Contact and Follow me at Facebook Fan Page or Govivigo Blog
ความสุดขั้วของทริปนี้คือการเช่ารถมอไซด์ขับตะลอนๆ สมบุกสมบัน ไปทั่วเชียงใหม่ ขึ้นดอย ลงเขา ไหนจะไปเดินป่าระยะสั้นที่แม่กำปอง กิจกรรมแอดเวนเจอร์ตลอด 2 วันที่มาถึงเชียงใหม่ ในวันสุดท้ายของการลางานมาเที่ยวแพนเลยปิดท้ายทริปกับที่นี่ Brique Hotel โรงแรมระดับ 4 ดาวที่เพิ่งก่อตั้งได้ประมาณปีกว่าๆที่เชียงใหม่นี้ ถามว่าที่นี่มีอะไรให้แพนต้องเอามาเล่าให้ฟัง
Brique Hotel Chiangmai .....
ต้องเกริ่นก่อนนะว่าปกติแพนเป็นคนที่เวลาไปเที่ยวในที่ต่างๆนี่จะไม่ค่อยพักโรงแรมเท่าไหร่ ชอบพวกบ้านเป็นหลังๆ โฮมสเตย์ อะไรแบบนั้นมากกว่า เพราะจะชอบอะไรที่ดูเป็นกันเอง ไม่มีกฏระเบียบอะไรเยอะ แต่พอมาเจอที่นี่นะคือแบบประทับใจมากอ่าาาาาาาาา โคตรจะชิล พนักงานแต่ละคนน่ารักมาก ลืมความรู้สึกของการเป็นโรงแรมไปเลย แล้วแบบยอมใจสถาปนิกกับอินทีเรียมากเลยบอกตรงๆ เค้าตกแต่งโรงแรมนี้ให้มันดูสวย คือถ่ายรูปมายังไงก็ดูดีอะบอกเลย ไม่เชื่อเดี๋ยวจะพาเข้าไปดู
ไม่มีไรมากแค่เดินเข้าประตูมาก็จะเจอล็อบบี้ที่มีการตกแต่งให้ดูร่วมสมัยนิดๆ ใช้สีโทนอบอุ่น เป็นส่วนที่เราใช้นั่งรอเช็คอิน เช็คเอาท์ที่สามารถหยิบกล้องมาถ่ายรูปเล่นก็ได้รูปสวยหลายใบเลยล่ะแพนว่า
แล้วอีกอย่างนะมุมนี้เค้ามีบริการคอมฯใช้บริการได้ฟรี มีอินเตอร์เน็ตพร้อม พูดถึงเน็ตนะถ้ามาใช้บริการโรงแรมนี้ไม่ต้องกลัวเน็ตหลุดเน็ตขาดเลยล่ะ ไวไฟเค้าทั่วถึงเว่อร์ แพนก็เดินทั่วโรงแรมนะมีสัญญาณถึงทุกมุม ฮร่า สายโซเชียลไม่ต้องกลัวขาดการติดต่อเด้ออออ
ไปดูห้องนอนกัน!
สำหรับห้องนอนของ Brique Hotel จะมีอยู่หลายแบบนะคะอย่างที่แพนไปพักจะเป็นห้อง Deluxe premier มาดูกันค่ะว่าห้องนี้มีอะไรบ้างนอกจากเตียงนอน
มุมทำงานที่ตอนแพนถ่ายคือสวยมากดูสะอาดตาน่านั่งเชียวแต่พอถ่ายเสร็จเท่านั้นแหละ เหอะๆๆๆ มิอยากจะกล่าวถึง
ภายในห้องพักเค้าก็จะมีมุมชา กาแฟบริการนะคะถ้าอยากดื่มอยากกินอะไรนอกเหนือจากนี้ก็มีเหมือนกันแต่ต้องจ่ายตังค์เอาล่ะเนาะ
ห้องน้ำจะเป็นแบบฝักบัวนะคะ สะอาดน่านอนไปอีก มีแชมพู ครีมนวด สบู่ ผ้าเช็ดตัว บลาๆๆๆๆ ของใช้ในห้องน้ำนั่นแหละค่ะ เค้ามีให้
ที่ชอบอีกอย่างของห้องนอนนี้คือมันถ่ายรูปสวยแหะ แหะ ก็จัดไปหลายภาพทีเดียว ดูมีความละมุนฟรุ้งฟริ้งมั้ยล่ะ อาจเป็นเพราะสีขาวของที่นอนกับลายวอเปเปอร์ไม้สีน้ำตาลอ่อนมันเลยทำให้ภาพดูละมุนละม่อมรึเปล่าก็ไม่รู้นะ
มีระเบียงพร้อมวิวทะเลสาปสวยๆให้ดูเพลินๆด้วยนะ หรือถ้าใครอยากได้วิวสระน้ำ วิวภูเขาก็มีเหมือนกันพอดีของแพนเอาห้องเป็นวิวทะเลสาปแล้วก็เห็นดอยสุเทพไกลๆโน่น
