Road Trip ถนนชมดาว

ก้าวเข้าสู่เดือนธันวาคม เดือนแห่งการเฉลิมฉลองและการเดินทางท่องเที่ยวรับลมหนาว

หลายคนคงกำลังมองหาที่เที่ยวนอนหนาว ดูดาว ชมทะเลหมอก กันอยู่แน่ๆ

วันนี้เราจะพาเพื่อนๆไปชมอีก 1 เส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และไม่ควรพลาด

ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวแบบ Road Trip มุ่งหน้าสู่ จังหวัดอุตรดิตถ์ และจังหวัดใกล้เคียง

เพื่อเป็นไกด์ไลน์ให้สำหรับนักท่องเที่ยวสายลุย คนรักธรรมชาติ และรักความสงบ

การเดินทางครั้งนี้ เราจะพาเพื่อนๆสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ

กางเต็นท์นอนดูดาว รับลมหนาว กับ เส้นทาง พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-น่าน

“ถนนชมดาวไทย-ลาว สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า-อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว-

อำเภอน้ำปาด-หมู่บ้านประมงปากนาย-อุทยานแห่งชาติขุนสถาน”

เราเริ่มออกเดินทางโดยการขับรถท่องเที่ยวเส้นทาง พิษณุโลก-วัดโบสถ์-อำเภอชาติตระการ-สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า-อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว-อำเภอน้ำปาด-หมู่บ้านประมงบ้านปากนาย-อุทยานแห่งชาติขุนสถาน ถือว่าเป็นอีก 1 เส้นทาง Road Trip ที่น่าสนใจ 

ถ้าอยากรู้ว่าเส้นทางนี้มีอะไรน่าสนใจ อย่ารอช้า!! กระโดดขึ้นรถแล้วตามเรามาเลย…

เราเริ่มต้นออกเดินทางกันตั้งแต่เช้าตรู่จาก กรุงเทพฯ เพื่อมุ่งหน้าสู่ จ.พิษณุโลก

เส้นทางก็จะเป็นภูเขาสลับวิวทุ่งนา ถนนโล่งมาก ดีงาม เหมาะกับการขับรถเที่ยวชมวิวสุดๆ

โดยจุดแรกที่เราแวะพักกันเลยก็คือ ร้านค้าสวัสดิการศูนย์ศิลปาชีพ ภูขัด ภูเมี่ยง ภูสอยดาว อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก

เป็นร้านค้าสวัสดิการในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

โดยที่นี่จะมีอาหารและกาแฟไว้บริการนักท่องเที่ยว และยังมีสินค้าของชาวบ้านที่ได้นำมาวางจำหน่ายให้นักท่องเที่ยว

บรรยากาศร้านเย็นสบายมีมุมถ่ายรูปสวยๆ และ ประดับตกแต่งด้วยดอกไม้สวยงาม

รสชาติอาหารถือว่าโอเคเลยครับ ราคาไม่แพง วิวเลิศเหมาะกับการแวะมานั่งเติมพลัง

และบริเวณใกล้ๆกันนั้น ยังมีอีก 1 สถานที่ที่น่าสนใจ นั่นก็คือ สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า

โดยขับรถเลยมาถึงสามแยกที่มีป้ายบอกทางว่า เลี้ยวซ้ายไปน้ำตกภูสอยดาว ให้เลี้ยวขวามุ่งหน้าตาม GPS ไปเล้ยยย

ขับมาอีกประมาณ 20 นาที ก็มาถึง สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า ในพระราชดำริ จ.พิษณุโลก

ที่นี่จะมีการจัดแสดงดอกไม้สวยงาม และ พืชพรรณนานาชนิด ให้เราได้ชมและถ่ายรูปกัน

และยังเป็นจุดกางเต็นท์นอนดูดาว ชมทะเลหมอก ที่สวยงามอีก 1 จุด

 

ถ่ายรูปกันเพลินๆ จาก สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า จุดต่อไปเป็นอีก 1 จุด ที่สายลุยห้ามพลาด

