สวยจนลืมไม่ลง " ม่อนจอง ไม่จองก็ไปได้ "
เขาที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย
สูง 1,929 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง
"ภูเขานี้ถ้าไม่ได้ไปคงเสียดายไปทั้งชีวิต"
ไฮไลของที่นี่ คือ
- ผาสิงห์ ที่หน้าตาคล้ายสิงโต
- สนามกอลฟ์ช้าง
- ผาลิงที่หน้าตาคล้ายลิง
- ของแถมอีกอย่างคือดอกกุหลาบพันปี ที่จะบานช่วงธันวาคม-มกราคม
- กิจกรรมดูดาวที่มองเห็นได้ 360 องศาแบบไม่มีอะไรมาบดบัง
ระดับการปีนเขา : ง่าย
ระยะทางทั้งหมดถึงผาหัวสิงห์ 8 กิโลเมตร
ดอยม่อนจองเปิดให้ท่องเที่ยวในช่วงตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนไปจนถึง 15 กุมภาพันธ์ของทุกปี
22.15 น. จากสนามบินอู่ตะเภา ถึง สนามบินเชียงใหม่ 23.10 น.
12.00 น. จากตัวเมืองเชียงใหม่ ถึง อมก๋อย 04.20 น. (ระยะทาง 245 กม.)
ลงจากสนามบิน ต่อ รถตู้เหมา (ติดต่อไว้ล่วงหน้าราคา 6000 ) 3 วัน ไม่ต้องเติมน้ำมันเอง
สมาชิคครบ 9 คนแล้ว เดินหน้าไปอมก๋อย แวะซื้อเสบียงที่ ตลาดหางดง
มาถึง ที่ทำการหน่วยพิทักป่ามูเซอ ตี4 ง่วงตาแทบปิด
มาถึงก็มาขอนอนที่บ้านพักเจ้าหน้าที่จะมีทั้งหมด 3 หลัง
นักท่องเที่ยวสามารถมาขอใช้บริการได้ มีห้องอาบน้ำให้ แต่ไม่มีที่นอนให้นะ
เราทั้งหมด 9 คนในทริปนี้ กระชากถุงนอนออกมาแล้วหลับแบบไม่ต้องบิ้ว
ตื่นมาอีกทีตอน 7 โมงเช้า ทำอาหารเช้าทานกัน เช้านี้มีโอวันติน กาแฟ ไข่เจียว หมูผัดพริกแกง
อิ่มท้องแล้วโทรเรียกรถ 4WD มารับที่นี่ได้เลย
ขนของขึ้นรถแล้วไปที่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
ติดต่อลูกหาบทริปเรา ใช้ลูกหาบ 3 คน แบกของส่วนกลาง
ราคาลูกหาบ 300 บาท/วัน 1 คนแบกได้ 20 กิโลกรัม
**ใครที่ไม่ได้เอาเต้นส์มาที่ศูนย์บริการมีให้เช่าราคาหลังละ 100 บาท นอนได้ 2 คน
ถุงนอน 100 บาท แผ่นรองนอน 100 บาท**
++พร้อมแล้วลุยเลย++
นั่งรถ 4WD ไปอีกประมาณ 1 ชม. ลงตีนเขาจุดเริ่มเดิน
ทางเข้าหมู่บ้านมูเซอ
ผ่านไป 40 นาที ทางเริ่มเละ คนเคี้ยว เขย่าตลอดทางตูดระบม แนะนำว่าควรยืน
มาถึงจุดจ่ายเงิน มีค่าเข้าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท
ค่ากางเต้นส์ หลังละ 50 บาท พร้อมยึดบัตรประชาชนไว้ 1 ใบเป็นค่ามัดจำขยะ
เจ้าหน้าที่จะแจกถุงดำ 2 ใบ ให้เอาขยะกลับลงมาจากเขาด้วย
เริ่มเดินกันเลยค่ะ
ลูกหาบที่คุยจ้อตลอดทางฝ่ายแอนตาเทนของแท้
เธอชื่อว่า นามอ เพรชราภรณ์
(ใครมาโคตแนะนำให้รีเควสน้องนามอเลย)
เอ้าววว เดินไปได้ 200 เมตร ลูกหาบที่จ้างมาทั้งหมด 3 คน มี 1 คนที่เมาค้างแล้วขอกลับเดินต่อไม่ไหวคุยไม่รู้เรื่อง แล้วที่นี่จะเอายังงัยกันดี งึด....
