สิงคโปร์มีมรดกโลก!! บร้า บร้า บ้า ถามจริงงงง...
สิงคโปร์เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและมีความปลอดภัยสูง โดยมีแหล่งท่องเที่ยวสมัยใหม่เสียเป็นส่วนใหญ่ แต่ท่ามกลางบรรยากาศความทันสมัยก็ยังถือได้ว่าเป็นเกาะที่มีบรรยากาศร่มรื่น สวยงาม และไม่ร้อนอบอ้าวจนเกินไป (ทั้งๆ ที่อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรมากๆ) ประกอบกับระยะทางที่ใกล้กับไทยแลนด์แดนสยามของเราเพียงใช้เวลาบินยังไม่ทันเมื่อยก้น ทำให้เกาะน้อยๆ แห่งนี้เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจแห่งแรกๆ ของคนไทยยามต้องการเดินทางไปเยือนต่างประเทศ
เรื่องที่น่าแปลกใจอย่างหนึ่งก็คือ แม้จะเป็นเพียงเกาะขนาดเล็กที่มีพื้นที่น้อยกว่ากรุงเทพมหานครของเราประมาณครึ่งหนึ่ง แต่กลับมีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา เรียกได้ว่าไปเที่ยวมาทั่วเกาะแล้ว อีกไม่นานก็ต้องไปใหม่ไปซ้ำ
ยิ่งไปกว่านั้น!! เรื่องที่น่าประหลาดใจที่สุดก็คือ ท่ามกลางทรัพยากรธรรมชาติอันน้อยนิด ประเทศปลายแหลมทองแห่งนี้กลับมีแหล่งศึกษาธรรมชาติอันทรงคุณค่า การันตีด้วยเครื่องหมาย "มรดกโลก" อยู่ด้วยยยย
ใช่แล้ว... สถานที่แห่งนั้นก็คือ "สวนพฤกษศาสตร์แห่งชาติสิงคโปร์" (Singapore Botanic Gardens)
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
^ ขอขอบคุณ http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/657813 สำหรับภาพข่าวข้างบนนี้ครับ ^
เฮกันทั้งประเทศสำหรับชาวสิงคโปร์ เมื่อองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก)
มีมติเป็นเอกฉันท์ประกาศรับรองสถานะให้ สวนพฤกษศาสตร์แห่งชาติสิงคโปร์ หรือ (Singapore Botanic Gardens) เป็นมรดกโลกแห่งแรกของประเทศสิงคโปร์ และเป็นสวนพฤกษศาสตร์เขตร้อนแห่งแรกในทวีปเอเชียที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย
ลอว์เรนซ์ วอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ชุมชนและเยาวชน ในฐานะประธานคณะกรรมการยูเนสโกของสิงคโปร์ เปิดเผยภายหลังจากสวนพฤกษศาสตร์แห่งชาติสิงคโปร์ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากที่ประชุมของยูเนสโก ณ กรุงบอนน์ ประเทศเยอรมนี ว่า “มรดกโลกกว่าหนึ่งพันแห่งทั่วโลกในปัจจุบันเป็นสมบัติอันน่าชื่นชมของมนุษยชาติ และในที่สุดสิงคโปร์ของเรา มีมรดกโลกเป็นแห่งแรกแล้วในวันนี้ ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจและเป็นของขวัญสำหรับการเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี การสถาปนาประเทศสิงคโปร์สำหรับชาวสิงคโปร์ทุกคนอีกด้วย”
ด้าน โรซ่า แดเนียล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคณะกรรมการมรดกแห่งชาติสิงคโปร์ หรือ NHB กล่าวเพิ่มเติมว่า “กระบวนการขอขึ้นทะเบียนสวนพฤกษศาสตร์แห่งชาติสิงคโปร์มีความซับซ้อนและยากลำบาก แต่ในที่สุดความพยายามของทุกภาคส่วนก็สัมฤทธิ์ผล ความสำเร็จนี้มาจากความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ ผู้เชี่ยวชาญ ชุมชน และสาธารณชนทุกคนที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและธำรงรักษามรดกทางวัฒนธรรมของประเทศเอาไว้”
สวนพฤกษศาสตร์แห่งชาติสิงคโปร์ ถือเป็น 1 มรดกโลกขององค์กรยูเนสโกจาก 1,000 แห่งทั่วโลก และเป็นสวนพฤกษศาสตร์แห่งแรกในทวีปเอเชียและแห่งที่ 3 ของโลกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนต่อจากสวนพฤกษศาสตร์แพดัว (Orto Botanico di Padova) ในประเทศอิตาลี และ Royal Botanic Gardens ในเขตคีว (Kew) ของประเทศอังกฤษ โดยสวนพฤกษศาสตร์แห่งชาติสิงคโปร์ เป็นสวนสไตล์อังกฤษเพียงแห่งเดียวในโซนภูมิประเทศเขตร้อนและตั้งอยู่กลางใจเมืองของประเทศสิงคโปร์
ภายในมีพื้นที่เพาะพันธุ์พืชเศรษฐกิจสำคัญที่ใช้ภายในประเทศและของภูมิภาค รวมทั้งเป็นที่ตั้งของสวนกล้วยไม้แห่งชาติ ที่มีพันธุ์กล้วยไม้มากกว่า 1,000 ชนิดและพันธ์ผสมอีกกว่า 2,000 สายพันธุ์อีกด้วย
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
นี่คือข่าวเมื่อช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2015 ซึ่งสร้างความงงงวยให้กับใครหลายคน รวมทั้งเรา VACA VACA ว่า สิงคโปร์มีแหล่งศึกษาธรรมชาติอันทรงคุณค่าเช่นนี้ด้วยหรือ?!?!?!?!?!?!?!
