แม่ลาน้อย...เมืองร้อยนา

เพราะเฮินไตเราจึงได้...มาพบกัน


เพราะความบังเอิญจริงๆครับ เพราะความบังเอิญล้วนๆ.......

บังเอิญยังไงหรอครับ บังเอิญตรงที่ว่า.....

เราได้ตั๋วบินฟรี(แม่แฟนซื้อไว้แต่กำลังจะหมดอายุ)

เราได้ที่พักฟรี(แม่แฟนก็ซื้อไว้จากงานไทยเที่ยวไทย)

แฟนเหลือวันลาหยุุดพอดี

ด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งมวล....เราจึงไปแม่ลาน้อยกัน


การเดินทาง
-นั้งเครื่องลงที่เชียงใหม่ครับ ต่อรถเมย์แดงคนละ30บาท ลงที่อาเขตเชียงใหม่ ต่อรถตู้ที่อาเขตเชียงใหม่ รถตู้สายเชียงใหม่-ขุนยวม(สอบถามพนักงานได้เลยครับ บอกไปลงแม่ลาน้อย ราคาคนละ100กว่าบาท) หรือ ถ้าใครสะดวกมาอีกเส้นทางนึง จะนั้งรถทัวส์จากกรุงเทพไปแม่ลาน้อยเลยก็ได้ครับ(สอบถาม บขส.)


"พี่เนส"เจ้าของที่พักมารับเราถึงที่จอดรถตู้เลยครับ...

ฝนตกพร่ำๆ พอฝนหยุด อากาศก็เริ่มเย็นสดชื่น เหมาะแก่การเดินเล่นรับลม

ราคาที่พักก็ตกราคาคืนละ900-1500บาท ราคากับบรรยากาศถือว่าถูกและคุ้มค่ามากๆครับ

“เฮินไต” แปลว่า เรือนของชาวไต หรือชาวไทใหญ่นั้นเองครับ

จึงไม่แปลกใจเลย...ที่เราจะรู้สึกถึงมนต์เสน่ห์ กลิ่นไอ และวัฒนธรรมที่คละคลุ้งกลมกล่อม

จนยากที่จะปฐิเสธ ศิลปะและการตกแต่ง เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยแนวคิดและวิถีชีวิตชนพื้นเมือง

ได้เป็นอย่างดี....


"เก็บกระเป๋า....แล้วเราไปเดินเล่นกัน"

อย่างที่เกริ่นไว้ในหัวข้อตัั้งแต่แรกนั้นแหละครับ "แม่ลาน้อย...เมืองร้อยนา"

รอบตัวเราจะมีแต่ทุ่งนา...เขียวชะอุ่มชุ่มชื่นใจ...เป็นไปไม่ได้เลยครับ...ที่ผมจะไม่เดินไปหยุดอยู่ตรงนั้น แล้วมองออกไปข้างหน้าอยู่หลายนาที แถบจะไม่อยากจับกล้องขึ้นมาถ่ายเลยครับ อยากมองทุกอย่างด้วยตาตัวเองให้นานๆ เพราะกลัวว่าเราจะพลาดอะไรไป....

หลังจากเดินเล่นชมบรรยากาศ ถ่ายรูปอยู่พักใหญ่ๆ

ท้องใส้ก็เริ่มหิว...ครัวเฮินไต รอเราอยู่

เมนูยอดฮิตติดลมบนที่ใครๆมา......ต่างก็ต้องสั่ง "ยำเฮินไต ต้มยำปลาสาละวินและน้ำพริกกุ้งคั่ว"

ราคาถูก แถมรสชาติไม่ต้องพูดถึงครับ....อร่อยสมคำร่ำลือจริงๆ

กินอิ่ม....นอนเล่น จนพลบค่ำ

ถึงเวลาที่เราจะออกมานั้งชิว..จิบน้ำเบาๆกันแล้วหล่ะครับ ใครอยากจะHang Out ทางเฮินไตเค้าก็มีบริการเครื่องดื่มต่างๆ หรือเราจะนำมาเองเค้าก็ไม่ว่าครับ แล้วแต่ท่านจะสะดวก แต่เน้นย้ำกันซักนิดว่า เวลากลางคืน แค่เราหายใจก็เสียงดังแล้วครับ เพราะที่นั้นเงียบมาก จะดื่มกันก็เบาเสียงนิดนึง..นะครับ

ตื่น....ตื่น...ตื่น!!! เวลามีค่า

มื้อเช้าสำคัญ......เปิดงานด้วยอเมริกันสไตล์ แฮม ไข่ดาว ไส้กรอก มีแรงเท่าไหร่กินได้ไม่อั้น.

