Taiwan

ไต้หวัน (Taiwan) เป็นประเทศที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงจากนักท่องเที่ยวชาวไทย

เพราะเป็นเมืองที่สวยงาม ทั้งในด้านของศิลปะ วัฒนธรรม อาหารอร่อย สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติงดงาม

มีแหล่งช้อปปิ้งที่ราคาถูกกว่าเมืองไทยค่อนข้างมาก ที่สำคัญราคาไม่แพง

เรทเงินพอๆกับเงินไทยเลย (1 TWD = 1.1 THB) ถือว่าเที่ยวได้สบายๆ

และในทริปนี้ก็เป็นครั้งแรกที่ผมได้มีโอกาสได้ไปเยือนประเทศไต้หวัน

ก็มีวางแผนก่อนเดินทางกันบ้างเพื่อกันหลง (สุดท้ายก็หลงอยู่ดี ฮาๆๆ)

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวไต้หวันด้วยกัน

ที่นี่จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ตามพวกเรามาเลยครับ

ทริปนี้เราเริ่มเดินทางกับ สายการบิน นกสกู๊ต (Nokscoot) โดยค่าตั๋วอยู่ที่คนละประมาณ 3-4 พันบาท

หากเพื่อนๆ กำลังมีแผนจะเดินทาง ลองเช็คราคาตั๋วเครื่องบินราคาพิเศษ ผ่าน App Traveloka กันดูครับ

แนะนำจองผ่านแอปราคาจะถูกกว่า ซึ่งสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้ทั้ง ios และ Android

โดยเราได้ทำการจองผ่าน Traveloka ทำให้ได้ส่วนลดในการจองตั๋วเครื่องบิน ด้วย

นักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถเดินทางไป ไต้หวัน (Taiwan) ได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า

ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2559 – 31 กรกฏาคม 2561 โดยอยู่ไต้หวันได้ไม่เกิน 30 วัน

แต่ก่อนเข้าประเทศจะต้องกรอกใบ ตม. ขาเข้า กันก่อนครับ

ล่าสุดมีการปรับเปลี่ยนของปี 61 ที่คนไทยไม่ต้องขอวีซ่า 

ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ก.ค. 2562 โดยอยู่ไต้หวันได้ไม่เกิน 14 วัน​

* สามารถกรอกได้ทั้งแบบออนไลน์ หรือกรอกใบขาเข้าในกระดาษ

ที่พนักงานสายการบินจะทำการแจกให้บนเครื่อง เลือกแบบใดแบบหนึ่ง *

ใช้เวลาเดินทางจากดอนเมือง (กรุงเทพ) – สนามบินเถาหยวน (ไต้หวัน) ประมาณ 3 ชม. 30 นาที

โดยเราเริ่มออกเดินทางประมาณ เที่ยงคืนครึ่ง ก็ถึงไต้หวันประมาณ ตี 5 เวลาที่ไต้หวันเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง

ถึงแล้วเราก็รีบล้างหน้าแปลงฟันแล้วก็รีบบึ่งไปขึ้นรถไฟฟ้า Taoyuan Airport MRT เพื่อเข้าสู่ไทเป

ปล. ถ้าใครมาถึงช่วงเช้า แนะนำให้รอร้านซิมมือถือเปิดก่อน แล้วจัดการซื้อ sim internet ให้เรียบร้อย

มีแพคเก็จให้เลือกหลากหลาย ให้เจ้าหน้าที่จัดการให้ได้เลย ใช้แค่ passport ใบเดียว

เพราะถ้าพลาดไม่ได้ซื้อที่สนามบิน บอกเลยว่าหาซื้อได้ยากมาก เราโดนมาแล้ว เลยอยากเตือน ฮาๆๆ

การไปขึ้นรถไฟฟ้า Taoyuan Airport MRT จากสนามบินเถาหยวน จะมีป้ายบอกตลอดทาง

สามารถเดินไปได้ไม่ไกลจากอาคารผู้โดยสารเลยจ้า…





มาถึงก็จะมีตู้จำหน่ายบัตรโดยสารเหมือนกับรถไฟฟ้าบ้านเรา จะซื้อแบบรอบเดียว หรือ เติมเงินก็ได้

