ประเทศอินเดีย คงเป็นประเทศอันดับท้ายๆในแผนท่องเที่ยวของใครหลายๆคน แต่ประเทศอินเดียนี้เหละคือประเทศในฝันของเรา

ไม่ไปไม่รู้ ไม่ดูไม่เห็น สวัสดีทุกคนที่ได้หลงเข้ามากันนะ ลองอ่านกันดูไม่รักก็เกลียดกันไปเลยเหละประเทศนี้ เดินทางไปวันที่ 18-22 ตุลาคม 2560 เราไปกับพี่สาว 2คน ต้องขอบคุณสายการบินแอร์เอเชียที่เปิดเที่ยวบินใหม่ในราคาที่ย่อมเยาเหมาะกับนักเดินทางกระเป๋าเบาหวิวอย่างเราเป็นที่สุด

ดอนเมือง-ชัยปุระ ชัยปุระ-ดอนเมือง ไปกลับ 4,xxx ถูกแบบที่ต้องกระโดดจอง

***ข้อควรทำ passport ควรติดตัวตลอดเวลาไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ด้วยความที่เป็นคนไทยบัตรผ่านประตูลดราคา และต้องโชว์ passport ตลอด


ขอวีซ่า

- วีซ่าออนไลน์ E Tourist Visa

- ค่าวีซ่าอยู่ที่ 51.25usd (ราคาตอนที่เราขอ) น่าจะราวๆ 1800 ตามอัตราแลกเปลี่ยนของวันนั้นๆนะ เข้าอินเดียได้ 2 ครั้ง จ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต

- สิ่งที่ต้องเตรียมคือ สแกนหน้า passport เป็นไฟล์ pdf.

- ถ่ายรูปขนาด 2นิ้ว*2นิ้ว พื้นหลังสีขาว ถ่ายเสร็จก็เอาไปสแกน

หลักๆก็ประมาณนี้ เรารอประมาณ 1 วัน กรอกข้อมูลเสร็จส่ง E-mail ก็จะมี E-mail ส่งตอบกลับมาประมาณว่าได้รับข้อมูลแล้ว (อ่านไม่ออกแต่ก็มโนว่าประมาณนั้น) จากนั้นก็รอจนกว่าจะมี E-mail กลับมาว่าผ่านนนนนนนนนนนนนนนนน ปริ้นแล้วนำไปยื่นได้เลย

-กัน แปร๊ดดดด ปริ้นใบจองโรงแรม ตั๋วอะไรให้พร้อมนะจ๊ะ ตม. ลิ้นรัววววววโครต ฟังแทบจะไม่ออกพูดไรวะ ถามซ้ำทำหน้ารำคาญใสอีก ก็ฟังไม่ออกนิหว่า

ขอวีซ่าออนไลที่ลิงค์นี้

https://indianvisaonline.gov.in/visa/index.html


วีซ่าเรายื่นออนไลน์ ดูตัวอย่างขั้นตอนจากลิงค์นี้ ขอบคุณมากๆนะคะ

https://shipy-ship.com/2017/05/12/%E0%B8%A2%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%8B%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B5/



ปริ้นใบหน้าตาแบบนี้ยื่นได้เลย


ซิม

เราใช้ sim2fly ของ Ais เราซื้อซิมตั้งแต่ตอนไปญี่ปุ่นใช้งานดีมาก

ในอินเดียที่ชัยปุระสัญญาณดี แต่ที่อักราค่อนข้างเล่นไม่ได้เท่าไหร่ไม่รู้คนอื่นๆเป็นเหมือนเรารึป่าว


แลกเงิน

เราแลกจากที่ไทยไปอยู่ที่ 0.54 อ่านจากหลายๆคนแลกดอนล่าแล้วไปแลกที่สนามบินที่อินเดีย สำหรับเราแลกน้อยนิดแลกไปพร้อมสุด


การเดินทางในอินเดีย

เราเดินทางโดยรถไฟ และรถเช่า (โดยไม่ได้ตั้งใจ) นั้นเหละอ่านถูกแล้วไม่ได้ตั้งใจ เราพยายามจองรถไฟเองอยู่นานสองนานแต่ก็ไม่ได้ตั้งแต่สมัครสมาชิก และสวรรค์ก็มักจะยื่นมือมาช่วยเสมอ ป่าวหรอกนี้ต่างหาก https://www.amperjaitravel.com อำเภอใจ ใครจองไม่ได้แบบเราลองเลือกทางนี้ดูรวดเร็วทันใจมากค่ะ ค่าจองเที่ยวละ 150 บาท


เวลา

อินเดียช้ากว่าไทย 1:30 ชั่วโมง


ที่พัก

เราจองใน Booking.com


ใครที่จองตั๋วรถไฟ เรามีเว็ปมาให้เช็ครอบรถ บอกโครตจะละเอียด https://enquiry.indianrail.gov.in/mntes/

ใจดีต่อที่2 ให้เวปเทียบราคารถไปอีก https://book.olacabs.com/?utm_source=old-website&utm_medium=redirect&utm_campaign=web

ทั้งนี้ทั้งนั้นมีคนใจดีกว่าเราไปอีก นางส่งเว็ปเหล่านี้มาให้เรา ช่วยเสมือนไปเดินอยู่ข้างๆกัน เรียกนางนางงามอินเดีย ใจดีโครตๆ ไปปล้นข้อมูลได้นะจ๊ะ https://www.facebook.com/taluiindia/

********ทัชมาฮาล ปิดวันศุกร์ จำไว้นะทุกคน**********


วันที่ 18 ต.ค.60 (พุธ)

