สวัสดีคะ กระบี่เป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่เราใฝ่ฝันหาตั้งแต่เด็กๆ วันนี้เรามีโอกาสได้กับไปกระบี่อีกครั้ง การเดินทางของเราครั้งนี้กะว่าไปกระบี่ยังไงใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุด มาดูกันคะว่าเราทำอะไรที่กระบี่ในทริปนี้บ้าง
เราเริ่มออกเดินทางโดยรถทัวร์ รถออกจากกรุงเทพฯ ในเวลา 17:00 น. แต่เราขึ้นที่เพชรบุรี รถมาถึงประมาณ 19:00 น. เราก็หลับกันยาวๆ ไปถึงกระบี่ในรุ่งเช้าวันต่อมา รอแปปหนึ่งรถของทางโรงแรมก็มารับเราจาก บขส.กระบี่ไปที่พักค่ะ
ในทริปนี่เราพักกันที่นี่ SRISAWARA CASA เป็นโรงแรมที่อยู่ในตัวเมืองกระบี่เรื่องอาหารการกินไม่ต้องห่วงร้านอาหารเยอะมากๆ แล้วยังอยู่ติดกับถนนคนเดินกระบี่ แถมใกล้ท่าเรือเจ้าฟ้าอีกต่างหาก การเดินทาง เดินเท้า ขึ้นรถลงเรือสะดวกมากๆค่ะ อ้อแล้วถ้าเราจะไป เกาะไหนๆๆๆ ที่ KHO PHI PHI TOUR ก็มีบริการนะคะ
เรามาเริมทริปโดยการฝากกระเป๋าไว้ที่ล็อบบี้ของโรงแรม เพราะเรามาแต่เช้าตรู่เลย เจ็ดโมงเช้าได้ที่นี่เงียบสงบมีรถวิ่งไม่มากเป็นเมืองที่น่าอยู่เลยทีเดียว ป่ะ ! เราก็ทำการถามหาอาหารเช้าทานจากพี่ๆที่โรงเเรมเค้าบอกว่าเดินไปจากโรงแรมอีกนิดเดียวมีตลาดเช้าอยู่ทางซ้ายมือ ไปกันค่ะไปตลาดเช้ากัน
พอเราอิ่มก็เดินเท้ากันต่อ เดินๆๆตรงไปเลยคะ เราจะไปพบกับลานปูดำ ...
นอกจากจะมีประติมากรรมปูดำ ที่นี่ยังมีงานกราฟฟิกตี้สวยๆให้ถ่ายรูปด้วย
เราเดินชมเขาระหว่างทางมาเรื่อยๆก็แวะมาริมน้ำ เจอกับลุงคนหนึ่งกำลังก้มๆเงยๆเก็บอะไรอยู่น่ะ อ้อ ลุงบอกว่า นี่ผักหวานทะเล เอาไปทำกับข้าวกินได้
ต่อไปเราเดินเข้าไปดูในถ้ำกันค่ะ
เมื่อเราเดินชมถ้ำ ดูลิง หินงอกหินย้อยกันเสร็จแล้วเราก็ไปกันต่อที่บ้านเกาะกลาง
บ้านเกาะกลางเป็นชุมชนวิถีเรียบง่าย มีร้านอาหารทะเลสดๆตักจากในกระชัง มั่นใจเลยว่าสดแน่นอน และนอกจากนั่นห่างไปไม่ไกลที่นี่มีกิจกรรมสนุกๆรอเราอยู่ ป่ะไปกัน
ปูก้ามดาบออกมาทักทาย
การเดินทางในหมู่บ้านเกาะกลาง ปกติแล้วจะมีรถสามล้อรับจ้างคอยพาขี่รถเที่ยวและทำกิจกรรมต่างๆรอบเกาะ แต่เรามีผู้ใหญ่ใจดีให้ยืมรถมอเตอร์ไซด์ขี่เล่นเองฟรีๆ ชิววววววว ขอบคุณมากนะคะ