ความรู้สึกนั้นถูกเก็บไว้จนวันนี้ แล้วเราก็ได้มีโอกาสมายลโฉมมรดกโลกใจกลางเมืองของสิงคโปร์จนด้ายยยย ^^
จากย่านการค้าใจกลางเมืองบนถนนออร์ชาร์ต เราเลือกเดินทางมายังสวนพฤกษศาสตร์แห่งชาติสิงคโปร์ด้วยรถไฟฟ้า SMRT จุดหมายปลายทางที่สถานี Botanic Gardens แค่เพียงระยะเวลาประมาณ 10 นาที เราก็มาถึงหน้าประตูสวนฯ แล้ว สะดวกสบายสุดๆ ไปเลยจ้าาาา
เมื่อเข้าไปภายในสวนฯ เราก็พบกับป้ายข้อมูลและกล่องใส่แผ่นพับประชาสัมพันธ์ (ใครจะหยิบแผ่นพับไปเป็นที่ระลึกก็ได้ แต่ถ้าเอาไปดูเป็นข้อมูลแล้วมาวางคืน ทางสวนฯ ก็เขียนขอขอบคุณไว้ล่วงหน้า)
เอาหละ... เราหยิบมาดู 1 แผ่น
อ้อๆ สวนฯ เก่าแก่อายุ 158 ปีแห่งนี้มีพื้นที่ 0.74 ตารางกิโลเมตร (462 ไร่ 2 งาน - ใหญ่กว่าสวนลุมพินี ที่มีขนาดเพียง 360 ไร่) เป็นแหล่วงรวมพรรณไม้นานากว่า 30,000 ชนิด!!
ว้าวววว... ยังมีสระน้ำขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยฝูงหงส์อีกถึง 3 แห่ง อัฒจันทร์สำหรับแสดงดนตรีคลาสสิกหรือจัดคอนเสิร์ต รวมทั้งสวนกล้วยไม้แห่งชาติ (National Orchid Garden) ด้วยน้าาาา
จัดเต็มสุดยอดขนาดนี้ ค่าเข้าชมจะแพงขนาดไหนเนี่ย???
