ถ้าพูดถึงจังหวัดเชียงใหม่ หนาวนี้หลายๆคนคงกำลังหาที่ท่องเที่ยวหรือวางแผนจะไปเที่ยวกันแน่ๆ เชียงใหม่เป็นสถานที่ยอดฮิตสำหรับฤดูการท่องเที่ยวหน้าหนาวนี้ หลายๆคนคงมีสถานที่ท่องเที่ยวที่อยากไปเยอะมากแน่ๆ รีวิวนี้จะมาแนะนำสำหรับคนที่อยากไปเชียงใหม่แต่ไม่รู้จะไปไหนดี ไปไหนบ้าง ผมเลยจะมาแบ่งปันประสบการณ์การเที่ยวเชียงใหม่ของผมมาฝากครับ ข้อมูลคร่าวๆก่อนเริ่ม...

คืนที่ 1 พักที่เชียงดาว >วัดพระธาตุดอยสุเทพ-ดอยปุย-น้ำตกมณฑาธาร-ร้านกาแฟฮิมน้ำ-วัดถ้ำเชียงดาว

คืนที่ 2 พักที่อ่างขาง>พักที่จุดชมวิวม่อนสน-สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง

คืนที่ 3 พักที่ม่อนอิงดาว>น้ำตกแม่สา-สวนพฤษศาสตร์-ม่อนแจ่ม

คืนที่ 4 พักที่แม่กำปอง>วัดพระธาตุดอยคำ-อุทยานหลวงราชพฤกษ์-น้ำพุร้อนสันกำแพง

ทริปนี้เดินทางโดยรถไฟแล้วเช่ามอเตอร์ไซด์เที่ยว

ติดตามการเดินทางของเราได้ที่ https://web.facebook.com/Yhaktiewkortiew/

สำหรับการเดินทางไปเชียงใหม่นั้นมีหลากหลายวิธีมาก ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบิน รถทัวร์ รถไฟ หรือรถส่วนตัวอันนี้ก็แล้วแต่ความสะดวกของแต่ล่ะคน แต่ทริปนี้ผมเลือกการเดินทางโดยรถไฟ เพราะตอนไปมันฟรีครับ 555 แต่ตอนนี้ไม่ฟรีแล้วนะ แง่ๆ ขบวนที่ผมไปนั้นจะถึงเชียงใหม่ประมาณเกือบๆตี 5 จัดการอาบน้ำอาบท่าที่สถานีรถไฟแล้วต่อรถแดงไปสถานีขนส่งอาเขตเพราะวางแผนไว้จะไปเช่ามอเตอร์ไซด์ที่ร้าน bikky สำหรับค่ารถแดงนั้นไม่ควรเกิน 30 บาทเพราะมันอยู่ใกล้มากๆ แนะนำให้ถามก่อนขึ้นรถนะครับ

ร้านเช่ามอเตอร์ไซด์ Bikky อยู่ตรงสถานีขนส่งอาเขตเลยครับ มองออกมาจะเห็นป้ายเหลืองๆ รถมีหลายยี่ห้อราคาตั้งแต่ 200 ขึ้นไป ทริปนี้ใช้ yamaha fino 125 ราคาวันล่ะ 300บาทไม่เสียค่ามัดจำ แต่เค้าจะยืดบัตรประชาชนไว้ พอเอารถมาคืนก็จะได้บัตรคืนเช่าเวลาไหนคืนเวลานั้น หรือจะคืนก่อนก็ได้ ตอนเอารถมาคืนน้ำมันเหลือแค่ไหนก็ไม่เป็นไร

ก่อนเริ่มเที่ยวขอไปกราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเมืองเชียงใหม่เอาฤกษ์เอาชัยกันก่อน นั่นก็คือวัดพระธาตุดอยสุเทพนั่นเอง

ถ้าใครมาเชียงใหม่แล้วไม่มาวัดพระธาตุดอยสุเทพเค้าถือว่ามาไม่ถึงนะ อิอิ

จากนั้นก็มากันต่อที่ดอยปุย หรือหมู่บ้านดอยปุย ที่นั่นก็จะมีสวนดอกไม้ มีพิพิธภัณฑ์ชาวเขาบ้านแม้ว

มีร้านขายสินค้า ของฝากบนดอยปุยของชาวเขา เช่นเสื้อผ้าชาวเขา ชาจีน เครื่องเงิน พวกผลไม้ ส้ม สตอเบอรี่ก็มีนะ

ก่อนขึ้นไปเห็นป้ายข้างทางระหว่างขึ้นดอยสุเทพ"น้ำตกมณฑาธาร"ก่อนลงเลยแวะเข้าไปซะหน่อย