แต่เพื่อความสะดวกสบาย แนะนำซื้อแบบเติมเงินดีกว่า เพราะบัตร EasyCard ของไต้หวัน

เราจะนำไปนั่งรถไฟฟ้า และ รถเมล์ในไทเปได้อีกด้วย เรียกได้ว่าบัตรเดียว เที่ยวทั่วไทเป จ้า…

หรือถ้าไม่ซื้อกับตู้ ก็สามารถซื้อได้ที่เคาร์เตอร์จำหน่ายได้บริเวณสถานีรถไฟฟ้านี่เลย

มาถึงแล้วมันก็จะตื่นเต้นหน่อยๆ จะขึ้นถูกขึ้นผิด แต่สุดท้ายก็ถูกจ้า… ฮาๆๆๆ

ได้ขึ้นรถไฟฟ้าแล้วก็ตื่นเต้นเหมือนเด็ก ดูนั่น ดูนี่


ค่าโดยสารจากสนามบินเถาหยวน – ไทเป : NT$160
ช่วงเวลาที่ให้บริการ : 06.00 – 23.00 น.
ระยะเวลาเดินทาง : Express Train (สีม่วง) 35 นาที (จอดบางสถานี) /
Commuter Train (สีน้ำเงิน) 50 นาที (จอดทุกสถานี)

เราวางแผนว่าเข้าเมืองแล้วจะเอากระเป๋าไปฝากไว้กับที่พักก่อนออกไปเที่ยวกัน

โดยเราพักกันที่ Mr Lobster’s Secret Den Design Hostel

ขอบคุณแผนที่ ที่พัก Mr Lobster’s Secret Den Design Hostel จากเพจ 1000MilesJourney.com

เมื่อมาถึง Taoyuan Airport MRT สถานี A1 Taipei Main Station ให้ออกทางออก 5

ที่พักที่นี่ตั้งอยู่ใกล้กับสถานี Taipei Main Station ทำให้การเดินทางสะดวกสบาย

จากสถานี Taipei Main Station ให้ออกทางออก Y19

เดินข้ามถนนมาอีกนิด จะเห็นตึกที่พักอยู่ข้างซ้ายมือ ตึกข้างๆจะเป็น supermarket เล็กๆ

เรามาถึงกันตอนเช้า ประตูด้านหน้ายังไม่เปิด ก็งงๆ พอดีมีคนแถวนั้นชี้ๆแล้วพูดจีนใส่ ก็งงๆ

เลยเดินเข้าไปในซอยตามที่เค้าชี้ให้ ปรากฏว่ามีทางเข้าอยู่ข้างหลังด้วยจ้า…

สงสัยทำท่างง เค้าเลยรู้ว่าจะมาพัก ฮาๆ เข้าไปกดลิฟท์ขึ้นชั้น 9 ได้เลย





โดยที่พักจะมีทั้งแบบนอนรวม และนอนแยกห้องส่วนตัว มีอาหารเช้า และ ฟรี wifi

สภาพโดยรวมถือว่าโอเค ราคาไม่แพง ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวและสถานีรถไฟฟ้า เดินทางง่ายสะดวกสบาย

หากใครสนใจ สามารถติดต่อได้ตามข้อมูลด้านล่างนี้ครับ

ข้อมูลติดต่อที่พัก Mr Lobster’s Secret Den Design Hostel

Address : 9F.No.22,Sec.1,ChongcingN.Rd.Datong Dist.Taipei

Email : [email protected]

Phone : +886 2 2555 8752 

Line : lobstertaipei

Website : http://www.mrlobstersecret.com

Facebook : https://www.facebook.com/MrLobstersSecretDen/

เอากระเป๋าเดินทางมาฝากที่พักกันเรียบร้อย ก็ได้เวลาออกไปเที่ยว หาของกินกันแล้วจ้า…

