มีเวลาเพียงแค่ 2 วัน 1 คืน หรือจะไปแค่เช้าเย็นกลับ ก็สามารถไปที่แห่งนี้ได้...

.

ไม่ไกล้ไม่ไกลกรุงเทพ นี้เอง กับทริปสุดสั้น กระชับฉับไว หนีเมืองกรุงไปสูดอากาศบริสุทธิ์กันซะหน่อย


โดยขอเสิร์ฟออเดิร์ฟให้คุณผู้อ่านได้ ลิ้มรส สัมผัส ไปกับ โรงแรมสุดฮิปและสุดชิคที่เราได้ไปเยือนมากันก่อนดีกว่า

.

" เรือนเสน่หา " ... แค่ชื่อก็สยิวกิ้วแล้ว

โรงแรมอะไร๊ มีมุมถ่ายรูปเยอะซะจนถ่ายไม่หวัดไม่ไหว

ทริปนี้ก็เป็นทริปสั้นๆ ที่จะมารีวิว แค่2วัน1คืนก็ชิคได้...

เพราะเรามากันที่ อัมพวานั่นเอง ขับรถแค่ชั่วโมงครึ่งก็ถึงแล้ว

ใกล้แค่นี้ก็ได้เสพความละมุนของชนบทได้อย่างแท้จริง

เป็นยังไงมายังไงถึงได้มาพักที่นี่ ก็เพราะเราได้ตั๋วถูกกกก ถูกแค่ไหน ถูกแบบโอ้โห ฟรีเถอะ

199 บาท โอ้โห.. ได้โรงแรมขนาดนี้เลยนะเฟ้ย

จริงๆแล้วเราเป็นผู้โชคดีไง จากเว็บไซต์ hitevent.com ถือว่าโฆษณาให้ไปเลยในตัว 555

(เป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับงานอีเว้นท์พิเศษต่างๆ จะเปลี่ยนรูปแบบงานไปเรื่อยๆ )

อะๆ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เลยมาทำรีวิวเลยดีฟ่าา

ห้องที่เราได้เป็นห้องขนาดเล็กสุดของโรงแรม ราคาต่อคืนอยู่ที่ประมาณ 1500-2000 บาท/คืน

ส่วนห้องที่แพงที่สุดหรูสุด ซึ่งเราบุญไม่ถึง ราคาต่อคืนก็จะอยู่ที่ประมาณ 3200-4300 บาท ห้องก็จะมีสองชั้น เป็นบันไดวน สวยงาม เหมาะกับคู่รักเป็นอย่างยิ่ง



มาประเดิมกันที่วิวริมสระน้ำของโรงแรมกันก่อน สระน้ำไม่ใหญ่มาก แต่สวยงาม สะอาด น้ำใสปริ๊ง


มีสระน้ำขนาดปานกลางไม่ใหญ่มากอยู่กลางโรงแรมเลย น้ำใสมาก น่ากระโดด

ด้านหน้าของโรงแรม ก็จะเหมือนๆ โรงเตี๊ยมสไตล์จีนไรงี้

ของตกแต่งก็จะเก่าๆ หน่อย แต่ชิคสุด

ถ่ายรูปเก๋ๆ ได้ตั้งแต่ยังไม่ก้าวเข้าไปในโรงแรมกันเลยทีเดียว

นี่คือมุมเช็คอิน ใครเอามอเตอร์ไซค์มาจอดขวางไว้หว่า

เช็คอินเสร็จปุ๊บ หามุมแช๊ะรูปปั๊บ

้่่้

พอเข้ามาหลังจากเช็คอินแล้วก็จะเจอมุมนี้เข้าทันทีเลย

โรงแรมมี 2 ชั้น ไม่ใหญ่มาก สามารถเดินถ่ายรูปได้ทั่วโรงแรม

พร๊อพเยอะมากกกกก ... ส่วนจักรยานที่เห็นสามารถใช้ได้จริงนะจ๊ะ

บอกขออนุญาติคุณป้ามาขี่เล่นได้ คุณป้าใจดี

แต่อย่าออกจากบริเวณโรงแรมไปไกลมากน้า...

