สวัสดีเพื่อนๆ ชาว Read me

Journey Travel With Us พร้อมรีวิว

เข้าสู่ฉบับที่สิบแปดของเราแล้ว

ฝากตามรอย ไปเที่ยว ไปกิน ไปพัก

ไปหลงรักสถานที่ที่เราเดินทางไปสัมผัสกันด้วยน้า

✿ ✿✿ ✿✿ ✿✿ ✿✿ ✿✿ ✿

ถ้าคุณเป็นนักท่องเที่ยวที่ชอบศึกษาธรรมชาติสวยๆริมเขา

ด้วยระยะทางสั้นๆ บนยอดดอยอินทนนท์

เตรียมเก็บกระเป๋า พกรองเท้าผ้าใบคู่ใจ

แล้วมุ่งไปสัมผัสบรรยากาศฟินๆ

โอบกอดสวรรค์บนดินที่มีอยู่จริง

🌳 กิ่ ว แ ม่ ป า น 🌳

เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน

ถือเป็นหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเดินศึกษาธรรมชาติยอดฮิต

ที่ไม่ควรพลาดบนดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่

ด้วยระยะทางเดินสั้นๆ แต่ทำให้เรานั้นประทับใจไม่รู้ลืม

จนอยากจะบันทึกเรื่องราวและรวบรวมเป็นข้อมูล

ให้กับเพื่อนๆ ที่สนใจและอยากขึ้นไปสัมผัสความงาม

และความเป็นธรรมชาติบนกิ่วแม่ปานเหมือนเรา

อยากรู้เรื่องราวจะเป็นยังไงนั้น ตามเรามาดูกันเล้ยยยยยยยยย


18/11/17 I สวัสดีแสงแรกของวัน

เราหยุดทักทายกัน ก่อนจะถึงจุดหมายปลายทาง

ทะเลหมอกงามๆยามเช้า...ทำให้ความง่วงที่เรามีมาตลอดทั้งคืนนั้นหายไป

ยืนเก็บภาพความประทับนี้ไว้ กับช่วงเวลาที่ทำให้เราได้มายืนดูแสงแรกด้วยกัน

พร้อมแล้วนะ เตรียมตัว !!!!!!

อุณหภูมิในช่วงเช้าอยู่ที่ 11 องศา เย็นกำลังดี ไม่มีติดลบ

ค่าธรรมเนียมอุทยานฯ

  • ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
  • ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
  • เจ้าหน้าที่นำทางในเส้นทางกิ่วแม่ปาน 200 บาท ต่อหนึ่งกลุ่ม (ไม่เกิน 10 คน)

เล่นเอาหอบแฮ่กๆ ในช่วงแรกของการก้าว - - "

เพราะเส้นทางช่วงแรกลาดชัน ต้องใช้แรงก้าวมากกว่าปกติ

ไกด์จะแบ่งให้เราเดินต่อเป็นแถวตอนเดียว

ในระหว่างทาง ไกด์ก็จะบรรยายถึงความเป็นมาและไฮไลท์ในแต่ละจุด

จุดแรกเลยที่เราจะเจอ คือ “น้ำตกลานเสด็จ”

เป็นน้ำตกเล็กๆ กลางป่าเขา จะมีน้ำมากหลังจากฤดูฝนผ่านไปแล้ว

ปล.น้ำตกแห่งนี้ไม่อนุญาติให้ลงไปเล่นน้ำนาจา ให้แค่ชมและถ่ายรูปเก็บไว้เป็นพอ

ในป่านี้ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นต้นไม้เมืองหนาว มีการปรับตัวให้อยู่ได้ในป่าหนาวและชุ่มชื้นสูง

