หมู่บ้านเล็ก ๆ ในหุบเขา มีหมอกปกคลุมเกือบตลอดทั้งปี งามและมีเสน่ห์เหลือเกิน

จากที่ไปบ้านป้าเกล็นวันนั้น และแวะไปกินข้าวที่อีต่อง

https://pantip.com/topic/36920994



ก็หมายใจว่า คราวหน้าจะมาอีต่อง

ถัดจากนั้นไม่นานนัก ทริปอีต่องก็บังเกิด

เดินทางไปด้วยกันกับฉันเถอะ

@การเดินทาง

อีต่องเป็นหมู่บ้านแห่งเหมืองปิล๊อก

เหมืองในตำนานของกาญจนบุรี อยู่ในเขต อ.ทองผาภูมิ



การเดินทางนั้นไม่ยาก ตรงขึ้นไปเส้นทองผาภูมิเลย

ถนนเส้นทองผาภูมิ ต้นไม้แน่นมาก โค้งเยอะ แต่ไม่ลำบาก ไม่ชัน

รถเล็ก ๆ อย่างอีโคคาร์ก็เห็นขับกันสบาย ๆ นะคะ

วิวข้างทางก็แสนจะงามงด

ผ่านจุดชมวิวทองผาภูมิ แวะอีกแล้ว ตอนไปบ้านป้าเกล็นก็แวะ

@อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ

แนะนำว่าควรแวะ อุทยานฯทองผาภูมิสวย ต้นไม้แน่น

หากใครจะพักในอุทยานก็ได้ มี่ที่ให้กางเต้นท์ และมีบ้านพักค่ะ

มีบ้านบนต้นไม้ด้วยหละ ลองติดต่ออุทยานดูเนอะ



อุทยานฯทองผาภูมิ คนน้อย เงียบ สงบ วิวงาม

@ บ้านอีต่อง

ในอดีตนั้น เคยเป็นที่พักของผู้คนซึ่งทำงานในเหมืองปิล๊อกอันรุ่งโรจน์

เมื่อเหมืองได้ปิดตัวลง ผู้คนก็ยังอยู่ที่นี่ตลอดมา

จนกลายเป็นหมู่บ้านเล็กกลางหุบเขา สงบ งาม และแสนจะมีเสน่ห์



เรามัวแต่แวะ มาถึงก็ค่ำหละ

เวลาไหน อีต่องก็สวยนะฉันว่า จะกลางวันกลางคืนก็สวย

ว่ากันว่าที่นี่อากาศดีทุกฤดูกาล ซึ่งก็น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะเท่าที่เห็นคือ