เดินทางจากดอนเมือง-ชัยปุระ 20:00 –22:50 วางแผนมาดีมาก ฉันต้องไปถึงเวลานี้รอบดึก ไปรอรถไฟไปถึงจุดหมายเช้า เก็บกระเป๋าเดินเที่ยวทัชมาฮาลเพราะมีเวลาแค่วันพฤ เท่านั้น ตัดภาพมาที่ชีวิตจริง สิ่งที่คิดกับสิ่งที่เป็น มาถึงสนามบิน22:50 เป็นเที่ยวบินที่คลื้นเครงที่สุดที่เคยนั่งมาแล้ว คนอินเดียแทบทั้งลำคนไทยราวๆ 6คน สั่งเบียร์ สั่งไวน์ ปาตี้ใสๆ เขียนใบตม. สแกนนิ้วมือ ยื่นเอกสารวีซ่าที่ปริ้นมา ออกมานั่งโง่ๆอยู่สักพักหนึ่ง ก็หันไปสะกิดผู้ชายถามทาง นับว่าจั่วถูกนางพาเรียกอูเบอ ฮู้ยยยย อูเบออินเดีย ยังไงก็ไม่โดนโกงแน่ๆละวะ(รึป่าว) ไปค่ะสถานีรถไฟชัยปุระเหมือนที่นี้จะใช้ Railway นะ มาถึงมีคนนอนต้อนรับตั้งแต่ฟุตบาท ตามรายทาง

ช่วงนี้ของอินเดียคือ เทศกาลดิวาลี Diwali หรือ Divali ทุกๆที่ก็จะประดับไฟ จุดประทัดและจุดตะเกียงดินเผาตามที่ต่างๆ ทำไมซื้อหวยไม่ถูกเหมือนเลือกวัน คนเดินทางเยอะมากล้นออกมาหน้าสถานีรถไฟและแน่นอนทุกคนจับจ้องมาที่เรา ต้องตีเนียนยังไงถึงจะพ้นสายตา ก่อนเข้าสถานีรถไฟสแกนกระเป๋าด้วยนะ แต่เหนือสิ่งอื่นใด คือ หิว หาของกินที่เราไว้ใจซิ


2A(รถไฟนอนแอร์) ชัยปุระ-อักรา อินเดียเล่นกุแล้ว รถไฟดีเลย์มา 7:18 ดีเลย์03:33นาที เป็นไงละเว็ปโครตละเอียด อยู่ไปสักพักก็จะรู้สึกกลมกลืน สักพักนี้ก็ว่าจะไปปูผ้านอนบนพื้นแล้วคลุมผ้าแบบศพซึนามิ ดีว่านางงามอินเดียกระซิบมาว่า จอง2A มีห้องให้นั่งรอนะเออ ชนชั้นชัดเจนสุดๆ

เดินตามหาห้องใช่รึป่าวไม่รู้ เดินเข้าไปก่อนยื่นตั๋วถ้าเค้าให้เข้าก็แปลว่าได้แหละ ในห้องก็มีที่ให้ชาร์จแบตเตอรี่ มีเก้าอี้นั่งรอ มีห้องน้ำในตัว มีจอให้ดูรอบรถไฟ แอร์นี้ไม่ต้องพูดถึงเย็น และมีคนกวาดถูห้องโดยที่ไม่สนว่าใครจะนั่งอยู่ หน้าที่คือกุต้องกวาด กวาดขา กวาดเท้า กวาดไปให้หมด

บรรยากาศสถานีรถไฟยามค่ำคืน ก่อนจะมีห้องพักส่วนตัวเราก็สถิตอยู่พื้น พิงเสาสักเสา เสื้อเขียวจอง ยิ้มมุมปาก


วันที่ 19 ต.ค.60 (พฤหัสบดี)

บรรยากาศยามเช้าสถานีรถไฟชัยปุระ ทุกคนก็จะพุ่งน้ำลายลงตรงรางรถไฟ พุ่งนะพุ่งแรงมาก พุ่งได้ระยะไกลด้วย

น้ำที่ใครๆก็กินกัน แต่เราไม่กิน

อย่าแย่งกันกลัวแล้ววววววววว คนไทยอย่างเราก็ยืนงงไปดิ รถไฟยังจอดไม่สนิทเลยใส่ส่าหรีก็กระโดดขึ้นรถไฟ ยอม

รถไฟจะมาแล้วววววววว!!!! ล้างหน้าแปลงฟันออกจากห้อง ด้วยความจวนเจียนแก่เวลาอย่าขึ้นผิดและวิ่งขึ้นให้ทันนะ(บอกตัวเอง) ดูเว็ปอีกรอบ โอ้อินเดีย อินเดีย อินเดียเหรดอีกแล้วโว้ยยยยยยยย อะไรคือเดินอยู่ทัชมาฮาลเช้าตรู่ รถไฟมาราวๆ 9โมงเช้า ราวๆนี้ลืม! รถไฟขบวนยาวมาก พีคสุดคือฉ๊านนนนนนไปรออยู่ท้ายสุด รถไฟก็จอดไม่กี่นาทีจากท้ายมาหน้าขบวน แนะนำให้ยืนอยู่ตรงกลางสถานีถ้าไม่รู้ลำดับขบวน

ขึ้นมาก็จะมีผ้าแจก ผ้าห่ม ผ้าปู

ที่นอนจัดว่าสบาย พี่เราเลือกเตียงบน เราเตียงล่างก็จะสบตากับเตียงข้างๆ มีเพียงโต๊ะเล็กๆกั้นเราเอาไว้ สบตาปริ้งๆแรกๆก็กลัวไม่กล้าหลับ หลังจากที่อดนอนมาทั้งคืน หลับก็ได้วะ