เตือนนิดนึง บริเวณหน้าโรงแรมเป็นสวน และก็มีน้องหมาเฝ้าสวน !

น้องหมาอาจจะวิ่งไล่เป็นได้ ฉะนั้นมองหน้ามองหลังกันด้วยนะ

พร๊อบก็จะเยอะๆ ประมาณนี้ เอ๊า ใครอยากตัดผมทรงอะไรเชิญนั่งครับ

ได้เวลาเข้าห้องนอนกันแล้ว เก็บของก่อนออกไปลุยหามุมชิค (เอ่อ ไม่ต้องหาเลย ได้ทุกมุมจริงๆ)

ห้องนอนไซส์เล็ก เตียงคู่ สำหรับสองคนสบายสบ๊าย เตียงไม่นุ่มไป ไม่แข็งไป

ถือว่าหลับสบ๊าย

มีกาแฟ โอวัลติน น้ำเปล่าขวด สำหรับ 2 คน ที่สำคัญ ฟรี!!


ไม่ต้องขนอะไรไปเลยยังได้ เพราะเค้ามีให้ครบ

- สบู่ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน แชมพู ครีมนวด คัดเติลบัด ผ้าเช็ดตัว ไดร์เป่าผม -

ห้องอาบน้ำกั้นด้วยกระจกใส แค่ไม่ให้น้ำกระเด็นออกมาแค่นั้นเอง แต่ด้วยความที่เป็นฝักบัวแบบสูง

จึงทำให้จำเป็นที่จะต้องเปียกทั้งตัวเลยทีเดียว แต่ถ้าไม่อยากเปียก ง่ายนิดเดียว

ไม่ต้องอาบ! แท่มแท๊ม น้ำก็แรงใช้ได้เลย


อาบน้ำอาบท่าเสร็จแล้ว ได้เวลาลุย โดดตูมสระน้ำกันแล้ว


เวลาไม่มีคนเนี่ย จะถ่ายรูปสวยมาก


ว่ายน้ำเหนื่อยก็มีมุมพักให้นุ่มก้น เอนหลังสบาย เผลอๆ หลับ


ทางด้านหลังของโรงแรม ติดคลองที่เชื่อมต่อไปยังตลาดน้ำเลย

ถ้าใครทันตื่นเช้า จะมีพระพายเรือมาบิณฑบาตด้วยนะ



มาถึงคิวของอาหารเช้า ที่เรียกว่าจัดเต็มเหมือนกันนะ

ถือว่าอิ่มใช้ได้เลย วันเสาร์-อาทิตย์ อาหารจะเป็นแบบบุฟเฟ่

ส่วนวันธรรมดา จะเป็นแบบ A la carte สั่งทานนะครับ

ไม่อิ่มเพิ่มได้ ฟรี

ก็จะมี ข้าวต้มทรงเครื่อง + ไข่ดาว ไส้กรอก + ขนมปัง/แยม + โอวัลติน / กาแฟ / น้ำส้ม


มาถึง จ.สมุทรสาคร ไม่มาตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ไม่ได้!!

โดนค่าจอดรถไป 40 บาทจ้า เสียตังเรียบร้อย

หิวแล้วด้วย ไปหาของมาลงท้องหน่อย..


ด้วยความหิวนี้ จมูกเราตามกลิ่นมาที่ ร้าน ป้านา (ผัดไทยโบราณ กุ้งสด)

หาไม่ยาก อยู่กลางๆ คลอง

ร้านป้านานี่เอง ที่ทำให้เราเดินผ่านไปแล้ว แต่ต้องถอยหลังสามก้าวกลับมามอง

เพราะ ราคาที่สะดุดตา สะดุดเงินในกระเป๋าสตางค์มาก

เพราะผัดไทย จานละแค่ 25 บาท เห้ย สมัยนี้ยังมีของกินอะไรที่ต่ำกว่า 40 อีกหรอเนี่ย

ไม่รอช้า ป้าๆ เอาผัดไทย 2 น้ำเปล่า 1 หมึกย่างด้วย (100บาท)

