เคยได้ยินมั้ย...ว่า???

หลงทาง อาจเสียเวลา

หลงสบตา อาจเสียการทรงตัว



เดี๋ยวๆๆ

เกี่ยวรายกับรีวิว

ตอบได้เลยว่า ไม่ ฮ่าๆๆ



เก๊าก็แค่อยากเล่นอ่า



ป่ะๆๆ เข้าเรื่องกันดีกว่า

เอ๊ะ

เอ๊ะ

สงสัยใช่มั้ยว่าทำไมต้องตั้งชื่อว่า หลงกรุงฯ

ผมตอบอย่างมั่นใจเลยว่า ไม่รู้ 5555

แต่ที่แน่ๆ เวลาผมไปกรุงเทพทีไร ชอบหลงทุกที หลงตลอดตลอด

แต่มาครั้งนี้

นอกจากจะหลงทางแล้ว

ยังหลงเสน่ห์เมืองกรุงอีกด้วย



หลายคนสงสัยว่าหลงเสน่ห์ได้ยังไง โดนของใช่ม๊ะ ม่ายช่ายสิ 5555

รถก็ติด คนก็วุ่นวาย ทำอะไรก็ต้องเร่งรีบ มีเสน่ห์ตรงไหนเนี่ย

นั่นสิมีเสน่ห์ตรงไหน

ถ้าคุณอ่านรีวิวนี้ แล้วจินตนาการไปเที่ยวพร้อมกับผม แล้วคุณจะรู้ว่ามันมีเสน่ห์มากจริงๆ



จุดศูนย์กลางการเดินทาง คือ ถนนข้าวสาร



นอกจากถนนข้าวสารแล้ว นอกจาก ฝรั่งเอย อาตี๋ อาหมวย เอย แล้วมีอะไรเด็ดๆ อีกบ้างน้าา



อย่ารอช้าอยู่ไย

มามะ

มามะ



พร้อมยัง

พร้อมที่จะไปหลงกรุง กับผมแล้วหรือยัง

ถ้าพร้อมแล้ว

ก็ให้แม่มาขอ เดี๋ยวๆๆ ไม่ใช่ละ ฮาๆๆ

ถ้าพร้อมแล้ว ก็ไปหลงกรุง กันเลย

หลงกรุง01

ไหว้พระขอพรที่ "วัดชนะสงคราม"

อิ่มบุญ รับพรแล้ว

มีแรงกาย แรงใจ แล้วเปิด GPS มุ่งหน้าไปจุดต่อไปกันเลย

หลงกรุง02

เปิด GPS แล้ว ก็เดินตามมาเลย

ถามว่ายังหลงมั้ย ก็หลงบ้าง

แต่ต้องมีสติตลอด ตลอด

เดินตาม GPS มาเรื่อยๆ

ก็มาถึง "ป้อมพระสุเมรุ"

พร้อมแล้วเดินข้ามถนนไปพร้อมกับหนุ่มแดนอาทิตย์อุทัยธานี กันเลยดีกว่า ถามว่ารู้ได้ไงว่าเป็นคนญี่ปุ่น ไม่รู้5555 ดูจากหน้าตาเค้าเอาก็แล้วกัน 5555

ข้ามฝั่งมาแล้ว และนี่ก็คือ "ป้อมพระสุเมรุ"



ป้อมพระสุเมรุ สร้างมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1

มีลักษณะสวยงาม และเป็นประโยชน์ใช้สอยมากมาย มีเชิงเทิน ช่องยิงปืน ห้องเก็บกระสุนดินดำ และอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ มากมาย



(ขอบคุณข้อมูลจาก WIKIPEDIA)

นี่เป็น พระที่นั่งสันติชัยปราการ ซึ่งตั้งอยู่ริมน้ำ

ใช้เป็นสถานที่ประกอบงานพระราชพิธีทางกระบวนพยุหยาตราทางชลมารค

ปัจจุบันพระที่นั่งองค์นี้อยู่ในการดูแลของทางกรมศิลปากร

และยังสามารถชมวิวสะพานพระราม 8 ได้อีกด้วย

สวยงามตามท้องเรื่องเลย

บริเวณในสวนสันติชัยปราการ ยังสามารถนั่งพักผ่อนหย่อนใจได้อีกด้วย



นั่งคุยอะไรกันน้า

กินข้าวกันเพลินเลยนะเจ้านกนกนก

ยิ้มหน่อยสิเจ้าเหมียว

ที่ไหนมีดอกไม้ ที่นั่นย่อมสวยงามเสมอ จริงๆนะ

หลงกรุง03

จากป้อมพระสุเมรุ ก็ดินมาอีกนิด ก็จะถีง

"พิพิธบางลำพู"