น้ำไม่ค่อยเยอะเท่าไร แต่ก็สวยอยู่นะ ใครไปก็อย่าลืมแวะไปกันดู

จากนั้นก็ไปต่อกันที่เชียงดาวเลยฮะ มาแวะที่ร้านกาแฟฮิมน้ำ อยู่ตรงด่านตรวจเชียงดาวเลยครับ

มีเครื่องดื่ม มีกาแฟ โกโก้ น้ำผลไม้ มีเค้ก มีอาหารตามสั่ง มีส้มตำด้วยนะ

บรรยากาศก็ใช้ได้อยู่นะ เป็นร้านกาแฟติดริมน้ำ

จากนั้นก็มากันต่อก่อนขึ้นที่พักแวะที่วัดถ้ำเชียงดาว

ภายในถ้ำอากาศเย็นมากๆ จะมีพระพุทธรูปอยู่ด้านใน มีหินงอกหินย้อยรูปร่างแปลกๆเยอะมาก

แล้วเราก็มาถึงหมู่บ้านนาเลาหรือหมู่บ้านเชียงดาวนั่นแหละครับ ทางขึ้นก็จะชันๆหน่อย แนะนำเวลาขับรถขึ้นตรงทางโค้งให้บีบแตรบอกรถที่สวนมาเพราะทางค่อนข้างแคบนิดนึง ป้องกันไว้ก่อนก็ดีครับ

เราพักที่"บ้านลีซอวิวสวย" คิดเป็นหัว หัวล่ะ 500 บาท เห็นวิวแล้วแบบ หืมสวยมากๆๆ เห็นดอยหลวงเชียงดาวอยู่ตรงหน้าเลย สูดอากาศให้เต็มปอด

ที่พักทุกที่เราสามารถเดินไปถ่ายรูปได้หมดเลยนะ แต่ล่ะที่วิวก็ไม่แตกต่างกันมากราคาที่พักก็จะเท่าๆกัน

กลางวันก็มีหมอกด้วยนะเนี่ย บรรยากาศก็จะฟินๆหน่อยๆ

ได้เวลาอาหารเย็น กินข้าวกับวิวแบบนี้มันโคตรดีเลยนะ

ตกกลางคืนเห็นดาวชัดมากๆ สวยเลย

ถ่ายช้างติดกะเค้าเหมือนกัน 5555

บรรยากาศยามเช้าฟินดีนะ บรรยากาศโคตรดีบอกเลย รูปนี้ถ่ายจากหน้าที่พักเลย

จิบกาแฟท่ามกลางสายหมอกยามเช้า

กินข้าวกินปลาเสร็จเช็คเอ้า แล้วไปลุยกันต่อ

มากันต่อที่วันที่ 2 มากันต่อที่อำเภอฝาง เรามาพักกันที่ดอยอ่างขาง นอนเต็นท์ที่จุดชมวิวม่อนสน

บรรยากาศตอนกลางวันหืมอากาศเย็นมากๆ วันนี้มีหมอกทั้งวันเลยย ทำการจองเต็นท์ เช่าเครื่องนอนแล้วไปลุยกันต่อ

มาต่อกันที่สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ขับรถเลยจากจุดชมวิวม่อนสนไม่ไกลเท่าไร

ภายในสถานีเกษตรหลวงอ่างขางก็จะมีพวกสวนดอกไม้เยอะมากๆ มีที่ถ่ายรูปเยอะจริงๆ

มีสวนบ๊วย สวนผลไม้โอ้ยเยอะมากๆ

แล้วก็สวนอะไรไม่รู้อ่ะ 5555 แต่มันสวยดีนะ สำรวจที่นี่เสร็จก็กลับไปที่จุดชมวิวม่อนสน

บรรยาการศยามค่ำคืน มันก็จะเหงาๆหน่อยๆ อิอิ

ฟ้าไม่ค่อยเปิดเท่าไร มีหมอกไหลมาบังดาวตลอด เลยเห็นดาวไม่ค่อยชัด

ได้เวลาเข้านอน อากาศหนาวมากๆ บรื้ยยยยยย

อากาศยามเช้า ทำไมเป็นงั้นล่ะ ไม่เห็นทะเลหมอกเลยแง่ๆๆๆ

เสียดายเหมือนกัน ไม่เห็นพระอาทิตย์ ไม่เห็นทะเลหมอก แต่มันก็ขึ้นอยู่กับดวงนะ บางคนมาก็เจอบางคนก็เจอแบบผม TT

ไม่เป็นไรค่อยมาแก้ตัวใหม่ อิอิ

คืนที่ 3 เราจะไปพักที่ม่อนอิงดาวแต่ระหว่างทางจะผ่าน"น้ำตกแม่สา"แวะซะหน่อย

น้ำตกแม่สาใครผ่านไปก็อย่าลืมแวะนะครับ น้ำตกที่นี่สวยเลย มีหลายชั้นแต่เราไปไม่ครบทุกชั้นนะ 5555