อ้อ!! จะบอกว่า พวกร้านค้า ร้านข้าว ร้านต่างๆที่นี่เปิดกันสายๆนะ 10-11 โมงโน้น หาของกินช่วงเช้าจะยากหน่อย

ที่แรกที่เรามุ่งหน้าไป คือ ย่านเมืองเก่า DaDaocheng (Dihua Street , DaDaoCheng Wharf)

จากที่พักขอเราเดินมายัง Dihua Street ใช้เวลาไม่นาน ประมาณ 10-15 นาที

ย่านนี้จะเป็นย่านเมืองเก่า ตึกและถนนหนทางมีเสน่ต์มาก ถ่ายรูปสวยๆ ชิลๆกันได้เลย

มีสินค้าจำหน่ายที่หลากหลาย และยังมีอาหารท้องถิ่นให้เราได้ลองชิมกันด้วย แบบนี้ไม่มีพลาด!!

ดูๆไป ย่านนี้ก็คล้ายๆ เยาวราชบ้านเราเลย ของกินอร่อย มีร้านขายยาสมุนไพร ของแห้ง

หลังจากได้ลองอาหารท้องถิ่นแล้วถือว่ารสชาติโอเคเลย โดยเฉพาะข้าวหมูตุ๋นและขนมด้านบน

แต่บางร้านเห็นคนต่อเยอะก็ใช่ว่าจะถูกปากคนไทยนะ ไอ้เราก็โรคจิตไง เห็นคนเยอะเลยไปต่อบ้าง

พูดก็ไม่ได้ อาศัยมือชี้ๆไป ไม่รู้ออกมาจะได้เป็นอะไร แต่ก็สนุกดี





เดินมาอีกนิด เราก็จะเจอกับสถานที่ยอดฮิตของคนที่นี่ เค้านิยมมาขอคู่ครองหรือลูกกันที่ วัดเสียไห่ (Xia Hai) 

แต่เรามีคู่แล้ว ก็ไม่ได้มาขออะไร แวะมาส่องสาวเฉยๆ เห้ย!! เดี๋ยวๆๆๆ

เมื่อท้องเราอิ่มก็ได้เวลาเดินย่อยกันต่อ เรามาเที่ยวกันที่ ท่าเรือต้าเต้าเฉิง (DaDaoCheng Wharf)

เป็นท่าเรือและที่นี่ยังเป็นสวนสาธารณะ และเส้นทางปั่นจักรยานเลียบทะเล

เห็นคนแถวนี้เค้านิยมมานั่งเล่น และปั่นจักรยานพักผ่อนกันกับครอบครัวช่วงเย็นๆ

หลังจากเดินจนเหนื่อย ก็ได้เวลาเดินกลับที่พัก ทำการเช็คอินกันก่อน นอนพักซักงีบแล้วค่อยไปต่อกัน

พอตื่นมาก็เริ่มหิว เลยไปหาของกินกันต่อที่ ตลาดกลางคืนหนิงเซี่ย (Ningxia Night Market )

จากที่พักเปิด Google Map แล้วเดินมาตามทาง ประมาณ 10 นาที ก็ถึงตลาดของกินกันแล้ว

โอ้โห!! นี่มันตลาดอะไรกัน ทำไมคนเยอะขนาดนี้ ที่นี่ไม่ได้มีแต่ของกินเท่านั้น

ยังมีเกมให้เล่นด้วย เหมือนงานวัดบ้านเราเลยแหล่ะ ตกปลา ปากระป๋องชิงตุ๊กตา ฯลฯ

เดินไปแวะซื้อของกินตามทางกินเล่นไปเรื่อย มีแต่ของน่าลองกินทั้งนั้น หลายๆร้านคนแน่นมาก สู้ไม่ไหว

เห็นร้านนี้คนเยอะเลยต้องขอลองมาต่อแถวลองชิมดูหน่อย ร้านนี้จะเป็นคล้ายๆออส่วน และ ก็มีซุปหอย





