโมชั่นเพิ่มเติมอีกคือ ลดราคา 20% เมื่อมาครบ 5 คน

แรกพบสบตาเมื่อเดินเข้าร้านก็พบกับเชฟที่ยืนทักทาย ด้วยถ้อยทีที่ดูแล้วไม่น่าจะสื่อสารด้วยภาษาไทยได้ ซึ่งตรงนี้เป็นโซนชาบูที่เปิดใหม่ และก็คงต้องตัดบทแทรกเรื่องราวที่ผมประทับใจเป็นพิเศษ เพราะในช่วงที่ผมเดินตักอาหารก็แวะมาคีบส่วนผสมของชาบูและส่งให้เชฟปรุง สิ่งแรกที่เชฟถามกลับเป็นภาษาอังกฤษทำนองว่า “ไม่ใส่ผักเหรอครับ” นั่นก็ทำให้ผมเห็นความใส่ใจแล้ว หลังจากนั้นผมก็เดินตักอาหารอย่างอื่นและก็เพลินไปหน่อยจนลืมว่าทำชาบูค้างไว้ เชฟก็เดินตามหาผมพร้อมกับถามว่า “รับซุปอะไรดีครับ” เพราะมีน้ำซุปให้เลือกถึง 3 แบบตามความชอบ …ซึ่งเรื่องราวแบบนี้นี่แหละครับ ที่ทำให้ผมรู้สึกอยากจดจำที่แห่งนี้

บรรยากาศในร้านก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไร มีการแบ่งโซนอาหารที่ชัดเจนเช่น ชาบู ซาซิมิ เทปันยากิ ของทอด ของหวาน ฯลฯ

สิ่งแรกที่ผมพุ่งเข้าไปหาก็คือเมนูโปรดอย่างซาซิมิ ซึ่งมีทั้ง แซลม่อน ทูน่า ฮามาจิ หอยเป๋าฮื้อ หอยปีกนก และข้าวปั้นแบบต่างๆ

ในภาพรวมแล้วซาซิมิของที่นี่ก็จัดอยู่ในเกณฑ์ที่ดีสำหรับความเป็นบุฟเฟ่ต์ราคานี้ แต่แอบขัดใจเล็กๆ ตรงที่ฮามาจิหมดเร็วไปหน่อย และก็ตักไม่ค่อยจะทันคนอื่นเค้าสักที

โซนเทปันยากิมีเนื้อแกะที่เค้าบอกว่าเป็นทีเด็ด ที่เนื้อนุ่มและกลิ่นไม่ฉุนเหมือนเนื้อแกะทั่วไป และยังมีกุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ๆ ไส้กรอก เนื้อเป็ด รวมถึงสารพัดเห็ดเช่น เห็ดชิตาเกะ และเห็ดออรินจิ

ไลน์บุฟเฟ่ต์ก็จัดว่ามีทีเด็ดอยู่หลายเมนู โดยเฉพาะหัวปลาต้มซีอิ๊วที่รสชาติกลมกล่อมไม่หวานหรือเค็มจัดเกินไป หอยนางรมอบชีสที่นุ่มหนึบเคี้ยวเพลิน หรือแม้แต่ปลาที่ใส่มาในซุปก็มีระดับความสุขที่พอดิบพอดีไม่แข็งกระด้างเกินไป

อีกหนึ่งเมนูโปรดของผมก็คือโซบะเย็น ที่ยังคงเย็นชุ่มฉ่ำและมีน้ำซอสที่หอมคล้ายกับกลิ่นปลาชิโอะ ที่เพิ่มอรรถรสในการยกถ้วยขึ้นมาซดได้เป็นอย่างดี

ถ้าไม่ชอบสไตล์เทปันยากิก็มีโซนอาหารในกลุ่มของซีฟู๊ดจำพวก กุ้ง หมึก หอย ที่จัดวางอยู่ใกล้ๆ กับเครื่องเคียงอย่างกิมจิและสาหร่ายเย็น

ปิดท้ายด้วยของหวานก็มีทั้งไอศครีม เฉาก๋วย นมข้น น้ำแดง เค๊ก ฯลฯ ให้เลือกตามชอบ ซึ่งเนื้อเค๊กที่นี่จะติดไปทางแข็งๆ นิดๆ ก็แล้วแต่สไตล์ความชอบล่ะครับ

บทสรุป

โดยรวมแล้ว Mori Grill ไม่ได้เด่นแค่เรื่องปิ้งย่างตามชื่อร้าน แต่มีอีกหลายเมนูที่น่าสนใจและยังเลือกใช้วัตถุดิบที่ดี การปรุงรสโดยรวมไม่จัดจ้านมากแต่ควมคุมกลิ่นได้ค่อนข้างดี มีความหอมอย่างที่ควรจะเป็น การบริการก็ทำเอาประทับใจตามที่เกริ่นไปตั้งแต่ตอนต้น การเดินทางอาจไม่สะดวกแบบติดรถไฟฟ้าแต่ก็จัดว่าเป็นอีกร้านที่คุ้มค่าน่าสนใจครับ

bacidea

 วันอาทิตย์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 06.29 น.

ความคิดเห็น