ชมวิวๆ นั่งรถไฟที่นี้ก็จะเพลินๆหน่อย เพราะไม่มีเสียงประกาศใดๆรบกวน แม้แต่สถานีที่จอด แล้วกุจะรู้ได้ยังไงวะ นี่ก็เดินไปสกิดพนักงานบนรถไฟถึงแล้วบอกด้วย ทำความเข้าใจอยู่พักใหญ่ เพราะเค้าไม่พูดภาษาอังกฤษงะแกร๊ ถึงก็มาสกิด แปลว่าเค้าเข้าใจ จริงๆเราก็เปิดกรูเกิลแมพประกอบไปด้วยแหละ


ถึงแล้วววววววววอักรา 13:49 เดินออกมาหารถไปโรงแรม เรียกตุ๊กๆก็แล้วกันเนอะ พี่แกขับเปรี้ยวเยี่ยวราดมากใจจะวาย ลงคลิปไม่เป็นงะ


คืนนี้เราจะนอนที่อักรา 1 คืน Kamal Hotel ถึงโรงแรมก็กระโดดอาบน้ำก่อนเลย ทั้งห้องทั้งห้องน้ำ สะพรึงมาก อยากจะนอนไหลตายไปเลยเหมือนโดนดูดพลัง ไม่ได้!มาเที่ยวมีเวลาจำกัด 4โมงดีดตัวขึ้นมาไปเดินเล่น โบกรถหน้าโรงแรมวันนี้คงได้ที่เดียว ทุกอย่างที่คิดไว้ พัง!


Baby Taj

จำค่าเข้าไม่ได้ แต่ใช้พาสปอร์ตลดราคาได้นะ

ออกมาจาก Baby Taj ใกล้ๆก็มีตลาดเล็กๆริมถนน

คนซื้อกันใหญ่เลย ใส่น้ำมันแล้วจุดเทียน ตามที่ได้บอกไว้ข้างบนว่าตรงเทศกาล

โบกรถกลับที่พัก หาไรกินที่พักนี้เหละ ที่โรงแรมมีดาดฟ้านะเออ วิวหลักล้าน แป้งนาน นานจริงๆเย็นเฉียบ สงสัยจะอยู่มานาน

บรรยากาศกลางคืนตรงโรงแรม

น้ำอัดลมอันนี้ดี ซ่าถึงใจ ยืนซดหน้าร้านแล้วคืนขวดได้เลย

โรงแรมที่เราพักคืนนี้

คุณลุงเจ้าของโรงแรมแกก็มาจุดเทียนหน้าประตูรั้วโรงแรม

เราได้ข้อมูลจากนางงามอินเดียมาว่า มีแสดงแสง เสียงยามค่ำคืนที่ Agra font นี่ก็ขยืออยากจะไปดู โบกรถหน้าโรงแรม รอบนี้เป็นชายหนุ่ม 2 คนเป็นคนขับ มันสลับกันขับนั่งเคียงข้างกันไป เอาที่สบายใจเลย เราต่อราคาไปกลับ นาง2คนก็ไปส่งทิ้งไว้ที่ Agra font ตกลงเวลามารับกลับและขับจากไป พอเดินมาซื้อตั๋ว เข้!!!!!!!!!! การแสดงกำลังจะจบ คนขายตั๋วใจดีพาเดินเข้าฟรีไปดูตอนจบแสงสุดท้ายพอดี สวย แต่จบแล้ว ออกมาก็ยืนรอ 2 เพื่อนเกิลนัดนางอีกนาน จะเรียกคันอื่นก็ยังไม่ได้จ่ายตังขามาเลย รอ สักพักนางกลับมาพร้อมเบียร์ ฮัลโหล

วันนี้เป็นวันเทศกาลดิวาลี (Diwali) มีการจุดเทียนตามหน้าบ้าน จุดประทัดเชื่อว่าเป็นการขับไล่อสูร (ไปเอาความเชื่อนี้มาแต่ใด)

😒 ตัดภาพมาที่กู ผู้หิวโหย และกระหายน้ำแข็ง พี่ไปแมคโดนัล ดันปิด ตีโค้งดริฟแหกมาทุกแยกรถไม่มีแบรค พามา kfc กระโดดลงเหมือนวิ่งเข้าทุ่งลาเวนเดอร์ น้ำแข็ง น้ำแข็ง น้ำแข็งที่รอคอยมาทั้งชีวิตในประเทศนี้ หอบกล่องbox set อุ้มแนบอก ประคองแปปซี่มาอย่างเริงร่า กุชนะแคมเปญนี้ ขากลับ ในเวลาที่ชาวเมืองจุดพุ ดอกไม้ไฟกันทั้งเมือง สำหรับกูนั้นเหมือนนั่งตุ๊กๆ ฝ่าระเบิดกลางเมือง 💥 จุดแล้วโยนมากลางถนนทำไม ตูม 💥ตั้มมมมม ประทัดเสมือนกระสุนปืนม้วนเบล่อ โรยเหมือนต้านข้าศึกจะฝ่าวงล้อมเข้ามา ตูมทีกูคิดว่าจะต้องตายไปพร้อมกับไก่ kfc เดินไปขากุจะขาดไหมคะ ประทัดหรือระเบิด



คนเสริฟอาหารที่โรงแรมบอกก่อนออกมา คุณรู้ใช่ไหมว่าวันนี้เทศกาลดิวาลี นี้ก็ถามว่าต้องไปที่ไหนเหรอที่มีงาน นางว่าคุณสามารถไปได้ทุกที่เลย ปลอดภัย!!!!!!!!!!! เอิ่ม ปลอดภัย จริงดิ นี้ได้ไก่Kfcแล้วปิดห้องเลยนะ เสียงประทัดดังทั้งคืนนอนไป ตูม ตั๊ม บึ้ม นี้นึกว่านอนอยู่กลางสนามรบ ระหว่างกินkfcอยู่ในห้อง อะไรดำๆวิ่งผ่านหางตา หนู! หนู! หนู! พาหนะของพระพิฆเนตร นี้เรามาถึงอินเดียโดยแท้