สถานที่แรกที่เราไปกันก็คือ บ้านเรือหัวโทงจำลอง ที่นี่มีการสาธิตการทำเรือหัวโมงและยังได้ความรู้เรื่องเรือชนิดต่างๆด้วยนะคะ
และต่อมาเราก็ขี่รถกันชิวๆต่อไปที่ทุ่งนาข้าวสังข์หยด ที่ปลูกแบบอินทรีย์ปลูกจากน้ำฝนธรรมชาติ
ต่อมาเรามากันที่ บ้านผ้าปาเต๊ะ นอกจากจะมีผ้าสวยๆให้เราซื้อแล้วยังมีผ้าผืนเล็กๆให้เราได้โชว์ฝีมือกันในราคาผืนละ 50 บาท แต่ก่อนจะทำผ้านั้นนนนน ก็อิ่มก่อน ป้าๆเรียกกินแตงโมก่อนลงมือทำผ้า วันนี้เรามาบ่ายๆเป็นลูกค้าคนสุดท้ายในวันนี้ ^^
นี่ๆไง ฝีมือเรา
จากผ้าปาเต๊ะ เรายังค้างคากับการทำเรือหัวโทง อยากเห็นเรือลำใหญ่ๆจัง ป่ะไปหาบ้านที่ทำเรือลำใหญ่ๆกันดีกว่า
ถึงเวลาที่เราจะต้องออกจากหมู่บ้านเกาะกลางแล้ว ไปที่ป่าชายเลนกันต่อ
โอ้ยยย !!! ล่องเรือมาหิวๆก็ต้องไปชิวที่ร้านโรตีบางนรา รสชาติอร่อยเลิศราคาก็ไม่แพง หมดนี่ 35 บาทจ่ะ
ห้องก็กว้าง เตียงนอนก็ใหญ่ ห้องน้ำสะดวกสบาย เพราะมาคนเดียว 555 เที่ยวเล่นได้เต็มที่ไม่มีเปล่าเปลี่ยวแน่นอน
เมื่อเราทำการจัดเก็บของเข้าที่พักเรียบร้อยเราก็ไม่รอช้า เดินกันต่อ วันนี้เป็นทริปเดินเล่นรอบเมืองจริงๆสินะ
เราเดินออกมาจากโรงแรมไม่ไกลมานักก็เจอกับวัดแก้วโกรวาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นตรีและยังเป็นวัดประจำจังหวัดกระบี่อีกด้วย


เรากำลังจะเดินกลับได้ยินข่าวแว่วๆมาว่าตอนนี้ในเมืองมีงานกาชาด ไหนลองไปหน่อยซิ นี่ก็จะมืดแล้วไปหาของอร่อยๆกินกันดีกว่า
ยินดีต้อนรับเข้าสู่งานกาชาดดดดด มาค่ะ มาหาของกินกัน
เมนูแรกที่เราจะนำเสนอ ก็คือ ไข่ปลาทอด ไข่ปลาอะไรไม่รู้แต่มันๆแห้งๆดี อร่อยใช้ได้เลย ถุงหนึ่งมี 6 ชิ้น ในราคาเพียง 20 บาท
เมื่อมีคาวก็ต้องมีหวาน เมนูที่ 4 ลูกชกในน้ำเชื่อม หอมหวานอร่อยชุ่มชื่นนนนนใจ ในราคา 20 บาท
เมื่ออิ่มก็ได้เวลาเข้านอนเราเดินๆ ชมวิว ชมเมืองมาเรื่อยๆก็ถึงที่พัก แต่เอ้ๆๆๆ == แผลที่เท้าจากการเดินป่าครั้งก่อนไม่ยอมหายต้องพึ่งคุณหมอสินะ
สวัสดียามเช้าาาาา ตื่นเช้าๆมาทานอาหารเช้าแล้วออกเดินทางกันค่ะ
วันนี้เราจะไปเกาะห้องกันก่อนเนอะ เราเดินทางโดย KOH PHI PHI TOUR ที่นี่มีรถรับส่งถึงหน้าโรงแรมเลยสะดวกสบายมากๆ งั้นเราก็มานั่งรอรถหน้าโรงแรมกันเลย รถก็มารับเวลาประมาณ 08:00 น.