อันที่เป็นคล้ายๆอ่อส่วนบ้านเรา น้ำจิ้มก็อร่อยดีครับ แต่ซุปหอยมันจะจืดๆ รสชาติไม่ค่อยโดนเท่าไหร่

ทานของคาวกันอิ่มแล้ว เดินมาอีกนิด เจอคนต่อแถวซื้ออะไรกัน เอาอีกแล้ว!! ยังไม่เข็ด ฮาๆๆ

อ๋อ… ร้านชานมไข่มุก ของขึ้นชื่อที่มาไต้หวันไม่โดนไม่ได้แล้ว ร้าน 50 Lan (50嵐)

ถึงร้านต่อแถวก็จะงงหน่อยๆ เพราะมีให้สั่ง หวานมาก/หวานน้อย , เย็นมาก/เย็นน้อย , มุกเล็ก/มุกใหญ่

นี่ถามเยอะขนาดนี้ จะได้กินไหม ฮาๆๆ แต่สุดท้ายก็ได้กิน สรุป อร่อย สมคำร่ำลือ ห้ามพลาด!!

จบทริปวันแรก ก็จะปวดขาหน่อยๆ แต่อิ่มท้องมาก กินกันจนพุงจะแตก เห็นอะไรก็อยากลองไปหมด

วันที่ 2 เราไปเที่ยวกันตาม สถานที่ท่องเที่ยวใกล้รถไฟฟ้า MRT

บอกเลยว่าเที่ยวง่ายมาก หลับตาก็เที่ยวได้ แต่หลงนะ 555

การเดินทางโดยรถไฟฟ้า MRT ของที่นี่สะดวกสบายและเดินทางง่ายมากๆ

ขนาดเราไปครั้งแรกนะ…

ไม่หลง????

หลง!!! ถรุ้ยยยยย!! ไม่หลงจ้า ฮาๆๆๆ

เพราะรถไฟจะมีการเชื่อมต่อกันในหลายๆสถานีและวิ่งทั่วเมืองไทเป

โดยมี Taipei Main Station เป็นสถานีที่รวบรวมเอาการขนส่งทั้งหมด มารวมกันไว้ที่นี่

อาจจะงงหน่อยๆ แต่มันสามารถเดินเชื่อมต่อกันได้หมดเลย ทั้งรถไฟฟ้าความเร็วสูง , รถไฟฟ้าธรรมดา

MRT , Taiyuan Airport MRT , รถเมล์วิ่งระหว่างจังหวัด และมีป้ายบอกทางอย่างชัดเจน

ขอบคุณแผนที่ สถานที่ท่องเที่ยวตามแนวรถไฟฟ้า จากเพจ ไต้หวันปะ – 臺灣吧!ที่ทำให้การเที่ยวของเราง่ายขึ้น

วัดหลงซาน (Longshan Temple)

วิธีการเดินทาง : MRT Longshan Temple (สายสีน้ำเงิน BL 10) , Exit 1 หรือ ออกทางเดินใต้ดินหลงซาน มีป้ายบอกทาง

เค้าว่ากันว่า วัดหลงซาน เป็นวัดที่ศักสิทธิ์ที่สุดของไต้หวัน เราเลยแวะมาไหว้สักการะขอพรกันก่อนไปเที่ยวที่อื่น

เข้าไปภายในวัดเจอคนไต้หวันมาไหว้กันเยอะมาก เข้ามากันไม่ขาดสาย ขอพรให้ได้มีโอกาสกลับมาที่นี่อีกนะ อิอิ





อนุสรณ์สถานเจียงไคเชค (Chiang Kai Shek Memorial Hall)

การเดินทาง : MRT Chiang Kai Shek Memorial Hall (สายสีเขียว G 10) , Exit 5

อนุสรณ์สถานเจียงไคเชค ถือเป็นอีก 1 จุด Landmark ที่ใครมา ไต้หวัน (Taiwan) ต้องไม่พลาด!!

