ฟรีแลนซ์อารมณ์ดี : "บ้านดินห้วยผึ้ง" เคล้าไอดินกลิ่นไอป่า...[Mini Trip]

"บ้านดินห้วยผึ้ง" เคล้าไอดินกลิ่นไอป่า...

F : "ตัวเองบ้านดินที่เชียงใหม่ โคตรน่าไปเลยอ้าาาาา.."

K : "โอ้โห้....เชียงใหม่เลยหรอ มันไกลไปป่าว"

เอาซิครับ.....ระหว่างที่นั้งกินข้าว ทีวีเจ้าปัญหา...ก็นำเสนอรายการท่องเที่ยว

ภาพบ้านดินเคล้าไอหมอก...มองดูแล้วคงอุ่น...ถ้าได้ไปนอน มันช่างยั่วยวนเงินในกระเป๋ายิ่งนัก

แต่ทำไมหล่ะครับ...ทำไมเราต้องไปไกลถึงเชียงใหม่ ทั้งๆที่.....ประจวบก็มี "บ้านดิน"

เป้าหมายที่เราค้นพบครับ....คือ ....คื๊ออออ คือ!!!! บ้านดินห้วยผึ้ง

ซึ่งแน่นอนครับ รีวิวอันแสนน้อยนิดของที่นี่..จึงทำให้เราอยากลองของ....

ทริปนี้เราใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทางครับ และก็อยากจะแนะนำทุกท่านให้เดินทางมาที่นี่ด้วยรถส่วนตัวด้วยเช่นกัน เพราะด้วยระยะทาง กับเส้นทางที่แฟนผมขับมา ผมนึกภาพไม่ออกจริงๆ

ว่าจะต้องนั้งรถมากี่ต่อ ต่อรถประจำทางกี่คัน กว่าจะมาถึงที่นี่

รถส่วนตัวดีกว่าครับม้วนเดียวจบ...สบายใจ

(และไม่ต้องถามนะครับว่าถ้าไม่มีรถจะไปยังไง...คำตอบสั้นครับ..ผมก็ไม่รู้ๆ ฮ่าๆ)

แต่เอาหน่า....ผมเชื่อว่า ถ้าคนจะไป...เดี๋ยวก็ไปได้เองแหละ

ออกเดินทางเลยดีกว่า....ลุย!!!

แน่นอนครับ...ในยุคที่ทุกอย่างง่ายดายด้วยปลายนิ้ว

สตาร์ทรถเสร็จ สิ่งแรกที่คุณจะต้องทำคือ เปิด Google Map ครับ ค้นหาคำว่า บ้านดินห้วยผึ้ง

เจอแน่นอนครับ แล้วขับตาม GPS เลยครับ มาไม่ยาก..ตามทางไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็ถึง

ซึ่งบ้านดินห้วยผึ้งนั้นตั้งอยู่ ละติจูดที่.......แฮร่!! ยากไป เอาใหม่

อยู่ที่ 73 ม.10 ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

ซึ่งอยู่ในอุทยานแห่งชาติที่ 3 ห้วยป่าเลา ห่างจากน้ำตกป่าละอู 21 กิโลเมตร

ระยะทางจากกรุงเทพ ถึงบา้นดินห้วยผึ้ง ประมาณ 250 กิโลเมตร

ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง...

แนะนำใครอยากปิ้งย่างก็แวะที่ตัวเมืองหัวหินซื้อของขึ้นมาก่อนนะครับ จะได้ไม่เสียเวลาย้อนไปย้อนมา...ทั้งอาหารสด อาหารทะเล เคื่องดื่มต่างๆ เตรียมมาให้พร้อมเลยครับ

และแล้วก็มาถึง....ที่หมายปลายทาง

บรรยากาศโดยรอบมีแต่ป่าครับ ที่นี่ตกแต่งได้ร่มรื่น..ต้นไม้เต็มไปหมด..