เริ่มการเดินทางกันแล้วววว มาดูกันสิค่ะว่าวันนี้เราจะไปเจออะไรที่เกาะห้องบ้างน้าาาา
เมื่อเรามาถึงท่าเรือก็มาเช็คชื่อกันแล้วลงเรือกันเลย เราลงเรือเวลา 09:00 น.
การใส่เสื้อชูชีพบนเรือเป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญมากๆนะคะ เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง และพี่ไกค์จะได้สบายใจด้วย ถ้าหากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมาเราทุกคนจะได้ปลอดภัยเนอะ
ออกเรือแล้ววววว เราใช้ SPEED BOAT ในการเดินทางใช้เวลาเพียง 20 นาทีแต่ในเรือของเรามีทั้งน้ำเปล่าเย็นๆ และนำส้มสดชื่นๆให้เราได้ทานกันด้วย
เรามาถึงเกาะห้องกันแล้วววววว น้ำทะเลที่นี่สีเขียวมรกต สวยใส ทั้งมีหน้าผาหินปูนสูงตระหง่านสวยงามมากๆ
ที่เกาะห้องมีกิจกรรมอีกหนึ่งกิจกรรมที่ห้ามพลาดคือการเดินป่าศึกษาเส้นทางธรรมชาติ ใช้เวลาเดินไม่นานแต่มีความสวยงามสดชื่นมากจริงๆและที่สำคัญเมื่อเราเดินตามเส้นทางไปจะเจอกับซากเรือที่ถูกซัดขึ้นมาจากเหตุการซึนามิเมื่อหลายสิบปีก่อนด้วย
เมื่อเราเดินชมป่าเขาผาหินสวยๆแล้วเราก็ออกมาเดินลงสู่ทะเลกัน
เดินสำรวจทะเลเสร็จแล้ว เรามาเริ่มกิจกรรมต่อไปกัน ไปดำน้ำกันดีกว่า
ถ้าน้ำจะใสขนาดนี้ นำแค่หน้าขาปลาก็ว่ายมาหาแล้ววววววว
มาแอบดูหนุ่มน้อยดำน้ำกันก่อน
การดำน้ำที่นี่ ไม่ต้องลงลึกมากก็มีความสวยงามของปลา และปะการังแล้ว คือน้ำแค่เข่าก็สวยได้ จริงๆนะเราไม่ได้โม้ ^^
เมื่อเราดำน้ำกันเต็มอิ่ม ก็ได้เวลาท้องหิว มาทานข้าวกลางวันกันเนอะ แบบบุฟเฟ่ไม่อั้นๆเลย
เมื่อทานอาหารเสร็จ เอ้าาาา เจ้าถิ่นก็มา
สวัสดี พี่ยักษ์
เมื่อพักผ่อนกันเรียบร้อยก็ออกเดินทางสู่สถานีต่อไป
ด้านหลังนี่คือ LAGOON วันนี้นำ้ลด เรือเราเลยไม่สามารถเข้าไปได้ อีกอย่างด้านในเรือเยอะมากแน่นมากๆเลย
แต่ไม่เป็นไรเนอะเราก็เดินทางกันต่อดีกว่า
ตอนนี้เรากำลังอยู่ที่เกาะผักเบี้ยและเกาะไร่ เป็นเกาะเล็กๆที่มีทะเลแหวกเชื่อมเกาะผสานกันอย่างสวยงาม
เมื่อเราชมความสวยงามของที่นี่เสร็จ เราก็ออกเดินทางกันต่อที่เกาะลาดิง เกาะนี้เป็นเกาะที่ห้อมล้อมไปด้วยป่าและหน้าผาหินที่สวยงาม มีช่องเขาให้เดินเพื่อเชื่อมไปยังชายหาดอีกด้านที่มีหาดทรายสีดำ แล้วอีกอย่างเกาะลาดิงเป็นเกาะที่มีแมวเยอะมากๆน่าจะเป็นสิบตัวได้เลย