ใครพอมีเวลาสามารถแวะเข้าไปชมได้นะครับผม

"พิพิธบางลำพู"

หลงกรุง04

เดินไปเดินมา มองดูนาฬิกา อื้อหือ บ่ายโมงแล้วนี่ว้า หิวซิครับ หิวๆๆ



ถ้ามาย่านนี้ ไม่แวะร้านนี้ไม่ได้ เพราะมันเด็ดมากจริงๆ

"ร้านพัวกี่ เย็นตาโฟ"

เย็นตาโฟรสจัดมาก กินเสร็จ น้ำหู น้ำตา ไหลกันเลยทีเดียว เลยครับ

เป็นไง เห็นพริกนั้นมั้ย

บรรยากาศร้าน ชิคๆ มาก

หลงกรุง05

กินของคาวแล้ว ก็ต้องกินของหวานต่อ

เดินไปอีกนิดก็มาถึงร้านหนมเบื้องเจ้าเด็ด เจ้าดัง

นั่นก็คือ "ร้านหนมเบื้องแม่ประภา"

ราคาชิ้นละ 12 บาท

มีทั้งรสหวาน รสเค็ม

ถามว่าอร่อยมั้ย อร่อยมาก

นั่งพิมพ์อยู่ตอนนี้ ดูรูปไป น้ำลายไหลไป



เด็ดมากจริงๆ บอกเลย

ดูรูปสิ ว่ามันเด็ดมากจริงๆ ต้องลองนะ แล้วจะติดใจ

หนังท้องตึง หนังตาเริ่มหย่อน แต่นอนไม่ด้าย เพราะอยู่กลางถนน 5555 มันจะไม่ดีเอานะ

STREET ART กลางกรุงฯ

ชีวิตกลางกรุงฯ

กินด้วยได้มั้ย เจ้านก

เค้าเล่นรายกันน้าาา

ตาย

ตาย

ตาย

เห็นแบบนี้ตายซิครับ

มดเดินตามกันเป็นแถวเลย

อิจฉามากบอกเลยครับ



ชีวิตที่ต้องเดินต่อไป

หลงกรุง06

เดินไปเดินมา

ก็วนกลับมาแถวๆ "ถนนข้าวสาร" แล้วนะครับ จะพาไปของเด็ด

แค่มองไกลๆ กลุ่มนี้ ก็เด็ดมากแล้วน้าา เห็นแล้วฟิน สาวเกาหลีน่ารักจุง

หล่อไปมั้ยครับ พ่อหนุ่ม

สาวๆบ้าง

มาหล่ออีกแล้ว

และนี้หนุ่มน้อยของเรา น่ารักมากๆๆ

สาวน้อย ก็น่ารัก

แล้วๆๆๆ สาวคนนี้ก็น่ารัก แต่รักไม่ได้

พระอาทิตย์เริ่มตก

ท้องก็เริ่มหิวอีกแล้ว

และนี้ดูอาหารที่ทางโรงเเรมจัดไว้ให้ กรุ๊ปทัวร์นะ ไม่ใช่จัดไว้ให้เรา 555

ถ่ายรูปไปชิวๆ ไม่เเคร์ครับ เดี๋ยวรออาหารของเราที่ทางโรงแรมจัดไว้ให้ดีกว่า เด็ดกว่าแน่นอน

เดินถ่ายรูปชิวๆ ไปเรื่อยๆ ระหว่างรออาหาร

บาร์ของทางโรงแรม

มาแล้ว

มาแล้ว

อาหารของเรามาแล้ว

อย่าถามว่ามันชื่ออะไร

เก๊าจำไม่ได้จริงๆ ชื่อยาวมากๆ

จำได้แค่ พอคๆ เนี่ยแหละ

เรามีหน้าที่กินอย่างเดียว 555

อร่อยมั้ย ตอบเลยว่ามาก

กินอาหารของโรงแรมเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาที่เราต้องเดินชมบรรยากาศยามค่ำคืน ถนนข้าวสารกันดีกว่า

(ชื่อเมนูว่าBBQ GRILLED PORK RIBS ซี่โครงหมูย่างซอสบาร์บีคิวครับผม จนท.โรงแรมบอกมา ฮ่าๆ เขินจุง)