มาต่อกันที่สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เป็นสถานที่รวบรวมพันธ์ไม้ต่างๆเยอะมากๆ

ถ่ายมาให้ดูคร่าวๆล่ะกันเนอะ ภายในจะมีอาคารพรรณไม้ต่างๆแยกกันเป็นหมวดหมู่ มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ มีน้ำตกแม่สาน้อย

แล้วที่เป็นไฮไลท์ที่คือทางเดินเหนือเรือนยอดไม้เสียดายตอนผมไปเค้าปิดปรับปรุง แต่ตอนนี้เปิดแล้วนะครับ

ที่พักของเราคืนนี้บ้านขอนไม้"ม่อนอิงดาว" อยู่ใกล้ๆม่อนแจ่ม

ที่พักมีหลายแบบนะ เป็นห้องธรรมดาก็มี หรือใครจะนอนเต็ท์ก็มีให้เช่านะ

ภายในห้องโอเคเลย กว้างดี มีแอร์ มีห้องน้ำในตัวด้วยนะ

เช็คอินเก็บของเข้าที่พัก มาต่อที่ม่อนแจ่ม มาตอนเย็นๆอากาศดีใช้ได้เลย

วิวสวยมากๆ มีสวนดอกไม้ให้ถ่ายรูปอยู่บ้างพอดีไม่ได้ถ่ายมา 5555 มีร้านอาหารมีกระท่อมนั่งชมวิว มุมมหาชนของม่อนแจ่ม

รูปนี้ถ่ายตรงจุดชมวิวใกล้ๆที่พักม่อนอิงดาว

คืนนี้จัดหมูกะทะเบาๆ อากาศเย็นๆ มันก็จะฟินหน่อยๆ

บรรยากาศยามค่ำคืน เสียดายท้องฟ้าปิดมองไม่เห็นดาวสักดวง

สวัสดียามเช้าวันที่ 4 ก่อนจะไปแม่กำปองเราแวะที่โป่งแยงแอ่งดอย เป็นร้านกาแฟร้านอาหาร

รสชาติก็ใช้ได้อยู่อร่อยเลย มีไอติมด้วยนะ

พอดีไปถึงแต่เช้าร้านอาหารเค้ายังไม่เปิดเลยไม่ได้ลองชิม แต่ดูบรรยากาศดีนะข้างๆมีลำธารเล็กๆ

มาแวะไหว้หลวงพ่อทันใจที่วัดพระธาตุดอยคำ

มีจุดชมวิวให้ถ่ายรูปด้วยสวยเลย

มาต่อกันที่อุทยานหลวงราชพฤษ์ข้างในมีสวนดอกไม้ มีที่ให้ถ่ายรูปเยอะมาก

หอคำหลวงจะอยู่ทางด้านใน เป็นอีกที่ที่ไม่ควรพลาด อิอิ

แล้วมาต่อกันที่น้ำพุร้อนสันกำแพง

มีบ่อน้ำพุร้อนสำหรับต้มไข่

มีที่สำหรับแช่เท้า มีอ่างแช่ตัวด้วยนะ

คืนสุดท้ายเราพักที่นี่สำราญชนโฮมสเตย์ ราคาหัวล่ะ 700 บาทพร้อมอาหารเย็นและเช้า

อากาศที่นี่ดีมาก เป็นหมู่บ้านอยู่ท่ามกลางป่าและขุนเขา เค้าบอกว่าอากาศที่นี่จะเย็นตลอดทั้งปี

ข้างๆมีลำธารเล็กๆไหลผ่าน ที่ๆคนชอบมาเวลามาแม่กำปองก็หลักๆก็จะมีน้ำตกแม่กำปอง

แล้วก็ร้านชมนกชมไม้ แต่พอดีเราไม่ได้ไปเนื่องจากเหนื่อยกับการเดินทาง 5555

บรรยากาศยามเช้าที่แม่กำปอง

หมดเวลาสนุกกันแล้ว หมดไปกับเวลา 5 วัน 4 คืนสำหรับการเที่ยวเชียงใหม่ สำหรับรีวิวนี้ก็เป็นข้อมูลคร่าวๆไว้เป็นตัวเลือกสำหรับคนจะไปเที่ยวเชียงใหม่แต่ไม่รู้จะไปไหนบ้าง ยังไงก็ขอฝากรีวิวนี้ไว้ด้วยนะครับผม ถ้าข้อมูลผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ด้วยนะครับผม ^^

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดตามการเดินทางของเราได้ที่ https://web.facebook.com/Yhaktiewkortiew/