"เชี่ยวหลานผืนน้ำแอบอิงเขา
เมฆหมอกหยอกเย้ายอดภูผา
สุขใจทุกครั้งทัศนา
รัชชประภา กุ้ยหลิน แห่งถิ่นไทย

ภูเขาสูงสุดซ้อนสอดเสียดฟ้า
งามภูผาตั้งตระหง่าน ผืนน้ำใส
แสงสว่างแห่งราชอาณาไทย
จงปกปักษ์รักษ์ไว้อย่าทำลาย"
...
..
แสงสว่างแห่งราชอาณาจักร เป็นความหมายของเขื่อนรัชชประภา
ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานนามให้จากเดิมของเขื่อนเชี่ยวหลาน
ตั้งอยู่ที่ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นอีกหนึ่งสถานที่ขึ้นชื่ออีกแห่งของภาคใต้

รีวิวนี้เป็นการรวบรวมวิวทิวทัศน์ บรรยากาศต่างๆภายในเขื่อน ข้อมูลต่างๆอาจจะไม่มากนัก
แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะมาเที่ยวที่นี่ ด้วยการเดินทาง ที่อยู่ ที่กิน สดวกสบาย
นักท่องเที่ยวทุกเพศ ทุกวัยก็สามารถมาเที่ยวได้
ว่าแล้วก็ตามผมมาชมบรรยากาศต่างๆ ภายในเขื่อนกันได้เลย



และอีกหนึ่งพื้นที่การเดินทางของผมติดตามได้ที่ https://www.facebook.com/saphipae



มาถึงแล้วก็ขอโพสท่าเก๋ๆ ... ตามแบบสะพายเป้ เท่ทั่วไทย



การเดินทางท่องเที่ยวภายในเขื่อนนอกจากเดินป่าแล้ว ก็มีวิธีเดียวคือการโดยสารเรือ
การท่องเที่ยวโดยเรือ ก็จะมีแบบทั้งไปกลับ และค้างคืน โดยภายในเขื่อนจะมีแพที่พักไว้บริการ
ทั้งของอุทยานปห่งชาติเขาสก และแพของเอกชล

ค่าใช้จ่ายบริการเรื่อโดยสารของที่นี่จะเป็นแบบเหมาลำ ราคาขึ้นอยู่ตามระยะทาง และแพที่ไปพัก
แนะนำว่าถ้ามาเป็นกลุ่มจะดีที่สุด เพราะจะได้ช่วยกันหารค่าเรือ ตกแล้วหกฺคนละไม่กี่บาท
แต่ถ้าอยากส่วนตัวหน่อยก็ต้องยอมจ่ายเพิ่มขึ้น



แน่นอนเมื่อมาเขื่อนเชี่ยวหลาน สี่งแรกที่ไม่ควรพลาดก็ต้องที่นี่เลย จุดชมวิวสันเขื่อน
การมาเที่ยวสันเขื่อน ผมแนะนำให้มาถึงแต่เช้ามืด ในบรรยากาศเย็นๆ กับหมอกยามเช้า
ยิ่งถ้าช่วงกลางคื่นที่ผ่านมาฝนตก รับรองหมอกตรึมเลยนะจ๊ะ



จากจุดชมวิวสันเขื่อนก็ขับรถออกมาไม่ใกล สู่ท่าเรือเทศบาล ลงเรือชมความงามของสันเขื่อน เช้าๆแบบนี้อากาศไม่ร้อน กับหมอกที่คลอเครียยอดเขา แนะนำเลย หรือไม่ก็เป็นช่วงเย็น



การเดินทางมาเขื่อนเชี่ยวหลานก็แสนจะสดวกสบาย ไม่ว่าจะทางเครื่องบิน รถทัวร์ หรือรถส่วนตัว
ถ้าเดินทางมาโดยเครื่องบิน ก็จะมีรถบริการที่สนามบินมาส่งที่ตัวเมืองสุราษฯ บอกคนขับว่าลงตลาดเกษตร 2
จากนั้นก็ต่อรถตู้สาย สุราษ-เขื่อน-เขาสก จะมาส่งที่ท่าเรือเลย การเดินทางโดยรถทัวร์ก็เช่นกัน แต่ถ้าจสดวกสบายก็นั่งสายภูเก็ต
บอกลงที่ อ.บ้านตาขุน รถจะจอดปากทางเข้าเขื่อน แล้วค่อยต่อมอร์ไซค์รับจ้างเข้าไปอีก 10 กิโลเมตร



แต่ถ้ามารถส่วนตัวจากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม)ไปจนถึงจังหวัดชุมพร
จากนั้นตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 41 จนถึง อ.พุนพิน ตรงสี่แยก ที่สามารถเข้าจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้
ไม่ต้องเข้าตัวจังหวัด ให้ตรงไปเรื่อยๆ จนถึงแยก ท่าโรงช้าง ให้เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 401
จากนั้นประมาณ 40 กม. ก่อนจะถึง ตัว อ.บ้านตาขุน
จะมีป้ายใหญ่ ของเขื่อนรัชชะประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) ทางขวามือ



"หินสามเกลอ" เป็นจุดที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวที่นี่
โดยปกติจะอยู่ในแพคเกจของทางเรืออยู่แล้ว
ไม่ว่าจะมาเที่ยวแบบไป-กลับ หรือค้างคืน



ทะเลใน 500 ไร่ ก็เป็นอีกที่ ที่ไม่ควรพลาดเข้ามาเยี่ยมชม
แต่จะมาถึงที่นี่ต้องลงทุนใช้แรงเดินมาหน่อยหนึ่ง อึดใจเดียวก็ถึง เมื่อก่อนที่นี่เคยมีแพที่พักของเอกชน
แต่ตอนนี้ถูกปิด ย้ายไปเปิดใหม่ด้านนอกแล้ว



เอาเป็นว่าไม่ต้องอธิบายมาก ไปชมบรรยากาศแบบยาวๆกันเลย
แต่บอกไว้ก่อนว่ารีวิวนี้เป็นแค่บางส่วนของภายในเขื่อนเท่านั้นนะครับ
ต้องมาชมด้วยตาตัวเอง



บริเวณอ่าวโหลง



มาดูกันว่าน้ำที่นี่ใสขนาดไหน
เห็นแบบนี้เชื่อว่าหลายคนคงอยากจะกระโดนไปเล่นใช่ไหมละ



อารมส์ชิวๆ ผูกเปลอ่านหนังสือ เปลี่ยนบรรยากาศจากการนอนแพ



เอาไว้แค่นี้ก่อน ไว้โอกาศหน้าจะเก็บบรรยากาศในมุมอื่นๆ มาให้ชมกัน
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม รีวิวเล็กๆของผม
...
..
และขอฝากอีกหนึ่งพื้นที่การเดินทางของผมติดตามได้ที่
https://www.facebook.com/saphipae
(สะพายเป้ เท่ทั่วไทย)



สะพายเป้ เท่ทั่วไทย

 วันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 10.18 น.

ความคิดเห็น