เค้าว่านี้คือของเด็ด ถนนข้าวสาร

อยากชิมมั้ย ตอบเลยว่าไม่

ดูอยู่ห่างๆ ดีกว่า 555

ผัดไทย

ผัดไทย

ผัดไทยเด็ดมากจริงๆ

ขาวด้วย

เรียวด้วย

น่ารักด้วย เดี๋ยวๆ นั่นผัดไทยใช่มั้ย 555



ขออนุญาตผู้หญิงในภาพด้วยนะครับผม ขออนุญาตจริงๆ

อือหื้อ บาบีคิว น่าลองแหะ

เค้ากินรายกันน้าาา

เจอผัดไทยอีกแล้ว

แถวๆ ถนนข้าวสาร จะมีร้าน ผัดไทยเยอะมากๆ แล้วชาวต่างชาติ ชอบกินกันมาก

บรรยากาศยามค่ำคืน

วิถีชีวิตกลางคืน

แรงยังมีก็เดินไปอีก

เดินวนไปอีก

เดินวนไปวนมาแล้วก็ไม่รู้จะไปไหนละ

มานั่งฟังเพลงชิวๆกันต่อที่โรงแรมดีกว่า

เพลินไปอีก

ได้บรรยากาศไปอีก

เครื่องดืมของเราอย่าถามชื่อเลย จำไม่ได้อีกแล้ว

แต่ถ้าจะให้เดา

น่าจะเป็นน้ำขิงผสมน้ำผึ้งมะนาวเปล่า 555 เดานะ

อันนี้อีกอัน

น่าจะเป็นน้ำเสารส ผสมทับทิม แน่นวล 555



เดินมาทั้งวัน

กินมาทั้งวัน

ถ่ายรูปมาทั้งวัน

แล้วมันก็ดึกมากแล้ว

ได้เวลาลับ

เวลานอนแล้ว

ไปนอนก่อนน้า

พรุ่งนี้เช้าเจอกัน

06.00 นาฬิกาปลุกครั้งที่ 1

06.30 นาฬิกาปลุกครั้งที่ 2

07.00 นาฬิกาปลุกครั้งที่ 3



ปลุก 3 ครั้งแล้ว ก็ได้เวลาตื่นจริงๆ แล้ว

ทีแรกว่าจะตื่นลงไปถ่ายอาหารที่ทางโรงแรมจัดก่อนแขกจะลงมากินกัน แต่ถามว่าตื่นมั้ย ตอบเลยว่าไม่จ้า เตียงนุ่มขนาดนี้ใครอยากจะตื่นเร็ว

ดูบรรยากาศยามเช้าสักหน่อย

บรรยากาศในห้องพักครับ

บรรยากาศในห้องพักครับ

ถ้ามากับคนรู้ใจน่าจะฟินน่าดู คิดๆแล้วกลุ้ม แต่ไม่กลุ้มดีกว่า 555

อาบน้ำแต่งตัวลงไปข้างล่างดีฟ่า

ลงมาปุ๊บก็เจออาหารตาแต่เช้าเลย เห็นสาวเกาหลีเสื้อดำ กางเกงยีนเปล่า น่ารักมาก

ดูๆๆ อาหารหน้าโรงแรมสิ

ส้มตำไก่ย่าง ควันโขม่งเลยทีเดียว

ดูๆๆ ออเดิร์ฟ มื้อเช้าของเราสิ เหมือนไข่เจียวใช่มั้ยล่าา ได้ไม่ใช่นะจะ

อย่าถามชื่ออีกเช่นเคย เค้าจำไม่ได้ 555

และนี้คืออาหารที่ทางโรงแรมจัดไว้ให้

ถามว่าอร่อยมั้ยก็ระดับนึงเลยนะ ถ้าคนชอบ แต่ผมคิดว่ามันเลี่ยนไปอ่า หรือว่าเก๊าไม่ชอบกินแบบนี้