ที่นี่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงอดีตประธานาธิบดีเจียงไคเชค บอกเลยว่าที่นี่ดูยิ่งใหญ่และอลังการงานสร้างมากๆ

และมีการเปลี่ยนเวรยามของทหารทุกๆ ชั่วโมง ตั้งแต่ 09.00 – 17.00 น. (เสียดายไปไม่ทัน)





Taipei Fish Market หรือ Addiction Aquatic Development

การเดินทาง : รถบัส สาย 49 หน้าห้าง Shin Kong Mitsukoshi ตรง Taipei Main Station

นั่งรถไปประมาณ 30 นาที ไปลงที่ 2nd Fruit and Vegetable Market โดยตลาดจะอยู่ด้านซ้ายมือ

เมื่อลงแล้วให้เดินข้ามถนนและเข้าซอยข้างๆตลาดผักและผลไม้เข้าไปไม่ไกล

มาใต้หวันทั้งทีเราก็อยากลองใช้บริการรถสาธารณะให้ครบ จะได้มาเล่าให้เพื่อนๆฟังได้ไง ฮาๆๆ

หลังจากใช้บริการแล้วบอกได้เลยว่าชอบที่นี่มาก ป้ายรถเมล์มีบอกสายรถและเวลาที่กำลังจะมาถึงด้วย

ถามว่าหลงมั้ย ตอบเลยว่าไม่!! แค่ลงก่อนถึงป้าย ป้ายเดียวเอง ฮาๆๆๆ เถียงกันอยู่ว่าใช่มั้ย สุดท้ายก็ลง

ภายในจะมีอาหารทะเลสดๆ ที่ใครอยากกะกินปลาดิบ หรือ ของทะเล ต้องมาที่นี่

โดยเราสามารถเลือกซื้อแล้วให้ทางเชฟปรุงรสและนั่งทานได้เลยครับ

แต่เคยเห็นคนกินข้างในกันเยอะแล้ว เลยลองหาร้านนั่งกินข้างนอก ใกล้ๆตลาดดูบ้าง

ด้านนอกก็จะมีร้านขายอาหารญี่ปุ่นหลายร้าน สามารถเลือกทานได้ตามใจชอบ ซึ่งราคานั้นก็ไม่แพง

เราได้ลองแล้วบอกเลยว่า เด็ด!! ใครมาไทเป ต้องมาโดน พูดแล้วก็อยากกลับไปกินอีก (น้ำลายไหยย)

เขาช้าง หรือ เซี่ยงซัน (Xiangshan)

การเดินทาง : MRT Xiangshan (สายสีแดง R02) , Exit 2

หลังจากนั่งรถเมล์สายเดิม 49 กลับมาลงที่ Taipei Main Station เราก็มาต่อกันที่ เขาช้าง (Xiangshan)

 อีก 1 จุด Landmark ที่ห้ามพลาด ถ้าไม่ได้มาที่นี่ เหมือนมาไม่ถึง ไต้หวัน (Taiwan)

ที่ เขาช้าง จะภูเขาสำหรับชมวิวตึก ไทเป 101 และ วิวมุมสูงของเมืองไทเป

บอกเลยว่าสวยมากกก… โดยเฉพาะตอนกลางคืน

โดยเมื่อลงจากสถานีรถไฟฟ้า ก็เดินต่อไปอีก 800 เมตร ทางจะชันนิดนึง เป็นทางขึ้นเขา

ตอนแรกก็ไม่เหนื่อยหรอกกก… แต่พอเหนื่อยเท่านั้นแหล่ะ เหนื่อยเล้ยยยย… 555





ระยะทางและความชันเอาเรื่องเหมือนกันครับ แนะนำให้เตรียมน้ำไปด้วย

แต่พอขึ้นมาเห็นวิวแล้ว บอกเลยว่าหายเหนื่อย สวยงามและอลังการงานสร้างมากๆ

 

วันที่ 3 หลังจากเดินเที่ยวกันอย่างหนักหน่วงเมื่อวานนี้  วันนี้เราเลยขอเที่ยวแบบเบาๆ กันหน่อย