รสชาติผัดไทย : อร่อยกำลังดี หมึกย่าง : เฉยๆ (ไปกินที่ทะเลดีกว่า)

ผ่ามพ๊าม โดนไป (25+25+10+100) = 160 บาท สำหรับมื้อนี้ ดีงาม

ของดีจังหวัดคงหนีไม่พ้น ปลาทูนึ่งแม่กลอง หน้างอ คอหัก สไตล์ที่นี่โดยเฉพาะ

มาทั้งที ก็ต้องมีของติดไม้ติดมือกลับไปฝากที่บ้านหน่อย

ราคาก็ 4 ตัว 100 บาท และ 5 ตัว 100 บาท

มีหลายร้านให้เลือกซื้อ ปลาก็มีหลายแบบนะ แบบนึ่ง หรือแบบดองเก็บไว้ได้เป็นปีเลย

ในเมื่อปลาทูเป็นของดีจังหวัด ก็ต้องมีของที่ระลึกกันหน่อย โอ้โห มาเป็นพวงกุญแจเลยจ้า

เป็นเข่งก็มาเช่นกัน ซื้อฝากเพื่อน ฝากกิ๊กก็น่ากิน



ตกดึกแล้ว ของกินก็ยังเพียบ

ถึงบางร้านจะปิดไปบ้าง แต่บางร้านก็เพิ่งเปิดกันเลย


ขนมเบื้องป้าแกอยากให้ไปลอง บอกมาอีกว่า ถ้ามาอัมพวาต้องมากินร้านป้า

รสชาติ : กรอบนอก นุ่มครีม หวานพอดี


.หมึกหมุน หมุนอยู่นั่นแหน่ะเมื่อไหร่จะได้กิน.

ความคิดตอนเด็กแว๊บเข้ามา!

ก็เลยหยิบกล้องมาถ่าย แต่ความพีคไม่ได้อยู่ที่เราถ่าย

แต่ลุงแก ก็หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายเราเช่นกัน


ผ่าม !!

ลุงจะถ่ายไปทำไมหว่า

อ๋อ เรารีวิวหมึกลุง ลุงคงไปรีวิว ไอเด็กถือกล้องคนนี้แน่ๆ



ได้กินหมึกลุงแล้ว

ใครเคยไปกินหมึกลุง ลองเอากล้องมาถ่ายลุงที อยากรู้ว่าแกจะถ่ายกลับมั๊ย แฮ่

รสชาติ : น้ำจิ้มอร่อย หมึกเหนียวสไตล์ลุง


[ แป๊บเดียวหมด โห อร่อยมากใช่มั้ย

เปล่า .. ซื้อน้อย ผ่ามพ๊าม!! ]



เมื่อกินอิ่มแล้ว แนะนำให้รีบไปจองตั๋วขึ้นเรือชมหึ่งห้อยน้อยนะ

ซัก 6โมงเย็น ถึง 1ทุ่มกำลังดี ดึกกว่านี้คนจะน้อย ต้องรอนานขึ้นกว่าเรือจะออก


เนื่องจากกล้องเราไม่ได้โปรขนาดที่จะสามารถถ่ายหิ่งห้อยได้

ก็เลยไม่มีภาพหิ่งห้อยตัวเป็นๆ มาฝาก เพราะมันมืดมาก

และพฤติกรรมที่อยากเตือนคนที่ไปเที่ยวคือ ไม่ควรถ่ายรูปใช้แฟลช เพื่อถ่ายหิ่งห้อย

เพราะนอกจากจะไม่มีทางเห็นหิ่งห้อยแล้ว ยังสร้างความรำคาญให้คนอื่นอีกด้วย



ตอนแรกคิดว่านั่งแป๊บๆ ก็คงเสร็จ แต่จริงๆ แล้วนั้น โอ้โห

เกือบชั่วโมงเลยครับผม ตามเส้นสีเหลืองจะเห็นได้ว่า เรือแล่นไปตามโค้งเป็นวงกลม วนขวา