ส้มตำ ไก่ย่าง แบบนี้ น่าจะมาถูกทางกว่า 555



ปล.อย่าถามชื่ออีกเช่นเคย

นอกจากอาหารแล้ว

ยังมีมุมขนม อาหารว่างด้วย

เห็นแล้วฟินมาก ไปดู

ไปน้ำลายไหล กันดีกว่า

มาเจอ หนุ่มน้อย สาวน้อย อีกแล้ว น่ารักอีกเช่นเคย

หลงกรุง07

ibis STYLES



อิ่มหน่ำสำราญกันไปแล้ว ได้เวลามาชมบรรยากาศ บริเวณโรงแรมกันครับ

จุดล็อบบี้ของโรมแรม พนักงานเป็นกันเองมากครับ

ยินดีต้อนรับนะครับผม

มีสระว่ายน้ำด้วย

สีสันสวยงาม ตามคอนเช็ปของทางโรงแรม

ทำไมสาวน้อยมานั่งเหงาอะไรคนดียวน้า

หลงกรุง08

นั่งตุ๊กตุ๊ก ชมกรุงฯ



มากรุงเทพ ไม่ได้นั่งตุ๊กตุ๊ก เค้าถือว่ามาไม่ถึงนะครับ

ขับซิ่งมาบอกเลย

มือจับให้แน่น ใจต้องนิ่ง แล้วก็ชมวิวด้านข้าวไปอย่างมั่นคง 555

เห็นอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยแล้ว

หลงกรุง09

นั่งตุ๊กตุ๊กมาเรื่อยๆ ยังเป้าหมายของเรานั่งก็คือ แถวๆ ป้อมมหากาฬ



นี่คือ ลานพลับพลา

หลงกรุง10

วัดราชนัดดา



เห็นพื้นนั้นมั้ย แฉะมากบอกเลย เดินไปเดินมาก็กลัวลื่น 555

หลงกรุง 11

เดินข้ามมาอีกฝั่ง ก็จะเป็น

"ชุมชนป้อมมหากาฬ"

ชุมชนป้อมมหากาฬ เป็นชุมชนที่มีชื่อเสียงทางด้านลิเกโบราณ และเป็นจุดดึงดูด สำหรับผู้ที่ศึกษาในด้านการมีส่วนร่วมของชุมชน ทั้งชาวไทย และต่างประเทศ มักจะเข้ามาสำรวจ และทำวิจัย การมีส่วนร่วมของชุมชน ณ ที่ชุมชนแห่งนี้

ชุมชนป้อมมหากาฬ ตั้งอยู่บริเวณป้อมมหากาฬ โดยป้อมมหากาฬนี้สร้างในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สร้างขึ้นมาเพื่อป้อกันรักษาพระนคร นั่นเอง

ซึ่งปัจจุบันเราจะได้ยินข่าวตามทีวี วิทยุ สื่อหนังสือพิมพ์ หรือสื่อออนไลน์ต่างๆ เรื่องการรื้อถอนบ้านในชุมชน ที่ได้สร้างขึ้นติดกับป้อมมหากาฬ ให้คงเหลือไว้แค่บ้านเก่าแก่ ที่จะอนุรักษ์ต่อไป

ข้อมูลก็พอรู้ไปบ้างแล้ว ข่าวก็เคยดู เคยฟัง เคยอ่านแล้ว แต่ของจริงนั้นยังไม่ได้เห็นกับตา วันนี้แหละ ผมจะพาคุณ คุณ คุณ คุณและเท่านั้น ที่ทำให้ใจผมหยุดเหงา เดี๋ยวๆๆ มาเป็นเพลงเลยนะ เกี่ยวกันมั้ย พูดเลยว่าม่าย ฮาๆๆๆ

วันนี้ผมจะพาคุณ เข้าไปสัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ในปัจจุบันหลังจากที่มีการรื้อถอนบ้านเรือนไปบางส่วน และบริเวณที่รื้อถอนนั้นทางชุมชนเขาเอาไว้ทำไรกัน

ปล่อยทิ้งไว้ว่างๆอย่างนั้น???

หรือจะพัฒนาไปเป็นอย่างอื่น???

วันนี้แหละผมจะพาคุณเข้าไปสัมผัสชุมชนแห่งนี้

พร้อมยัง

พร้อมยัง

พร้อมแล้วก็นอนได้ อะแฮร่ ไม่ใช่สิ

พร้อมแล้วก็ตามมาเข้ามาคร๊าฟผม

บอกตุ๊กๆว่าไปชุมชนป้อมมหากาฬ

ถ้ารถติดก็นานหน่อยนะ แต่ถ้าไม่ติดก็สบายเลย

ขับมาสักพัก ก็มาขึ้นแล้ว

อย่ามัวรอช้า เพราะฟ้าครึ้มฝนมาแย้ว

ป่ะ เข้าไปข้างในกันดีกว่า

สอบถาม ทักทาย แล้วไปสำรวจชุมชนกันดีกว่า

มีจิกกล้องด้วยน้าาา

พนักงานต้อนรับประจำชุมชน สวยเปล่าล่าาา เดี๋ยวๆ มันตัวเมีย รึตัวผู้ ฮาๆ ม่ายรู้จริงๆ