"0 เหรียญ" (โห... อึ้งไปเลย)
ใช่แล้ว... สวนฯ ที่เปิดตั้งแต่ตีห้าถึงเที่ยงคืนของทุกวันแห่งนี้ เข้าชมฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายจ้าาาา
ส่วนสวนกล้วยไม้แห่งชาติ (National Orchid Garden) ที่มีการจัดแสดงกล้วยไม้พันธุ์สวยงาม รวมทั้งพันธุ์พิเศษที่ขนานนามตามชื่อบุคคลสำคัญและผู้มีชื่อเสียง เช่น อดีตประธานาธิบดี เนลสัน แมนเดลา แห่งแอฟริกาใต้ และเจ้าหญิงไดอานาแห่งเวลส์ คิดค่าบัตรผ่านประตูเพิ่มเติมในส่วนนี้แค่อีก 5 เหรียญ หรือประมาณ 130 บาทเท่านั้น ขุ่นพระ!! ถูกสุดๆ เงินจำนวนเท่านี้ยังซื้อข้าวมันไก่สิงคโปร์ได้ไม่ครบจานเลยนะเนี่ย
เอาหละ!! ตื่นเต้นกับตัวหนังสือมาพอสมควรแล้ว ไปตื่นตาตื่นใจกับบบรรยากาศจริงกันดีกว่า
^ ขอขอบคุณ https://www.sbg.org.sg/index.php?option=com_k2&vie... สำหรับภาพแผนที่สวนพฤกษศาสตร์แห่งชาติสิงคโปร์ข้างบนนี้ครับ ^
ดูจากแผนที่แล้ว สวนฯ แห่งนี้มีทั้งส่วนที่เป็นพื้นที่มรดกโลก (พื้นที่ในเส้นประสีแดงในแผนที่ข้างบน) และพื้นที่นอกเขตมรดกโลก (พื้นที่นอกเส้นประสีแดง ด้านซ้ายและด้านขวามือในแผนที่ข้างบน)
เราเดินเข้าไปในสวนฯ ทางประตูบูกิต ทิมาฮ (Bukit Timah Gate) ที่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือ (ประตูทางด้านมุมขวาบนของแผนที่) ก็วางแผนการเดินไปทางประตูแทงกลิน (Tanglin Gate) ที่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ (ประตูทางด้านซ้ายล่างของแผนที่) เดินแทยงๆ ผ่ากลางสวนฯ รวมระยะทางคร่าวๆ ก็ประมาณ 2.3 กิโลเมตร สบายๆ เดินไหวๆ
พื้นที่สวนฯ ด้านที่อยู่ใกล้กับประตูบูกิต ทิมาฮ (Bukit Timah Gate) เป็นพื้นที่นอกเขตมรดกโลก เดินไปเพลินๆ ก็จะเข้าเขตพื้นที่มรดกโลก โดยมีป้ายลักษณะนี้กำกับไว้ให้เรารู้ ^^
ระยะทางบนแผนที่ประมาณ 2.3 กิโลเมตร แต่เดินบนภูมิประเทศ เส้นทางคดเคี้ยว ขึ้นเนินลงเขา รวมแล้วน่าจะมีระยะทางที่เดินจริงราวๆ 4-5 กิโลเมตร
แต่เดินไกลแค่ไหนก็ยังชิลๆ เพราะบรรยากาศโดยรวมของสวนฯ ตลอดระยะทางที่เดินนั้นร่มรื่น ความชุ่มชื่นและอากาศดีๆ จากมวลหมู่แมกไม้นานาพันธุ์ ทำให้รู้สึกสบายตัวอย่างบอกไม่ถูก แม้อากาศจะร้อนชื้นตามลักษณะของประเทศที่เป็นเกาะก็ตาม
การออกแบบและจัดวางภูมิทัศน์ของสวนฯ ก็อำนวยประโยชน์ให้กับคนทุกกลุ่ม จะมานั่งเล่น ปิคนิค วิ่งออกกำลังกาย พาลูกจูงหลานมาเที่ยว แม้กระทั่งคนพิการ ก็ยังสามารถใช้ประโยชน์ได้เช่นเดียวกัน Universal Design โดยแท้
ใช่ๆ สวนใหญ่ๆ พันธ์ุไม้เยอะๆ แบบนี้ ใครที่กังวลว่าจะหลง กลัวจะไม่เข้าใจว่าต้นอะไรเป็นอะไร ก็สบายใจได้ เพราะมีการติดป้ายให้ข้อมูลและความรู้อยู่ทั่วไปและกลมกลืนกับสิ่งแวดล้อมโดยรอบด้วย
บริเวณโดยรอบสวนฯ ยังมีจุดถ่ายภาพและประติมากรรมสวยๆ อีกหลายแห่ง รอให้เราได้ไปชักภาพงามๆ
วิวสบายตา อากาศสบายปอด เดินทอดน่องสบายใจ เพลิดเพลินจนเรียกได้ว่าเป็นแหล่งนันทนาการที่สมบูรณ์แบบที่สุดแห่งหนึ่งเลยจ้าาาา
