ถ้าพูดถึงจังหวัดหนึ่งที่น่าเที่ยวไม่เป็นสองรองใครในฤดูหนาว “เชียงราย” จังหวัดเหนือสุดในประเทศไทย ก็ต้องผุดเข้ามาในความรู้สึกเมื่อนึกถึงอยู่เสมอๆ หมู่มวลดอกไม้เมืองหนาวผลิบาน ทะเลหมอกในยามเช้าบนยอดดอย อาหารท้องถิ่นเมืองเหนือ เสียงเพลงสะล้อซอซึง สิ่งเหล่านี้ล้วนดึงดูดใจให้อยากไปสัมผัส มนต์เสน่ห์แห่งล้านนา “เชียงราย”
สำหรับบันทึกการเดินทางในชุดนี้เราจะว่ากันด้วยเรื่องของแหล่งท่องเที่ยวรอบๆ ในตัวเมืองเชียงรายเป็นหลัก รวมไปถึงเส้นทางที่ห่างออกไปอีกไม่ไกลนักอย่าง ต.แม่ยาว ที่แม้จะตั้งอยู่ในเขต อ.เมือง แต่กลับเต็มเปี่ยมไปด้วยขุนเขา แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เรื่องราวของชนเผ่า และวิถีชีวิตริมน้ำกก ที่น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว
อีกหนึ่งพื้นที่การเดินทางในแบบฉบับของผม ม่วงมหากาฬ LIFE FOR TRAVEL https://www.facebook.com/PEESAT.PANTIP
ก่อนไปในตัวเมืองก็อดที่จะขึ้นดอยไม่ได้ หน้าหนาวทั้งทีก็อยากมาเชยชมทะเลหมอก ลุงม่วงเลยเดินทางมาที่ดอยผาตั้ง อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะในวันนี้สภาพอากาศไม่เป็นใจ หมอกฟุ้งจนมองไม่เห็นอะไรเลย ในภาพเป็นจุดชมวิว “ผาบ่อง” ประตูรักแห่งขุนเขา ที่ดอยผาตั้ง ว่ากันว่าถ้าคู่รักได้จูงมือกันลอดผ่านประตูรักแห่งขุนเขาตรงนี้ จะทำให้ความรักยั่งยืนนิจนิรันดร์
บางทีอะไรที่ไม่ได้คาดหวัง กลับได้มาอย่างไม่ทันตั้งตัว เหมือนอย่างทะเลหมอกที่นี่ Goodview@ภูชี้ฟ้า ที่สายหมอกเอ่อล้นมาถึงหน้าเต็นท์ที่พักของพวกเรา ไปถึงดอยผาตั้งไม่เจอหมอก มาเจอเอาหน้าเต็นท์นอนนี่เอง
Goodview@ภูชี้ฟ้า เป็นรีสอร์ทเล็กๆ แต่อบอุ่น ที่นี่มีบ้านพักเพียงสองหลัง เน้นหนักไปทางการนอนเต็นท์ จุดเด่นคือห้องน้ำที่มีจำนวนหลายห้อง สะดวกสบาย และที่สำคัญถ้าโชคดีก็อาจจะเป็นแบบในภาพที่มีทะเลหมอกมาเยี่ยมเยือนอย่างใกล้ชิด
เช้าวันนี้พวกเราขึ้นมาทางเหนือกันที่ อำเภอเชียงแสน ของจังหวัดเชียงราย จุดหมายปลายทางคือ “ดอยสะโง้”
“ดอยสะโง้” อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอเชียงแสนราว 16 กิโลเมตร การเดินทางรวมไปถึงถนนหนทางไม่ลำบากมากนัก จะมีหนักหน่อยก็ตรงห้าร้อยเมตรสุดท้ายก่อนถึงดอยสะโง้ที่ต้องใช้รถโฟรวีลเท่านั้น เพราะถนนหนทางค่อนข้างโหด เป็นหลุมร่องลึก เราสามารถใช้บริการรถเช่าของชาวบ้านให้พาขึ้นไปได้ในราคาเพียง 100 บาทต่อคันเท่านั้นและสามารถนั่งได้ถึง 7 คน โดยเราต้องจอดรถทิ้งเอาไว้ภายในลานจอดรถของหมู่บ้านและเสียค่าจอดรถ 50 บาท
จุดเด่นสำหรับที่นี่คือจุดชมวิวในมุมสูงสามแผ่นดิน มองออกไปไกลถึงดินแดนของประเทศพม่า ประเทศลาว และประเทศไทยของเรา รวมไปถึงวิถีชีวิตชาวเขาเผ่าอาข่าที่อาศัยอยู่ที่นี่ และถ้าโชคดีเราอาจได้เห็นทะเลหมอกโอบรอบไปทั่วบริเวณ
ที่ดอยสะโง้แห่งนี้มีทั้งบ้านพักที่คอยให้บริการแก่นักท่องเที่ยวในแบบเรียบง่ายเป็นกระท่อม มีจุดกางเต็นท์ มีอาหารจำหน่ายและอบอวลไปด้วยความสุข
สายวันนี้พวกเราวกกลับเข้ามาในตัวเมืองเชียงรายเพื่อเก็บเกี่ยวบรรยากาศของไร่สิงห์ปาร์คในฤดูหนาว ถ้าให้เลือกการพักผ่อนและท่องเที่ยวในแบบครบทุกรสชาติก็คงต้องเป็นที่นี่ เพราะนอกจากจะได้สัมผัสความสวยงามของหมู่มวลดอกไม้แล้วนั้น ที่ไร่สิงห์ปาร์คแห่งนี้ยังสามารถมาออกกำลังกาย ปั่นจักรยาน นั่งรถราง นั่งบอลลูน เล่นซิปไลน์ ให้อาหารยีราฟได้อีกด้วย
ลุงม่วงชอบมุมนี้เป็นพิเศษ เป็นร้านขายอาหารที่ตกแต่งได้น่ารัก น่านั่งพักผ่อนเอามากๆ