4 ทุ่ม กำลังจะนอน เห้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย พรุ่งนี้วันศุกร์ ทัชมาฮาลปิดนี้หว่า มองหน้ากัน2พี่น้อง แล้ววันนี้คืออะไรลืมทัชมาฮาลไปจากสมอง ตั๋วรถไฟขากลับก็มีแล้ว โรงแรมที่ชัยปุระก็จองแล้ว นี้ที่รีบๆมาก็เพราะจะมาให้ทัชมาฮาลไงวะ เฮ้ย เอาไงนอน!!!!! นอยมากพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน


วันที่ 20 ต.ค.60 (ศุกร์)

เราสรุปกันได้ว่า จะอยู่ต่ออีก 1 คืน แต่พี่สาวร้องขอให้เปลี่ยนโรงแรมเพราะนางกลัวหนู และจิ้งจกที่ตัวใหญ่และอวบมาก ก่อนจะเช็คเอาท์เราเดินออกมาหารถเช่าพร้อมคนขับใกล้โรงแรม เดินทางวันพรุ่งนี้ตกลงราคาได้ที่ 4200 รูปี ไม่ยอมลดนี้ก็ลืมใช้มุขเดินหนีเพราะอยากเคลียปัญหาไวๆ เดินทางกลับจาก อักรา-ชัยปุระ และได้แวะเที่ยว 2 ที่ สำหรับเราคือไม่รู้ว่าถูกหรือแพงแต่คิดว่าหาร2 ก็รับได้ ส่งเมล์ไปหาโรงแรมที่ชัยปุระเลื่อนวันเข้าพักแต่ต้องจ่ายเต็ม 2 คืนทิ้งโรงแรมหรูไปซะงั้น หลังจากนั้นก็เดินหาโรงแรมใหม่ ใกล้ๆกับที่เดิม Shahjahan & Maharaja hotel โรงแรมนี้หาดูได้ในอโกด้านะแต่เราวอคอิน ทำเลตรงนั้นดีเพราะเดินไปทัชมาฮาลได้โครตของโครตใกล้ ได้ห้องใหม่ที่ไม่ดีกว่าเดิม มองบน!!!!!

**ตั๋วรถไฟที่อินเดียขอรีฟันได้นะเออ ของเราไม่ได้คืนทั้งหมดอาจเพราะยกเลิกใกล้เวลาเดินทาง

จากนั้นก็เริ่มหาที่ไปในเมืองนี้ ได้แผนที่มาจากร้านเช่ารถ ทางโรงแรมเรียกรถตุ๊กๆให้ไปไหนก็ได้ที่อยากไป คนขับใจเย็นมากอยากไปไหนบอกนางพาไปหมดราคาแล้วแต่จะให้ จะน่ากลัวก็ตรงไม่บอกราคานี้เหละ เริ่มจาก

Agra Fort

ค่าเข้า 30 รูปี ยื่นพาสปอร์ตลดราคาในราคาคนอินเดีย และงงไปกว่านั้นคือไม่ว่าคนอินเดียจะต่อแถวยาวแค่ไหนเค้าให้แทรกซื้อตั๋วก่อนโดยไม่ต้องรอ คนในแถวก็ยิ้มให้แบบเต็มใจให้แทรกเว้ย อะไรก็เกิดขึ้นได้กับประเทศนี้ทั้งนั้น

ใหญ่โตอลังการงานสร้าง เข้ามาเหมือนตัวเราเล็กมาก สถานที่ทั้งใหญ่และกว้าง สถาปัตยกรรมบ้านเค้าสวยจริงๆ ทางเข้าก็จะมีไกด์พยายามขายของใจแข็งไว้ คือ1ประหยัด 2เราฟังบ่ออกเด้อ

ออกมาก็หิวก็ให้คุณลุงคนขับพาไปห้างสรรพสินค้า ห้างที่เหมือนกำลังจะปิดตัวลงในไม่ช้านี้ คนอินเดียเดินหน้าตั้งกันเข้ามาทุกคนตรงไปที่ชั้นบน ต่อแถวยาว สรุปแล้วเค้าต่อแถวเข้าไปดูหนังกันในห้างนั้น เห็นแล้วก็ตื่นเต้นไปกับเค้า เราแวะกินแมคโดนัล ด้วยความกระหายน้ำแข็งจัดน้ำอัดลมไปสองแก้วขอน้ำแข็งแน่นๆ แมคโดนัลที่นี้อร่อยเว่อ เสร็จก็เดินเข้าไปช็อปปิ้งอยู่เป็นชั่วโมงคุณลุงก็นั่งรอไม่บ่นสักคำ ไปต่อค่ะ


จากแมพเราจิ้มไปที่ Mariam's tomb พอไปถึงดูเหมือนไม่มีอะไรและค่าเข้าแพงเลยขอผ่าน

วนกลับมาที่ Sikandara อยู่ใกล้ๆกัน


ดูความอลังของทางเข้าดิ ฮู้ววววว ส่วนตัวชอบที่นี้มันพอดีๆทั้งคนและสถานที่

จองเสื้อขาว ฉันรักเค้าบอกเค้าที เหนือสิ่งอื่นใดที่ชนีอย่างเราต้องพ่ายแพ้คือ การโพสท่าถ่ายรูปของผู้ชายอินเดีย