อ้อ... เดินสวนฯ กันเพลินๆ ก็โปรดใช้ความระมัดระวังป้ายเตือนต่างๆ และไม่ทำลายพืชพันธ์ุ ช่วยกันรักษาสวนฯ สวยๆ แห่งนี้ให้คงอยู่เป็นสมบัติของมวลมนุษยชาติสืบต่อไปตราบนานเท่านานด้วยน้าาาา
จริงๆ แล้ว สวนฯ แห่งนี้แบ่งพื้นที่เป็นหลายส่วน (ขนาดเดินครึ่งค่อนวันยังไปได้ไม่ครบทุกที่เลย) แต่ส่วนที่เรา (เดินผ่านแล้ว) ชอบมากที่สุดและอยากนำเสนอเป็นพิเศษ คือ สวนป่าฝน (The Rain Forest)
ดูจากทางเดินด้านนอกแล้ว สวนป่าฝนแลดูรกทึบเหมือนเป็นอีกโลกหนึ่งเลยทีเดียว แต่เมื่อเยื้องย่างเข้าไปข้างในก็ให้ความรู้สึกแตกต่าง ร่มรื่นและสดชื่นกว่าที่จินตนาการไว้ เดินๆ ไปจะได้ยินเสียงนก แมลง สัตว์เลื้อยคลานตัวเล็กๆ หรือดอกไม้ใบหญ้าขยับไหวๆ ตามแรงลมเป็นระยะๆ
ลักษณะของสวนป่าฝนดูเหมือนเป็นป่าจริงๆ เลยหละ ต้นไม้ต้นเล็กๆ ที่กำลังเติบโตยืนต้นขึ้นบนซากตอไม้ใหญ่ คือ สัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของสวนป่าฝนแห่งนี้เป็นอย่างดี
พื้นที่ที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่ง และอาจถือได้ว่าเป็นไฮไลท์สำคัญของสวนฯ แห่งนี้ก็คือ สวนกล้วยไม้แห่งชาติ (National Orchid Garden) ที่มีการจัดแสดงกล้วยไม้พันธุ์สวยงาม และพันธุ์พิเศษมากมาย
ทำไมที่นี่จึงเป็นไฮไลท์สำคัญของสวนฯ ???
อ้อ!! ดอกไม้ประจำชาติของสิงคโปร์ คือ ดอกกล้วยไม้แวนด้า (Vanda Miss Joaquim) นั่นเอง
ใครอยากรู้ว่าดอกไม้ประจำชาติของสิงคโปร์มีหน้าตาเป็นเช่นใด ผู้ใดที่ชมชอบหรือสนใจชมกล้วยไม้นานาพันธุ์แบบใกล้ชิด แนะนำว่าไม่ควรพลาด
อืมๆๆๆ ภายในสวนฯ ได้รับการดูแลและจัดระเบียบเป็นอย่างดี ร้านค้าร้านขายของระเกะระกะเป็นหาไม่เจอเลย จะมีก็แต่ร้านอาหารและจุดแวะพักเพียงไม่กี่แห่ง
ถ้าไม่ปรารถนาจะอุดหนุนร้านเหล่านั้นก็ขอแนะนำให้พกเสบียงและน้ำดื่มติดตัวมา อยากหยุดแวะพักตรงไหนจะได้นั่งปิคนิคชิลๆ ยาวๆ ไปเลย ^^
สำหรับพื้นที่นอกเขตมรดกโลกของสวนฯ แห่งนี้แยกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งคือพื้นที่ที่เรียกว่า "ป่าเพื่อการเรียนรู้" (The Learning Forest) ซึ่งเพิ่งเปิดใหม่เมื่อต้นปี 2017 นี้เอง (พื้นที่สีเขียวเข้มในภาพข้างล่าง)
พื้นที่ส่วนนี้มีลักษณะแปลกไปกว่าสวนฯ ในส่วนที่เป็นพื้นที่มรดกโลกอยู่เล็กน้อย คือ มีทางเดินลอยฟ้ายกระดับเข้าไปในป่าที่อยู่บนเนินเขา
ภายในพื้นที่ป่าบนเนินเขา ดูๆ ไปก็คล้ายกับสวนป่าฝน (The Rain Forest) ที่เราเพิ่งเดินผ่านมาทีเดียว แต่แลดูโปร่งและให้ความรู้สึกผจญภัยมากกว่า
ใช่เลยยยย... ป่าเพื่อการเรียนรู้ (The Learning Forest) สิ้นสุดลงตรงตาข่ายลอยฟ้า นอนชักภาพถ่ายรูปตรงนี้มีเสียวๆ ไม่น้อย ไม่เชื่อก็มาลองดูนะจ๊ะๆ
อ้อ... ถ้าดูจากป้ายข้อมูลที่แสดงไว้จะเห็นว่า สวนฯ แห่งนี้มีชีวิตจริงๆ เพราะจะมีการขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นไปอีกในอนาคตอันใกล้ (พื้นที่สีเขียวสดในภาพด้านล่าง) หืมมมม... ต้องมาอีกครั้งใช่ไหมเนี่ยยยย
พื้นที่นอกเขตมรดกโลกอีกส่วนหนึ่งของสวนฯ แห่งนี้ก็คือ พื้นที่ด้านที่ติดกับประตูบูกิต ทิมาฮ (Bukit Timah Gate) ที่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือ หรือประตูด้านที่เราเข้ามานั่นเอง
