สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคนนะครับ แอดมินแก้ว จากเพจ Mobile Photographer กลับมาแล้วน้า

เมื่อช่วงเดือนที่แล้ว แก้วได้มีโอกาสไป กรุงไทเป ที่ประเทศไต้หวัน เป็นเวลา 6 วัน โดยจะใช้เวลาอยู่ใน Taipei 4 วัน และ Taichung (เมืองที่อยู่ตอนกลางของประเทศ) อีก 2 วัน บอกเลยว่าประเทศไต้หวัน มีเรื่องราว และวัฒนธรรมที่น่าสนใจมาก ไปชมกันเลยครับ
ตลอดทริปนี้แก้วใช้ กล้องมือถือถ่ายทั้งหมดเลยนะครับ Nubia Z17mini , iPhone , HTC



แก้วและเพื่อนๆ ทีมแอดมิน โมบายโฟโตกราฟเฟอร์ ออกเดินทางไปไต้หวัน จาก สนามบินสุวรรณภูมิ เวลาประมาณ 7.00 น. โดยสายการบิน China Airline โดยเราจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 4-5 ชม. ซึ่งเวลาไปถึงก็ประมาณเที่ยง หรือบ่ายๆ

Tips : การเดินทางในเวลาเช้าๆ หรือเช้ามืด จะทำให้เราไม่เสียเวลาในการท่องที่ยวไปกับการเดินทางโดยเปล่าประโยชน์ เวลาบินไปเที่ยวแก้วจะเลือกบิน Flight เช้าๆ เสมอครับ

ขึ้นเครื่องมาเสร็จปุ๊บ เก็บกระเป๋า คาดเข็มขัด ก็เตรียมตัวนอนพักเอาแรง เก็บไว้ตอนไปเที่ยวครับ
กับ Set หมอนรองคอ ไข่ขี้เกียจ ที่คุณแฟนจับยัดใส่มือมาให้ 55 5

หลายคนคงชอบแบบแก้วแน่นอน ถ้าได้นั่งริมหน้าต่าง เป็นต้องถ่ายก้อนเมฆสวยๆ เก็บไว้

หาอาหารบนเครื่องบินของ China Airlines ค่อนข้างดีที่เดียว โดยเฉพาะขนมหวาน ชอบๆ ถึงแม้ China Airlines จะเคยมีข่าวที่ไม่ค่อยดี แต่สำหรับแก้ว Flight นี้ประทับใจมาก ทั้งบริการและความสบาย เอาล่ะกินอิ่มแล้วแก้วขอตัว ไปงีบแปบนะครับ

เอาล่ะตอนนี้แก้วก็มาถึงสนามบิน Taoyuan ประเทศไต้หวันเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ

Tips : บริเวณก่อนถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองจะมี บูธสำหรับซื้อ SIM โทรศัพท์ สำหรับนักท่องเที่ยว แนะนำว่า มาที่ไต้หวัน ไม่ต้องเช่า Pocket Wifi มาก็ได้ครับ เพราะ ราคาแพ็คเกจ นักท่องเที่ยว 700 บาท ใช้ 4G เต็ม Speed ได้ 15 วัน มีหลายค่ายให้เลือก แต่เน็ตก็แรง สัญญาณค่อนข้างใกล้เคียงกันหมดครับ

หลังจากผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองมาแบบชิวๆ แก้วก็เรียกแท็กซี่บริเวณหน้าสนามบินเพื่อเข้าสู่ตัวเมืองไทเป จะใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 40 นาที ราคาประมาณ 1,200 บาท

Tips : เราสามารถเดินทางเข้าตัวเมืองไทเปได้หลากหลายเส้นทาง ทั้ง Taxi , Airport MRT , UBER ราคา Taxi , UBER แต่ Airport MRT จะราคาถูกที่สุด อยู่ที่คนละ 175 TWD/คน ซึ่งสามารถซื้อบัตรได้ที่สนามบินเลยครับ


[ Highlight ไทเป วันที่ 1 ]
- Mr.Lobster Secret Den Hostel
- พาชิมข้าวหน้าไก่ แบบ Local
- เดินถ่ายรูปเล่น NingXia Night Market
- Ximen Night Market (ชิมไก่ Spicy,น้ำแข็งใสชื่อดัง)