มีภูเขาล้อมรอบ มีป่าแน่น ๆ อีกฟากหนึ่งของภูเขาคือแผ่นดินพม่า

@ที่พัก

ในอีต่องมีที่พักค่อนข้างเยอะ

และส่วนใหญ่จะเป็นโฮมสเตย์ราคาหลักร้อย ความสะดวกสบายดีงามพอสมควร



ที่พักของเราในทริปนี้คือ เลิฟปิล๊อก ราคา 800 หรือ 900 ไม่แน่ใจ

ดองทริปไว้นาน เพิ่งรีวิวลืมราคาไปหละค่ะ

แต่ราว ๆ นี้แหละ รวมอาหารเช้า

ห้องพักริมน้ำ บรรยากาศดีงาม ความสะดวกสบายก็ถือว่าโอเค

ห้องสะอาด วิวดี นอนสบาย มีระเบียงริมน้ำฟิน ๆ

มีน้ำอุ่นระบบแก๊ซ

หน้าห้องพักก็ประมาณนี้

ฟิน ๆ ค่ะ

อาหารเช้าง่าย ๆ แต่อร่อยเชียว

@ ที่กิน

ตามเคยค่ะ เรายังติดใจครัวสุดแดนอยู่ มารอบนี้ก็เลือกครัวสุดแดนอีก

และเราก็มักชอบกินเมนูเดิม ๆ 555

นี่กินสองคนนะคะ หมดเรียบทุกอย่าง



อิ่มสบายท้องก็กลับห้องพัก นอนเอาแรงก่อน วันรุ่งขึ้นตระเวนอีกหลายที่

@ยามเช้า

ตื่นมาสูดอากาศสดใส เดินเล่นในหมู่บ้าน มีความสุขเสียจริง



ใจกลางหมู่บ้านมีสระน้ำเล็ก ๆ

ซึ่งสระนี้น่าจะเป็นส่วนใดส่วนนึงของเหมืองแร่

เดินเล่นไปเรื่อย ๆ เปื่อย ๆ อากาศเย็น ๆ แสนสบาย

อันนี้ก็เป็นที่พักนะคะ อยู่ริมน้ำเหมือนกัน

ละแวกนี้เป็นโฮมสเตย์เกือบทั้งหมดค่ะ

เจ้าถิ่นแถวนี้

อีต่องเป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวละแวกนี้

รอบ ๆ หมู่บ้านมีจุดท่องเที่ยวหลายจุด เช่น

เนินช้างศึก / น้ำตกจ๊อกกระดิ่ง / เนินเสาธง

และ...เขาช้างเผือกที่ผู้คนถวิลหา

บางช่วงที่หมอกลง ก็ฟุ้ง ๆ ฝัน ๆ แบบนี้

แผ่นไม้จารึกชื่อผู้มาเยือน

@เหมืองปิล๊อก



อยู่ข้างหมู่บ้านหละค่ะ เดินไปดูกันหน่อย ร่องรอยของอดีต

มันเท่มากเลย เหมือนฉากหนังไทยสมัยก่อน

จริง ๆ เดินเข้าไปได้อีกลึก ๆ เลยนะคะ แต่ฉันไม่ได้เดินเข้าไป พอดีฝนลงปรอย ๆ

@ เนินเสาธง

อยู่ทางเข้าบ้านอีต่องแหละ จริง ๆ เดินไปก็นะ ถ้าใครขยันเดิน

เพราะไม่ไกลเลย แต่ฉันไม่ขยันน่ะสิ นั่งรถเหอะ



เนินเสาธงเป็นจุดที่ตั้งของธงชาติสองประเทศ ไทย พม่า

เป็นภูเขาที่กั้นระหว่างผืนดินไทยพม่า



เขตแดนตรงนี้ จะมีทหารไทยและพม่า คอยดูแลอยู่

แต่วันนั้นเจอแต่ทหารพม่าแฮะ กว่าจะคุยกันรู้เรื่องก็ต้องใช้ภาษามือ

ชี้โบ๊ชี้เบ๊ไปเรื่อย แต่เขาน่ารักนะคะ คุยกันไม่รู้เรื่องแต่รู้ว่าอัธยาศัยดี

ฝั่งพม่าค่ะ



เมื่อขึ้นบนเนินมองลงไป

ฝั่งนึงคือแผ่นดินไทยฝั่งนึงคือพม่า

ว่ากันว่าถ้าฟ้าเปิด อากาศแจ่ม ๆ

จากบนนี้เห็นไปถึงอันดามันในฝั่งพม่าเลยนะ



หันกลับมาฝั่งไทยบ้าง

สักนิดน่าาา

ลงจากตรงนี้ และเลยไปอีกนิดจะเป็นช่องทางมิตรภาพ

จุดนี้เป็นจุดเชื่อมต่อท่อก๊าซจากพม่ามาไทย

คือแนวท่อก๊าซนั่นแหละ



จะมีด่านมีทหารทั้งไทยและพม่าเฝ้าจุดเช่นกัน

เมื่อก่อนนู้นไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าเกินเขตไทย

แต่ปัจจุบัน(หรือบางโอกาสไม่แน่ใจ)เขาให้เข้าไปได้จนถึงแผ่นดินพม่าเลย

สุดเขตแผ่นดินไทยตรงนี้

ลึกลงไปก็คือพม่าหละค่ะ ป่ะ เราไปพม่ากัน

@เนินช้างศึก

เป็นฐานปฏิบัติการของตำรวจตระเวนชายแดนที่ 135 (ฐานช้างศึก)

ตั้งอยู่ในเส้นพรมแดนไทย-พม่า อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,053 เมตร

