สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ชาวพันทิปทุกคน วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ ร้านกาแฟ ร้านเล็กๆ ร้านหนึ่งในกรุงเทพฯ ย่านสุขุมวิท 101/1 ย่านเก่า ย่านเดิม เพิ่มเติม คือ ร้านกาแฟเต็มไปหมดเลย แต่ทว่า ร้านนี้ไม่ธรรมดาค่ะ เพราะร้านนี้ การันตีโดยแชมป์ลาเต้อาร์ท ปี 2016 โอ้โฮ้ มีแชมป์มาเปิดร้านใกล้ๆ บ้านแบบนี้ ไม่พลาดที่จะไปลองค่ะ

แต่ปกติแล้ว เราเป็นคนไม่ชอบกินกาแฟนะคะ เพราะกินแล้วจะรู้สึกคึกๆ ตื่นๆ ใจสั่น นอนไม่ได้ Get high ไปเลย 5555 เรานี่เข็ดมาก กับการกินกาแฟแล้วนอนไม่หลับ กระวนกระวาย จนแทบจะไม่แตะกาแฟอีกเลย ยกเว้นกินในช่วงที่เช้ามากๆ แต่ !! กาแฟร้านนี้ ไม่ทำให้เราเป็นแบบนั้นเลย ดีงามมาก กาแฟที่นี่ถูกนำเข้ามาจากจังหวัดทางภาคเหนือของประเทศไทย นี่เองค่ะ คั่วให้มีกลิ่นหอมในแบบฉบับที่ทางร้านอยากให้เป็น และบดสดๆ ทำให้ในร้านเล็กๆ มีกลิ่นหอมของกาแฟอบอวลอยู่ บอกตัวเองหลังจากค้นพบร้านนี้เลยว่า ฉันจะกินกาแฟโดยไม่ใจสั่นอีกต่อไป 5555 ใครไม่เป็นเราไม่รู้หรอกว่าทรมานยังไง หุหุ

พิกัดของร้าน ตั้งอยู่แถวปากซอยวชิรธรรม 30 ขับรถมาจากทางถนนสุขุมวิท 101/1 ร้านอยู่ใกล้ๆ กับตลาดมหาสินเลย จอดรถริมถนนได้เลยค่ะ ร้านเป็นร้านเล็กๆ แต่ก็มี space ให้เลือกนั่งได้ทั้ง indoor และ outdoor ที่มีสวนสีเขียว / น้ำตกเล็กๆ เพลิดเพลินใจไปอี๊กกก จริงๆ เห็นร้านมานานแล้วอ่านะคะ ทราบมาว่าเปิดมาได้ประมาณ 6 เดือนกว่าๆ เอง เจ้าของร้านเป็นแชมป์ลาเต้อาร์ท ปี 2016 อื้มมมม ที่นี่จะพิเศษและน่ามาเยี่ยมเยียนยังไง ตามมาดูเลยค่ะ

ร้านเล็กๆ ที่หากใครไม่ทันสังเกตก็อาจจะมองไม่เห็นอ่านะคะ อยู่ติดริมถนน ใกล้ๆ ตลาดมหาสิน


เอาจริงๆ แล้ว ชอบพื้นที่ outdoor ของร้านนี้มาก ถ้าอากาศไม่ร้อน แดดไม่แรง แนะนำด้านนอกได้เลยนะคะ มีเบาะรองนั่งนุ่มๆ แต่ถ้าใครไม่อยากได้ยินเสียงจากรถที่วิ่งผ่านไปมา ก็สามารถเปลี่ยนไปนั่งด้านใน ห้องแอร์เย็นๆ สูดกลิ่นกาแฟหอมๆ ได้เลยค่ะ


มุมดีๆ มานั่งจิบกาแฟ คุยกับเพื่อนชิวๆ ได้เลย


เข้ามาในร้านส่วน indoor ก็จะเจอบาร์กาแฟ ของบาริสต้าอยู่ใกล้ๆ และโต๊ะภายในร้านที่มีอยู่ 3 ชุด 3 สไตล์ด้วยกันนะคะ ใครมีโน้ตบุคสามารถแบกมานั่งทำงานที่นี่ได้ wifi ฟรี มีปลั๊กไฟให้เสียบด้วย อื้มมมม ดี !!