ตกลงอยู่นาน สรุปลูกหาบเหลือ 2 คนแบ่งของแพ็กใหม่ แต่ขอ 3 แรงเท่าเดิม โอเค ได้ไปต่อ
ไปต่อค่ะ เหนื่อยเหมือนกันนะ
ผ่านมาครึ่งทางจะเจอหินใหญ่ๆ "ภูหินช่อ" ตั้งอยู่วิวดีมากตรงนี้แวะถ่ายรูปนานหน่อย
เหนื่อยเอาเรื่อง.....มาถึงดอยหมาหอบแล้ว แต่มองไปข้างหน้าแทบไม่อยากจะเดินเลย
ไปทุกดอยคอยข้างล่างได้มั้ยยย เหนื่อยยยยยยย
ต่อสู้กับความชันของเขาอย่างต่อเนื่อง.....ง
นามอ อัพสเตตัสแปป 555+ นามอผู้ลากแตะขึ้นดอย
ส่งกระเช้ามารับหน่อย.......^ ^
อีกนิดเดว บอกกับใจ
เดินไปอีกนิดจะถึง สนามกอลฟ์ช้าง เป็นลานทุ่งหญ้ากว้างๆ
มองไปทางซ้ายมือจะเป็นจุดกางเต้นส์ ทางแยกขวามือคือ ทางไปจุดสูงสุดม่อนจองดอยหัวสิงห์
จะถึงแล้วอีกนิดเดียววววว
มาถึงจุดกางเต้นส์ กางเต้นส์ ทำอาหารกลางวันทานแล้วไปจุดชมวิวดอยหัวสิงห์
มองจากมุมนี้จะยังไม่เห้นดอยหัวสิงห์ ต้องข้ามเขาลูกนี้ไปก่อน
เฮ้ยยยสวยวะ ควรมาก่อนตาย
แวะถ่ายรูปกันตลอดทาง สวยทุกมุม ทุกเขา
พี่เหนือหมอกหลอกมาทัวร์ ผู้ชายยุค 80 ฮากระจาย
กุหลาบพันปีสีแดง บานเต็มต้นเลยแต่มันไกลถ่ายเห็นแค่นี้ ขออภัย
นามอลูกหาบหญิงบอกว่ามีสีแดง สีชมพู สีขาวด้วย แต่ตอนนี้เห็นแค่สีแดง
จากจุดนี้มองย้อนกลับมาก็สวยไปอีกแบบ
โอ้ยยยไม่ถึงสะทีเหนื่อยยย....ใครงอแงทีบตกเขา
งแล้วจะร่าเริงเป็นพิเศษ เพราะมันสวยมาก เลยจุดนี้ไปจะเป็นดอยหัวลิง หมดแรงเดินต่อแล้วเอาแค่นี้แล้วกัน....เด๋วเดินย้อนลงไปทางจุดกางเต้นนอนดูพระอาทิตย์ตกฟินๆดีกว่า
เพื่อนเห็นเขาที่เขียวๆไกลๆโน่นมั้ย นั้นแหละดอยหัวลิง ถ้ามองดีดีจะเหมือนหน้าลิง
ตอนนี้เดินย้อนกลับมาพระอาทิตย์กำลังตกเลย สวยมากๆเพื่อนๆ แวะอยู่จุดนี้จนฟ้ามืดเลย
เพื่อนกับเขาเป็นอะไรที่เข้ากันสุดๆ
เพลินจนกลับ.....