แว๊บเดียวก็เดินทางมาถึง ตัวเมืองไทเปแล้วครับ บริเวณที่แก้วอยู่นี้จะอยู่ไม่ไกลจาก Taipei Main Station อารมณ์หัวลำโพงบ้านเรา แต่เป็น Hub ที่รวมรถไฟทุกประเภทมาไว้ที่นี่ ไว้จะพาไปชมอีกที



บรรยากาศมีความผสมผสาน ระหว่างความเป็นเมืองสมัยใหม่ และอาคารบ้านเรือนแบบดั้งเดิม



ที่พักที่แก้วจะพักผ่อนในวันแรกก็คือ Mr.Lobster Secret Den Hostel โรงแรมคุณกุ้งมังกร
แค่ชื่อก็น่ารักละ 55 5 ปะๆ ตามแก้วไปดูกัน โดยโรงแรมจะอยู่ที่ชั้น 9 ของอาคารพาณิชย์นี้




อ๊าา ขึ้นลิฟท์มาถึงแล้ว บรรยากาศมีความน่ารักมุ้งมิ้ง สะอาดสะอ้านดีครับ



บริเวณโฮสเทล ก็จะมีพื้นที่ส่วนกลาง ที่แขกที่เข้าพัก สามารถมาใช้พื้นที่ตรงนี้ร่วมกันได้


มีโต๊ะยาวๆ ที่เดี๋ยวตอนเช้าๆ แขกจะออกมานั่งเล่นกัน หรือนั่งชิวกันตอนกลางคืนก่อนนอน



มีที่ชิวๆ บรรยากาศดีๆ ให้เราได้นั่งอ่านหนังสือ หรือใช้เวลาวางแผนการท่องเที่ยวได้ด้วย ปลั๊กไฟมีให้ครบ


ด้วยความเป็นโฮสเทล ที่นี่จึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกเตรียมเอาไว้มากมาย แต่ต้องใช้ร่วมกันกับแขกท่านอื่นๆ นะครับ เช่น เมื่อใช้จานทานอาหารก็ต้องนำมาล้าง และวางให้เป็นระเบียบ เครื่องซักผ้า ตู้เย็น ที่กดน้ำดื่ม ซึ่งช่วยให้เราประหยัดเงินในการจะต้องจ่ายให้กับสิ่งเหล่านี้ไปได้เยอะเลย

ภาพวิวเมืองสวยๆ คลาสสิคๆ จากหน้าต่างทั้งสองฟากของ Hostel


และนี่ก็คือห้องพักของแก้ว ที่เราจะนอนกัน 2 คืนต่อจากนี้ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบทีเดียว ปลั๊กไฟก็ช่องเสียบเป็นหัวแบบบ้านเราเลย เอาใจคนไทยยิ่งนัก ^^ ห้องน้ำก็มีสบู่กับแชมพู ยาสีฟันให้พร้อม ใครลืมไม่ต้องกลัว เขาเตรียมไว้ให้จ้า

วิธีเดินทาง : MRT Taipei Main Station ทางออก Y19 ครับ
ที่ตั้ง : 9F.No.22,Sec.1,ChongcingN.Rd.Datong Dist.Taipei
การจองที่ดีที่สุด คือการจองโดยตรงกับทางโรงแรมเพราะคุณจะได้ราคาที่ดีที่สุดแน่นอน
ไปจองกันได้ง่ายๆ เลยที่ :
1. Website: http://www.mrlobstersecret.com
2. line: lobstetaipei
3. wechat: lobstertaipei
4. Kakaotalk: lobstertaipei
5. Facebook: @MrLobstersSecretden
ช่วงราคา : 690 – 3800


นี่ก็เย็นแล้ว แก้วเลยคุยกับเพื่อนๆ ว่าจะออกไปหาอะไรกินกัน โดยถามจากน้องๆ Staff ที่โฮสเทล
ก็พบว่าแถวนี้มีร้าน ข้าวหน้าไก่ ร้านเด็ด อยู่ไม่ไกลจาก โรงแรม ไปกันเลยครับ