เมื่อเราเดินป่า ดูหน้าผา ดำน้ำ เล่นน้ำ เล่นกับน้องแมวเสร็จแล้ว ก็ได้เวลานั่งเรือกลับกันแล้ว เราเดินกลับกันประมาณ 15.00 น. โดย SPEED BOAT จะมาส่งเราที่ท่าเรือเดิม แล้วมีรถมารอรับเราไปส่งที่โรงแรมทันที โอ้วววว ไม่เคยไปเที่ยวที่ไหนแล้วสะดวกขนาดนี้เลย
เมื่อเรากลับเข้าที่พักก็อาบน้ำเเต่งตัวออกมาหาอะไรทานกัน
จากที่พักของเราเดินมาที่ตลาดท่าเทียบเรือเจ้าฟ้า ใช้เวลาแปปเดียวก็อิ่มอร่อย วิวสวยมากๆ
ไก่ย่างขมิ้น ไก่สเต๊ะ ไก่ซอส ร้านนี้อร่อยมากๆ 10 บาท เองจ้า
ร้านนี้ขายทุกอย่าง 50 บาท เมนูนี้คือก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น
หมดกันไปกับทริปคุ้มๆวันที่สองของเราพรุ่งนี้เราจะพาไปที่ไหนดีน้าาาา มาติดตามกันเนอะ
สวัสดีวันที่สาม วันนี้เราจะไปเกาะพีพี ไหนๆได้ข่าวว่าที่นี่น้ำใสดี สวยจริงๆหรือป่าวน้าาาาา
วันนี้ก็มีรถมารับเราที่โรงแรมเช่นเคย 08:00 น. จะสบายไปไหนเนี้ยยยยย
ว่าแล้วก็ลงเรือใส่ชูชีพกันเลยอย่าให้เสียเวลา เราใช้เวลา เราใช้เวลาในการเดินทาง 45 นาทีก็มาถึงเกาะพีพีเล ชมความงามของเขาหินปูน
แล้วเราก็มาถึง อ่าวมาหยา บอกเลยว่าน้ำใสมากกกกกกกกก สวยมากกกกกกก
พอเสร็จแล้วเราก็มากันต่อที่ LAGOON ที่มีความสวยงามล่องเรือในช่องแคบๆโอบล้อมด้วยหินผากับน้ำสีเขีวมรกต โอ้ยยยยดีย์
แล้วเราก็ออกเดินทางกันต่อมาที่ถ้ำไวกิ้ง ที่นี่เป็นสถานที่เก็บรังนกนางแอ่น
เมื่อเราผ่านถ้ำไวกิ้งมาสักพักก็มีการทิ้งสมอเรือเอ๊ะ ทิ้งทำไมนะหรอ อ้อไปดำน้ำไง ไปๆๆๆ
การดำน้ำตรงเกาะพีพีนี้จะมีความลึกค่อนข้างมาก กว่าเกาะห้องที่เราไปเมื่อวานเนอะ
เราลงดำน้ำกันได้พักหนึ่ง เรือก็พาเรือไปพักผ่อนทานอาหารกลางวันกันที่เกาะพีพีดอน อาหารวันนี้ก็เป็นบุฟเฟ่อีกเช่นเคย
เมื่อเราทานอาหารเสร็จ ไปพักผ่อน แล้วได้เวลาขึ้นเรือไปสถานที่ต่อไปคะ เราไปกันต่อที่ อ่าวรันตีเพื่อมาดำน้ำดูปะการังกันอีกสักรอบ
แล้วเราก็เดินทางกันต่อไปที่เกาะไผ่ ที่มีชื่อเสียงว่าสวยงามที่สุดของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา
แผลนี้เจ้าได้แต่ใดมา อ้ออออ เราไปเดินป่ามาแล้วแผลมันติดเชื้อ TT
เอาละคะ พอเราพักผ่อนกันเรียบร้อยก็ได้เวลาขึ้นเรือกลับแล้ว เรามาขึ้นเรือกลับในเวลา 16:00 น. และได้ไปลงเรือท่าเรือเดิมพร้อมมีรถรับกลับไปที่โรงแรม