ข้างในเค้าห้ามถ่ายรูป ต้องไปโดนเองแล้วละเนอะ

Mehtab Bagh

ค่าเข้า 15 รูปี โชว์พาสปอร์ตไทยนะได้ลดราคา ที่นี้เป็นสวนสาธารณะอยู่ตรงข้ามด้านหลังของทัชมาฮาล เราให้คำจำกัดความที่นี้ว่า

" ไกลเหมือนใกล้ ใกล้เหมือนไกล" อยากรู้ว่าเราหมายถึงอะไรต้องไปหาคำตอบกับสถานที่จริงๆนะ

ในขณะที่นั่งมองทัช ก็เปิดกลูเกิลอ่านประวัติพร้อมกับมองทัช ลมพัดเบาๆ แสงอาทิตย์กำลังจกตก น้ำตากุก็ไหล โครตอิน

เสร็จจากตรงนี้เราก็บอกคุณลุงคนขับว่าอยากได้ส่าหรี แกก็พาไปทั้งหมด4 ร้าน คงจะเป็นร้านที่แกพานักท่องเที่ยวไปโดนบ่อยๆ ได้ค่าคอมใช่ไหมลุง เราให้คะแนนการพีเซ้นการขายของพ่อค้าที่นี้สูสีกับที่ญี่ปุ่น พีเซ้นเสร็จอยากลุกขึ้นตบมือให้ดังๆ จนเราและพี่ถอดใจ เพราะแต่ละร้านเค้าขายส่าหรีแบบที่ต้องไปตัดเอง โค้งผ่านร้านนึงเลยให้ลุงจอด ร้านนี้เราเลือกเอง และแล้วก็ได้ส่าหรีใสไปทัชมาฮาลในราคา 1500 รูปี ต่อจนเหนื่อยแต่ให้คะแนนเนื้อผ้าดี ออกมาจากร้านเจ้าของร้านก็เรียกลุงไปเอาค่าคอม เดานะ ร้านนี้กุเลือกเองให้กุซิ

กลับไปดูโชว์แสงและเสียงที่ Agra font

ถ้าเราจำไม่ผิดโชว์แสดง 19:00 ค่าบัตร 150 รูปี ตอนซื้อตั๋วมีชนีชาวอินเดียยืนโวยวายอยู่ตรงขายตั๋วพยายามบอกนักท่องเที่ยวได้ยินแว่วๆละ พี่เราบอกไม่ต้องไปสนใจนาง พอได้เข้ามาดูเท่านั้นเหละ อยากจะบอกทุกคนว่า***อย่าไปดู ไม่ใช่ซิ ห้ามไปเลยดีกว่า *** โครตจะไม่โอเครทุกอย่างมืด แสงไฟแทบมองไม่เห็น คนอินเดียพากันเดินกลับกันไปเกือบหมด มาถึงตรงนี้เข้าใจแล้วว่าชนีอินเดียนั้นที่โวยวายหมายความว่ายังไง ต้องขอบคุณนางที่นางพยายามบอกทุกคนว่าอย่าไปดูมันไม่ดี

กลับโรงแรมเราจ่ายให้คุณลุงไป 900รูปี ใช้บริการตั้งแต่ 10:00-21:00 กว่าจนเจ้าของโรงแรมโทรมาตาม 900 เหมือนแพงไปนิดแต่เทียบกับการบริการของคุณลุง และการฝากของให้ลุงดูแลระหว่างเที่ยว ปลอดภัยสุดๆ พิศวาสล้วนๆกุ เป็นโรคแพ้การบริการอย่างเป็นมิตรงะ นี่ไงลุง

วิวระหว่างทาง


วันที่ 21 ต.ค.60 (เสาร์)

Taj Mahal

โชว์พาสปอร์ตไทยนะ 530 รูปี มีน้ำให้1 ขวดกับถุงใส่รองเท้าให้ ก่อนเข้าสแกนกระเป๋า ไม่เอาของกินเข้าเด้อ

แหกตาตื่นแต่เช้า เพื่อไปทัชมาฮาลในฝัน ใส่ส่าหรีสวยๆเดินออกจากห้อง ไม่รู้เอาความมั่นหน้ามั่นเหนียงมาจากไหน แอบจำวิธีการใส่มาจากเจ้าของร้านใส่ให้ตอนลอง จากโรงแรมใกล้มากนะเดินมาได้เลย มาถึงคนเป็นแสน(เว่อไว้ก่อน) มีไกด์มาเสนอตัวตอนแรกไม่เอาพอเดินมาเจอแถวโอ้โห นัดรถมารับ 10 โมง แถวยาวขนาดนั้น 10โมงก็ไม่น่ารอดเทศกาลก็งี้ละนะ เดินกลับมาเรียกไกด์คนเดิมต่อราคา 2 คน 500 รูปี ซื้อความสบายซื้อเวลา เราสายเป มีไกด์เดินเข้าได้เลย มีไกด์ทุกอย่างจะดูง่ายไปหมด

ไกด์ก็บรรยายไป ถามก่อนไหมว่าเข้าใจป่าว

หันหลังกลับไปก็จะเจอมุมนี้

ตรึงใจใช่ไหมหละ

ใกล้10โมงแล้วรีบหอบส่าหรีเดินกลับโรงแรม รถมาแล้ววววววววววว รีบขึ้นไปเอากระเป๋า โรงแรมนี้เช็คเอาท์ 10โมงนะ เจอรถมารับพอดี ก่อนออกรถบอกคนขับฉันหิว พาไปซื้อแมคโดนัลหน่อย นางไม่สนใจที่เราพูดแล้วบอกว่าคนละทางฉันจะไปทางนี้ เอิ่มมมมไม่มีอะไรลงท้องตั้งแต่เช้านะนอกจากน้ำ ไม่กินก็ได้วะ ระยะเวลาเดินทางราว 4-5 ชั่วโมง บางทีคนขับก็ดูเป็นมิตร บางทีหน้านางก็โครตโหด ที่แรกที่แวะ