จะว่าไปแล้ว พื้นที่ส่วนนั้นเป็นพื้นที่ที่พลุกพล่านที่สุดของสวนฯ เลยก็ว่าไปได้ เราเห็นแรงงานต่างด้าวหลากชาติหลายภาษา บ้างจับกลุ่มนั่งปิคนิค บ้างนอนเอกเขนกผ่อนคลายอิริยาบท บ้างนั่งตัดผม
ช่างเป็นสวนที่มีชีวิตชีวาโดยแท้ ^^
เราเริ่มออกเดินเที่ยวสวนฯ มาตั้งแต่ราวๆ เที่ยง ขนาดเดินได้ไม่ทั่วก็ยังเพลินเพลินจนลืมว่าเวลาล่วงเลยไปจนเกือบเย็นย่ำ
ประตูแทงกลิน (Tanglin Gate) ที่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของสวนฯ ปรากฎอยู่แก่สายตา คงได้เวลากล่าวคำร่ำลามรดกโลกแห่งนี้เสียแล้ว
ออกจากประตูแทงกลิน (Tanglin Gate) เราเดินข้ามถนนไปไม่ไกลเพื่อขึ้นรถโดยสารประจำทาง มุ่งหน้ากลับไปยังถนนออร์ชาร์ต
ในปี 2021 การเดินทางไป-มายังสวนฯ แห่งนี้ทางประตูแทงกลิน (Tanglin Gate) จะสะดวกสบายยิ่งขึ้นเมื่อรถไฟฟ้า SMRT สายใหม่จะแล้วเสร็จ
มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องแบบนี้ กลับมาเที่ยวสิงคโปร์คราวต่อไป คงจะมีเรื่องราวให้เราประหลาดใจอีกเป็นแน่
# # # # #
#VACAVACA #Singapore #SingaporeCity #SingaporeBotanicGardens #WorldHeritage
#สิงคโปร์ #สิงคโปร์ซิตี้ #สวนพฤกษศาสตร์สิงคโปร์ #มรดกโลก
# # # # #
เรื่องเล่าจากการไปเยือนสิงคโปร์ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2017
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคม 2017
# # # # #
สำหรับผู้ที่กรุณาอ่านรีวิวของเรา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมตตาช่วยกดไลค์กดแชร์ เราต้องขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงมา ณ ที่นี้
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบหรือถูกใจในรีวิว มีข้อแนะนำหรือติชม รวมทั้งสนใจพูดคุยสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ก็ทักทายในกล่องข้อความด้านล่างรีวิวนี้หรือตามลิงค์ต่างๆ ด้านล่างได้เลย จักยินดีเป็นอย่างยิ่ง
อ้อ ฝากติดตามผลงานภายใต้ชื่อ VACA VACA นามปากกาใหม่ของเราบน Readme.me ด้วยน้าาาา
https://th.readme.me/id/sk38129
ขอบคุณมากครับ/ค่ะ ^/i\^
# # # # #
http://www.iamsk38129.com/
https://www.facebook.com/FootballandThailandLovers
https://instagram.com/ftls_store/?ref
https://twitter.com/FTLs_Store
https://plus.google.com/103925332040178584760/about
https://www.youtube.com/channel/UC_x851zlq7ufNa-dpQz04bQ
# # # # #
ดูรายละเอียดข้อมูลสวนพฤกษศาสตร์สิงคโปร์และการเดินทางไปมรดกโลกแห่งนี้ได้ที่ https://www.sbg.org.sg/
ดูรายละเอียดข้อมูลสนามบินนานาชาติชางงี (Changi International Airport) และการเดินทางเข้าเมืองสิงคโปร์ซิตี้ ได้ที่ http://www.changiairport.com/en/transport/public-t...
ดูรายละเอียดข้อมูลโครงข่ายการคมนาคมขนส่งมวลชนของเมืองสิงคโปร์ซิตี้ได้ที่ https://smrt.com.sg/
VACA VACA
วันพฤหัสที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2560 เวลา 17.55 น.