น่าเสียดายที่ไร่สิงห์ปาร์คในวันนี้ไม่มีดอกคอสมอสที่จะต้องเบ่งบานเต็มไปทั่ว เพราะเพิ่งหมดอายุของดอกคอสมอสพอดี รอรอบใหม่ที่จะบานอีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์ จะมีก็เพียงน้อยนิดราวไร่เศษๆ บริเวณริมทางรถวิ่ง แต่ก็สวยงามใช้ได้ทีเดียว
ไร่สิงห์ปาร์คในวันนี้ก็ยังคงงดงาม อุดมไปด้วยดอกไม้นานาพรรณเหมือนทุกๆ ครั้งที่ได้มาเยี่ยมเยือนไม่เปลี่ยนแปลง
วันนี้ลุงม่วงใช้เวลาอยู่ที่นี่นานเป็นพิเศษ เพราะความสวยงามของดอกไม้และอากาศที่เย็นสบาย ไม่มีแดด เดินเล่นถ่ายภาพไปเรื่อยๆ ก็เพลินดีเหมือนกัน
ช่วงเย็นของวันนี้ลุงม่วงตั้งใจมาที่วัดร่องขุ่นซึ่งอยู่ไม่ไกลจากไร่สิงห์ปาร์คมากนัก บรรยากาศและสถาปัตยกรรมของวัดร่องขุ่นยังคงงดงามเหมือนเช่นเคย ช่วงนี้ทำลานจอดรถเพิ่มมากขึ้น ทำให้สะดวกสบายในการจอดรถและเดินไม่ไกลมากนัก
ภาพบรรยากาศสุดท้ายของวันกับความงดงามวิจิตรบรรจงของวัดร่องขุ่น จบวันไปพร้อมๆ กับความสุขในจิตใจ
วันนี้ลุงม่วงมีโอกาสได้มาเก็บภาพบรรยากาศภายในงาน Flipper Bike Championship ครั้งที่ 1 ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่าง ททท. ร่วมกับ Flipper Bike ,ร้านจักรยาน PJ Kisd Bike ศูนย์การค้าเซนทรัลพลาซ่าเชียงราย และผู้สนับสนุนอีกจำนวนมาก เพื่อเปิดให้น้องๆ อายุระหว่าง 2-6 ปีได้มาร่วมสนุกแข่งขันจักรยานทรงตัวแบบขาไถ โดยแบ่งเป็นรุ่นๆ เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 60
การแข่งขัน Flipper Bike Championship ครั้งที่ 1 ในครั้งนี้ รถจักรยานทุกคันที่เข้าแข่งขันจะไม่มีที่วางเท้าสำหรับปั่น แต่จะใช้เท้ายันพื้นให้รถไปข้างหน้าแทน เด็กๆ แต่ละคนไถจักรยานกันอย่างว่องไวและคล่องตัวมากๆ วาดลวดลายนักซิ่งกันอย่างเต็มที่ บรรยากาศเป็นไปอย่างสนุกสนาน โดยมีคุณพ่อคุณแม่ ญาติๆ มาเป็นกองเชียร์กันอย่างใกล้ชิด
เช้าวันนี้ลุงม่วงมาสักการะบูชาอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช ซึ่งประดิษฐานอยู่ที่ถนนห้าแยกพ่อขุนเม็งราย เพื่อความเป็นศิริมงคล พ่อขุนเม็งรายมหาราชพระองค์คือปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์มังราย ผู้สร้างเมืองเชียงรายให้เกรียงไกรในอดีต
ถัดจากอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราชออกมาไม่ไกลมากนักจะเป็นที่ตั้งของหอนาฬิกา จังหวัดเชียงราย ที่มีความโดดเด่นกว่าหอนาฬิกาโดยทั่วไป เพราะความสวยงามวิจิตรบรรจงสร้าง สามารถเปลี่ยนสีได้ โดยมีอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติเป็นผู้ออกแบบ และเป็นผู้ควบคุมการก่อสร้าง
ห่างจากหอนาฬิการาวห้าร้อยเมตรจะเป็นที่ตั้งของงานเชียงรายดอกไม้งามที่จัดบริเวณสวนตุงและโคมเฉลิมพระเกียรติ 75 พรรษา เรียกได้ว่าสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองก็จะอยู่ใกล้ๆ กัน
งานเชียงรายดอกไม้งามปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 14 แล้ว ภายในงานจะอุดมไปด้วยดอกไม้นานาพรรณ ยามค่ำคืนจะมีการแสดง มีดนตรีบรรเลง และใกล้ๆ กันจะเป็นลานขายอาหาร ไม่เสียค่าเข้าชมด้วยนะ ปีนี้งานจะสิ้นสุดในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2561
ไฮไลท์สำคัญของงานเชียงรายดอกไม้งามในทุกๆ ปีคือการนำเอาดอกทิวลิปหลากสีสันมาจัดแสดงให้ได้ชม ดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวเดินทางไกลมาจากหลายๆ จังหวัดเพื่อมาเชยชม