ถ่ายรูปเจ้าแมวน้อยแล้ว เราก็เดินต่อไปเรื่อยๆ ดีกว่า

เดินมาเรื่อยๆ ก็มาถึงบ้านโบราณอีกหลัง

บ้านนี้คือบ้านหมายเลขที่ 99 และบริเวณชั้น 2 ยังเป็นห้องสมุดอีกด้วย

กำลังถ่ายรูปอยู่นั้น จมูกเราก็ได้กลิ่น อะไรสักอย่างที่หอมๆ เราก็รีบเดินตามกลิ่นนั้นไปอย่างรวดเร็ว

และแล้วก็มาถึง นั่นก็คือ ไก่ทอดนั่นเอง

น่าอร่อยมากบอกเลยครับผม

เห็นเปล่า

พิมพ์อยู่ขณะนี้ น้ำลายก็ยังไหลอยู่ครับ

เดินเก็บบรรยากาศไปเรื่อยๆ

ก็วนกลับมาเจอเจ้าแมวอีกแล้ว อยู่กันเป็นคู่เลยทีเดียว

ภายในชุมชน

มีบ้านไม้เก่าไม้มากมายให้ศึกษากัน ที่สำคัญมีข้อมูลบอกไว้ในแต่ละหลัง ว่าความเป็นมายังไง

เดินเล่น เดินถ่ายรูปไปสักพัก

และแล้ว มันก็มาแล้ว

ฝนตกจ้า ชุมฉ่ำกันเลยทีเดียว

แต่ได้บรรยากาศไปอีกแบบนะ ที่สำคัณ แบบเหงาๆ ด้วย 555

ดูบรรยากาศสิ

ฝนตกแค่ไหน เราก็เดินต่อได้ อย่างพระเอก MV

หล่อเบยทีเดียว 555

ถึงจะมีบ้านบางหลังที่ต้องถูกรื้อถอนออกไป แต่พื้นที่นั้นก็ต้องพัฒนาต่อไป

โดยทางชุมชนป้อมมหากาฬ ปรับปรุงพื้นที่ ทำเป็นแปลงพืชผักสวนครัว ขึ้น

ฝนจะตกแค่ไหน เราก็ยังเดินต่อไปเรื่อยๆ

คลองท้ายชุมชน

และนี่เป็นบริเวณที่ทำเป็นสวนสาธารณะของชุมชนขึ้น เห็นวิวด้านหลังนั้นมั้ย นั่นคือวัดภูเขาทอง ผมอยากไปมาก ที่ฝนตกลงมาแรง และเวลาเที่ยวของเราจะหมดแล้วด้วย เสียจาย พลาดเลย

เหงาเนาะ

ฝนก็ตกลงมาเรื่อยๆ

แต่ก็ยังซิ่งได้ 5555

เป็นยังไงบ้าง พิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต ชุมชนป้อมมหากาฬ ณ ปัจจุบัน



ถึงว่าปัจจุบันจะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อก่อนมาก แต่ชีวิตก็ยังต้องดำเนินต่อไป

อนาคตไม่มีใครรู้ว่าจะเป็นอย่างไร แ่ขอให้ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด

ขอเป็นกำลังใจให้กับชุมชร ป้อมมหากาฬ ด้วยนะครับ



สำหรับใครที่ชอบถ่ายรูป แนวชิคๆ คลูๆ ฮิปๆ เตอร์ๆ และที่สำคัญมีเวลาว่างแค่วันเดียว

สามารถแวะเข้าไปเยี่ยมชม ศึกษาวิถีชีวิตคนที่นั่น และคุณจะเข้าใจชุมชนแห่งนี้มากขึ้น



เป็นยังไงกันบ้างครับ

พาเที่ยวกันเต็มที่

พากินกันเต็มอิ่ม

พาหลงกันจนเพลิน



หวังว่าทุกคนจะชอบนะครับ

ในเมืองกรุง เมืองหลวงขนาดใหญ่ ยังมีอะไรให้เราไปค้นหาอยู่อีกเยอะ



"ลองไปสัมผัส แล้วคุณจะรู้สึก"

แบบผมสิครับ



ฝากไลค์

ฝากแชร์

ฝากเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะครับ

ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม

ขอบคุณที่อ่านมาถึงสุดท้ายนี้นะครับ

ขอบคุณมากๆนะครับ



ติดตาม และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

เพจ : วิ ศ ว ะ พ า เ ที่ ย ว

https://web.facebook.com/Widsawaphatiew/

IG : widsawaphatiew

วิ ศ ว ะ พ า เ ที่ ย ว

 วันจันทร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2560 เวลา 19.32 น.

ความคิดเห็น