Taipei main station (Q square , Taipei main station)

ที่นี่เป็นศูนย์รวมขนส่งสาธารณะของเมืองไทเป ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า MRT รถไฟฟ้าความเร็วสูง รถบัส

และยังมีสินค้า เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์ ขนม ของเล่น รวมไปถึงบริการอื่นๆอีกมายมาย

เหมือนรวม หมอชิต มาบุญครอง หัวลำโพง BTS MRT มาไว้ในที่เดี่ยวกัน

คือมันสะดวกสบายและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ชอบมากๆ ไม่ต้องไปไหนไกลเลย




MUIU INN CAPSULE HOTEL

ที่พักสำหรับเราคืนนี้ ที่นี่ตั้งอยู่ ใกล้ Taipei Main Station และ Ximending เดินทางสะดวกมากๆ

ขอบคุณแผนที่ ที่พัก MUIU INN CAPSULE HOTEL จากเพจ 1000MilesJourney.com

การเดินทาง : จากสถานี MRT Taipei Main Station, Exit Z10 เดินมาอีกประมาณ  5-10 นาที

ภาพด้านบนจะเป็นทางเข้าไปยังห้องพัก โดยที่ล็อบบี้เช็คอิน จะอยู่ที่ชั้น 12

และจะมีห้องพักอยู่ที่ ชั้น 10,11 ด้วย โดยคอนเซ็ปของห้องพักก็คะคล้ายๆ ห้องแคปซูน

แต่จะแยกออกมาเป็นห้องๆ ให้ความเป็นส่วนตัว แต่ห้องพักจะมีขนาดเล็ก ไว้สำหรับนอนอย่างเดียว

เป็นห้องน้ำรวมแยกชาย-หญิง และ มีพื้นที่ส่วนกลางไว้ให้สำหรับผู้เข้าพักสำหรับใช้งานร่วมกันได้





หากใครสนใจอยากได้ที่พักใกล้ Taipei Main Station และ Ximending ที่นี่ก็เป็นอีก 1 ทางเลือกที่น่าสนใจ

ข้อมูลติดต่อที่พัก Muiu inn Taipei

Address : No.37, Sec. 1, floor 12 Kaifeng St., Zhongzheng Dist Taipei City

Email : [email protected]

Phone : +886 905 260 931

Line : muiuinn

Website : http://www.taipeimuiuinn.com/index.php

Facebook : https://www.facebook.com/MuiuinnTaipei/

ซีเหมินติง (Ximending )

การเดินทาง : MRT สายสีน้ำเงิน สถานี Ximen (สายสีน้ำเงิน BL 11 หรือ สายสีเขียว G12 , Exit 6)

แต่จากที่พักเรา สามารถเดินมายังตลาดย่านซีเหมินติงได้เลย

ซีเหมินติง ย่านตลาดช้อปปิ้งชื่อดังของเมืองไทเป ที่ใครมาก็ต้องแวะมาโดนกัน

เพราะที่นี่เป็นศูนย์รวมแฟชั่นวัยรุ่น อาหาร เครื่องดื่ม ร้านขายสินค้ามากมาย

ราคาถูกกว่าบ้านเราหลายอย่าง บางอย่างถูกกว่ามาก บางอย่างถูกกว่านิดหน่อย

หลายคนมาแล้วล้มละลายกันกลับไปก็มี ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องสำอางค์ ฯลฯ

บรรยากาศก็จะคล้ายกับสยามสแควร์บ้านเรา

นอกจากที่นี่จะเป็นย่านช้อปปิ้งแล้ว ยังมีอาคารโบราณที่ทางการได้อนุรักษ์ไว้ มีชื่อว่า ตึกแดง (Red House)

สร้างด้วยอิฐแดงทั้งหลัง ภายในจะมีการจัดนิทรรศการและมีสินค้าพวกแฮนเมด สวยๆ วางจำหน่าย