เราจองบ้านหลังใหญ่ไว้ครับ บ้านสายหมอก นอนได้ 4-6 ท่าน ในราคา 2500 บาท/คืน

ซึ่งเราไปตรงกับวันเสาร์

แต่ถ้าวันธรรมดา อาทิตย์-ศุกร์ 1500-2000 บาทเท่านั้นครับ ซึ่งที่จองหลังใหญ่เพราะเราอยากได้ครัวไว้ประกอบอาหารครับ ซึ่งจะมีซิงค์ล้างจาน อุปกรณ์ครัวต่างๆ เตาแก็สปิคนิค ซึ่งทางที่พักก็ไม่ได้คิดบริการเพิ่ม นอกจากถ่านที่ใช้ปิ้งย่างต้องเสียเงิน...ถือว่าสะดวกและสบายครบครันมากๆ

ในห้องกว้างขวาง ปลอดโปร่ง มีเตียงใหญ่สองเตียง นอนได้สบายไม่เบียดกัน

มีทีวี ตู้เย็น แอร์และเครื่องทำน้ำอุ่นไว้ให้คอยบริการ....(แอร์แทบจะไม่ได้เปิดครับเพราะกลางคืนหนาวมาก)

มุมหลังบ้าน ซึ่งห้องครัว จะอยู่ด้านข้างครับ..

ส่วนนี่....เป็นหลังเล็กครับ บ้านแสงจันทร์ นอนได้ 2-3 ท่าน ราคาวันธรรมดา 800-1000/คืน

ส่วนวันเสาร์และวันหยุดก็ 1300-1500 คืน มีทุกอย่างเหมือนหลังใหญ่ ยกเว้นครัวครับ...

บ้านหลังเล็ก หน้าบ้านก็จะมีชิงช้าไม้ให้ได้นั้งพักผ่อนหย่อนใจ...

ส่วนใครที่ชอบนอนเต็นท์ ที่นี่ก็มีบริการให้เช่าในราคา 200 บาท/คืน

ซึ่งในราคา 200 บาทนั้น ท่านก็จะได้ผ้าห่ม ผ้าปู และหมอนอีกด้วย...

หรือถ้ามีเต็นท์มาเองที่นี่ก็คิดในราคาแค่ 100บาท/คืนเท่านั้น เป็นค่าใช้สถานที่และห้องน้ำ

ซึ่งมีห้องอาบน้ำ ช 4 ญ 4 / ห้องสุขา ช 4 ญ 4 จึงไม่ต้องห่วงว่าจะแย่งกันอาบแย่งกันใช้ครับ...

โต๊ะไม้วางเด่น เชื้อเชิญให้เริ่มตั้งวง....

พระอาทิตย์กำลังตก..ทอแสงเป็นประกาย พาให้รู้สึกอบอุ่น

ชมวิวป่า มองลำธาร สูดหายใจเข้าลึกๆ ปล่อยว่างทุกสิ่ง แล้วผ่อนคลาย...

มุมรับประทานอาหาร ซึ่งตอนกลางคืน...ใครชอบร้องคาราโอเกะ ก็สามารถแจ้งกับที่พักได้

(แต่สำหรับเรา นั้งจิบเบาๆ ชิวๆก็พอแล้ว)

ส่วนตอนเช้าใครจะรับประทานอาหารเช้า....ที่นี่ก็มีจัดไว้ให้เช่นกัน

เป็นบุฟเฟห์อเมริกันเบรคฟาสต์ หัวละ 100 บาทเท่านั้น...

วิวระเบียงด้านบน...มองไปรอบๆ ดูสดชื่นไปด้วยป่า..และไม้หลากหลายพันธุ์

มุมรับประทานอาหารอีกมุมครับ... ด้านล่างมองไปเห็นลำธาร

หรือใครที่ชอบอ่านหนังสือ...มุมนี้ก็เป็นอีกมุมนึงที่น่าสนใจไม่แพ้กัน.

ใครจะปิ้งย่าง แฮงค์เอ้า ก็มุมนี้เลยครับ จะบาบีคิวก็ดี จะซีฟู๊ดก็ได้...

ซึ่งแน่นอน...คืนนี้เราขอยึดพื้นที่ตรงนี้ครับ..หลังจากภาพนี้ คืนนั้นผมก็ไม่ได้จับกล้องอีกเลย ฮ่าๆ ยันเช้า..

หลังจากปาร์ตี้จบลง แฮงค์เอ้ากันเรียบร้อย นอนเอนกายสบายในบ้านดิน...