เมล็ดกาแฟที่ได้รับการคั่วพิเศษ ให้มีกลิ่นตามแบบที่ทางร้านต้องการ มีให้สัมผัสกันสดๆ


มีเมล็ดกาแฟคั่วพิเสษ หลายแบบ หลายรสชาติ หลายกลิ่นเลย ใครที่ชื่นชอบการกินกาแฟ ต้องห้ามพลาด


เราเริ่มต้นด้วย Dirty Coffee ที่ใช้นมสดแช่เย็นจัด เป็นส่วนประกอบ แล้วเอสเพรสโซ่ top ลงด้านบน แก้วนี้ มีความพิเศษ ตรงที่ต้องกินเลย และจะทำให้เราพบเรื่องราวระหว่างการดื่มที่แตกต่างกัน คือ ดื่มแรก จะรู้สึกอุ่นเบาๆ ตามด้วยมีความเย็นขึ้น ข้นขึ้น และช่วงสุดท้ายเป็นช่วงเซอร์ไพร์ส ใครอยากรู้ว่าแก้วนี้เซอร์ไพร์สยังไง ไปลอง แก้วนี้ ราคา 80 บาทค่ะ อิอิ


ตามมาด้วย ลาเต้ร้อน เจ้าเด็ดประจำร้าน เพราะมีการใช้ศิลปะลาเต้อาร์ท ที่เป็นเครื่องการันตีรางวัลของแชมป์ พลาดได้ไงละ เอ้ออออ ระหว่างชงก็แอบไปขอยืนมองการผลิตงานศิลป์ด้วย งดงามค่ะ คุ้มค่าแก่การมาเยือน แก้วนี้ฝีมือแชมป์ลาเต้อาร์ทเลยนะคะ ท่านผู้ชมมมมม 80 บาทเท่านั้นเองงงงง


ซูมชัดๆ อีกสักภาพ


ดูความเนียมนุ่ม ของลาเต้แก้วนี่สิฮะ แฮ่ๆๆ


แก้วถัดไปเป็นกาแฟดริป คุณก่อ เจ้าของร้าน ยกอุปกรณ์ดริปมาดริปโชว์กันให้ถึงโต๊ะเลย ทำให้เรามองเห็นได้ถึงความพิถีพิถันและความตั้งใจมากๆ ของทางร้านที่อยากนำเสนอกาแฟดีๆ สายดริปต้องมาลอง


ได้ออกมาเป็นกาแฟดริปแก้วนี้ รสชาติหอมๆ ที่มีกลิ่นกล้วยตากมาเซอร์ไพร์สเรา เป็นคนไม่กินกาแฟยังชอบเลยอะ 555 แก้วนี้ ราคาอยู่ที่ 100 บาทนะคะ


ระหว่างทดลองกินไปสักพัก คุณก่อ แชมป์ลาเต้อาร์ท ผู้นี้ยังแนะนำสำหรับใครที่ต้องการเครื่องดื่มกาแฟแบบสดชื่นๆ ซ่าๆ ต้อง Sparking แก้วนี้เลย เป็นเอสเพรสโซ่ผสมกับโซดาค่ะ ไม่เคยกิน สดชื่นแล้วก็ให้ความรู้สึกซ่าๆ ไปอีกแบบ ตัวนี้ราคา 90 บาทนะคะ ใครที่เบื่อกินกาแฟแบบเดิมๆ ก็ลองสั่งมากินดู


