ในชั่วโมงนี้สำหรับสายป่าและคนที่ชอบที่สูงแล้ว คงไม่มีใครไม่รู้จักที่นี่ ดอยหลวงเชียงดาว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว จ.เชียงใหม่ ที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวยงามเป็นดับดับต้นๆของประเทศไทยในเวลานี้ ดอยหลวงเชียงดาวสูงเป็นอันดับ 3 ในประเทศไทย รองจากดอยอินทนนท์ และดอยผ้าห่มปก เป็นภูเขาหินปูนที่สูงที่สุดในประเทศไทย และที่นี่ยังขึ้นชื่อเรื่องของดอกไม้หายากหลายชนิด และหนึ่งในนั้นคือดอกเทียนนกแก้ว ซึ่งมีที่นี่ที่เดียวเท่านั้นในประเทศไทยและใกล้สูญพันธุ์เต็มที และยังมีดอกไม้อีกหลายชนิดที่กำลังเบ่งบานเต็มที่รอให้นักท่องเที่ยวได้มาชมความสวยงามกัน และทริปนี้เป็นโอกาสที่ดีของเราที่ได้มาขึ้นดอยหลวงเชียงดาวเป็นครั้งแรกในชีวิต และเป็นการเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นเป็นวันแรกของปี

2017 นี้ หลังจากที่เล็งไว้หลายปี แต่ก็ไม่มีโอกาสสักที

::การเดินทางขึ้นยอดดอยหลวงเชียงดาว::
-ต้องนั่งรถกระบะ 4x4 ของชาวบ้านไปที่ ที่ทำการหน่วย,ขุนห้วยแม่กอก ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.
-ระยะทางจากจุดเริ่มเดิมถึงแคมป์(อ่างสลุง) 8.5 กม.(ปีนี้อนุญาตให้ขึ้นได้แค่ทางเด่นหญ้าขัด เท้านั้น)
-ส่วนขาลงจะลงทางปางวัวหรือเด่นหญ้าขัดทางเดิมก็ได้(ลงทางปางวัวจะใกล้กว่า แค่ 6.5 กม.)
-พอถึงแคมป์ ใครยังมีแรงเหลือก็สามารถเดินขึ้นไปชมพระอาทิตย์ตกที่ยอดดอยหลวงเชียงดาวได้เลย ระยะทางประมาณ 1 กม. แต่ชันมาก ให้พกไฟฉายไปด้วย ขากลับมืด

::สิ่งควรรู้::
-ดอยหลวงเชียงดาวไม่มีน้ำจากธรรมชาติให้ใช้ ต้องแบกขึ้นไปเองหรือจ้างลูกหาบแบกขึ้นไป ถังใหญ่ 500 บาท, ถังเล็ก 250 บาท
-ปีนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นได้แค่ ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เท่านั้น(สัปดาห์ละ 3 วัน)
-ดอยหลวงเชียงดาวใครที่มาเป็นครั้งแรก ควรมา 3 วัน 2 คืน เพื่อที่จะได้ขึ้นยอดให้ครบทุกยอด สันกิ่วลมใต้ กิ่วลมเหนือ ยอดดอยหลวงเชียงดาว เพราะแต่ละยอดระยะทางไกลกันพอสมควร
-ก่อนเดินถึงแคมป์ให้ทุกคนเกาะกลุ่มกันไว้ เพราะที่กางเต็นท์จะเยอะมาก กะจัดกระจายกันอยู่ในป่าบ้าง ลานหญ้าบ้าง ถ้าไม่เกาะกลุ่มกันไว้ หากันตาเหลือกแน่นอน (เราเคยมาแล้ว)

#นายตัวน้อย_ค่อยๆเดิน
#เดินป่าสายอ่อย


เตรียมตัวขึ้นเป้ได้


หลังจากจัดเตรียมสัมภาระให้กับลูกหาบเรียบร้อย ก็เริ่มออกเดินเท้ากันได้ ช่วงแรกๆจะเดินสบายๆ ขึ้นๆลงๆ

ระหว่างทางก็จะเจอดอกเทียนนกแก้ว ช่วงเดือน พ.ย. ดอกกำลังสดสวย




อยู่เป็นคู่












มาถึงสามแยกปางวัว ขากลับต้องแกลงทางนี้ ปีนี้ให้ลงทางปางวัวเท่านั้น


ผ่านสามแยกปางวัวมา ทางจะเริ่มยากขึ้น เป็นป่าหญ้าสูงๆ แต่ก็มีดอกไว้ให้ชมบ้าง






เราใช้เวลาเดินจากจุดเริ่มเดิน ถึงจุดตั้งแคมป์ ใช้เวลาไป 5.5 ชม. มาถึงก็หมดแรง ตั้งแคมป์ก่อน พรุ่งนี้ค่อยว่ากันต่อละกันน้อ



เช้านี้เราตื่นสายนิดหน่อย อากาศ 9 องศา หนาวใช้ได้เลยทีเดีย


เช้านี้พวกเราต้องเดินขึ้นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สันกิ่วลมใต้ ทางค่อนข้างชันและไกลจากแคมป์ประมาณ 2 กม.










ด้านบนสันกิ่วลมใต้จะมีดอกไม้หายากให้ชมกันหลายชนิด สีสันสวยงาม ขึ้นจามโขดหิน











ถ้ามองจากสันกิ่วลมใต้ลงไปด้านล่าง จะเห็นแคมป์เราได้อย่างชัดเจน



เราลงจากสันกิ่วลมใต้ กลับมาที่แคมป์ ทานอาหารเที่ยงและนอนพักผ่อนเอาแรง บ่ายสามโมง เราก็พากันเดินขึ้นยอดดอยหลวงฯ กันเพื่อไปรอชมพระอาทิตย์ตก





และพวกเราก็ขึ้นมาถึงยอดสูงสุดของดอยหลวงเชียงดาว



เช้านี้เราขึ้นมารอชมพระอาทิตย์ขึ้นอีกรอบก่อนกลับ

















เราลงจากยอดมาดูที่วัดอุณหภูมิที่แขวนไว้ด้านล่าง ขณะนี้ 8.00 น. ยัง 10 องศา



ก่อนกลับ ขอถ่ายรูปหมู



ขากลับเดินทางลงเส้นปางวัว ก็จะมีดอกเทียนนกแก้วให้ได้เห็นกันบ้าง แต่ก็ไม่เยอะเท่ากันเส้นเด่นหญ้าขัด





ก่อนกลับเราได้มีโอกาสแวะทานข้าวที่บ้านพี่อู๊ด#แบกเป้เที่ยว เป็นโฮมสเตย์น่ารักๆชื่อเชียงดาวสตอรี่แคมป์ อยู่ระหว่างทางขึ้นไปที่ทำการเขตฯเลยครับ ใครที่มาเที่ยวเชียงดาว และกำลังมอหาที่พักราคาไม่แพง บรรยกาศสบายๆ เงียบสงบ อาหารอร่อยๆ ต้องที่นี่เลยครับ มีทั้งบ้านพักแบบโฮมสเตย์ หรือชอบนอนเต็นท์ ที่นี่ก็มีบริการเช่นกัน

สุดท้ายนี้ใครอยากติดตามข้อมูลการท่องเที่ยวและการเดินทางของเราได้ที่เฟสบุคเพจ นายตัวน้อย ค่อยๆเดิน

#นายตัวน้อย_ค่อยๆเดิน
#เดินปาสายอ่อย

นายตัวน้อย

 วันจันทร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 22.04 น.

ความคิดเห็น