เดินกลับไปที่เต้นส์ทำสุกี้กินกันเถอะหิวววว
พี่กิตกับเมนู หมูย่างสุดอร่อย
งานดีจริงๆ
อิ่มท้องแล้ววว ลากถุงนอนไปดูดาวกัน ที่ลานสนามกอลฟ์ช้าง ตอนนี้ 3 ทุ่มฟ้าเปิด ดาวเยอะมากกกกกก
ภาพต่อจากนี้ไม่ได้แต่งดาวเพิ่มแต่อย่างใดของจริงล้วนๆ สวยโคตๆใครไม่ออกมาดูดาวคืนนี้คือพลาดมากก
4 ทุ่มเมฆกลุ่มใหญ่ลอยมาปิดฟ้าหมดเกลี้ยงเลย ทุกคนแยกย้ายไปนอน พรุ่งนี้ ตี 5 เจอกัน
โอโหววว หมอกเยอะจัดเช้านี้รอจน6โมงแล้วฟ้ายังสางเลย
ต้มน้ำกินโอวันติล กาแฟ กัน
พร้อมต้มไข่สำหรับกินระหว่างทางกลับ....
เก็บของเริ่มเดินออกจากจุดกางเต้นส์ ประมาณ 8 โมงกว่าๆ
ดูหมอกสะก่อนนน หืมมมม หนาวเหน็บและเหน็บหนาว
ภาพนี้ได้โดยบังเอิญที่พระอาทิตย์ทอแสงออกมาไม่ถึง 5 นาที จากนั้นก็มีแต่หมอกหนาๆตลอดเส้นทาง
"ดอยหมาหอบ" วันนี้กับเมื่อวานให้อารมร์ต่างกันอย่างสิ้นเชิง
นี่สายแล้วนะ ตะวันอยู่ไหนนนนนน
จะกลับแล้วนะ
เข้าเขตป่า โอ้ยยสดชื่นนนเดินสบายอากาศแบบนี้
มาถึงครึ่งทางแล้ว มีพิธีชนไข่เล็กน้อย
ถึงแล้ววว หนุ่มๆ ในทริปเราเดินมายังกับบอยเบรนด์
ขึ้นรถ 4WD ไปลงศูนย์บริการนักท่องเที่ยวมูเซอ 1 ชม.
ตอนนี้ทุกคนหิวมาก นามอแนะนำร้านในหมู่บ้านมูเซอ
มีก๋วยเตี๋ยว ส้มตำ น้ำแข็งใส น้ำอักลม ขนม ครบจบในร้านเดียว อร่อยด้วยนะเพื่อนๆแนะนำเลย อยุ่เลยโรงเรียนบ้านมูเซอมานิดเดวร้านอยู่ติดถนนเลย
เรามีปาร์ตี้โค้ก...
น้ำแข็งใส 10 บาท ชื่นจายยยย
กินเสร็จไปเดินเล่นในหมู่บ้านมูเซอ
คนที่นี่จะเลี้ยงหมูป่าไว้ใต้ถุงบ้านทุกบ้านเลี้ยงเหมือนหมาบ้านเราเลย
แต่ดูมันจะผอมมากเห็ยซีโครงเลยน่าสงสานอ่า
อิ่มแล้วกลับไปที่ทำการบ้านหมูเซออาบน้ำ แล้วเข้าตัวเมืองเชียงใหม่
ขากลับแวะสวนสนบ่อแก้ว...นามิเมืองไทย
จบทริปไปอย่างสวยงาม
สรุปค่าใช้จ่าย
เสบียงอาหารทุกมื้อ 420 บาท
ค่าเข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า 180 บาท
ค่าพื้นที่กางเต้นส์ 5 หลัง 250 บาท
ค่าก๋วยเตี๋ยวส้มตำโค้กน้ำแข็งใส ขนม ตอนลงจากดอย 550
ค่าลูกหาบ 1950 บาท (พร้อมแถมติบ)
ค่ารถ 4WD 3000
รวม 6350/9 คน = คนละ 705 บาท
- ค่าเหมารถตู้มาอมก๋อย 6000/8 = 750 บาท
- ค่าเครื่องบินไปกลับ 1600 บาท
รวมสุดท้าย 3,055 บาท
Mint Septidkhao
วันเสาร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2561 เวลา 12.43 น.