แก้วเดินลัดเลาะ เข้าซอยบนถนนที่อยู่หน้าโรงแรมไปทางซ้าย ชมบรรยากาศเมืองไปเรื่อยๆ

กลิ่นหอมของอาหารในร้านที่ ลอยเข้ามาเตะจมูกไปเลย ใช่แล้วครับแก้วมาถึงแล้ว
ตอนแรกนี่นึกว่าร้านปิด ปรากฏว่า ร้านไม่ได้ปิดครับ แต่เขากั้นประตูเอาไว้กันแอร์ออกเฉยๆ

พอแหงนหน้าขึ้นไปมองเท่านั้นแหละ ภาษาจีนล้วนๆ เลยครับ ซวยแล้ว สั่งไม่เป็น T T

แต่ถือว่าโชคดีมาก ที่เจ้าของร้าน พูดอังกฤษได้ แฮร่ รอดแล้ว

ก็จะประกอบด้วยข้าวหน้าไก่ + ไข่ต้ม และ Side dish หรือ กับข้าวอีก 2 อย่าง

แก้วก็สั่ง ขาหมู ที่เล็งไว้แต่แรก และเต้าหู้ทอดราดซอส

พออิ่มแล้วก็มีแรงเที่ยว แก้วก็เลยเดินทางไปเที่ยวกันต่อครับ

Photography Tips : บางคนอาจจะอยากถ่ายภาพแสงกลางคืนสวยๆ ให้รถบนถนนเป็นเส้นๆ เนี่ยต้องใช้ ขาตั้งกล้องหน่อยละครับ แล้วปรับ ชัตเตอร์สปีดต่ำๆ ในโหมด Pro ก็จะได้ภาพสวยๆ แล้วครับ

อีกหนึ่งสถานที่ที่มีชื่อเสียงของ Taiwan ก็คือเหล่าตลาดกลางคืนนี่แหละครับ อย่างที่แรกที่แก้วพามานี้ ชื่อว่า Ningxia Night Market อยู่ใกล้ที่พักของเรามากๆ เดินเท้าไม่เกิน 15 นาที

ร้านในตลาดนี้ส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหารแบบ Street Food เป็นหลัก แต่แก้วยังอิ่มอยู่
เลยไม่ได้ชิมสักร้านเลย เอาเป็นว่าไปกันต่อครับ ยังเหลืออีก 1 ตลาดที่เราต้องไป

อีกตลาดที่เราจะไปในคืนแรกนี้ก็คือ Ximen Night Market โดยเราจะเดินด้วย รถไฟฟ้าใต้ดินครับ
สามารถซื้อบัตรได้ที่ Counter และเติมเงินได้ที่ตู้ที่อยู่ที่กำแพงข้างสถานีครับผม

พอเดินเข้ามาส่วนในๆ ของตลาด แก้วก็พบว่าที่นี่มีความคล้าย
ย่านสยาม สามย่าน บ้านเรา รวมกับ เมียงดงของเกาหลี ถึงแม้อากาศจะร้อนไปหน่อยนะครับ

ก่อนกลับแก้วเลยแวะกินของขึ้นชื่อของไต้หวันกันซะหน่อย Taiwan Fried Chicken 1973

คนต่อคิวรอกินกันเยอะทีเดียว อยากกินต้องรอหน่อยนะครับ

นี่ได้มาแล้ว ไอที่เขาว่าเผ็ดๆ เจอลิ้นคนไทยเข้าไป เจ้านี่เฉยๆ ไปเลย

กินของเผ็ดๆ มาก็ต้องไปหาอะไรตบแก้เลี่ยนซักหน่อย แน่นอนครับ ของหวาน สาวๆ ห้ามพลาด

ร้านนี้เป็นร้านน้ำแข็งใสครับ ถ้าสังเกตดีๆ บนกำแพงทางซ้าย
จะมีรูปดารา หรือคนดังของไต้หวัน มากันเพียบ

นี่มาแล้วน้ำแข็งใส โดยที่ตัวน้ำแข็งจะมีให้เลือกหลายอัน แต่แก้วเลือก เป็นนม ใส่กีวี่ กับสตรอเบอรรี่