เดินย้อนกลับมาหาดูของกิน ของช้อปกันต่อดีกว่า ร้านค้าเยอะมาก สาวๆก็เช่นกัน ฮาๆๆ





ทริปนี้มาส่วนใหญ่จะจัดของกินซะมากกว่า เห็นอะไรก็อยากลองไปหมด

กลับไปน้ำหนักขึ้นพรวดๆ แน่นวลลล ถามว่าแคร์มั้ย… ตอบเลยว่าไม่!! มาทั้งทีต้องลองให้หมด ฮาๆๆ

วันที่ 4 เราจะพาไปหาจุดถ่ายรูปและเดินเล่นบริเวณตึกไทเป 101 กันครับ

ซื่อซื่อหนันชุน หรือ หมู่บ้านทหารเก่า

การเดินทาง : MRT Taipei 101 World Trade Center (สายสีแดง R03) , Exit 2

จากสถานนีรถไฟฟ้า เดินต่อมาอีกประมาณ 200 เมตร ที่นี่เป็นหมู่บ้านทหารเก่า ภายในจะมีร้านขายของน่ารักๆ

รวมถึงขนม เครื่องดื่ม ของฝากและของที่ระลึก และยังสามารถถ่ายรูปคู่กับตึกไทเป 101 สวยๆ ได้อีกด้วย

 





ถ่ายรูปเสร็จแล้วก็เดินกลับมายัง ตึกไทเป 101 ลองมาชมบริเวณรอบๆ และ ด้านในของที่นี่กันบ้างว่ามีอะไรน่าสนใจ

ที่นี่จะคล้ายๆ กับสยามพารากอนบ้านเรา มีสินค้าแบรนด์เนมจำหน่ายมากมายหลากหลายยี่ห้อ

4U Hostel

การเดินทาง : จากสถานี MRT Taipei Main Station, Exit Z10 เดินมาอีกประมาณ  5-10 นาที

4U Hostel ตั้งอยู่ตึกเดียวกัน กับ MUIU INN CAPSULE HOTEL 

แต่จะอยู่คนละชั้นกัน โดยที่ล็อบบี้เช็คอินของที่ 4U Hostel จะอยู่ที่ชั้น 5 และห้องพักอยู่ที่ชั้น 7 ด้วย

ที่นี่จะมีทั้งแบบห้องนอนรวมและนอนแยกแบบส่วนตัว ซึ่งห้องที่เราพักเป็นห้องนอนส่วนตัว

ขนาดห้องไม่เล็กไม่ใหญ่กำลังดี ห้องพักสะอาด เป็นห้องน้ำรวมแยกชาย-หญิง

มีพื้นที่ส่วนกลางไว้ให้สำหรับผู้เข้าพักสำหรับใช้งานร่วมกันได้ ที่พักตกแต่งได้น่ารัก

ที่สำคัญราคาน่าคบหามาก ใกล้สถานที่ท่องเที่ยว สถานีรถไฟฟ้า และร้านสะดวกซื้อ





หากใครสนใจอยากได้ที่พักใกล้ Taipei Main Station และ Ximending ที่นี่ก็เป็นอีก 1 ทางเลือกที่น่าสนใจ

ข้อมูลติดต่อที่พัก 4U Hostel

Address : Section of Kaifeng Street, 5th Floor, 37 in Taipei

Email : [email protected]

Phone : +886 2 2331 2999

Website : http://www.4utaipei.com

Facebook : https://www.facebook.com/4utaipei

และนี่ก็คือ Taiwan 1 st Time ของผมครับ บอกเลยว่าดีต่อใจมาก

เที่ยวง่าย ไม่ต้องกลัวหลง (เพราะหลงอยู่แล้ว) ถรุ้ยยยยย!!! ไม่หลงโว้ยยยย!! ฮาๆๆ

ทั้งที่กิน ที่เที่ยว ที่พัก ราคาก็ไม่แพง ค่าเงินพอๆกับบ้านเรา ไม่ต้องมานั่งคำนวนราคาให้ปวดหัว