ภูสอยดาว

ภูสอยดาว เป็นอีกหนึ่ง Landmark ที่ไม่ควรพลาด เพราะด้วยความสวยงามของธรรมชาติ

ยิ่งช่วงนี้หน้าหนาว บอกเลยโคตรพีค ชมหมอกยามเช้า เล่นน้ำตก นอนกางเต็นท์ดูดาว

และกิจกรรมเดินป่า แคมปิ้งมันส์ๆ กับเดอะแก๊งค์ แต่การจะเดินขึ้นที่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

ก่อนจะมาควรออกกำลังกายให้พร้อม ไม่งั้น ร้องไห้กลับบ้านแน่ๆ ขั้นต่ำเดิน 5 ชม. จ้า… ฮาๆๆ

แต่ถ้าขึ้นไปถึงจุดลานสน บอกเลยว่าคุ้มค่าและมีเรื่องเล่ากลับไปอย่างแน่นอน…

ที่นี่เริ่มเปิดให้ขึ้นตั้งแต่ 8 โมงเช้า ก่อนขึ้นเจ้าหน้าที่จะให้เราลงทะเบียน และจ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆ

ใครไม่มีเต๊นท์หรือเครื่องนอน ก็สามารถเช่าจากที่นี่ได้เลย

แต่พวกข้าวสารอาหารแห้งต่างๆ แนะนำว่าควรเตรียมมาให้พร้อม และเครื่องกันฝนด้วย

ส่วนใครจะจ้างลูกหาบ ก็ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ล่วงหน้ากันได้เลย

เบอร์ติดต่ออุทยานภูสอยดาว : 095 629 9528

การเดินขึ้น ลานสนภูสอยดาว มีระยะทางประมาณ 6.5 กิโลเมตร

ด้านล่างจะมี ลานน้ำตกภูสอยดาว ใครไม่พร้อม ก็ถ่ายรูปเล่นด้านล่างแทนแล้วกันนะ ฮาๆๆ

เราจะผ่านเนินต่างๆ ทั้งหมด 5 เนิน > เนินส่งญาติ > เนินปราบเซียน > เนินป่าก่อ > เนินเสือโคร่ง > เนินมรณะ ซึ่งเป็นเนินสุดท้ายลาดชันที่สุด

ระหว่างทางก็จะมีวิวสวยๆให้เราชมตลอดทาง แวะพักบ้าง ถ่ายรูปบ้าง

จริงๆไม่ใช่อะไร เดินไม่ไหว เหนื่อย หาเรื่องอู้ เดินบ้าง พักบ้าง ไม่เป็นไร เราไม่นับ 555

ไฮไลท์อีกอย่างของ ภูสอยดาว คือ การได้มานอนดูดาวกลางวิวต้นสน

วันไหนที่ฟ้าเปิด เราก็สามารถมองเห็นทางช้างเผือกด้วยตาเปล่าได้เลยล่ะ ฟินโคตร

บรรยากาศตอนเช้าๆ เราจะได้เห็นหมอกไหลผ่านภูเขา และแสงแดดส่องมายังดอกไม้ใบหญ้า

ถ้าใครเป็นสายเดินป่า สายลุย และชอบถ่ายรูปบอกเลยว่าที่นี่เด็ดจริง คุ้มค่ากับค่าเหนื่อยแน่นอน

ลงจาก ภูสอยดาว เราก็ขับรถมุ่งหน้าไปกันที่ อ.น้ำปาด กันต่อ วิวข้างทางบอกเลยสวยมาก

“อ.น้ำปาด”  ถ้าพูดชื่ออำเภอนี้ขึ้นมา น้อยคนนักที่จะรู้จัก และรู้ว่าที่นี่มีอะไรน่าสนใจ

อย่าว่าแต่เพื่อนๆเลย ผมเองได้ยินชื่อนี้ครั้งแรก ก็อึ้งไปเหมือนกัน ที่นี่มันที่ไหนวะ!!

