ใ ค ร ไ ม่ ด า ว "เสมอดาว"

สวัสดีทุกโค๊นน รีวิวฉบับนี้

เป็นคอลเลคชั้นพิเศษ ฉบับรักบ้านเกิด พร้อมแก๊งน้อยๆที่ฟอร์มตัวกันแบบงงๆ ๕๕๕๕

เคยบอกไปตั้งแต่รีวิวแรกๆว่า รีวิวของเราจะเป็นรีวิวที่เก็บภาพประทับใจ เอาไว้ดูตอนแก่เวอร์ไปเนาะ คิคิ

#pohnooktongkluaytanart

จริงๆทริปนี้เป็นทริปที่ไม่มีตั้งใจจะไปเสมอดาวเลยสักนี๊ดดดด ๕๕๕๕
มันจะยาวหน่อย เพราะมีเรื่องพี๊คเยอะมากก

ปล.1 มีสถานที่อื่นในเมืองน่านทางสายใต้บ้างประปราย

เอาล่ะครับ มาเริ่มกันเลย

จุดเริ่มต้นของทริปนี้ของเราอยู่ในเมืองเลยละกันครับ เนื่องจากว่าเป็นคนในพื้นที่เลยไม่มีรีวิวการเดินทางอะไรทั้งนั้น ๕๕๕๕
เราเชื่อว่ามาเมืองน่าคงเคยได้ยินชื่อ "วัดภูมินทร์" บ้างแหละ

และก็นั่นแหละที่นี่คือที่แรกของเราในวันนี้ เย้เฮ และนอกเหนือไปจากนั้น

เราชอบร้านกาแฟที่เป็นชื่อป่าที่มีอนาคอนด้าอ่ะ

สวยดี มีความไม่เหมือชาวบ้าน น่านั่งที่สู๊ดดด

ไปวัดกันนนน เข้าไปแล้วก็จะร้อนหน่อยๆ ๕๕๕ แดดมันแรงง

จริงๆวัดภูมินทร์นี้มีความเป็นมาที่ยาวนาน และน่าสนใจสุดๆ

ขนาดประพระธานยังไม่เหมือนวัดอื่นเลย อเมซิ่งงงงง

อยากรู้ว่าเป็นไง ต้องมาดูเองนะ ๕๕๕

ในนั้นจะมีคนมาคอยบรรยายให้ฟัง เพลินดีครับ (แอบบอกก็ได้พระประธานมีสี่องค์)

ตรงนี้เป็นภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังอันเลื่องชื่อของทางวัดเค้าแหละ

"กระซิบรักบรรลือโลก"

หน้าวัดจะเป็นลาน เค้าเรียกกันว่า "ข่วงเมืองน่าน"

นี่ข้างๆวัดครับ ฝั่งนี้จะมีที่จอดรถสำหรับใครเอารถยนต์ส่วนตัวมาเอง

และสำหรับใครอยากขี่รถรางเที่ยวรอบเมืองเหมือนเค้าจะมีให้ได้นั่งด้วยแหละ

เหมือนจะนะครับ ๕๕๕๕ อันนี้ไม่ได้ถามรายละเอียดอะไรสักอย่าง แต่เราว่ามีอ่ะ เห็นคนเขานั่งเยอะอยู่ _*_

อีกทีนึงที่จะไม่แวะถ่ายรูปไม่ได้คงเป็นที่นี่แหละครับ ซุ้มลีลาวดี ที่ฮิตกันทั้งปี มีใบไม่มีใบเขาก็มาถ่ายรูปกัน

ตั้งอยู่ที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน ตรงข้างวัดภูมินทร์นั่นแหละครับเดินข้ามถนนมาก็ถึงเลย

ที่นี่เป็นที่เก็บ งาช้างดำ ของคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดน่านด้วยนะครับ แต่ไม่ได้พาเข้าไปดูเด้อ ๕๕๕๕

เอาละครับ ก่อนจะขึ้นดอยขอแวะเติมพลังกันนิดหน่อย
ฝากท้องไว้กับร้าน "สุดกองดี" แปลว่า สุดซอย ๕๕๕๕
คือร้านอยู่สุดซอยจริงๆนะ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำน่านด้วยเด้ออ
ของหวานอร่อยดี มีโทสด้วยนะ

ของหวานอร่อยดี ราคาก็พอใช้ มีเป็นพวกเค้ก

โทส พวกนี้ด้วยนะ

บริเวณร้านก็จะแนวธรรมชาติๆมีมุมให้ถ่ายรูป น่ารักดีครับ

ว่าแล้วก็ โก โก โก เรามุ่งหน้าไปนาน้อยครับ จุดมุ่งหมายหลักๆเราตามชื่อทริปเลย ดอยเสมอดาวววว

ระหว่างทางก็กุบกิ๊บ หลงทางกันไป ๕๕๕

จนกระทั่งถึงนี่แหละครับ อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ถึงตรงนี้แล้วมั่นใจได้เลยว่าคุณมาถูกทางละจ้าาา

ขับขึ้นไปอีกนิดหน่อยก็ถึงดอยเสมอดาวละครับ เรามาถึงกันไม่เย็นมาก ใช้เวลาขับรถมาจากในเมืองประมาณ 2 ชั่วโมงชิวๆ

จากในเมืองถึงอุทยานก็ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. ไปถึงตอนบ่ายสองแก่ๆ แดดร้อนมากกกกกกกก

กางเต้นท์เสร็จก็หนีครับ แวะกินข้าวแล้วไปต่อ แถวนี้ขับเลยดอยเสมอดาวไปอีกนิดจะเป็น ผาชู้ ครับ