ตามมาด้วยเมนูข้าวเหนียวหมูตำ ที่ใครๆต่างก็ยกย่องให้เป็น The Best

คือจะมีข้าวเหนียว กับหมูที่ตำจนเป็นฝอยหมักด้วยเครื่องเทศต่างๆ รสชาติจะคล้ายๆใส้อั่ว

แต่อร่อยสุดๆ ผมให้ 10 ดาว(แอบกินไปสองห่อ)

กินคาวต้องกินหวาน...โบราณกล่าว ทั้งผลไม้ ข้าวเหนียวสังขยา น้ำส้ม ล้างคอได้เป็นอย่างดีเลยครับ.

เติมพลัง....แล้วไปต่อ อย่ารอให้เสียเวลา

แน่นอนหล่ะครับ...มาทั้งทีใช่จะนอนอยู่แต่ที่พัก เช่ามอ'ไซค์ จากเฮินไต (250บาท+น้ำมันเติมเอง) คว้าเสื้อกันฝน แบกกระเป๋ากันน้ำ แล้วไปใช้ชีวิตวิถีไบร์เกอร์กันเถอะ...

จุดหมายแรกที่เราจะไปคือ โครงการหลวงแม่ลาน้อยครับ

ห่างจากเฮินไต 30 กม. เส้นทางขับง่าย ถนนดีครับ ขับเพลินๆ...

สองข้างทางเต็มไปด้วยป่าและเขา......หมอกมาไม่ขาดสาย พาสบายหูสบายตา.


และเราก็หากันจนเจอ......

โครงการหลวงแม่ลาน้อย..ต้นแบบนาขั้นบันได โครงการของพ่อ.....

ไม่เพียงแต่นาขั้นบันได้เท่านั้น...ยังมีการทำฟาร์มผักออแกนิค ตั้งแต่ขั้นตอนการเพาะเมล็ด ดูแลต้นกล้า ไปจนถึง ขั้นตอนการเก็บเกี่ยว ซึ่งเราสามารถเยี่ยมชมและซื้อกลับมาปรุงอาหารได้ครับ รับรองว่าสดใหม่และปลอดภัยแน่นอน....

ซี่งถ้านักท่องเที่ยวคนไหนสนใจที่จะพัก...ทางโครงการหลวงก็มีที่พักไว้ให้(แต่ผมไม่ได้ถ่ายรูปมา) สามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่ได้เลยครับ....

พื่นที่รอบๆก็จะเป็นนาขั้นบันได และก็อาคารเพาะชำต่างๆครับ..

วิถีไบร์เกอร์ที่แท้ทรู...

เป้าหมายต่อไป.....บ้านห้วยหอม ทอขนแกะแวะชิมกาแฟ(ถ่ายไว้แต่วิดีโอTT)

อย่างที่บอกครับ บ้านห้วยห้อมถ้ามาถึงเป็นอันต้องชิมกาแฟ เพราะที่นี่ส่งออกกาแฟให้กับสตาร์บัคที่คนเมืองอย่างเราๆกินกันแก้วเป็นร้อย แต่ที่นี่แก้วละ20-30บาท

ทีนี่ยังมีอุตสาหกรรการทอขนแกะอีกด้วย...ซึ้งเราจะเดินไปไหนก็จะเห็นแกะแทบทุกบ้าน

สิ่งที่พลาดไม่ได้คือ น้ำพริกถั่วเน่า ของฝากสุดอร่อย...ผมชิมครั้งแรกซื้อกลับมา3กระปุกเลยครับ

และแล้ว เวลาก็หมดลง....ขับมอ'ไซค์กลับอย่างใจลอยเพราะเวลาอันน้อยนิด...

แอบลงไปถ่ายรูปเก็บไว้ เพราะคิดว่าจะมาซื้อที่ ไว้ปลูกบ้านอยู่เองที่นี่ 555

แวะกิน "เต๋วชาวแม้ว" เอกลักษณ์อยู่ที่คนปรุงจริงๆครับ รสชาติกลมกล่อม ไม่ต้องปรุงเพิ่มเลย อร่อยมาก เราสั่งไซร์จั้มโบ้บิ๊กบึ้มมาเลยครับ...อย่างที่เห็นครับ บิ๊กบึ้มจริงๆ (แต่ก็ไม่พ้นความหิวกระหายของเราทั้งคู่ไปได้)

งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา.....ถึงเวลากลับบ้าน......

เป็นช่วงเวลา 2 วัน 1 คืน ที่คุ้มค่ามากๆ มีความสุขมากๆครับ ถ้ามีโอกาศก็คงจะได้กลับมาอีก

แม่ลาน้อยได้สอนอะไรเราหลายๆอย่างครับ.....

แต่สิ่งที่สำคัญและชัดเจนที่สุด คือ "ความเรียบง่ายและความพอเพียง" นี้แหละครับ

เป็นคำตอบของทุกอย่าง....

ขอขอบคุณทุกท่านที่รับชม

แล้วเราจะกลับมาพบกันใหม่.....

-ฟรีแลนซ์อารมณ์ดี-



ฟรีแลนซ์อารมณ์ดี

 วันพุธที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 18.29 น.

ความคิดเห็น