สำหรับคืนแรก เอาไว้เท่านี้ก่อนนะครับ เราต้องกลับไปเตรียมตัว
พักผ่อนเอาแรงเพราะพรุ่งนี้ แก้วจะขึ้นไปดูทะเลหมอกตั้งแต่ ตี 3




[ Highlight ไทเป วันที่ 2 ]

- ทะเลหมอก บนยอดเขา Yangmingshan
- Huashan Creative Park 1914
- วิว Taipei 101 บน Elephant Mountain

[ Yangmingshan Mountain ]

ภาพที่เห็นด้านล่างนี้คือ ภาพถ่ายเมืองไทเปช่วงเช้ามืด เวลาประมาณ 4.50 น. ได้ครับ
จะเห็นว่ามีหมอกอ่อนๆ ปกคลุมเหนือเมืองอยู่ตลอดเวลา

ไม่ใช่แค่เมืองนะครับที่โดนปกคลุม ยอดเขาที่แก้วยืนอยู่นี่ก็ เหมือนอยู่ท่ามกลางทะเลหมอก และเมฆที่เคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว อากาศจึงเย็นและชื้นมากๆ ใครสุขภาพไม่ดี เตรียมเสื้อผ้าหนาๆ มาด้วยนะครับ

ช่วงเช้าจะมีชาวบ้านแถวนั้น รวมไปถึงคนจากในตัวเมืองไทเป ขึ้นมาถ่ายภาพอาทิตย์ขึ้นกันเป็นจำนวนมาก


สิ่งที่เรารอคอย อาทิตย์ขึ้นแล้ว พร้อมหมอกก้อนใหญ่ๆ

บรรยากาศบนเนินเขา แก้วตั้งใจจะลงไปนะ แต่ลงไปไม่ได้เพราะว่า
ช่วงที่ไป อากาศชื้นมากๆ ทางลงจึงอันตรายครับ



การรอจังหวะให้เกิดภาพดีๆ เป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติของช่างภาพเลย นี่แก้วนั่งเฝ้าเมฆ
ให้ได้จังหวะสวยๆ แบบนี้อยู่เกือบ ชั่วโมง พอได้ถ่ายเท่านั้นแหละ มีความสุขมากๆ





ให้สังเกตผมที่ปลิวนั้น เพราะลมบนยอดเขา ช่างรุนแรงมากๆ ><



พอลงมาด้านล่าง ก็มีอีกจุดที่สามารถจะถ่ายช่องเขา ที่ยังมีกำมะถันลอยขึ้นมาอยู่ตลอดได้ เพราะว่าพื้นที่ตรงนี้ เป็นภูเขาไฟมาก่อน ที่ไม่ปะทุแล้ว แต่ยังมีซัลเฟอร์ และพลังงานหลงเหลืออยู่เล็กน้อย ของจริงสวยมากๆ เลยนะ




[ Huachan Creative Park 1914 ]
สวนและพื้นที่กิจกรรมสุดชิค ของวัยรุ่นกลางเมืองไทเป เต็มไปด้วย Class กิจกรรมต่างๆ
โรงภาพยนตร์ขนาดเล็ก , Art Gallery , ร้านอาหาร , Cafe สวยๆ เพียบ
ใครที่ชอบงานศิลปะ หรือสถานที่สวยๆ แบบนี้ ห้ามพลาดที่นี่เลยนะครับ

เวลาที่แก้วมาถึงที่นี่ ก็เที่ยงพอดี เลยขอแวะหาอะไรทานหน่อยนะครับ



อะอิ่มละ ไปเดินกันต่อครับ ที่นี่ค่อนข้างกว้างขวางที่เดียว ถ้ามาตอนเย็นๆ บรรยากาศน่าจะดีกว่านี้








แวะดื่มกาแฟหลบแดดช่วงบ่ายกันที่ TRIO CAFE ที่อยู่ด้านหน้าสวนสักแปบนึง

Fruity Black Tea สำหรับคนไม่ดื่มกาแฟ กลิ่นชากับกลิ่นกาแฟ ลงตัวมากๆ

Taiwanese Coffee Cold Brew อีกหนึ่งแก้วที่ต้องลอง

หลังพักหายเหนื่อยแล้ว เย็นนี้เราจะไปดูอาทิตย์ตกสวยๆ กันบนยอดเขา Elephant Mountain
ซึ่งอยู่ห่างไปอีกหน่อยนึงครับ โดยเราจะนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินไปกัน


