วันหนึ่ง... ฉันเดินเข้าป่า ไปอยู่กับ(ภู)เขา @เขาหลวงสุโขทัย

"วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า ฉันเจอนกตัวหนึ่ง มันถามฉันว่าจะไปไหน
ฉันจึงตอบ อยากไปให้ไกล ไกลเกินกว่าที่ฉันเคยไป... "

เมื่อฤดูฝนหมดไป ฤดูหนาวก็เข้ามาแทนที่ ฤดูท่องเที่ยวก็ตามมา
“อยากไปนอนดูดาว” ได้มีคำพูดนี้ขึ้นมา ก็จัดกันเลยวันที่ 3-4 พฤศจิกายน
เราจะไปนอนดูดาวที่เขาหลวง จังหวัดสุโขทัยกันนนน

แต่หารู้ไหม!!! ลืมดูปฎิทิน

มันตรงกับ “วันลอยกระทง" วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำนองเต็มตลิ่ง วันที่พระจันทร์เต็มดวงสิครัช
ทำไงละที่นี้ เพื่อไม่ให้ทริปล่ม ก็ยังต้องคงอยู่

มารู้จักเขาหลวง จังหวัดสุโขทัย กันสักนิด เขาหลวงอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติรามคำแหง มีลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาสลับซับซ้อน โดดเด่นเป็นสง่าอยู่กลางทุ่งนา มีขุนเขาที่สูงเด่นมองเห็นมาแต่ไกล คือ ยอดเขาหลวง สภาพอากาศบนยอดเขาหนาวเย็นตลอดปี มีเมฆหมอกปกคลุมมากในฤดูหนาวและฤดูฝน อุณหภูมิเฉลี่ยโดยประมาณ 12-14 องศาเซลเซียส ช่วงเวลาเหมาะสมประมาณเดือนกันยายน-กุมภาพันธ์

ยอดเขาหลวง อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,200 เมตร เป็นภูเขาที่มีหน้าผาสูงชัน มียอดเขาสูง บนยอดเขามีทิวทัศน์ที่สวยงาม และปกคลุมด้วยทุ่งหญ้าธรรมชาติ มียอดเขา 4 แห่งที่ไม่ควรพลาด ได้แก่ ยอดเขานารายณ์ ยอดเขาพระแม่ย่า ยอดเขาภูกา และสุดท้ายคือ ยอดเขาพระเจดีย์

การเดินเข้าป่าครั้งนี้ ... จะเป็นยังไง ให้ภาพมันบรรยายเอง 55555

วันหนึ่ง... ฉันเดินเข้าป่า ไปอยู่ในอ้อมกอด(ภู)เขา @เขาหลวงสุโขทัย จำนวน 2 วัน 1 คืน

เราเดินทางโดยการเช่ารถตู้จากกรุงเทพฯ มีผู้ร่วมทริป จำนวน 7 คน
(ทริปนี้ รูปมันจะเยอะสักหน่อย เพราะพกกล้องกันเยอะ ฮ๋าา)

เช้าวันที่ 4 พ.ย. เรามาถึงอุทยานแห่งชาติรามคำแหง พร้อมสัมภาระของแต่ละคน และอาหารสำหรับคืนนี้ โดยพวกเราได้ใช้บริการลูกหาบให้แบกของทั้งหมดนี้ ขึ้นไปให้เราทั้งหมด กิโลละ 25 บาทเองงง

เอ๊าาาา เริ่มเดินกันได้เลยยยย
เส้นทางศึกษาธรรมชาติที่มีระยะทางไม่ไกลมาก ระยะทางประมาณ 3,720 ม. แต่บอกเลยว่า หาทางนั้น โหดและชันมาก แถมยังต้องระวังลื่นอีก ไปดูกันยาวๆๆๆๆๆ เลยยยย

เห็นจากแผนที่สังเขปเส้นทางขึ้นยอดเขาแล้วก็เตรียมใจกันได้เลยยย

จะการเดินสักระยะ มันก็จะมีทางชันบ้าง ทางลาดบ้าง ระวังลื่นบ้าง แต่ตลอดการเดินทางก็จะมีจุดนั่งพัก และถังน้ำสำหรับเติมน้ำตลอดการเดินทาง

นี้คือจุดชมวิวแรก แค่เห็นก็หายเหนื่อยเลย เราแวะกินข้าวกันที่นี้ เราซื้อข้าวเหนียวหมูกันมา

จากนั้นเราก็เดินทางกันต่อ ได้ข่าวว่าหลังจากนี้ หนทางโครตโหดกันไปเลยที่เดียว

ดูจากหน้าผู้ร่วมทริปแล้ว รู้เลยว่า ... ไม่ค่อยเหนื่อยเลย ฮ่าาาา

ในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงกัน เราแบ่งกันเดินโดยที่ไม่ต้องรอกัน ซึ่งกลุ่มสุดท้าย ที่มีแอดมินด้วย ใช้เวลาเดินประมาณ 4 ชั่วโมงเอ๊งงงงงงงง จากนั้น เราก็นั่งพัก เพื่อออกเดินทางไปชมพระอาทิตย์ตกกัน

นี่คือ พร้อมที่เดินทางกันต่อแล้ววว ไปชมพระอาทิตย์ตกกัน

เมื่อพระอาทิตย์ตกดินแล้ววว เราก็เดินกลับมายังเต็นท์ที่พัก จัดการอาหารมื้อเย็นกัน คือ สุกี้ 1 หม้อ กินได้ถึงตอนเช้า

ในตอนกลางคืนที่นี้ นอกจากดูดาวแล้ว ก็ไม่ได้มีกิจกรรมอะไรให้ทำ เนื่องจากทุกคนก็นอนพักกันหลังจากที่เดินเหนื่อยมาทั้งวัน แถมอากาศและน้ำในห้องน้ำจะเย็นแล้ว ยังมีลมที่แรงมากจริงๆ เราจึงนัดกันพรุ่งนี้เช้าเราจะไปดูพระทิตย์ขึ้นกัน แต่ๆๆๆๆ พอถึงตอนเช้า ด้วยอากาศที่หนาวและลมแรงมากๆ จึงตัดสินใจไม่ไปกัน แต่ก็มีน้องไปอยู่นะ