ไปดูยอยักษ์ ดูนก ดูบัว ดูควายน้ำ ดูวิถีชาวเลกันเถอะ...
ทริปนี้เป็นทริปกะทันหัน ไม่ได้คิดอะไรล่วงหน้าเลย
อันเนื่องมาจากกลับไปเยี่ยมบ้านที่หาดใหญ่ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ หาที่เที่ยว ที่ถ่ายรูปด้วยเลยดีกว่า
พัทลุงใกล้บ้านสุดหละ จัดไป เผื่อจะได้รูปสวย ๆ กะเขาบ้าง
#การเดินทาง
จาก กทม. ไปหาดใหญ่ มีหลายเส้นทาง
เครื่องบินเยอะไฟลท์มาก เลือกเอาเลย
รถไฟ ก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบ
"ไปหาดใหญ่คราวนั้นฉันยังจดจำ คำที่เคยสัญญาให้ไว้สองเรา"
เพลงก็มา
อันนี้ฉันแวะมาถ่ายรูปเฉย ๆ ค่ะ มาหวนนึกถึงเมื่อครั้งเข้ากรุงเทพฯใหม่ ๆ เมื่อวัยใส
ก็รถไฟนี่แหละ ตื่นเต้นมากเลย เด็กบ้านนอกเพิ่งเข้ากรุง
ไก่ทอดมั้ยคุณ
รถทัวร์ก็มี แต่ไม่แนะนำ ฉันว่ารถทัวร์สายใต้ไม่ค่อยโอเคเลย ไม่ค่อยพัฒนา
ส่วนฉัน ใช้บริการไลอ้อนแอร์ค่ะ เพื่อนมารับที่สนามบิน ทริปนี้จึงใช้รถเพื่อนตลอดทริป
สำหรับนักเดินทาง ก็อาจเช่ารถขับก็ได้นะคะ จะสะดวกหน่อย
ไม่งั้นก็นั่งรถโดยสารต่อไปพัทลุง ทะเลน้อย
เอาหละมาเริ่มทริปกัน
เมื่อถึงหาดใหญ่ขอแวะไปกินราดหน้าเจ้าเก่าระลึกถึงความสักหน่อย
ราดหน้าราโด อยู่ ถ.ถนนนิพัทธ์อุทิศ 3
ร้านเล็ก ๆ เพิง ๆ นี่แหละ แต่ความอร่อยนั้นยั่งยืนยาวนาน
กินแบบน้ำตาปริ่ม รสชาติที่คุ้นชินผ่านเวลาที่ยาวนาน
มันนานมากที่ฉันไปจากเมืองนี้
.........................................
ระหว่างที่กำลังกินนี่หละ ทริปพัทลุงก็บังเกิด
ชวนเพื่อนกันเดี๋ยวนั้น พรุ่งนี้ไปพัทลุงกันมั้ย ฉันอยากเห็นควายน้ำ
เพื่อนโอเค ก็ตามนั้น ว่าแล้วก็หาที่พัก
ตัวฉันเองเคยเห็นรูปของ Wetland Camp จากโซเชียลอยู่บ่อย ๆ
เคยหมายมั่นไว้ว่า ถ้ามีโอกาสจะไปพักที่นี่
ก็ลองโทรดู ปรากฎว่าง คงเป็นเพราะเป็นวันธรรมดาด้วยหละ
จองเดี๋ยวนั้น จ่ายเงินเดี๋ยวนั้นเลยเพื่อความสบายใจ
ราคา 2,000 แต่เรามีกันสามคน จ่ายเพิ่มสำหรับอีกคน ก็เป็น 2,400
แล้วก็ให้เพื่อนไปส่งที่บ้าน...กลับบ้านก่อนเนาะ
แถวบ้านฉัน บ้านนอกจัง ถนนลูกรังอยู่เลย
#เริ่มทริปสองวันหนึ่งคืน
เพื่อนมารับที่บ้านวันรุ่งขึ้นตอนสาย ๆ
เรามุ่งหน้ากันไปเส้นถนนลพบุรีราเมศวร์ (โอ้ ตอนฉันจากบ้านไป ยังไม่มีถนนเส้นนี้เลย)