Fatehpur Sikri

ที่นี้ก็กว้างใหญ่ไพศาลมากเดินไม่หมด จากที่จอดรถต้องนั่งรถบัสขึ้นไป จำไม่ผิดน่าจะคนละ10 รูปีค่ารถ ตอนแรกเราก็ว่าจะไม่เอาไกด์แต่มีผู้คนเดินตามตอนนั้นหงุดหงิดมากเหวี่ยงไปเพราะโครตรำคาญคนมารุม นางก็ตามแล้วบอกฉันจะไล่ทุกคน จะไม่มีใครมาวุ่นวายคุณ นางเรียก100 รูปี เออเอาอะอย่าพูดมากนะ มีคนมารุมนางไล่ให้จริงๆเว้ย

ออกมาขากลับเจอรถเข็นขายน้ำ

น้ำแข็งใสอร่อยมาก ท้าให้ลอง

น้ำไม่ท้าให้ลอง อ่าาาาาาาา ทิ้ง

พอเรากลับมาที่รถคนขับรถเหวี่ยงอีกแล้ว นางว่าเรามาช้ามากทำหน้าไม่พอใจสุดๆ ต่อว่าบลาๆๆ อีกที่นึงที่ตกลงไว้คือ Chand Baori หลังจากเหวี่ยงเราเสร็จนางก็บอกว่าคงไปไม่ทันแล้วมันปิด 4 โมง แล้วจากนี้ไปถึงก็ 3 ชั่วโมงได้ ไปไม่ทันหรอก นอยมากเพราะอยากไปที่สุดบ่อน้ำ พี่บอกอย่าไปเชื่อกุอ่านมาที่นี้ส่วนใหญ่ปิดหลังพระอาทิตย์ตกทั้งนั้น เรานั่งหาในกลูเกิลจนเจอเว็ปนึงมันบอกปิด 6 โมงเย็น แล้วเราก็กลูเกิลแมพไปหาที่กำลังจะไป ดอกกกกก!!!!!!! อีกชั่วโมงเดียวถึง เราก็ไปสกิดนางแล้วโชว์ว่ามันปิดกี่โมง พร้อมแมพ นางก็เงียบ แขกหลอก!!!!!! หลังจากนั้นแหลมาก็แหลกับ ฉันต้องกลับแล้วพรุ่งนี้ตอนเช้าแล้ว ยังไม่ได้ดูอะไรเลย น้ำเสียงเสียใจก็มา น้ำตาคลอ สุดท้ายก็ยอมพาไปด้วยสีหน้าที่ไม่เต็มใจ นางควรจะรีบพาไป เหตุการก็เกิดขึ้นนางหันมาบอกว่าหิวข้าว ฉันจะแวะกินข้าว เออกุหิวไม่แวะพอหิวแวะ ตัดภาพมาที่นั่งรอนางในรถส่วนนางไปกินข้าว


Chand Baori

เข้าฟรี อันนี้ก็ตรึงใจมากสมกับการต่อสู้


เค้าห้ามลงไปนะเอออออ กระโดดลงไปสนุกสนาน มีคุณตาแก่ๆคอยไล่

ถึงโรงแรมโดยสวัสดิภาพประมาณ 2 3 ทุ่มจำไม่ได้ละ คืนนี้เราพักที่ Hotel Gandharva By Peppermint นอนที่ชัยปุระ 1 คืน แต่ต้องจ่าย2 คืน ตัดภาพไปที่โรงแรมสวรรค์

อาหารมื้อแรก

ไอติมมมมมมมมมมมมม

พูดได้คำเดียว ตอบจบ แฮปปี้


วันที่ 22 ต.ค.60 (อาทิตย์)

วันนี้เดินทางกลับบ้านด้วยแอร์เอเชีย เที่ยวบิน FD131 เวลา 23:35 ยังมีเวลาเที่ยว เช้านี้ตื่นแต่เช้าเที่ยวในชัยปุระ ก่อนออกเพื่อประหยัดกินอาหารเช้าโรงแรมตุนเต็มที่ เช็คเอาท์ ฝากกระเป๋าออกได้

ขอเสนอเมนูที่ได้มีส่วนร่วมในการกินมากที่สุด เกลือเกาะไข่ต้ม

วันนี้เราจะเหมารถตุ๊กๆไป 3 ที่และสุดท้ายคือเดินช็อปปิ้ง ยังไม่ได้ซื้ออะไรเลยนะเสียงว่าตลาดที่นี้เด็ดดวงพวงมาลัย ว่าแล้วก็ซุ่มโบกจั่วมาได้คันนึงคุยกันก็ไม่รู้เรื่อง คนขับหน้างงๆ แล้วทรงแบบอยู่นิ่งๆไม่ได้ ขยับ หยุกหยิก หยุกหยิก ตลอดเวลา ที่แรกที่ให้นางพาไป


Jai Mahal

นี่ใช่ไหม Jai Mahal จริงๆใช่ไหมนางพาเราเข้าถูกทางใช่ไหม ตรงนี้มีชุดให้เช่าใส่ด้วยนะ เดาว่าคงเป็นชุดพื้นเมือง


Amber fort

ฟรีค่าเข้า ขี่ช้าง 1100 รูปี แพงงงงง เดินก็ได้งั้น แต่ถ้าใครอยากจะขี่ช้างเราจะชี้ทางให้ เดินเลยทางเข้า Amber fort เรียบริมถนนไปใกล้จะเหนื่อยละก็เลี้ยวซ้าย เจอเลย! ทั้งรถจิ๊บ (ขึ้นทางด้านหลัง) ทั้งช้าง