นี่คือผังสถานที่ที่น่าสนใจของที่นี่ Elephant Mt. จุดที่เราจะไปคือ Taipei 101 Viewpoint

หลังจากนั้นก็เริ่มเดิมขึ้นเข้ากันเลยครับ พอหันหลังไปก็เริ่มเห็น ตึก Taipei 101 ชัดขึ้นเรื่อยๆ



นี่เป็นบริเวณทางขึ้นเขาช้าง จะมีป้ายติดไว้ เป็นรูปช้างสองตัวเดินขึ้นเขา ไปสู่ยอด Taipei 101

ภาพที่รอคอยหลังจากเดินขึ้นมากันอย่างเหน็ดเหนื่อย (เอาจริงๆ คืออ่อนเองอะ)


ไม่รู้บังเอิญหรืออะไรดลใจ เราได้เจอกับ นศ.แพทย์
ที่เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนจากไทย มาปีนยอดเขาเหมือนกัน

ลงจากเขามาแวะหาอะไรทานที่ Bar & Restaurant ที่ตีนเขาครับ ชื่อร้านว่า NOLA





ขอลาคืนวันที่ 2 นี้ไปก่อน พรุ่งนี้จะไปไหนกันต่อ ไปชมกันเลยครับ

[ Highlight ไทเป วันที่ 3 ]
- BEIMAN Photographic Supply District
- MUIU INN CAPSULE HOTEL
- Fruitfulfood (บุฟเฟ่ต์อาหารมังสวิรัติ)
- KaiFun ( อาหารรสจัดต้นตำรับเสฉวน )
- ย่านเมืองเก่า Dihua

ประตูเมืองเก่าใกล้ Taipei Main Station



[ ถนน BEIMAN : Camera District ]
ที่เป็นแหล่งรวมอุปกรณ์กล้องทุกยี่ห้อแทบจะผืนแผ่นดินโลกใบนี้
ให้คุณเลือกสรรค์ ใครลืมแบต ที่นี่มี ใครลืมเลนส์ที่นี่มี ใครลืมกล้องที่นี่ก็ยังมี



นี่คืออาหารเช้าของแก้ววันนี้ ที่สามารถหาซื้อได้ใน 7-11 อีกหนึ่ง Tips สำหรับคนติดกาแฟแบบแก้ว กาแฟที่ไต้หวัน โดยเฉพาะ กาแฟกล่อง หรือกระป๋อง บอกเลยว่าไม่ได้ครึ่งของ เบอร์ดี้ หรือเนสกาแฟ เพราะอ่อนมากๆๆๆๆ เหมือนนมรสกาแฟมากกว่า



วันนี้จะเป็นวันที่แก้วย้ายที่พักมาเป็น MUIU INN ซึ่งอยู่อีกฝั่งนึงของ โซนเมืองแต่ไม่ไกลกันนัก

ที่นี่ได้คะแนนถึง 8.1 เลยนะครับจากเว็บ Booking.com

ในห้องเราก็จะนอนกัน 3 คนครบทีม มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบ ถึงแม้ห้องจะไม่กว้างมากมาย แต่พวกเราก็ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ข้างนอกอยู่แล้วเพราะฉะนั้น เน้นว่า หลับสบาย ก็พอ

Muiu inn Taipei / 台北木藝居

Address : 12F, No. 37, Section 1, Kaifeng Street,
Zhongzheng District, 100 Taipei, Taiwan

Phone : +886 905 260 931
Website : https://www.facebook.com/MuiuinnTaipei/
Transportation : MRT Taipei Main Station, Exit Z10
Price : 1,000-2,500 NT

อย่าลืมจองห้องพักกับตัวโรงแรมโดยตรงนะครับ

เอาล่ะเช็คอินเรียบร้อยเราก็ออกไปเที่ยวกันต่อครับ จุดหมายปลายทางของเราวันนี้คือ
- Fruitfulfood (บุฟเฟ่ต์อาหารมังสวิรัติ) และร้าน KaiFun ( อาหารรสจัดต้นตำรับเสฉวน )


