เป้ 1 ใบ กล้อง 1 ตัว กับเพื่อน 3 คน มุ่งหน้าสู่ เขาล้อมหมวก ประจวบคิรีขันธ์ การเดินทางถ้าอยากสายชิลล์ก็นั่งรถไฟแบบเราเลย การรถไฟไทยไปไหนไม่เลท บอกเลยไม่มี ฮ่าๆ
การเดินทาง : ขาไป เนื่องจากเป็นวันหยุดยาวตรงกับวันมาฆบูชา เราเดินทางโดยรถไฟด่วนพิเศษ
ขึ้นที่สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ค่าตั๋วรถไฟ 455 บาท
โดยการจองตั๋วออนไลน์ทางอินเตอร์เน็ต จองแล้วสามารถนำบัตรประชาชนไปรับที่สถานีได้เลยค่ะ
ออกเดินทาง 22.55 น.
ถึงสถานีประจวบคิริขันธ์ เวลา 03.10 น.
เรานั่งรอที่สถานีรถไฟประจวบจนเวลา 06.00 น. นั่งตากยุง คุยกันไปแป๊บเดียวก็เช้า
ถ้าไม่ถ่ายรูปกับป้าย เอ้า !! เดี๋ยวหาว่ามาไม่ถึง เมืองประจวบคิรีขันธ์เด้อ !
ที่สถานีรถไฟจะมีรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างรับจ้าง ไปส่งเราที่กองบิน 5 อ่าวมะนาว
ซึ่งเป็นที่ตั้งของเขาล้อมหมวก
ค่าโดยสารลุงคิดคนละ 50 บาทนะจ๊ะ โทรหาลุงได้เลย โทรปุ๊บ มารับปั๊บ สะดวกรวดเร็วทันใจ
เขาล้อมหมวก ไม่ได้เปิดให้ขึ้นพิชิตทุกวันนะคะ จะเปิดให้ขึ้นเฉพาะวันหยุกนักขัตฤกษ์
สำหรับปี 2560 ก็ตามนี้เลย อีกไม่กี่เดือนแล้วน้ารีบไปพิชิตกัน
ข้อห้ามหรือกฎก็ตามนี้เลยค่ะ
ข้อแนะนำนะคะ ควรมีถุงมือไปด้วยนะคะ เพราะตลอดระยะทางต้องดึงเชือก ปีนโขดหินเลยค่ะ ไม่งั้นมืออาจจะเจ็บได้
ช่วงแรกๆ จะเป็นบันได เล่นหอบเอาเรื่องเลยเหมือนกันค่ะ
ใครว่าปีนง่ายๆ สำหรับเราไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ! และไม่ได้จิ๊บๆ อย่างที่เค้าบอกมาเลย
จุดชมวิวตรงนี้ ครึ่งทางแล้ววววว
ปีนไป เกาะไป คนเยอะ ทางแคบ ต้องรอ ถ้าคนลงมา คนขึ้นไปก็ต้องรอค่ะ
เพราะมีทางขึ้นลงทางเดียว และค่อนข้างชัน ต้องแบ่งกันดึงเชือก
ผู้ร่วมชะตากรรมกับเรา สภาพหลังจากนอนไม่เต็มอิ่ม บนรถไฟที่เปิดแอร์ดั่งขั้วโลกเหนือ
และนั่งตากยุงจนเช้า
ไม่น่าเชื่อว่าปีนขึ้นมาแล้ว ต้องร้อง เฮ้ยยย ! สวยสัสเลยย
มุมยอดนิยม ครั้งนึงเราคือผู้พิชิตเขาล้อมหมวก
ใช้เวลาประมาณ สองชั่วโมงแล้วแต่สภาพร่างกายของแต่ละคนนะคะ
สิ่งที่ควรเตรียมไปด้วย คือน้ำดื่มนะคะ ไว้จิบระหว่างทาง
มาเขาล้อมหมวกต้องเจอตัวนี้นะ
ลงมาจากเขาล้อมหมวกก็โทรเรียกลุงชัยมารับเลยค่ะ รวดเร็วทันใจถึงที่พัก
เราพักที่ Thur Hostel (เธอ โฮลเต็ล) ที่พักของคนชิคๆ ชิวๆ พี่เจ้าของใจดี
ค่าที่พักคิดเป็นหัว คนละ 300 บาท ที่พักสะอาด ห้องน้ำรวม แต่สะอาดมาก มีไวไฟ เครื่องทำน้ำอุ่น กาแฟ โอวัลตินดื่มฟรีค่า
อยู่ติดชายหาดประจวบ เดินเล่นรับลมทะเลสบายๆ
สามารถนอนได้ 4 คน เตียงสองชั้น มีปลั๊กไฟให้ที่หัวเตียง
มาทะเล ถ้าไม่ถ่ายวิวทะเลก็ไม่ใช่เนาะ ประจวบเมืองสามอ่าว ยาวและแคบที่สุดในประเทศไทย
ตอนเย็นก็เดินเล่นที่สะพานสราญวิถี หรือใครสะดวกและไหวจะขึ้นไปชมวิว ที่เขาช่องกระจกก็ตามแต่
แต่เราไม่ไ้ด้ขึ้น เพราะเมื่อยขา ฮ่า
ตอนเย็นก็มีถนนคนเดินริมทะเล ของขายเยอะแยะ คนประจวบใจดีนะคะ
แต่ถ้าใครอยากจะชิลล์ๆ หาผับ หาบาร์ นั่งบอกเลยว่าไม่มีนะคะ ที่นี่เงียบสงบ สบายมากๆ
ก่อนกลับอย่าลืมโบกมือลาประจวบคิรีขันธ์นะคะ แล้วตะโกนดังๆ ว่ากลับแล้วน้าาา
ขากลับเราก็สายชิลล์ นั่งรถไฟฟรีกลับ ควรโทรถามรอบรถไฟกับการรถไฟก่อนนะคะ เบอร์ 1690
เพื่อเวลาที่แน่นอนและจะได้ไม่พลาดตกรถไฟ ลงที่สถานีกรุงธนบุรี นั่งรถไฟไทย ต้องเลทนะคะ
ไฮไลท์ของการนั่งรถไฟเลย
ทะแด้มมมม
ข้าวราดแกงในกระทงใบตอง ห่อละ 10 บาท อร่อยมาก
บนรถไฟของขายเพียบ ใครนั่งรถไฟฟรีต้องเสียค่ากินบนรถไฟเยอะแน่ๆ เหมือนพวกเราค่ะ
ปล. ตอนนี้เราไม่รู้ว่ารถไฟฟรียังมีอยู่ไหม เห็นว่าไม่มีแล้วควรโทรสอบถามก่อนนะคะ
ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
รถไฟด่วนพิเศษขาไป 455 บาท
ค่าที่พัก 300 บาท
ค่ามอเตอร์ไซค์รับจ้าง 150 บาท
ค่าอาหาร (ขึ้นอยู่กับแต่ละคน) 305 บาท
ค่าอาหารบนรถไฟขากลับ 60 บาท
รวม 1270 บาท
วันหยุดหน้าใครยังไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหน ลองไปประจวบคิรีขันธ์พิชิตเขาล้อมหวกนะคะ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบนะคะ !!
กาลครั้งหนึ่ง
วันอังคารที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 18.37 น.