หนีความวุ่นวายในเมืองกรุง มาลองสัมผัสชีวิตที่เรียบง่ายไร้ควันพิษ นอนหลับบนเตียงออแกนิค ตื่นเช้ามาเก็บผัก ให้อาหารไก่ ปั่นจักรยานเล่น กลางคืนนอนแช่น้ำอุ่น นอนดูดาว ⭐️ กลางอากาศหนาว 17 องศา มีใครบ้างจะไม่ติดใจชีวิตที่เรียบง่ายขนาดนี้

วันนี้เกรซ จากเพจลาลัลล้า จะมาแนะนำที่พักแนว Farmstay ที่จะทำให้คุณได้สัมผัสชีวิตพอเพียง เรียบง่าย และใกล้ชิดธรรมชาติ รับรองว่ามาเที่ยวช่วงอากาศหนาวๆ แบบนี้ฟินแน่นอนค่ะ

ที่นี่คือ CoolLiving Farmhouse , วังน้ำเขียว

จุดเด่นของที่นี่เลยคือ ความเป็นออแกนิค ซึ่งขอบอกว่าเค้าคงConceptนี้ได้ดีมาก เพราะว่าตั้งแต่อาหาร ยันที่พักเรียกได้ว่าปลอดภัยไร้สารเคมีทำร้ายสุขภาพเราเลย แถมที่นี่ยังมีกิจกรรมให้ทำอีกมากมาย มาดูกันต่อเลยว่าที่นี่จะสวย และน่ามาเที่ยวขนาดไหน

เริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยผักออแกนิคมากมาย พร้อมกับอากาศหนาว จะบอกว่าเกรซโชคดีมากเพราะวันที่เกรซมาอากาศกลับมาเย็นพอดี เลยฟินกันตามๆไป

เรามาเริ่มเก็บผักกันเลยดีกว่าที่นี่เค้าจะมีกิจกรรมเก็บผักกันตอนเช้า เริ่มตั้งแต่ 7.30 นะคะ เค้ามีรองเท้าบูทเตรียมไว้ให้เราก็คว้ามาใส่ หาคู่ที่พอดีแล้ว ลุยกันเลย

โดนใจสายเฮลตี้มากๆ ค่ะ หาทานในกรุงเทพก็ราคาแพง มาที่นี่เก็บสดๆจากต้น แล้วเอามาทานได้เลย ดี๊ดี สนุกด้วยถือว่าเป็นกิจกรรมแปลกใหม่สำหรับตัวเราเองเหมือนกัน แถมได้ความรู้ด้วยนะเพราะจะมีพี่เค้าคอยแนะนำให้ฟัง


ดูสิว่ามันเยอะขนาดไหน เขียวขจี มีหลายสายพันธุ์ให้เราเลือกทานเลยนะคะ เรดโอ๊ค กรีนโอ๊ค เบบี๋คอส และอื่นๆ จะเอาต้นไหนก็ตัดเก็บมาได้เลยค่ะ

ใครที่อยากจะพาครอบครัวมารับรองว่าโดนใจเด็กๆ แน่นอนค่ะ แถมยังได้เรียนรู้เพิ่มพัฒนาการให้เด็กๆอีกด้วยนะ ถือว่าดีมากเลยค่ะ

เก็บเสร็จแล้วเราก็จะนำไปทานกัน ข้างๆ เป็นโซนห้องอาหารเปิดหน้าต่างรับลมตอนเช้า พร้อมสูดดมกริ่นธรรมชาติที่หาได้ยากในเมืองกรุง ความรู้สึกนี้มันดีมากจริงๆ เนอะ

ที่นั่งในห้องอาหารน่ารักมาก ดูอบอุ่นสุดๆ

อาหารเช้าพร้อมมีให้เลือกหลายอย่างอยู่นะคะ เป็นบุฟเพ่ หัวละ 350 บาท ทานได้ไม่อันค่ะ อาหารที่นี่ก็จะเน้นวัตถุดิบจากในสวนค่ะ