อลังเว่อ

เห็นชั้นบนนั้นไหม ที่มีคนยืน อยากขึ้นต้องซื้อบัตรค่าเข้านะ

อารมณ์เหมือนเห็นกำแพงเมืองจีน

ปั๊มเฮนน่าหน้าประตูทางเข้า 20รูปี ไม่แนะนำให้ปั๊ม ปั๊มแล้วแสบๆคันๆ ถ้าใครอยากเพ้นท์แนะนำในตลาดมีชายหนุ่มฝีมือดีนั่งรอท่านอยู่


Hawa Mahal

ถ้าจำไม่ผิดค่าเข้า 200รูปี เราไม่ได้เข้า

ด้านหลังเป็นสีเหลือง ด้านหน้าก็คนละสี

ด้านหน้า

กลางคืนเปิดไฟสวยงาม เราอยู่แถวนี้จนมืดค่ำ

เดินตรงไปอีกนิดก็จะเจอ City Palace ค่าเข้า 500รูปี passport เหมือนจะลดราคาไม่ได้เพราะเราถามย้ำถึงสองรอบ ด้วยความที่เงินใกล้จะหมด และยังไม่ได้ช็อปบวกกับขี้เกียจเดินแล้ว แถวนี้เดินเที่ยวได้มีของขายตลอดทาง สถานที่ท่องเที่ยวก็ใกล้ๆกัน และแล้วชนีก็คือชนี หยุดการเที่ยวและบุกตลาดแบบด่วนๆ ฉันต้องได้อะไรกลับไปซิ

ชอบร้านนี้ข้างในขายขนม ขายช็อคโกแลต ขายเครื่องดื่มและมีห้องอาหารด้านใน สั่งของที่อยากได้จ่ายเงินแล้วจะได้บิลไปยืนรอรับอาหาร ในร้านก็จะมีโต๊ะให้ยืนกิน แบบเก๋ๆ

อร่อยจนลืมถ่ายรูป กินจนจะหมดละเมนูนี้ชื่อ Cold coffee+Ice Cream ราคา 130 รูปี

ต่อๆ อีกสักแก้วยังไม่ชื่นใจ อร่อย ละมุน ลืมถ่ายรูปอีกแล้ว เมนูนี้ Banana Lassi 90รูปี

ปิดท้ายด้วยร้าน Himalaya จากกลูเกิลแมพ เดินชมสถาปัตยกรรมที่ว่าเหนื่อย บ่น จะตายให้ได้ แต่ได้เดินช็อปปิ้ง ย้ำเดิน 7 ชั่วโมงพลังมาจากไหน ไปทุกแยกหอบของแค่ไหนไม่ใช่ปัญหา ข้ามถนนชิวๆใครว่าข้ามถนนที่นี้ยากเราว่าไม่จริง ที่ไทยยากกว่าอีกเพราะรถที่ไทยมันไม่จอดให้ เดินเบียดรถเพลินๆ ต่อราคาที่นี้ต่อจนกว่าจะพอใจได้มากกว่า50% พูดเลย ต่อได้โครตถูก ตุ้มหู 150รูปี ราคาที่สำรวจมาแล้วพบว่า 50รูปีคือราคาที่ค่อนข้างมาตรฐานสำหรับใครไม่รู้ สำหรับเราแฮปปี้เว่อ ได้ผ้าคลุมเตียงมา1 ผืน ขาย1250 ต่อ800ไม่ให้ พอไม่เอาก็ถามอยากได้ราคาเท่าไหร่ จนเราไม่เอาละเราเลยบอกว่าพี่สาวไม่ให้เอา ผ้าธรรมดามากๆ ถามอีกจะเอาเท่าไหร่ พี่บอก500 รูปี เอ้อออออให้เว้ย 1250 เหลือ500 บวกกับน้ำตาจะไหลของพ่อค้า คงเกลียดชนี 2คนนี้ อารมณ์เหมือนฉันจะขายโดยไม่สนฟ้า สนกำไร ขอให้ได้ขาย ออกจากตลาด 3 ทุ่ม กลับไปที่โรงแรมเอากระเป๋า เราถามราคา taxi จากโรงแรมไปสนามบิน 900รูปี โหโครตแพง เรียก Uber ดีกว่าไวโครต ถูกด้วย สนามบินที่นี้ก็จะสแกนหลายขั้นตอนหน่อย สแกนแล้วสแกนอีก กลับบ้านกัน ครึกครื้น อีกเช่นเคยเที่ยวบินคึกคัก สั่งไวน์ สั่งเบียร์ คุยกันเจี๊ยวจ๊าว นี้โหยมากทั้งอาหารและน้ำแข็งน้ำอัดลมเย็นๆ แอบนอย AirAsia ก่อนจะเดินทาง สายการบินมีการแจ้งเปลี่ยนเมนูอาหารใหม่ยกเลิกบางรายการ และก็เป็นรายการที่เราสั่ง สั่งรอบแรกเราก็เลือกอาหารพร้อมน้ำอัดลม ตอนโทรไปเปลี่ยนนี่ก็ย้ำว่าน้ำอัดลมใช่ไหมค่ะ นี้ก็ดีใจขึ้นเครื่องจะได้กินน้ำอัดลมกับน้ำแข็งเย็นชื่นใจ แปร๊ดดดดดด!!!! ได้น้ำเปล่ามาแทน คืออะไร ในความย้ำถามตอนโทรไปเปลี่ยนแล้ว คำพูดกับมือที่คลิกเมาท์มันคงสวนทางกันใช่ไหม ดูซิชนีนอยเพราะไม่ได้น้ำอัดลม อารมณ์เสียเรื่องกินเรื่องใหญ่