แวะค่ะ ตั้งใจไปแวะถ่ายรูปมัสยิดกลางสงขลา แดดร้อนน่าดูชม
เมื่อก่อนละแวกนี้มีแต่ทุ่งนา เดี๋ยวนี้เปลี่ยนไปเยอะมากเลย
(หล่อนจากบ้านไปจะสามสิบปีหละนะ ได้ข่าว อะไร ๆ มันก็เปลี่ยนสิ)
#มื้อเที่ยงที่เกาะยอ
ปหาของกินอร่อย ๆ กัน เขาว่าอาหารบนเกาะยออร่อยและไม่แพง
เพื่อนฉันบอกว่า ไปกินร้านคุณจิตซีวิว กันเถอะ ห่อหมกอร่อย เอ้า ไปก็ไป
ห่อหมกอร่อยจริง ๆ ด้วย อร่อยมากค่ะคุณ
นี่ก็ฟินนนนน
อร่อยจริง ๆ เลยยยย
ราคาก็กลาง ๆ นะคะ ทั้งหมดนี่รวมข้าวสามจาน และน้ำผลไม้สามแก้วก็เก้าร้อยเศษ ๆ
กินไปก็ชมวิวเพลิน ๆ
อิ่มแล้วก็ไปต่อ
#ถนนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550
หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า สะพานเอกชัย
อันเนื่องมาจาก คุณเอกชัย ศรีวิชัย ได้แสดงคอนเสิร์ต หารายได้มาร่วมช่วยด้วย
ชาวบ้านเลยมีการเรียกติดปากกันง่าย ๆ ว่าสะพานเอกชัยเรื่อยมา
สะพานนี้เป็นรอยต่อระหว่างระโนด จ.สงขลา กับ อ.ควนขนุน พัทลุง
สะพานทอดตัวยาวข้ามทะเลสาป สวยงาม
มีจุดพักรถชมวิวเป็นระยะ
ฉันมาดูควายน้ำจากบนสะพานนี้ไง
ไหนควายน้ำ?
นั่นไง ไกล ๆ นั่น
เพื่อนฉันหัวเราะอะไรกัน แค่ฉันบอกอยากเห็นควาย
มาเป็นฝูงเลย
ลงน้ำแล้ว ๆ
บ้าน(ร้าง)แฝดนี่ ถือเป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่เลย โดดเด่นเป็นสง่าทีเดียว
บ๊าย บาย ควายน้ำ ไปหละ ไว้จะมาหาเธอใหม่
#ที่พัก
Wetland Camp บ้านชายเล พัทลุง
ตั้งอยู่ที่ปากประ เข้าทางเดียวกับสวนพฤกษศาสตร์ ต้องสังเกตป้ายหน่อยนะคะ ป้ายเล็กมาก ๆ
จริง ๆ ก็เข้าทางเดียวกับศรีปากประแหละค่ะ แต่เลยไปอีกหน่อย
ยังไม่ได้เห็นห้องพัก เห็นวิวข้างนอกก็ตื่นเต้นหละ
ปรากฎว่า วันนั้นคนเข้าพักมีแค่เราสามคน โอ้ววว ฟิน
เจอคุณเจ้าของด้วย พ่อแม่ลูก น่ารักกันมาก เขาเลือกห้องวิวแจ่มสุดให้เราด้วย
นั่นคือ ห้องหมายเลข 2 ซึ่ง ไม่มีอะไรบังเลย วิวยอ แบบเต็ม ๆ นอนมองจากเตียงกันเลย
แบบนี้ ฮรี่ ๆๆๆ
จริง ๆ ที่มานี่ เพราะเคยเห็นภาพฟ้าสีทองผ่องอำไพในวิวยอ ก็อยากได้รูปแบบนั้นบ้าง
แต่ก็นะ ฟ้าครึ้ม ๆ คงต้องทำใจหละ
ป่ะ เข้าห้องกัน
นั่นไง ห้องหมายเลข 2 ของเรา
เปิดประตูเข้าไปก็ร้องโอ้โห