เมื่อเรากลับไปถึงที่โรงแรมก็หาอะไรทานดีน้าาาาา วันนี้เราจะจัดการค้นกูเกิลแล้วได้ร้านอาหารเกาหลีมาร้านหนึ่ง เมื่อเราเช่าวินมอเตอร์ไซด์ไปอ้าววววว ร้านหาย เลยต่อหาฉุกเฉินอีกร้านหนึ่งแทน เลยได้ร้านนี้มาค่ะ
มาทานคนเดียวในราคาเซ็ทละ 200 บาท แล้วแถมพี่เจ้าของร้านจะกลับไปแถวๆโรงแรมเราพอดี เอ้ยยย พี่เค้าเลยไปส่งเราด้วย น่ารักจริงๆเลย
สำหรับวันนี้เรามาบอกฝันดีกันด้วยหมูย่างงงงงงง พรุ่งนี้วันที่สี่ของเรา มาดูกันว่าวันสุดท้ายที่กระบี่เราจะไปทำอะไรดีน้าาาาา
แน่นอนเหมือนเดิมเรามารอรถที่โรงแรม รถก็มารับเราในเวลาประมาน 08:00 น. เช่นเคย กิจกรรมวันนี้เป็นกิจกรรมที่เราอยากลองทำมาสักพักแล้ว และแล้วเราก็ได้กลับมาที่นี่เพื่อทำสิ่งนี้ นั่นคือ การปีนหน้าผา ROCK CLIMBING มาดูกันคนที่กลัวความสูงในระดับหนึ่ง มันก็จะเสียวๆหน่อยวันนี้เค้าจะรอดไหม 5555
เมื่อรถมารับเราก็นั่งเรือต่อกันไปที่ หาดไร่เลย์
เรานั่งเรือกันมาสักพัก ก็มาถึงหาดเดินไปเตรียมตัวรับอุปกรณ์ และฟังคำแนะนำเพื่อความปลอดภัย สำหรับการปีนหน้าผาต้องเลือกรองเท้าที่พอดีกับเท้านะ เพราะเวลาเราปีนเท้าของเราจะยืนได้ไม่ต็มเราจะใช้เพียงปลายเท้าจิกลงไปเท่านั้น
การจะมาปีนผานั้นไม่ยาก แต่การเตรียมตัวเตรียมใจมานั้นยากกว่า มาค่ะ วันนี้เราจะมาทะลุมันออกไปดึงเอาความสามารถทักษะการเอาชีวิตรอดกัน สู้ๆ
การปีนผานอกจากที่เราต้องใช้ทักษะของตนเอง แต่ก็ยังต้องมีความเชื่อใจ ไว้ใจเพื่อนบัดดี้ที่อยู่ด้านล่างที่คอยดึงเชือกให้เราด้วย
กิจกรรมนี้เหมาะสมหรับทุกเพศทุกวัย เด็กอายุตั้งแต่ 2 ขวบขึ้นไปก็สามารถมาปีนไป่กันได้แล้ว เรื่องความปลอดภัยนั้นก็ไม่ต้องห่วงเลย มีอุปกรณ์ดูแลเซฟตี้อย่างดีจากไกค์ของเรา
จบลงไปสำหรับการปีนผาครึ่งวันของเรา วันนี้เราได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างก้าวผ่านคำที่บอกว่า พี่หนูพอแล้ววววว 5555 แต่พี่ไกค์บอกว่า เมเมไปได้อีก และแล้วก็ไปได้ต่อจริงๆ เอาไว้คราวหน้ามีโอกาสได้มากระบี่อีกครั้งเราจะมาปีนแบบเต็มวันเลยเนอะ
เราทำการเก็บของเเล้วกลับมานั่งเรือเพื่อกลับฝั่งในเวลา 14:00 น. แล้วมีรถมาคอยรับส่งกลับที่โรงแรมเช่นเคย เมื่อถึงเวลา เราก็นั่งรถทัวร์กลับ 17:00น. เราหลับยาว หลับสนิทมาจนถึงเพชรบุรี ในเวลา 04:00 น.
ME' Art X Traveller.
วันจันทร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2561 เวลา 22.54 น.