เอาล่ะครับตอนนี้แก้วก็มาถึง FruitulFood กันแล้ว โดยการเดินทางก็สะดวก เราแค่นั่งรถ MRT สายสีฟ้า มาลงที่สถานี Zhongxiao Dunhua หรือสถานีที่ BL16 ออกทางออก 3 ก็จะเจอห้าง MING YAO ร้านจะอยู่ที่ชั้น 12 ครับ


[ Fruitful Food Vegetarian Buffet ]

อาหารทั้งหมดในร้านนี้ ปราศจากเนื้อสัตว์ทุกชนิด ก็แน่นอนแหละก็เพราะว่าร้านนี้คือร้าน Fruitful Food Vegetarian อาหารมังสวิรัติ นั่นเอง จุดเด่นของที่นี่คือ ผักก็ Organic ทุกอย่าง วัตถุดิบในการทำอาหาร ก็สดใหม่จากสวยทุกวัน บอกเลยว่าใครชอบทานผัก จะต้องรักที่นี่แน่ๆ


น้ำผัก น้ำผลไม้คือสิ่งที่ดีงามไม่แพ้กัน คั้นสดใหม่ทุกวัน โดยเฉพาะน้ำ Carrot Juice ต้องลองให้ได้

ซุปเต้าหู้เหม็น ของดีประเทศไต้หวัน แต่เป็นอาหารที่คนชอบ ก็ช๊อบชอบ คนเกลียดก็เกลียดไปเลย

ภาพด้านล่างนี้ดูเหมือนเนื้อมากๆ เลยใช่มั้ยครับ แต่จริงๆ แล้วทำมาจากเห็ด อร่อยม๊ากกก


ของหวานเอาใจสาวๆ นี่มีเพียบเลยนะครับ

โดยที่นี่จะแบ่งการเข้าเป็นรอบๆ และแบ่งวันกันตามตารางดังภาพ ซึ่งราคาก็จะต่างกันด้วยนะครับ



หลังจากร้าน Fruitful Food Vagetarian แล้ว พวกเราก็พบว่า อาหารมังสวิรัติ ไม่อาจ เติมเต็มพื้นที่ท้องอันกว้างขวางของเราได้ทั้งหมด แก้วเลยไปต่อกันที่อีกร้านที่อยู่ในเป้าหมายของเรา นั่นก็คือ
- KaiFun ( อาหารรสจัดต้นตำรับเสฉวน ) จะเด็ดขนาดไหนไปชมกันเลย

ร้าน Kaifun เป็นร้านอาหารจีน เสฉวน เน้นเผ็ด เน้นแซ่บ หมู่เฮาชาวไทยนี่ก็ มาเผ็ดๆ เนี่ยชอบ


ร้านมาไม่ยากครับ สาขานี้ตั้งอยู่ที่ Uni-Ustyle Department Stores ครับ
ขึ้น MRT มาลงที่ Taipei City Hall Exit 2 แล้วมองลิฟท์ขึ้นมาชั้น 7 ได้เลย

Website : www.kaifun.com.tw
Facebook : https://www.facebook.com/KAIFUNTOGETHER/

ก่อนจะสิ้นวัน แก้วก็ไปปิดท้ายคืนนี้วันนี้ที่ย่าน Dihua (ตี้ฮั๊ว) เป็นเหมือนเมืองเก่า
ของ Taipei ที่มีความเป็นเยาวราชสูงมากๆ พออาทิตย์ตกอากาศก็เย็นขึ้นทันที เดินสบาย

พอเดินเข้ามาสู่ย่าน Dihua แล้วเนี่ย ชอบบรรยากาศมาก

วัดนี้คนโสดห้ามพลาด วัดแห่งนี้ที่ขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ในการขอพรด้านความรัก

Taipei Xia-Hai City God Temple / 台北霞海城隍廟
No. 61, Section 1, Dihua St, Datong District, Taipei City, Taiwan
พิกัดนี้เลย : https://goo.gl/maps/8AH9rv67aHz
คนไต้หวันเรียกชื่อย่อๆ ของท่านว่า “城隍 (เฉิงหวง)”