อากาศหนาวๆ ยามเช้าแบบนี้ได้ชาร้อนๆ หรือกาแฟสักแก้ว ก็รุ้สึกดีไม่น้อยเลยค่ะ

แยมที่นี่เค้าทำเองนะคะ เป็นแยมมกระเจี๊ยบ และก็แยมเสาวรสมะละกอค่ะ แปลกมากไม่เคยเจอเลย

เริ่มต้นด้วย น้ำผักปั่น เพื่อสุภาพที่ดี ยกทีเดียวหมดแก้วเลยค่ะ ได้กลิ่นผักเต็มๆ 555

หน้าตาผักที่เราเก็บมา เอามาให้เค้าล้างให้ค่ะ ส่วนใครที่ไม่อยากเก็บผักที่นี่เค้าก็มีผักสลัดเตรียมไว้ให้นะ

เช้านี้มี 4 เมนูด้วยกัน ไข่ดาว ไข่คน ไข่ม้วน ทานคู่กับหมูยอคืออร่อยมากค่ะ และก็ต้มด้วยข้าวต้มร้อนๆ ให้หายหนาว ช่วยได้เยอะเลยค่ะ รสชาติอาหารเหมือนได้ทานข้าวฝีมือแม่เลยค่ะ

ทานข้าวเสร็จแล้วอย่าเพิ่งนอนต่อนะ มาปั่นจักรยานชมสวนกัน ออกกำลังกายยามเช้ารับอากาศที่บริสุทธิ์กัน

ใหญ่มากค่ะ แอบเหนื่อยเลย


ปั่นมาทำกิจกรรมที่ 2 กัน คือการปลูกผัก เราตัดไปแล้ว มาปลูกกันบ้างดีกว่า

ใครที่มากับแฟนก็จะมีโมเม้นสวีทๆ แบบนี้แหละเนอะ


ลงเม็ดเรียบร้อยก็จะเอามาใส่ใน โรงเพาะนิสัย เพื่อรอให้โตและค่อยเตรียมนำไปลงดินกัน ใช่เวลาประมาณ 15 วันก็ได้ทานพักสดๆ ละค่ะ

มาต่อกิจกรรมที่ 3 กับการให้อาหารไก่กัน ถือว่าเป็นประสบการณ์ใหม่เลย เราสามารถให้กับมือได้ด้วย โดนจิกที่มือเลยไม่เจ็บนะ สนุกดี

ในสวนเค้าจะมีปลูกเสาวรสไว้ด้วยนะ ลูกใหญ่น่าทานมาก

ปั่นจักรยานมาเหนื่อยๆ หันไปเห็นศาลาขอขึ้นไปนอนพัก รับลมเย็นๆ ให้หายเหนื่อยกันหน่อย

มาถึงที่พักกันบ้าง ที่นี่จะมีห้อง วิลล่าทั้งหมด 6 ห้อง และห้องแถวอีก 5 ห้องแต่ละห้องก็จะตบแต่งคล้ายๆ กัน

อันนี้เป็นห้องแถว ที่มี 5 ห้อง ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2,200บาทค่ะ

นี่คือโฉมหน้าวิลล่าที่เราพัก ห้อง1 นะคะ ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 3,900บาทค่ะ ด้านหน้าของทุกวิลล่าจะมีสระน้ำไว้ให้เล่น แต่ครั้งนี้ขอผ่านนะ เพราะอากาศเย็น หนาวเด้ออ สระที่นี่เป็นสระน้ำจะน้ำบาดาลนะ แต่สะอาด มั่นใจได้ มันอาจจะไม่ได้ใส่แบบใส่คอลีนแต่มั่นใจได้ว่าไม่ทำร้ายร่างกายเราแน่นอน ธรรมชาติ 100%

ภายในห้องก็จะดูอบอุ่นๆ เพราะตบแต่งด้วยไม้ หมอนเตียงนอนก็ธรรมชาติ เตียงที่นี่อาจจะไม่นุ่มเหมือน โรงเเรม 5 ดาว แต่ก็หลับสบายไม่ตื่นเลยนะ