หิวมากทั้งอาหารที่สั่งล่วงหน้า ทั้งต้องซื้อน้ำอัดลมแบบรมณ์เสีย แล้วมีอีกอย่างที่อร่อยสั่งทั้งไปและกลับ ซุปแกร๊ ดีงามมากเข้มข้นสุดๆ

ประเทศอินเดีย

จริงๆแล้วอินเดียไม่ได้น่ากลัวเหมือนใครๆว่าไว้ เป็นประเทศหนึ่งที่คนในประเทศอารมณ์ดี แฮปปี้มากกกกกก รักสัตว์ และรักการขายไม่แพ้ญี่ปุ่น (ยิ่งกว่าญี่ปุ่น) ผู้คนดูมีความมุ่งมั่นและพุ่งชนทุกเป้าหมาย ไม่ว่าจะรถบัส รถยนต์ ตุ๊กๆ สามล้อ โมไซ ทุกคนพร้อมพุ่งไปในทิศทางของตัวเองแม้ว่าจะมีอุปสรรคขวางก็แทบจะพุ่งชน ผู้คนเดินไม่แคร์สื่อ แคร์ฟ้า แคร์เหวใดๆ ผสมผสานลงตัวไปกลับรถ ถนน สัตว์และธรรมชาติที่แท้จริง เดินข้ามถนนที่นี้ง่ายกว่าที่คิดอยากข้ามก็ข้ามเลยรถไม่ชนแน่นอนเดินเพลินๆ คนที่นี่เดินยังไงให้เดินแบบนั้น รถไฟที่นี้ยาวมาก แนะนำให้ยืนกึ่งกลางไว้จะได้วิ่งไม่เหนื่อย รถไฟจอดไม่สนิทกระโดดขึ้นพึบผับ จองแพงหน่อยมีห้องน้ำมีห้องแอร์ให้นั่งรอ ส่วนตัวสุดๆ ราชาชัดๆ hi แมม แมม แมม นีห่าว my shop คือคำที่คุ้นหู แต่คำที่ติดปากฉันก็มี no ,thank you, discount ความรู้สึกที่มีกับอินเดียมันช่างล้นเอ่อ เอิ่ม อ่อ ออ ขอบคุณ พาสปอร์ตไทยช่วยลดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะ see u again สุดท้ายนี้ I love uber india สุดท้ายของสุดท้ายให้คะแนนชนีใส่ส่าหรีกระโดดขึ้นรถไฟ คนนอนเสมือนโดดสึนามิพัดมา ผู้ชายอินเดียหล่อๆเยอะนะเอออ


สิ่งหนึ่งที่น่าจับตามองในอินเดีย คือโมไซจ้าหรือรู้จักกันในนามทางการว่ารถจักรยานยนต์ อะไรมันจะเก๋ขนาดนั้น ผู้หน้าคมๆใสแว่น ขับท้าลมกลางแดดเปรี้ยง ชนีก็สู้ไม่แพ้กันหอบส่าหรีกระโดดซ้อนท้ายคุมหน้าสวยๆ นี้นึกถึงหนังอินเดียตอนพระเอกมารับนางเอกออกไปเที่ยว สาหรีปลิวพริ้วไสว เพลงมา สังเกตุแฟชั่นนางสุดจริงๆส่าหรีสีไหนกำไรสีนั้นฮู้วววววกราบแฟชั่นชนีอินเดีย


สรุปค่าใช้จ่าย

ค่าเครื่องบินไปกลับ ไทย-ชัยปุระ ชัยปุระ-ไทย 2คน 10143 รวมอาหารขากลับและโหลดกระเป๋าขากลับ คนละ 5071บาท

-ค่ารถไฟ ชัยปุระ-อักรา 2A 1911 บาทรวมค่าจองแล้ว คนละ 956

-ค่ารถไฟ อักรา-ชัยปุระ 1081 บาทรวมค่าจองแล้ว ขอรีฟันคืนมาได้362 บาท เท่ากับค่ารถไฟจ่ายไป719 บาทหาร2

-ค่าโรงแรมที่อักราKamal hotel 500บาทหาร2 250

-ค่าโรงแรมที่อักราคืนที่2 Shahjahan & Maharaja hotel 950 รูปี 513บาท คนละ256บาท

-ค่าเช่ารถจาก อักรา-ชัยปุร 4200 รูปี 2268 บาท คนละ 1134 บาท

-ค่าโรงแรมที่ชัยปุระ 2 คืน 1660 บาท หาร2 คนละ 830บาท

-ค่าไกด์ทัชมาฮาล 500 รูปี คนละ 135 บาท

-ค่ารถพาเที่ยวในอักรา 1 วัน 900 รูปี คนละ243 บาท

-ค่าไกด์พาเดินเที่ยว Fatehpur Sikri 100 รูปี 27 บาท

-ค่าตุ๊กๆไป3 ที่ในอักรา 500 รูปี คนละ 135บาท

-ค่า Uber จากสนามบินไปสถานีรถไฟ 166 รูปี คนละ45 บาท

รวมค่าใช่จ่าย 9442 บาท


ถ้ารวมค่าเข้ายิบย่อย ตีไป 10,000 บาท ไม่รวมช็อปปิ้งล้มละลายหมดตัว

ค่าบัตรเข้าชม แสง เสียง Agra Font 150รูปี

ค่าเข้าทัชมาฮาล 530 รูปี

ค่าเข้าชมสวนหลังทัชมาฮาล 15รูปี

ค่าเข้าBaby Taj 25รูปี


ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกันนะคะ ตัวหนังสือมันก็จะเยอะๆหน่อย แต่ไม่มีสาระ หากมีข้อมูลใดผิดพลาดขออภัยมา ณ ที่นี่จ้า

ความคิดเห็น