[ Highlight ไทเป วันที่ 4 ]
- InParadise 饗饗 [ตึก Breeze Xinyi, Taipei,Taiwan]


มาลุยที่แรกกันเลยครับ กับ บุฟเฟต์นานาชาติระดับภัตตาคาร InParadise 饗饗

โดย Inparadise จะตั้งอยู่บนตึก Breeze Tower ซึ่งเป็นตึกห้าง Shopping ใหญ่ๆ
ที่กรุงไทเป



เจริญอาหารยังไม่พอ ที่นั่งทานอาหาร ก็ยังมีวิวสวยๆ ที่เป็น Highlight ให้ชมไปด้วยนั่นก็คือ
วิวของตึก Taipei 101 Landmark ของกรุงไทเปนี่เอง


ที่นั่งมาหลายมุมมากๆ ที่ทุกเอาจริงๆ ก็คือสวยหมดเลยนะ



อาหารทะเลคือสิ่งที่พลาดไม่ได้เลยของที่นี่ ขึ้นชื่อๆ (รอบทีแก้วมาจะเป็น Lunch)



เป็ดย่าง และเนื้อแกะ ราดน้ำเกรวี่ คือ นิพพานจริงๆ ยกให้เป็นสองเมนูที่ชอบที่สุด

ส่วนของ ของหวานก็อลังการไม่แพ้กัน บอกเลยว่า กลับไปน้ำหนักไม่ขึ้นให้รู้ไป






ราคาจะแบ่งออกเป็นตามช่วงเวลาดังนี้นะครับ
Lunch : Mon- Fri = 1190 NT$ , Weekends Holidays = 1590 NT$
Afternoon Tea : Mon-Fri = 890 NT$ , Weekends Holidays = 1190 NT$
Dinner : Mon-Fri = 1590 NT$ , Weekends Holidays = 1590 NT$

RESTAURANT : INPARADISE
Address : Breeze Xin Yi 46F, No.68, Sec.5,
Zhongxiao E. Rd., Xinyi Dist, Taipei City, Taiwan.
Reservation : +886-8780-9988
http://inparadise.com.tw


[ Highlight ไทเป วันที่ 5 ]

- Trans inn Hotel Taichung
- Rainbows Village
- Luce Memorial Chapel
- Gaomei Wetlands


เริ่มต้นวันที่ 5 ด้วยการที่เราจะขึ้นรถไฟไป Taichung ครับ โดยจะมาขึ้นที่ Taipei Main Station ราคาค่าตั๋ว ไป-กลับ อยู่ที่ 750 บาทต่อคน เท่านั้นเอง (เมือง Taichung อยู่กลางเกาะไต้หวัน)

บรรยากาศภายในรถไฟก็กว้างขวาง สะอาด แอร์เย็น
ขอกินเล่นซื้อได้ตลอดทาง เราจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 - 4 ชม. ครับ


เอาล่ะตอนนี้เราก็มาถึง สถานีรถไฟ Taichung กันแล้ว

พอเดินลงมา ก็สัมผัสได้ถึงอีกบรรยากาศนึงของเมืองนี้จริงๆ คือความเก่าแก่ แต่สวยงาม

โรงแรมที่แก้วจะพักคืนนี้คือ Trans inn Taichung Hotel

นอกเหนือจากห้องพักแล้ว พนักงานยังช่วยแก้วเรียกรถเพื่อพาไปเที่ยวที่ต่างๆ
ใน Taichung เป็น Half Day Trip อีกด้วย ในราคาพิเศษด้วยนะ น่ารักมากๆ

ห้องพักก็สะอาด และสวยงามกว้างขวางดีครับ (อย่าใส่ใจกับสภาพที่นอน ฝีมือแก้วเอง)

ปลั๊กไฟที่นี่ ก็เป็นแบบหัวแบนคู่ เหมือนของประเทศไทย ใครลืมเอาหัวแปลงมา ที่นี่ใช้ได้สบายหายห่วง