เป็นจุดชมวิวอีกสถานที่หนึ่ง สามารถมากางเต้นนอนได้

ที่นี่มีเชือกธงชาติไทยที่ยาวทที่สุดในประเทศด้วยนะ

ลานกางเต้นท์ผ้าชู้ สวยไม่แพ้ดอยเสมอดาวเลยครับ

ก่อนกลับกรุ๊ปช็อคสักหน่อยยย

พอเย็นแล้ว หมายถึงอากาศเริ่มเย็นเลยกลับไปปักหลักที่ดอยเสมอดาวกันหล่ะครับ ระว่างทางก็แวะถ่ายรูปกันไป มีกองทัพยุง และแมงมุงมาไต่มาตอมด้วยนะ ๕๕๕ ทางเราขอน้ำเสนอท่าปัดยุงปัดมดดด -^-

ตกเย็นกลับลงมาที่เสมอดาวมันก็จะแดดๆหน่อย แต่คนเริ่มหนาตาขึ้นนะครับ
ที่นี่ถ้าใครจะกางเต้นเค้าไม่ให้เอารถมาจอดข้างบนแหละ ต้องจอดตรงที่เค้าให้จอดนะครับ

ฟีลมันจะเป็นประมาณนี้ มีแดดแรงๆ ลมพัดด้วยนะ แต่ร้อนนิดหน่อย

ตกเย็นคนจะเริ่มมารอดูพระอาทิตย์ตกดินกันตรงนี้แหละครับ

เราชอบรูปนี้ ดูแล้วยิ้มตามทุกทีเลย (: (ขออนุญาตคุณพ่อนะครับ)

ส่วนตรงนี้ชื่อว่าผาหัวสิงห์ ตามหน้าผาที่อยู่ข้างหลังเลยครับ

ตกค่ำก็สั่งหมูกระทะมากิน ปล. แอบแนะนำให้ซื้อเป็นชุดมาจากข้างล่างแล้วมาซื้อข้างบนอีกแค่หนึ่งชุดพอ

เพราะมันได้น้อยมากกกกกกกกกกกกกก โชคดีที่เตรียมขนมนมเนยน้ำอัดลมมาจากข้างล่าง

เรื่องพีคมันอยู่ที่กลางคืนนี่ครับ พอดึกๆมันก็อากาศดี ก็เลยมานอนดูดาวกันจ้าาา

ดาวสวยมากกก เต็มท้องฟ้าไปหมด คิดว่าฝนคงไม่ตกหนักหรอกอะไรงี้เพราะว่าฟ้าเปิดมากกก

ก็พอถึงเวลาสมควรก็แยกย้ายเข้าเต้นท์กันไปนัดแนะตีห้าจะตื่นมาดูทะเลหมอก

ปรากฏว่า เวลาดี ตี 3 เราได้ยินเสียง แปะๆๆๆ เปิดเต้นไปเห็นเป็นฝนปรอยๆ

ก็เลยเก็บเอารองเท้าเข้าเต้นมาจ้าา นอนต่อ

ตีสามครึ่งเพื่อนที่นอนด้วยกันสะดุ้งตื่น บอกว่าฝนตกเรียกไปเก็บรองเท้า ๕๕๕

(ขำในใจว่าตอนตะกี้เราตื่นมาเก็บแกก็ตื่นไม่ใช่เร๊อะะะ)

นั่นแหละครับหลังจากตอนั้นมาก็ไม่ได้นอนอีกเลยฝนตกหนักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

เพื่อนอีกเต้นท์เลยไลน์มาบอกว่าให้อพยพ ทันได้นั้นก็เลยเปิดเต้นดู อหหห น้ำล้อมเต้นแล้วจ้าาา

ต่อเนื่องจากเมื่อคืน พอเห็นว่าท่าไม่ดีน้ำจะท่วมเต้นท์ ๕๕๕

ก็รีบเก็บข้าวของเอาผ้าห่มพันร่างแล้วก็วิ่งๆไปนอนต่อบนรถ

วันนั้นคิดว่าจะไม่ได้เห็นทะเลหมอกซะแล้วววว สักหกโมงฝนเริ่มหยุด เห็นหมอกบางๆ

เห้ยยย นั่นทะเลหมอกกแบบคือตัดใจแล้วอ่ะฝนมันไม่ยอมหยุดสักที แต่สุดท้ายก็ได้เห็น ๕๕๕ กราบบบบ

ปล นี่เป็นวิวตรงที่เราจอดรถไว้

เช้าแล้วววว พอเห็นว่าหมอกมันเริ่มหนาเลยรีบๆแปรงฟันแต่งตัวไปจุดชมวิวที่เราได้อพยพมาเมื่อคืน

มันจะแฉะอยู่หน่อยๆ

เห็นข้างหลังเราม๊ายยยยยยย มันดีย์อ่ะแก คือมันดีมากกก

และนี่ คือสิ่งที่เราอยากจะเห็น เย้ๆๆๆ

ตรงนี้ถ่ายจากจุดชมวิว ลานเทเลทับบี้(คิดกันเองจริงๆมันไม่มีชื่อนะ)

เราก็ว่ามันเหมือนอยู่ ๕๕๕ ถือว่า mission complete

และเราก็เดินทางมาจนถึงโค้งสุดท้ายของทริปครับ
หลังจากที่หมอกเริ่มจาก เก็บเต้นท์ และคืนกระทะย่างหมู
เราก็มุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองน่านครับ ซึ่งระหว่างทางถ้าลงมาจากบนดอย

มองไปทางซ้ายจะมีทางเข้าไปเสาดินนาน้อยครับ
ไหนๆก็มาแล้วก็แวะสักหน่อย โก โก โกกกกก
เอ้อออออ ร่องรอยอารยะจากฝนที่ตกเมื่อคืน ทำให้ทางแถวนี้โดนน้ำท่วมจ้าาา ๕๕๕