แต่หลังจากได้ลองไปสัมผัสและได้ใช้เที่ยวชมวิถีชีวิตของชุมชนแล้ว บอกเลยว่าไม่ธรรมดา..น่าสนใจมาก

วันนี้เราเลยจะพาเพื่อนๆไปรู้จักกับที่นี่ให้มากยิ่งขึ้น

ป่ะ!! ตามเรามาเลย… GO…GO…GO

ที่นี่เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ท่ามกลางหุบเขา ไม่วุ่นวาย เหมาะกับการมาพักผ่อน และใช้ชีวิตช้าๆ

อีกอย่างที่อยากพูดถึงของ น้ำปาด ก็เป็นร้านอาหารและคาเฟ่เก๋ๆ อาหารอร่อยและไม่แพง ร้านน่ารัก

ร้านน้ำปาดซิตี้

อาหารเด็ดมาก มาเถอะ ไม่ผิดหวัง มีทั้งอาหารคาวและของหวาน

อิงดอยคาเฟ่

ร้านคาเฟ่น่ารักๆ มีทั้งเครื่องดื่ม ขนม เบเกอรี่ ที่เด็ดสุดคือ ราคาเริ่มต้นที่ 25 บาท เท่านั้น ถูกมาก!!

บ้านวังน้ำต้น ต.ท่าแฝก

ชมพระอาทิตย์ตกสวยๆ กลางน้ำ ที่ บ้านวังน้ำต้น ตั้งอยู่เหนือเขื่อนสิริกิติ์

ที่นี่มีบริการแพตกปลา สามารถกางเต็นท์ค้างแรม บรรยากาศดีมาก น่ามานอนแคมปิ้ง

หากใครสนใจสามารถสอบถามข้อมูลได้จากทางผู้ใหญ่บ้านนะครับ

บริการแพตกปลา เรือชมพระอาทิตย์ตก : ผู้ใหญ่เริ่ม 096 320 7976​ , แพวังน้ำต้น 084 579 5131

ถนนคนเดินน้ำปาด

ห้ามพลาด!! ทุกเสาร์อาทิตย์ตลอดเดือน ธันวาคม และ มกราคม นี้

กับถนนคนเดิน ที่ 1 ปี มีจัดกันแค่ปีละครั้งเท่านั้น กับบรรยากาศย้อนยุค

– ย่าง.. แต่งกายชุดไทยพื้นบ้าน
– เลาะ.. ชมการแสดงวัฒนธรรม
– เซาะ.. ทำกิจกรรมย้อนวันวาน
– กิน.. อาหารพื้นบ้านน้ำปาด

ที่ ถนนคนเดินน้ำปาด บ้านลุ่ม อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์

ร้านละมุน

อีก 1 ร้าน ที่อยากแนะนำ เป็นร้านอาหารบรรยากาศดีๆ มีทั้งแบบแอร์และนั่งรับลมเย็นๆ ดูดาว

รสชาติอาหารถือว่าเด็ดมาก แซ่บ และถึงเครื่อง ใครมาน้ำปาด บอกเลยว่า ห้ามพลาด!!

สุนีรัตน์ รีสอร์ท

ที่พักสำหรับการเที่ยวน้ำปาด เราพักกันที่ สุนีรัตน์ รีสอร์ท ราคาคืนละ 450 บาท พักได้ 2 ท่าน

เป็นบ้านหลังๆ ตั้งอยู่ติดๆกัน บรรยากาศร่มรื่น ภายในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

จาก อ.น้ำปาด เราขับรถมุ่งหน้าสู่ อุทยานแห่งชาติขุนสถาน จ.น่าน โดยวิ่งเส้นทางบ้านท่าแฝก

เพื่อนำรถข้ามแพไปยังฝั่ง จ.น่านกัน โดยผ่านหมู่บ้านประมงปากนายกันก่อน

วิวระหว่างทางมันก็จะฟินหน่อยๆ เป็นอีก 1 เสน่ห์ของการขับรถ Road Trip ครับ

ขับรถจาก อ.น้ำปาด มาประมาณ ชั่วโมงกว่า ก็มาถึงจุดข้ามแพกันครับ

โดยบริเวณนี้จะมีแพร้านอาหารและบริเวณแพข้ามฝั่ง ราคาค่ารถยนต์คันละ 300 บาท

โดยแพจะมีการวิ่งรับส่งตั้งแต่เวลา 06.00 – 20.00 น.