ภายในห้องพัก มีสิ่งอำนวยความสะดวกตามมาตรฐานห้องพักทั่วไป
ขาดเหลืออะไรแจ้งได้ค่ะ
ระเบียงนั่งเล่น
ในส่วนของห้องน้ำ ก็ประมาณนี้
ถ่ายจากระเบียงห้องเลย
รูปอาจจะทึม ๆ หน่อยเนาะ สภาพอากาศค่อนข้างครึ้ม
ปรับยากมากเลยสำหรับเราที่ถ่ายได้แค่ JPG และใช้เป็นแค่โปรแกรมสำเร็จรูปโฟโต้สเคป
ออกไปดูรอบ ๆ กันอีกหน่อย
เพื่อนฉันเดินสำรวจอะไรกัน
สักนิด ท่าเรือของที่พัก พรุ่งนี้เราจะลงเรือไปล่องทะเลน้อยกัน
ด้วยเรือแบบนี้
วิวจากท่าเรือ แจ่มมิใช่น้อย
พักผ่อน ๆ ไว้เย็น ๆ ไปหาข้าวกิน
เจ้าของที่พักแนะนำร้าน "บางชาม" พวกเราก็โอเคตามนั้น
#มื้อเย็น
เรามาทานมื้อเย็นที่ร้าน "บางชาม" ตามคำแนะนำของคุณเจ้าของบ้านชายเล
แต่เราว่าเขาเป็นญาติกันนะ ไม่ก็หุ้นส่วนมั้ง เพราะเราก็มาเจอคุณเขาที่นี่อีกหละ 5555
ร้านอยู่ริมคลอง คลองอะไรไม่รู้
อาหารที่สั่งก็ตามนี้
ชื่อร้านบางชาม แต่อร่อยทุกชาม อร่อยมากเลย
คนพัทลุงนี่ทำอาหารอร่อยทุกคนหรือเปล่านะ
ที่ กทม. ก็มีร้านอาหารใต้ร้านประจำฉันอยู่ร้านนึง พี่แกเป็นคนพัทลุงเหมือนกัน
ฉันฝากชีวิตไว้ร้านพี่แกทุกวัน ร้านอาหารใต้ร้านอื่นย่านนั้นฉันว่าไม่โอเคสำหรับฉันนะ
ชามต่อมา
เพื่อนฉันส่งรูปอาหารร้านนี้มาเยาะเย้ยอยู่บ่อยครั้ง
เพราะหลังจากนั้นนางไปกินกันอีก ใช่สิ! พวกหล่อนอยู่หาดใหญ่นิ จะไปเมื่อไหร่ก็ได้
ฉันน่ะ อีกเมื่อไหร่ไม่รู้ถึงจะได้ไปอีก ชิส์!
วิวร้าน ตอนพวกเรานั่งเรือผ่านในวันรุ่งขึ้น
ร้านสวย อาหารอร่อยมากกกกกกกก บรรยากาศดี
เปิดเพลงเพราะมาก เพลงเก่าสมัยเรายังวัยใส ๆ นู่น คีรีบูนงี้ พัณนิดางี้ พี่แจ้ก็มา พี่ต้อมเรนโบว์ก็มี
วัยป้าอย่างพวกเราถึงกะเคลิ้ม
อิ่มแล้วก็กลับมานอนเนอะ พวกเราต้องตื่นก่อนตีห้า
เพราะต้องลงเรือไปล่องเลน้อยตั้งแต่ตีห้ากันเลย
ออกมาถ่ายรูปกลางคืนสักนิด
#ล่องเรือ
ถึงเวลานัดก็มารอตรงท่าเรือ เตรียมหมวกหรือผ้าพันคอมาหน่อยก็ดีนะคะ
อากาศเย็น และพอสว่างก็แดดแรงอยู่พอสมควร เวลาที่ล่องเรือก็ประมาณ 4 ชั่วโมง
ไอ้ที่จะเห็นแสงสีทองผ่องอำไพก็ยากหละ ฟ้าแทบไม่เปิด
ได้มาแค่ประมาณนี้
พระอาทิตย์ดวงโต ๆ แบบที่คนอื่นเขาถ่ายได้ อยู่หนายยยยย
นั่งเรือวนไปค่ะ วนไปทางไหนบ้างก็แล้วแต่เขาจะพาไป
สว่างแล้ว ไม่มีฟ้าสีทอง ไม่มีพระอาทิตย์ โธ่!