สำหรับใครกำลังวางแผนจะไปไต้หวัน หรือ อยากลองมาเที่ยวต่างประเทศเอง

ผมอยากแนะนำอย่ารอช้า ไต้หวัน เป็นอีก 1 ในตัวเลือกที่ควรค่าแก่การมาครับ

และยิ่งตอนนี้ คนไทยได้รับการยกเว้นวีซ่า ทำให้ไม่ยุ่งยากในการขอวีซ่าอีกต่อไป

สำหรับผมแล้ว ไต้หวัน ครั้งเดียวไม่พอ ต้องหาเวลากลับไปโดนอีกแน่นวลลลล…

ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น ทะเล ภูเขา ศิลปะวัฒนธรรม

รวมไปถึงอาหารรสเด็ด ที่รอให้เราได้ไปจัดกันอีกมากมาย

สุดท้ายนี้ ขอสรุปสาระสำคัญๆ ให้กับคนที่สนใจอยากที่จะมา ไต้หวัน เพื่อเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย

10 ข้อควรรู้ก่อนไป ไต้หวัน (Taiwan)

1. ค่าเงิน ไต้หวัน พอๆกับเงินบาท (1 TWD : 1.1 THB) ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องราคาให้ปวดหัว

2. นักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถเดินทางไป ไต้หวัน (Taiwan) ได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า (free visa)

3. ขาเข้าไต้หวันจะต้องกรอกใบ ตม. สามารถกรอกได้ทั้งแบบ ออนไลน์ หรือ กรอกใบขาเข้าในกระดาษ

ที่พนักงานสายการบินจะทำการแจกให้บนเครื่อง เลือกแบบใดแบบหนึ่ง

4. ปลั๊กไฟใช้แบบหัวแบน 2 ขา เหมือนเมืองไทย (ถ้าใช้สายไฟ 3 ขา ต้องใช้ตัวแปลง)

5. เวลาที่ ไต้หวัน เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง

6. สถานที่ท่องเที่ยว (ไทเป) ไปง่ายๆ ใกล้สถานีรถไฟฟ้า

7. การเดินทางไป ไต้หวัน มีสายการบิน บินตรงให้เลือกหลายสาย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชม.

8. Internet แนะนำให้ซื้อที่ สนามบิน เพราะถ้าซื้อข้างนอกจะค่อนข้างหายากและวุ่นวาย หรือ ซื้อจากไทยไปเลย

9. มี free wifi ตามสถานที่ท่องเที่ยว และ รถไฟฟ้า

10. บัตร EasyCard ใบเดียวเที่ยวทั่ว ไทเป ทำให้การเดินทาง ง่าย สะดวก สบาย

Application มือถือ ที่ควรมีติดตัวไว้ เป็นตัวช่วยเมื่อเดินทางไป ไต้หวัน (Taiwan)

  • Google Map : แอพนี้สำคัญมาก ทำให้เราไม่หลงและง่ายต่อการเดินทาง ควรมีติดเครื่องไว้
  • Voice Translator :  อันนี้ก็สำคัญ ใช้พูดสำหรับแปลภาษา เวลาคุยอะไรไม่รู้เรื่องเปิดแอพนี้ได้เลย
  • Traveloka : แอพจองที่พักและสายการบิน ที่จะช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายและได้รับส่วนลดในราคาพิเศษ

หากมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อเราได้ที่ www.facebook.com/9aooddy.travel

แล้วกลับมาเจอกันใหม่ตอนหน้า ep.2 เราจะพาไปเที่ยว ไถจง (taichung) เมืองที่ไม่ควรมองผ่าน

ช่องทางการจองที่พัก : https://www.agoda.com/

หากมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

สามารถติดต่อพวกเราได้ที่ : www.facebook.com/9aooddy.travel

ช่อง Youtube : https://bit.ly/2WjjoeC

ขอบคุณและสวัสดีครับ

อู๊ดดี้ (กินเพลิน เดินเที่ยว)

ความคิดเห็น