ก็ได้เวลาตื่นแต่เช้ามาเล่นน้ำก่อนกลับบ้านครับ

มีหมาน้อยเป็นองครักษ์คอยเดินตามไม่ห่าง..เนื่องจากเมื่อคืนได้กินไก่ไปหลายชิ้น ฮ่าๆ

ลานกางเต็นท์ติดแม่น้ำครับ ชิวไปอีกแบบ แถมมีก่อกองไฟไว้ให้คลายหนาวด้วย ซึ่งตอนกลางคืนหนาวมากและมีหมอก ซึ่งพอเที่ยงคืน...ก็มีหมอกให้เราได้สัมผัสแล้วครับ...ควันออกปากกันเลยทีเดียว

คนที่นอนเต็นท์ด่านล่าง ก็มีห้องน้ำเช่นกัน ไม่ต้องเดินไปขึ้นข้างบนให้เหนื่อย...(หลังสีชมพู)

ถึงเวลาที่เราจะต้องมานั้งชิว รับลมชมวิว เล่นน้ำตกกันแล้วหล่ะครับ.....

น้ำใสและเย็นสดชื่น มีปลาน้อยใหญ่ว่ายกันเต็มไปหมด โดยไม่กลัวเราเลยซักนิด...

ไม่ต้องไปถึงน้ำตกป่าละอู ที่นี่ก็ฟินไม่แพ้กัน...

ความรู้สึกเหมือนยกน้ำตกป่าละอูมาย่อขนาดไว้..

มีวิดีโอสั้นๆ...บรรยายให้เห็นถึงความสดชื่นและก็ความชิวครับ...

มิชิงช้ากลางน้ำให้เราได้นั้งแกว่งขา..แช่เท้าให้ปลาตอดเล่น...

อากาศดี น้ำเย็น จนขออยู่ต่ออีกคืนได้ไม๊...(เล่นกันจนตัวเปื่อย)

และแล้วก็ต้องเก็บข้าวของกลับบ้านเรา....

ระหว่างทางกลับ...ก็แวะวัดห้วยมงคล สักการะหลวงปู่ทวด ขอโชคอำนวยอวยพรชัย

สบายกายแล้ว ใจต้องสบายตามมาด้วย....

คนเยอะพอสมควร แต่สายบุญอย่างเราไม่ใช่ปัญหา...

ถ้าถามว่ามา บ้านดินห้วยผึ้ง แล้วได้อะไร.....

อย่างแรกเลยครับ ความชิว ชิวตั้งแต่ขับรถมา ซึ่งพอขับเข้ามาในอุทยาน ระหว่างทางคุณจะเจอแต่ป่า มองไปก็มีแต่เขา(แล้วเราหล่ะ แฮร่!!) อากาศดี ยิ่งถ้าฝนตกยิ่งชิว.... ขับมาไม่เบื่อเลย แถมดีไม่ดีได้เห็นช้างป่า(แอบอันตรายนิดๆ) อีกด้วย

ยิ่งพอถึงที่พัก..เหมือนทุกอย่างมันหยุดนิ่ง ทุกอย่างเงียบสงบ มีแต่เสียงนก กับเสียงใบไม้สีกัน...

ชอบช่วงกลางคืนมาก อากาศเย็น ยิ่งดึกยิ่งหนาว ยิ่งดึกยิ่งมีหมอก ผมแทบอยากจะแก้ผ้ากินเ..ียร์ แบบกวนมึนโฮ ท้าลมหนาว

และแน่นอนครับ เต็นท์ที่เช่าไว้ก็ไม่ได้นอนเพราะมันหนาวมาก...

แต่พอได้เข้าไปในบ้านดิน โอ้วววว นี่มันสวรรค์ชัดๆ อุ่นๆ นอนหลับสบาย...

ตื่่นเช้ามาเล่นน้ำตก...ฟินระดับสิบ.... มันทำให้วันหยุดที่แสนสั้นมีความหมาย...

ความเหนื่อยจากงานโดนโยนทิ้งลงน้ำจนหมด....

ไม่ต้องไปไกลถึงเชียงใหม่หรอกครับ...

ไปประจวบ....เราก็นอนบ้านดินได้

ไปประจวบ....เราก็สัมผัสลมหนาวได้

ไปประจวบ....เราก็ปะทะไอหมอกได้...