#พระอาทิตย์ไม่มา
สว่างจางปางแล้วก็ไปต่อเห๊อะ พระอาทิตย์ที่คาดหวังไม่มาแล้วหละ
ก็ล่องยาวไป ๆ ชมนกชมบัว ชมวิถีชีวิต ก็ฟินมิใช่น้อย
ผ่านหน้าศรีปากประรีสอร์ทด้วย
วนกลับมาผ่านแถว ๆ หน้าที่พักเรา
ล่องไปเรื่อย ๆ ยาวไป ๆ
ชั้นรอพี่อยู่ที่ต้นลำพูทุกวันเลยยยยยย
ไม่ใช่หละ ๆ ผิดเรื่อง ๆ
ลำพูต้นนี้ถือเป็นสัญญลักษณ์ย่านนี้เลย โดดเด่นเป็นสง่า
ริมฝั่งน้ำ
มุ่งหน้าสู่ทะเลน้อย
เราจะลอดใต้สะพานเอกชัย เพื่อไปยังทะเลน้อย
ระหว่างทางเราจะเห็นวิถีชาวบ้านแถวนี้
#น้องนก
ระหว่างการล่องเรือ เราจะเจอนกเยอะมากกกก ถ่ายรูปทันมั่งไม่ทันมั่ง
จริง ๆ ช่วงที่พวกเราไปยังไม่ไม่ใช่ฤดูกาลบัวบาน และยังไม่ใช่ช่วงนกอพยพมานะคะ
เราไปกันยายนค่ะ (หน้าฝนใครเขาไปกันยะ)
แต่น้องนกก็ยังเยอะอยู่แหละ ถ้าเป็นฤดูกาลของมัน จะเยอะขนาดไหนนะ
รูปเบลอ ๆ แต่ก็ชอบเธอนะ
ยาวไป ๆๆ
ยิ่งเข้าเขตทะเลน้อยนกยิ่งเยอะ
คุณเกิ้งค่าาาา (นกอีเกิ้ง)
ที่เห็นไกล ๆ นั่นคือฝั่งของทะเลน้อยค่ะ
ได้เวลาวนกลับที่พัก
#วนกลับที่พัก
ผ่านคลอง ผ่านการทำมาหากินของคนพื้นถิ่น
แทบทุกบ้าน มียอยักษ์แบบนี้
ฉันเห็นเขายกยอขึ้นมาแล้วเลือกตักเอาแต่ปลาใหญ่ ปลาเล็กเขาก็เทกลับลงน้ำไป
วนมาผ่านหน้าศรีปากประอีกแล้ว ฉันก็งง ๆ หน่อยกับเส้นทาง
ถึงที่พักเราแล้ววว หิวมาก ก็เก้าโมงกว่าแล้วนี่นะ
#มื้อเช้า
ง่าย ๆ เลยค่ะ แต่ถูกจริตฉันเป็นอย่างมาก
ไม่ใช่อาหารหรูหราประการใด เป็นอาหารบ้าน ๆ นี่แหละ ขนมจีนน้ำยา
ไข่ปลาทอด ผัดผักบุ้ง ขนมครก ข้าวเหนี่ยวปิ้ง
แนว ๆ เจ้าของทำอะไรกินกันเอง เราก็กินยังงั้นแหละ
ซึ่งเราชอบนะ แบบนี้ ง่าย ๆ ดี อิ่มหนำสำราญและมีความสุข
#ก่อนกลับ
อิ่มแล้วเดินเล่นถ่ายรูปย่อยอาหารอีกสักนิด แถว ๆ ท่าเรือนี่หละ
มีคณะล่องเรือผ่านมา
ขอบอกว่า ปากประ ทะเลน้อย ของจริงสวยกว่ารูปที่ฉันถ่ายมาเยอะเลย
ยิ่งถ้าไปถูกฤดูกาล คงจะงามมาก ๆ แน่ ๆ
ทริปฉันนั้น สภาพอากาศออกจะมัว ๆ มีฝนบ้าง ฟ้าครึ้ม ๆ เกือบตลอด
และ ฉันถ่ายรูปได้ไม่ดีนัก ของจริงสวยกว่านี้เยอะจริง ๆ
เข้าห้องนอนเล่นสักพัก เที่ยง ๆ ก็เดินทางกลับหาดใหญ่
#ส่งท้าย
#ฤดูกาลที่เหมาะสมคือประมาณ กุมภา มีนา ราว ๆ นั้น
#ค่าเรือ ลำละ 1,200 บาท อาจจะดูว่าแพง จริง ๆ แล้วไม่แพง
เพราะล่องไปไกล วนไปทั่วคุ้งน้ำ กินระยะเวลา 4-5 ชั่วโมง ถ้าไปหลายคนตัวหารก็เยอะ
#การจองเรือ แจ้งที่พักได้เลย ไม่ว่าจะพักที่ไหน ทางที่พักจะติดต่อนัดหมายเวลามารับ
#การเดินทางจาก กทม.โดยเครื่องบิน ถ้าไปลงสนามบินตรังจะใกล้กว่า แต่เที่ยวบินมีให้เลือกน้อยกว่า
แนะนำสนามบินหาดใหญ่ดีกว่าค่ะ
ตั้งใจว่าจะไปอีกแน่นอน คราวหน้าจะไปให้ถูกฤดูกาล
สำหรับทริปนี้ จบรีวิวแต่เพียงเท่านี้ค่ะ
ขออภัยที่รูปเยอะไปหน่อย ฉันบ้าถ่ายรูปมากเลย
และขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมชมนะคะ
Paramee Na Prasri
วันศุกร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 14.05 น.