ไกลพอสมควร ได้นั่งเรืออิ่มกันเลยทีเดียว


ท่าเรือชมหิ่งห้อยมีหลายท่ามาก แต่ละท่า ก็จะมีทีเด็ดต่างกันไป

บางท่า สามารถเรียกหิ่งห้อยให้บินออกมาที่เรือเราได้ด้วย

มันให้ความรู้สึกโรแมนติกมากกกก



นอกจากปลาทูที่ว่าเด็ดแล้ว ที่นี่ ปูไข่ ก็ขึ้นชื่อไม่แพ้กัน

ส่วนราคาหน่ะหรอ โฮ๊ะๆ ขนหน้าแข้งร่วงหน่อยๆ

ราคา ณ วันนั้น กิโลละ 900 บาท

สั่งมาครึ่งโล 450 บาท ได้มา 3 ตัว (ปูไม่เล่นกล้าม)

รสชาติ : ไข่แน่น เพราะเป็นปูไข่ มัน อร่อย น้ำจิ้มแซ่บ สดปานกลาง


ร้านนี้ ชื่อ ร้านน้องอุ้ม ซึ่งคุณป้าคนท้องที่เป็นคนแนะนำมา

มีอาหารหลายอย่าง ตามเมนู

- หอยหลอดผัดฉ่า -

- กุ้งแช่น้ำปลา -

เค็ม เปรี้ยว จริง แต่ชอบ




นอกจากตลาดน้ำที่เป็นสถานที่เที่ยวที่ขึ้นชื่อแล้ว ยังมีที่ๆ เรียกว่าเป็น Unseen Thailand

ที่นี่คือ วัดบางกุ้ง

ขึ้นชื่อเรื่องโบสถ์ที่มีรากไม้ขึ้นอยู่รอบๆ และวัดนี้มีม้าด้วยนะ ม้าตัวจริงๆเลยอะแหล่ะ



ม้าเยอะเลย ใช่ม้า



ฮั่นแหน่ะ ทันสมัย มีคิวอาร์โค้ดด้วย

เมื่อสักการะขอพรสิ่งศัดิ์สิทธิ์เรียบร้อย

ก็ขออนุโมธนาบุญให้กับทุกท่านที่เข้ามาอ่านโพสรีวิวแรกของผมกับเว็บไซต์ readme.me

ขอบคุณครับ



รายละเอียดเพิ่มเติม

โรงแรม เรือนเสน่หา House of Passion

  • เช็คอิน 14:00 น. เช็คเอาท์ 11.00 น.
  • มี Wifi มีอาหารเช้า เวลา 08.00 น.
  • อาหารเช้า จ.-ศ. A la carte สั่งทานจนอิ่ม ส.-อา. บุฟเฟ่ต์

Facebook https://www.facebook.com/HOPamphawa/


ตลาดน้ำอัมพวา

  • เปิด ศุกร์ เวลา 15.00-20.30.
  • เปิด เสาร์ - อาทิตย์ เวลา 09.00-18.00 และ ตลาดกลางคืน ถึงประมาณ 21.00 น.
  • ค่าจอดรถ 30 - 40 บาท (เก็บครั้งเดียว)
  • ห้องน้ำ ฟรี และ คิดค่าบริการ

ฤดูชมหิ่งห้อย

  • มีให้ชมทั้งปี แต่จะมีมากในช่วงฤดูร้อนและฤดูฝน ช่วงเดือน พฤษภาคม – ตุลาคม
  • ค่าเรือ 60 บาท/คน หรือ เหมาลำละ 600 บาท
  • ระยะเวลาประมาณ 45 นาที


Camera : #FujiXA2

Program : Light room & Photoshop


หมายเหตุ ทริปนี้เป็นทริปที่เราไปเอง โดยมิได้มีการสนับสนุนใดๆ จากทางโรงแรมหรือร้านอาหารทั้งสิ้น



ติดตามแฟนเพจได้ที่

Yellow Faces สมุดหน้าฉัน

ความคิดเห็น