ยอดเนินมองเห็นได้จากหมู่บ้านอีต่องณ

ปัจจุบันเส้นทางขึ้นยอดเนินสะดวกสบาย

รถเก๋ง อีโคคาร์ขึ้นได้หมด แม้แต่มอเตอร์ไซด์อย่างฟีโน่ก็ขึ้นได้สบาย

บนเนินมองเห็น 360 องศา เห็นชัดเจนทั้งวิวฝั่งไทยและพม่า

มีลานกางเต๊นท์ (ลานจอด ฮ.) บนนี้อากาศดี วิวงาม

หมอกปกคลุมเกือบตลอดเวลา



บนนี้ให้ความรู้สึกเย็นตา เย็นใจ มองไปทางไหนก็เขียวสดชื่น

และเมื่อมองลงไปทางฝั่งหมู่บ้าน นั่นไง บ้านอีต่อง ฟุ้ง ๆ ฝัน ๆ อยู่ภายใต้ม่านหมอก

บางทีหมอกก็ปกคลุมจนลองลงไปไม่เห็น



เมื่อลมพัดมา หมอกเมฆค่อย ๆ เปิดทาง หมู่บ้านน้อยก็ปรากฎ

#น้ำตกจ๊อกกระดิ่น

จะอยู่ก่อนถึงอีต่องเล็กน้อย

แต่เราไม่ได้เข้าไป เนื่องจากว่าช่วงนั้นฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก

ทางอุทยานฯเลยปิด ห้าม นทท.เข้า เกรงจะเกิดอันตราย



แต่แนะนำว่า ห้ามพลาดเชียว

น้ำตกจ๊อกกระดิ่นเป็นไฮไลท์ของที่นี่เลย เขาว่ามันสวยมาก

ไว้โอกาสหน้าเราจะกลับไปแก้มือ

@ส่งท้าย

ความประทับใจ สิบเต็มสิบค่ะ

อีต่องสวยงาม ผู้คนน่ารัก เงียบสงบ

จริง ๆ นักท่องเที่ยวไปกันเยอะนะคะ

แต่ไม่มีความเอะอะมะเทิ่งให้ได้ยินเลย

ทุ่มกว่า ๆ นี่เงียบกริบ เงียบสนิท

**การเดินทาง**

อย่างที่บอก ไม่ได้ยากลำบากแต่ประการใด

#รถส่วนตัว

จะโฟร์วิล จะรถกระบะ รถเก๋ง มอเตอร์ไซด์ ไปได้หมด

ทางไม่ได้ลำบาก เพียงแต่ผ่านโค้ง 399 โค้ง

ทางไม่ได้ชัน แต่บางช่วงอาจจะแคบบ้าง

บางฤดูกาลถนนพัง เป็นหลุมบ่อบ้าง

แต่ก็ขับกันไปได้แบบสบาย ๆ นะ

*****ยกเว้นการเข้าไปบ้านป้าเกล็น ต้องใช้โฟร์วิล

และคนขับต้องชำนาญมากพอเท่านั้น

หากใช้โฟร์วิลแต่คนขับไม่เก่งฉกาจละก็ ไม่รอดค่ะ

เราเคยไม่รอดมาแล้ว ติดหล่ม 7 ชั่วโมงเต็ม *****



#รถโดยสาร

ก็นั่งรถทัวร์ไปทองผาภูมิ ที่ตลาดทองผาภูมิมีรถสองแถวสีเหลืองไปบ้านอีต่อง

ถ้าจำไม่ผิด มีสองเที่ยวต่อวัน และขากลับก็สองเที่ยวเช่นกัน

แต่เรื่องเวลาไม่มั่นใจ ใครจะไปก็เช็คดูให้แน่อีกทีนะคะ



ป้ายนี่ติดอยู่ในหมู่บ้าน แต่ไม่แน่ใจว่าอัพเดทไหม ยังไงเช็คดี ๆ ก่อนนะคะ

#การเดินทางไปจุดท่องเที่ยวต่างๆ

มีรถรับจ้างในหมู่บ้านเยอะแยะค่ะ

สามารถติดต่อสอบถามได้จากที่พักทุกที่นั่นแหละ

ไม่มีอะไรลำบากเลยจ้า



สรุป

รัก รัก รัก อีต่องมากมาย ๆ



จบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้

ขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมค่ะ



ป.ล. หากท่านใดไปเที่ยวเนินเสาธงกับเนินช้างศึก รบกวนช่วยติดอาหารหมาไปด้วยนะคะ

บนนั้นมีน้องหมาหลายตัว พี่ ๆ เจ้าหน้าที่เขาดูแลให้ข้าวน้ำอยู่ แต่ก็ลำบากแหละ

ลำพัง จนท.ก็ไม่ใช่ว่าจะมีเงินมากมาย เท่าที่คุย พี่เขาต้องลงมาซื้อข้าสารไปหุงแบ่งให้มันได้กินกัน

โชคดีว่าเรามีอาหารแมวหมาติดรถอยู่ตลอด วันนั้นมีอยู่กระสอบนึง เลยแบ่ง ๆ กันไปทั้งสองฐาน

ความคิดเห็น