หลังจากเดินฝ่าป่าดงกันมาอย่างโชกโชนแล้วนั้น เส้นทางข้างหน้าก็จะนำเราออกมาพบกับ

“ทุ่งหญ้าเมืองหนาว” ทุ่งหญ้ากว้างใหญ่บนเนินเขาของกิ่วแม่ปาน

เดินทะลุป่าออกมาแล้วเหมือนอยู่คนละโลกกันเลย

ความสวยงามของทุ่งหญ้าจะกลายเป็นสีทองเฤดูฝนพัดผ่านไป

พร้อมชมทะเลหมอกแบบ 360 องศา ใครเดินขึ้นมาไม่ถึงจุดนี้ถือว่าพลาดมาก

Finally !!!!! เราถึงจุดแลนด์มาร์กบนกิ่วแม่ปานเป็นที่เรียนร้อย

จุดนี้จะมีระเบียงยื่นออกไป เรียกได้ว่า ถ้ามาไม่ถึงจุดนี้ถือว่ามาไม่ถึงกิ่วแม่ปานนะจ๊ะ

ตรงจุดนี้คนจะเยอะเป็นพิเศษ เพื่อรอต่อคิวถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ณ จุดสูงสุดบนกิ่วแม่ปาน

อยากยืนเฝ้ามองทะเลหมอกอยู่ตรงนี้สักพัก

“สันกิ่วแม่ปาน” อีกหนึ่งจุดชมวิวของนักท่องเที่ยว เสมือนได้ไต่ลงโผเข้าหาทะเลหมอกแบบจังๆ

เป็นเส้นทางที่ลาดชันมาก ถึงแม้ว่าทางอุทยานจะได้ทำราวไม้ให้จับแล้วก็ตาม

ก็ควรที่จะต้องใช้ความระมัดระวังในการก้าวเท้าเดินชม เพื่อความปลอดภัยกันนะจ๊ะ

ต่อแถวเดินเรียบๆไปเรียงๆ ชมความงามแบบเพลินตามาก ขอบอก !!!!!

ในฤดูหนาวบนกิ่วแม่ปาน จะมีอากาศหนาวมาก มากจนต้องร้องขอชีวิต 55555

จนถึงขั้นติดลบ 0 องศา บนยอดหญ้าจะมีน้ำค้างแข็งเกาะ (แม่คะนิ้ง)

ถือเป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติในไทยที่ Amazing มากๆ

เส้นทางสั้นๆ บนกิ่วแม่ปานนั้นจะมีดอกไม้ป่าให้ชมไปเรื่อยๆ ตลอดทาง

จุดชมวิวสองพระธาตุ ตรงนี้จะไม่ได้อยู่ในเส้นทางหลักในแผนเส้นทางการเดิน

จะมีทางเดินเบี่ยง ขึ้นเขาไปอีกหน่อย ตรงจุดนี้เอง ที่เราสามารถมองเห็นด้านหลัง

ทั้ง พระมหาธาตุนภเมทนีดล และ พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ

ระหว่างทางเดินลงกลับบอกเลยว่าไม่หมูนะจ๊ะ มันเหนื่อยกว่าตอนขามาอีกแกร๊ !!!!!

แนะนำให้เตรียมตัวฟิตร่างกายให้พร้อม ก่อนออกเดินทาง

ต้นไม้แต่ละต้นจะพยายามเติบโตขึ้นเพื่อให้ถึงแสงแดด

ตามพื้นดินตลอดทางจะมีพวกพืชตระกูล เฟิร์น มอส ที่ชอบความชื้นขึ้นเป็นจำนวนมาก

กิ่วแม่ปานจะปิดเป็นประจำทุกปี เพื่อฟื้นฟูสภาพป่าไม้

ฤดูกาลท่องเที่ยวที่ปิด จะอยู่ระหว่างเดือนมิถุนายน-ตุลาคมธรรมชาติ

และจะเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวอีกที ในระหว่างเดือนพฤศจิกายน-พฤษภาคม


ถึงว่า...ป่าที่นี่ยังมีความสมบูรณ์อยู่มาก สีต้นไม้ใบไม้มันเขียวดีจัง เขียวกว่าชาวบ้านเขา 5555555

ถือว่าเป็นของขวัญที่ธรรมชาติสร้างไว้ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ระบบนิเวศ