นอกจากนี้ ทางร้านยังมี Cold Brew ขายด้วยนะคะ เหมือนขวดเหล้าเลย 555 แค่เห็นก็เมาแล้ว เดี๋ยวๆๆ ไม่ใช่ๆ นี่ราคาขวดละ 100 บาทนะคะ มีโลโก้ของทางร้านแปะอยู่ด้วย


พอเห็นโลโก้ของทางร้านก็เกิดความสงสัย ว่าคืออะไร คุณก่อเลย เล่าให้ฟังเป็นเรื่องเป็นราวเลยว่า ส่วนหนึ่งที่เป็นแรงบันดาลใจในการเปิดร้านกาแฟ Local Hand Coffee ร้านนี้ คือการที่อยากจะสนับสนุนผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของเกษตรกรไทย นั่นก็คือเมล็ดกาแฟ และมุ่งอยากให้เสนอ กาแฟไทย ในรูปแบบสากล ตามที่เราได้ชิมๆ กาแฟกันไป นั่นคือเมล็ดกาแฟจากเชียงราย โดยมือในโลโก้ของทางร้านนั้น ก็ คือ มือของเกษตรกร จึงเป็นที่มาของ Local Hand Coffee นั่นเอง

และที่ลึกไปกว่านั้น ครั้งหนึ่งการเสด็จพระราชดำเนินไปยังหมู่บ้านชาวเขาในภาคเหนือของ พระเจ้าอยู่หัว ร.9 ที่ทรงมีพระราชดำริ สนับสนุนให้ชาวบ้านเปลี่ยนจากการปลูกฝิ่นเป็นปลูกต้นกาแฟ และหลังจากเสด็จไปสำรวจผลการปลูก ปรากฏว่า ต้นกาแฟตายเกือบทั้งหมด และเหลือเพียงต้นกาแฟเพียงต้นเดียว นั่นทำให้ข้าราชบริพารและผู้ติดตามพระองค์ กล่าวว่าพื้นที่บนดอย ไม่สามารถปลูกกาแฟได้อีก แต่พระองค์ยังทรงเห็นความสำคัญของต้นกาแฟ 1 ต้นที่ยังเหลืออยู่ และยังคงสนับสนุนให้ชาวบ้านพัฒนาฝีมือการปลูก ผลักดันและพัฒนาพื้นที่ จนปัจจุบันกลายเป็นไร่กาแฟที่สร้างอาชีพให้กับชาวบ้าน

ว้าวววว เราฟังจบ ไม่คิดว่า ร้านกาแฟเล็กๆ ร้านนี้ จะมีเรื่องราวแนวความคิดและที่มา ที่น่าสนใจขนาดนี้


หากใครที่ชื่นชอบรสชาติกาแฟของที่นี่ แล้วอยากจะซื้อเมล็ดกาแฟกลับบ้าน ที่นี่ก็มีจำหน่ายนะคะ


ที่นี่มีครัวซองค์ด้วยนะคะ หากใครอยากสั่งมากินคู่กับกาแฟ


จัดว่าเป็นการกินกาแฟแบบไม่ยั้ง และที่สำคัญ กลับบ้านไปนอน ไม่มีกระวนกระวาย แบบนี้ละค่ะ ที่เราตามหามานาน กาแฟที่ไม่ทำให้เราใจสั่นอีกต่อไป ร้านเล็กๆ กาแฟดีๆ การันตีฝีมือแชมป์ ที่นี่เลย Local Hand Coffee สุขุมวิท 101/1 นั่งบีทีเอสมาลง สถานีอุดมสุข หรือ ปุณณวิถี พิกัดปากซอยวชิรธรรม 30 ค่ะ

นอกจากนี้แล้ว ที่ร้านยังมี Workshop และกิจกรรมที่น่าสนใจจัดขึ้นที่ร้านอยู่บ่อยๆ ใครสนใจอยากติดตาม เข้าไปกด Like ที่เพจ Local Hand Coffee ได้เลยนะคะ

อย่าอยู่บ้าน

 วันศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 13.12 น.

ความคิดเห็น