อโรม่าสปา เคลิ้มกว่านี้ไม่มีแล้ว
ตอนกำลังโดนนวดนี่แพนไม่ได้ถ่ายอะไรไว้นะแต่พอสบายตัวแล้วเลยได้ขอพนักงานเดินเก็บภาพห้องต่างๆเดี๋ยวพาดูห้องอื่นในสปาค่ะ
สปาของโรงแรมนี้ขึ้นชื่อเรื่องความเป็นส่วนตัวค่ะ มีทั้งห้องเดี่ยว ห้องคู่ แล้วก็ห้องรวมสำหรับการนวดแผนไทยหรือนวดเท้าที่ไม่ต้องมีการถอดเสื้อผ้า ส่วนของแพนเลือกเป็นการนวดปรับธาตุ ทางหมอนวดเค้าจะถามวันเกิดแพนก่อน แล้วก็จะเลือกน้ำมันอโรม่าที่ใช้ปรับธาตุกับราศีของแพนมานวดให้
นี่เป็นกลิ่นอโรม่าทั้งหมด 4 กลิ่น หมอนวดเอามาให้เลือกค่ะ ถ้าใครนวดอโรม่าแบบอื่นก็จะต้องมาเลือกกลิ่นที่ชอบก่อน แพนจะบอกว่าหอมทุกกลิ่นเลยอยากได้ซะทุกกลิ่น ฮร่า
แล้วพอนวดเสร็จจะมีน้ำตะไคร้หอมๆ กับผลไม้อบแห้งเป็นเซ็ทมาให้ทานค่ะ น่ารักดีแพนเลยหยิบลูกสาวไปนั่งถ่ายรูป มีความเก๋ไก๋นะลูกกกกก
ว่ายน้ำป๋อมแป๋มกับน้องหงษ์เป็ด
อากาศดีๆมีความอยากอาตัวฟาดน้ำ ก็อยากอวดมุมนี้เว่อร์ๆ น้ำใสน่าเล่นมากกกกกกกกกก แล้วก็น่าถ่ายรูปมากเช่นกัน นี่ถ้าเราลงมาช่งสายๆหน่อยจะยังไม่ค่อยมีคนมาเล่นน้ำ มันก็จะเหมือนเป็นสระส่วนตัวเลยล่ะ
ถ้าเล่นน้ำจนหิวก็เขยิบขึ้นมาอีกนิดนะคะ เป็นห้องอาหารจะสั่งจัดหนักกินจนอิ่มหรืออยากได้แค่น้ำปั่นหวานๆก็เอาตามชอบเลยนะจ๊ะ
ห้องอาหารในส่วนนี้ตอนเช้าก็จะเป็นที่ทานอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ด้วยนะคะ มีทั้งข้าวต้ม อาหารไทย อาหารฝรั่งเลือกตักกันไม่อั้น เราเลือกตักได้ตามชอบ แล้วจะเอามานั่งทานด้านนอกชมวิวทะเลสาป วิวสระว่ายน้ำ หรือจะนั่งด้านในห้องแอร์ก็ได้แพนเอาบรรยากาศมาให้ดูนะคะ
มุมโปรด โคตรเลิฟ (Vento bar)
ทั้งหมดทั้งมวลในโรงแรมนี้ แพนชอบที่นี่สุดแล้วล่ะ สิงอยู่ทั้งกลางวัน กลางคืน นั่งทำงานไปมองทะเลสาปกับสีสันค่ำคืนของเมืองเชียงใหม่ไป ยอดดอยสุเทพไกลลิบๆ ลมเย็นๆ โอ้ยยยย ฟิน
อาหารของที่นี่ก็จะมีหลายแนวค่ะ มีโปรโมชั่นด้วยแล้วแต่ช่วง อย่างเมนูที่แพนสั่งข้างล่างนี้ก็จะขายเป็นเซ็ทคู่กับน้ำอัดลม สารภาพตามตรงนะแพนจำชื่ออาหารไม่ได้ แฮร่...... แต่เป็นเบอร์เกอร์อันใหญ่ยักษ์ที่กินกัน 2 คน ยังจุกเลย
ถ้าแวะมานั่ง Vento bar ตอนช่วงค่ำๆมันก็จะได้บรรยากาศแนวนี้เลยค่ะ ช่วงวันที่แพนไปคนไม่ค่อยพลุกพล่านมากได้ความส่วนตัวดี
พอเช้ามาหน่อยกลับไปที่ Vento bar คราวนี้เป็นเวลาก็การชมวิวเมืองพร้อมจอบกาแฟร้อนๆค่ะ อากศไม่ร้อนด้วย แพนเปื่อยๆอยู่ที่บาร์นี้หลายชั่วโมงเลย