จบเส้นทางการเดินสั้นๆ ในระยะทาง 3 กิโลเมตรเบาๆ เราใช้เวลาการเดินชมเส้นทางบนกิ่วแม่ปาน

เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง อาจมีเสียเวลาถ่ายรูปตรงจุดชมวิวและริมระเบียงไม้กั้นเป็นส่วนใหญ่

บอกเลยว่าเส้นนี้ฟินมาก คืออยากจะยืนอยู่นานๆ ใครที่มาเที่ยวกิ่วแม่ปาน จะต้องตกหลมรักกันทุกรายไป

เส้นทางศึกษาธรรมชาติ กิ่วแม่ปาน จะเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-16.00 น.

ช่วงเวลาแนะนำ คือ ช่วงเช้า ในระหว่างต้นเดือนธันวาคม-มกราคมค่ะ

หน้าของคนหมดแรงมันเป็นแบบนี้ ยิ้มแบบเจือนๆ แลดูฝืนๆชอบกล 555555555

นั่งพักจนหายเหนื่อย ก็ถึงเวลากินข้าวเช้า + ข้าวกลางวันไปเลย เหมารวมรวดเดียว เอาให้อิ่มๆๆๆ

จัดมา !!!!! ส้มตำรสแซ่บ ไก่ย่าง ไส้อั่ว แหนมห่อใบตอง กินคู่กับข้าวเหนียวร้อนๆ

มีอาหารลงท้องแล้วกองทัพก็เดินทางต่อ ไหนๆก็ขึ้นมาแล้ว แวะสถานที่เที่ยวใกล้เคียงกันดีกว่า



🌳ดอยอ่างกา 🌳

อีกหนึ่ง Landmark บนดอยอินทนนท์ต้องห้ามพลาด สำหรับสายรักธรรมชาติ ความเขียว และความสดชื่น เดินชิลๆ สบายๆ

มีลักษณะเป็นเส้นทางสะพานไม้ มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 2,500 เมตร

เป็นต้นกำเนิดแหล่งน้ำธรรมชาติที่อยู่สูงที่สุดของประเทศไทยอากาศเย็นชื้นเกือบตลอดทั้งปี

สถานที่ตั้ง : อ่างกาจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับยอดดอยอินทนนท์ แต่จะมีทางเดินลงมา

แวะเข้ามาเดินอ่างการับรองว่าจะติดใจ เพราะถูกปกคลุมไปด้วยธรรมชาติ เดินสบายมาก ฟินสุด

มีแสงลอดผ่านลำต้นเล็กน้อยตลอดเส้นทาง ไม่ร้อนแน่นอน คอนเฟิร์ม !!!!!!


บริเวณที่มีมอสปกคลุมอยู่แน่หนา บ่งบอกว่าที่มีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก

มุมไฮไลท์เลยตรงจุดนี้ ปักหมุดไว้รัวๆๆเลย มุมนี้อยู่ก่อนจะจบเส้นทางนิดนึง

ฝั่งตรงข้ามจะเป็นจุดสูงสุดแดนสยาม ข้ามถนนมาเซลฟี่กับป้ายหน่อย เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง

สักการะสถูปเจ้าอินทวิชยานนท์


🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃


บทสรุปการเดินทางบนกิ่วแม่ปานนั้น เส้นทางการเดินไม่ค่อยลำบาก

อาจมีลาดชันเป็นบางระยะทาง แต่ก็ไม่โหดเท่าไหร่

ดินได้เรื่อยๆ ไม่เหนื่อยก็หอบ ฮ่าาาา ๆๆๆ

บอกตรงนี้เลยว่าตลอดเส้นทางจะทำให้ยิ่งหลงรัก

ความเป็นธรรมชาติบนกิ่วแม่ปานมากขึ้น

หวังว่าจะเป็นข้อมูลการท่องเที่ยวให้แก่เพื่อนๆ ไปตามรอยกันได้

แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้า ฝากกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะจ้าาา

By Journey Travel With us

JOURNEY TRAVEL WITH US

 วันอังคารที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2561 เวลา 11.43 น.

ความคิดเห็น