โซฟาสำหรับใครที่อยากนั่งอ่านหนังสือ ชิวๆ


ห้องพักวิลล่ามีหรือจะธรรมดา มีอ่างอาบน้ำให้ด้วยนะคะ เกรซทดลองดูแล้วเมื่อคืน นอนเเช่น้ำอุ่น กลางอากาศที่หนาวแบบนี้ มันฟิน Happyที่สุดของที่สุดเลยค่ะ

ออแกนิคขนาดไหน ขนาดทิชชู่ที่ให้ยังเป็นสีน้ำตาลไม่ใช่สีขาวที่โดนฟอกสีเลยนะ

ยาสระผมก็เป็นยาสระผมมะกูดที่เค้าทำเอง

ช่วงกลางวัลก็ขอทิ้งตัวลงนอนกินดื่มด้ำกับบรรยากาศสักหน่อย

นอนดูวิวสีเขียว เปิดหน้าตารับลมเย็นๆ นอนบนเตียงนุ่มๆ หลับสิคะ จะเหลือหรอ


ถึงเวลาของมื้อเย็นแล้ว บุฟเฟ่ตามเคยกินได้ตามใจจนกว่าจะจุก เมนูก็บ้านๆ แต่อร่อยทั้งนั้นเลย สเต็กปลาทูย่าง แกจืดหมูสับไข่น้ำ ผัดผัดน้ำมันหอย ที่เด็ดคือ น้ำพริกปลาทูน่าทานกับผัก อร่อยมากค่ะ


ก่อนกลับตรงบริเวณห้องอาหาร เค้าก็จะมีสินค้าออกแกนิคขายนะคะ พวกครีมบำรุงผิดหน้า ลิปสติก ครีมกันแดด สเปร์กันไรฝุ่น ของพวกนี้ก็ไม่หลุดConcept ความเป็นออแกนิคแน่นอนค่ะ ยี่ห้อ CoolLiving เห็นว่ามีขายที่กรุงเทพด้วยมีหลายสาขาเลยนะ

และนี้คือความประหลายของที่นี่ ในมือเกรซคือ มะละกินะ แต่ที่ประหลาดคือมันเป็นวงกลม แปลกมากเลยขอแชะภาพคู่มาอวดแม่ที่บ้านหน่อย

และนี้คือพี่บัว ผู้ให้ความรู้ต่างๆ พาไปทำกิจกรรม และยังดูแลเป็นอย่างดี น่ารักมากค่ะ

ก่อนกลับก็ยังไม่ลืมที่จะขอถ่ายภาพความประทับใจนี้กับพี่ทัสและพี่บุ่ม ที่ดูแล และทำกับข้าวแสนอร่อยให้เกรซทาน ประทับใจมากค่ะ

สำหรับการมาเที่ยว วังน้ำเขียวครั้งนี้ การเดินทางเพียง 3-4 ชม จากกรุงเทพเท่านั้นก็ได้สัมผัสพบวิถีชีวิตที่เรียบง่าย และความเป็นธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์แล้ว และดีใจมากที่ได้มาพักที่ Coolliving Farmhouse คือเป็นความรู้สึกที่หาที่กรุงเทพไม่ได้ แถมที่นี่ยังเป็นที่ถ่ายหนังของหนังเรื่อง Homestayหนีรักไปพักใจ อีกด้วยนะ

หนาวนี้ใครที่กำลังมองหาที่พักเพื่อสัมผัสธรรมชาติจริงๆ ต้องมาที่นี่เลยค่ะ coolliving farmhouse อยู่แล้วเย็นสบาย ได้พักผ่อนจริงๆ มีให้เลือกพักแบบวิวล่า และแบบห้องแถวค่ะ มาแบบคู่รักหรือครอบครัวก็มีความสุขแน่นอนค่ะ กิจกรรมเพียบ

📍 CoolLiving Farmhouse ,วังน้ำเขียว
💰 เริ่มต้นเพียง 2,200 บาท
📞 096-963-5655 ,Line : coolliving

FB : CoolLivingFarmhouse

----------

[ใครชอบลาไปเที่ยว] ไปกิน ไปลัลล้า กดติดตามเพจ ลาลัลล้า
https://www.facebook.com/Lalunlaa/

----------






ลาลัลล้า

 วันอาทิตย์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2560 เวลา 13.52 น.

ความคิดเห็น