ของใช้ก็มีให้ครบทีเดียว ไม่ต้องกลัวเลยสำหรับคนขี้เกียจพก หรือขี้ลืม

มีไดรเป่าผมให้ด้วยนะจ้ะ


[ รายละเอียดการจองที่พักนะครับ ]
TRANS INN Hotel Taichung Taiwan

Address : NO.150 Zhongxiao Rd., South Dist, Taichung City, Taiwan.
Tel +886 4 22851702 Fax. +886 4 22851703
Email : [email protected]
Line ID : transinn
www.trans-inn.com


ก่อนเราจะไปกันต่อ ก็แวะเติมพลังกันแถวๆ โรงแรมซะหน่อย ช่วงกลางวันอาจจะมีร้านเปิดไม่เยอะมาก แต่แก้วไปสะดุดตาเข้ากับร้านนึง ซึ่งตอนแรกไม่รู้ว่า เป็นร้านอาหารมังสวิรัติ เจ้าของและพนักงานดูแลเราดีมาก ถึงแม้ว่าจะสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษไม่คล่องเท่าไหร่ แต่ก็หยิบมือถือมาเปิด Google Translate ช่วยเราทีเดียว น่ารักมาก ที่สำคัญอาหารอร่อยด้วยนะ



Rainbow Village ที่แรกที่เราจะมาเที่ยวกัน เป็นหมู่บ้านเก่าของทหารผ่านศึกในยุคสงครามกลางเมืองของจีนที่ลี้ภัยมาอยู่กันที่ไต้หวัน ซึ่งสร้างขึ้นอย่างง่ายๆจากวัสดุทั่วไป แต่ได้รับการเพ้นท์เป็นลวดลายต่างๆด้วยสีสันสดใสตามผนังและกำแพงในหมู่บ้านจนเป็นที่สนใจของบุคคลทั่วไปทำให้มีชื่อเสียงจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของเมืองไทชุงไปในที่สุด


The Luce Memorial Chapel (路思義教堂) ที่นี่เป็นโบสถ์คริสต์ที่สร้างขึ้นโดยชาวอเมริกันที่มีเชื้อสายจีน ชื่อว่า I. M. Pei (貝聿銘) ตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัยตงไห่ (Tunghai University / 東海大學)

อีกหนึ่งสถานที่ที่ห้ามพลาดจริงๆ ถ้ามา Taichung ต่อให้มาลำบากก็ต้องมา นั่นก็คือ Gaomei Wetlands เขตพื้นที่ชุ่มน้ำ และรักษาพันธุ์สัตว์ชายฝั่ง เต็มไปด้วยเป็ดป่า ปู นกทะเล และสัตว์อื่นๆ มากมาย เป็นที่นิยมของเหล่าช่างภาพมาเก็บภาพอาทิตย์ตกกัน แต่แก้วโชคร้าย ฟ้าปิดตลอดจนมืด ภาพที่ได้ก็ยังสวยเหมือนเดิม

สังเกตผมที่สะบัดขึ้นตลอดเวลา ลมแรงมากๆ แรงจนเดินต้านลำบาก


เหน็ดเหนื่อยกันมาตลอดวัน แก้วก็ขอตัวกลับมาหาอะไรทาน ละก็พักผ่อนแถวๆ โรงแรมก่อนนะครับ



เช้าวันที่ 6 แก้วก็เดินทางกลับสู่ Taipei และ ขึ้นเครื่องกลับไทยละจ้า การมา Taipei ครั้งแรก ตลอด 6 วันแก้วประทับใจมากๆ ทั้งความช่วยเหลือจากคนไต้หวันตลอดทาง เป็นประเทศที่สัญญาเลยว่า จะกลับมาอีกหลายๆ รอบเลย รักที่นี่มากๆ

จนกว่าจะพบกันใหม่ หวังว่า รีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับคนที่อยากจะเดินทางไป Taiwan นะครับ ถ้ามีข้อสงสัยหรือ อยากให้ช่วยแนะนำอะไร สามารถมาสอบถามได้เลยที่ Fanpage : Mobile Photographer


[ ติดตาม Mobile Photographer ได้ที่ ]
Fanpage : https://www.facebook.com/mobile.fotographer/
Medium : https://medium.com/@sitthikitraviverawan
Readme : https://th.readme.me/id/MobilePhotographer
IG : kaew.mobilefoto

#Mobilephotographer #โมบายโฟโตกราฟเฟอร์

ความคิดเห็น