มีความน่ารักอีกอย่างของกาแฟนี่ที่เพราะเป็น coffee print จร้า เราสามารถเอารูปในโทรศัพท์เราส่งให้พนักงานนำไปปริ๊นลงฟองนมบนแก้วกาแฟได้
ปริ๊นได้ทั้งภาพสี ภาพเขา-ดำ ภาพสีซีเปียร์ แล้วแต่เราสั่งเลยค่ะ ใช้เวลาไม่นานก็จะได้กาแฟเก๋ๆไว้ถ่ายรูปแล้ว
นอกจากกาแฟก็จะมีอาหารอื่นๆอีก แพนเลือกสั่งแต่ fusion food เพราะดูน่าสนใจดี อย่างสเต็กราดน้ำฮังเล ใส้อั่วบอล น้ำพริกหนุ่มสติ๊ก บลาๆๆๆๆ แล้วก็มีอีกหลายอย่างที่น่าลอง แพนว่าถ้าใครเผลอมาอ่านตอนนี้ต้องหิวแน่ๆเลย
สรุปการได้มาพักที่ Brique Hotel Chiangmai ของแพนคราวนี้ ถือว่าคุ้มแลเวค่ะ มันกลายเป็นทริปสุดขั้วอย่างที่แพนเกริ่นตอนต้นจริงๆด้วย ลุยมาตั้งหลายวัน วันสุดท้ายปิดฉากเชียงใหม่ได้ไฮโซ โก้เก๋ซะไม่มี สำหรับคนที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้แพนก็ขอบคุณมากนะคะ ไว้วันหลังแพนจะมาเมาท์ให่ฟังใหม่เด้ออออออออ
...................................บ๊าย บาย................
การเดินทาง
รถส่วนตัว : ถ้ามาจาก ถ.ห้วยแก้ว ด้านหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ให้วิ่งตรงเข้าเมือง เมื่อถึงสี่แยกรินคำให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนซุปเปอร์ไฮเวย์(เชียงใหม่-ลำปาง)ตรงไปจนถึงเซ็นทรัลเฟสติวัลแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยข้างเซ็นทรัล ถนนเชียงใหม่-ดอยสะเก็ต ตรงไปเรื่อยๆจนเจอที่กลับรถ กลับรถแล้วตรงมาเลี้ยวเข้า ซอยเชียงใหม่บิสสิเนสพาร์คซอย 2 ตรงมาเรื่อยๆไม่ไกลมาโรงแรมจะอยู่ขวามือค่ะ
แต่ถ้ามาจากถนนสายหลักจากลำปาง มุ่งหน้าเข้าเชียงใหม่ด้วยถนนซูเปอร์ไฮเวย์(เชียงใหม่-ลำปาง) จนถึงแยกศาลเด็กหรือแยกตรงเซ็นทรัลเฟสติวัลนั่นแหละค่ะ เลี้ยวขวาเข้าซอยข้างเซ็นทรัลเลยแล้วก็ไปต่อเหมือนข้างบนนะจ๊ะ
รถโดยสาร : สามารถนั่งรถทัวร์ รถไฟ เครื่องบินมาลงยังตัวเมืองเชียงใหม่แล้วติดต่อให้ทางโรงแรมนำรถไปรับได้ หรือจะเช่ารถขับเองแล้วดูการเดินทางมายังโรงแรมตามด้านบนนะคะ
**** special เฉพาะคนที่ได้อ่านบทความนี้
แพนจะมีกิจกรรม แจกที่พัก Brique Hotel Chiangmai ฟรี ที่ เพจ " ไปก่อนตาย I'm traveler " ถ้าสนใจก็ติดตามได้นะคะ
ข้อมูลติดต่อ Brique Hotel Chiangmai
138 Moo.5 T.Nongpakhrang, Mueang Chiangmai 50000, Thailand
Tel: +66(0) 52 012 555, Fax: +66(0) 52 012 556
ขอบคุณภาพบางส่วนจาก หมูโอ๊ตตตตตตตต https://www.facebook.com/muoatphoto/
MEEpanda
วันจันทร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2560 เวลา 18.12 น.