หมู่บ้านประมงปากนาย

เมื่อข้ามมาถึงฝั่ง เราก็จะมาถึงหมู่บ้านประมงปากนาย ที่หมู่บ้านนี้จะมีอาชีพประมงเป็นหลัก

และมีเปิดบริการที่พัก และร้านอาหาร สามารถมานั่งทานบนแพริมน้ำกันได้อย่างชิลๆ

จากจุดนี้ใช้เวลาขับรถอีกประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อมุ่งหน้าสู่ อุทยานแห่งชาติขุนสถาน

โดยระหว่างทางจะได้เจอวิวภูเขาสลับซับซ้อน กับ วิวทุ่งนาสวยๆ ตลอด 2 ข้างทาง

อุทยานแห่งชาติขุนสถาน

อีก 1 สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิต ที่หน้าหนาวแบบนี้ไม่ควรพลาดของ จ.น่าน

ใครจะมานอนดูดาว สัมผัสอากาศหนาว ชมหมอกยามเช้า แนะนำเลย

และช่วงต้นปี อาจจะได้เห็นนางพญาเสือโคร่งบานเต็มที่อีกด้วย เพราะช่วงนี้สลัดใบหมดแล้ว

ด้านบนอุทยานจะมีให้บริการเช่าเต๊นท์ และ มีบ้านพักให้บริการ โดยราคาจะเริ่มต้นที่ 400 บาท

และมีร้านค้าสวัสดิการไว้คอยให้บริการเรื่องอาหารและเครื่องดื่ม

อากาศช่วงนี้เริ่มหนาวแล้ว แนะนำใครจะมา เครื่องกันหนาวต้องจัดมาให้แน่น

เรื่องอาหารปิ้งย่างอย่าให้ขาด เตรียมมาให้พร้อม หมูกระทะ ชาบู ต้องมา

เรามากันแบบรีบๆ เลยได้แค่ มาม่า และนั่งมองดูเต๊นท์ข้างๆ จัดหมูกระทะกัน :'(

ตอนกลางคืนนอนดูดาวกันอย่างชิลเลย แต่จะบอกว่าลมแรงมาก สู้ความเย็นไม่ไหว หนีไปนอนก่อน ฮาๆๆ

บรรยากาศยามเช้าหมอกมาเต็มมาก วันนี้เป็นหมอกฟุ้งลมแรง ทำให้เราไม่ได้เห็นทะเลหมอก

แต่ก็ได้สัมผัสอากาศหนาวๆ รับไอหมอกยามเช้า เติมพลังและเพิ่มความสดชื่นได้เป็นอย่างดี

คุ้มค่ากับการขับรถมาไกลกว่า 800 กม. เป็นการปิด Road Trip ถนนชมดาว อย่างประทับใจมากๆ

บอกเลยว่าจะต้องกลับมาที่นี่อีกอย่างแน่นวลลลล…

และนี่ก็เป็น Road Trip การขับรถท่องเที่ยวเส้นทาง พิษณุโลก-วัดโบสถ์-อำเภอชาติตระการ-สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า-อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว-อำเภอน้ำปาด-หมู่บ้านประมงบ้านปากนาย-อุทยานแห่งชาติขุนสถาน ถือว่าเป็นอีก 1 เส้นทาง Road Trip ถนนชมดาว ที่น่าสนใจ รับหน้าหนาวนี้

เพราะด้วยเส้นทางที่รถค่อนข้างน้อย แถมวิวข้างทางยังทำให้เราหายเหนื่อยกันตลอดสองข้างทาง

ได้เห็นธรรมชาติที่ยังคงความสวยงาม นอนกางเต็นท์ ดูดาว พร้อมรับลมหนาว ดูหมอกยามเช้า

บอกเลยว่า เส้นทางนี้ดีต่อใจ อยากให้ลองไปพิสูจน์กันด้วยตัวเอง

หากมีข้อสงสัย หรือ ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อเราได้ที่

www.facebook.com/9aooddy.travel

ขอบคุณและสวัสดีครับ

อู๊ดดี้
กินเพลิน เดินเที่ยว

ความคิดเห็น