ความสวยงามของดอกทิวลิปหลากสีสันเข้ากับบรรยากาศที่โรแมนติกเคล้าไปกับเสียงเพลงและอากาศที่เย็นสบาย นี่คือสิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวเชียงรายในฤดูหนาว
ถัดจากงานเชียงรายดอกไม้งามออกมาซัก 3 กิโลเมตร จะเป็นอีกหนึ่งวัดที่งดงามและวิจิตรบรรจงเป็นที่สุด นั่นคือวัดร่องเสือเต้น ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย
“วัดร่องเสือเต้น” เป็นวัดที่มีศิลปะความงดงามที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่น โดยการนำโทนสีน้ำเงินมาใช้เป็นสีหลัก ออกแบบและรังสรรค์โดย นายพุทธา กาบแก้ว หรือ สล่านก ศิลปินท้องถิ่นชาวเชียงราย ซึ่งเคยเป็นลูกศิษย์ของ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์
ภายในวิหารมีผลงานจิตรกรรมภาพวาดฝาพนังเกี่ยวกับพระพุทธประวัติ โดยใช้เฉดสีน้ำเงินฟ้ามีลวดลายที่อ่อนช้อยงดงาม มีพระประธานสีขาวที่งดงามชื่อว่า “พระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ"
จากวัดร่องเสือเต้นห่างออกมาอีกราว 3 กิโลเมตรจะเป็นที่ตั้งของศาลากลางหลังเก่า จังหวัดเชียงราย เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีความเก่าแก่อายุนับ 100 กว่าปี บริเวณด้านหน้าจะมีพระบรมราชานุสาวรีย์ของเสด็จพ่อ ร..5 ประดิษฐานอยู่
ติดกันกับศาลากลางหลังเก่าจะเป็นที่ตั้งของวัดพระสิงห์ ซึ่งเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ตั้งอยู่ที่ ถนนท่าหลวง ตำบลเวียง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
สาเหตุที่วัดนี้มีชื่อว่า “วัดพระสิงห์” นั้น น่าจะเป็นเพราะครั้งหนึ่ง เคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมือง ของประเทศไทย คือ พระพุทธสิหิงค์ หรือที่เรียกกันในชื่อสามัญว่า“พระสิงห์” ปัจจุบันวัดพระสิงห์เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธสิหิงค์จำลองศิลปะเชียงแสน
ติดๆ กันกับพระอุโบสถที่ประดิษฐานองค์พระพุทธสิหิงค์จำลอง จะเป็นอีกหนึ่งพระอุโบสถที่งดงามในแบบพุทธลักษณะสง่างามศิลปะล้านนาไทยสมัยเชียงแสน
พระประธานภายในพระอุโบสถวัดพระสิงห์จะเป็นพระพุทธปฏิมาศิลปะล้านนาไทย พุทธศตวรรษที่ 21 ปางมารวิชัย ชนิดสำริดปิดทองงดงามเป็นอย่างยิ่ง
ห่างออกไปอีกไม่กี่ร้อยเมตรจะเป็นที่ตั้งของวัดพระแก้ว อีกหนึ่งวัดที่สำคัญของจังหวัดเชียงราย ซึ่งตั้งอยู่ที่ถนนไตรรัตน์ ใจกลางเมืองเชียงรายและวัดนี้เองที่ได้ค้นพบพระแก้วมรกต หรือพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ที่ประดิษฐานอยู่ ณ วัดศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพฯ ในปัจจุบัน
เมื่อเดินเข้ามาเราจะพบกับพระอุโบสถรูปทรงเชียงแสน มีลักษณะฐานเตี้ย มีหลังคาลาดต่ำงดงามทางสถาปัตยกรรมเป็นอย่างยิ่ง
ภายในพระอุโบสถจะประดิษฐานพระเจ้าล้านทอง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสำริดปางมารวิชัย
เมื่อเดินเข้ามาด้านในสุดจะเป็นที่ตั้งของหอพระหยก ซึ่งเป็นอาคารทรงล้านนาโบราณ
ภายในหอพระหยกจะประดิษฐาน “พระแก้วหยก” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปหยกที่คณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนชาวเชียงรายร่วมกันสร้างขึ้นเนื่องในวโรกาสที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีมีพระชนมายุครบ 90 พรรษา เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 2533 โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2534 และชาวเชียงรายได้อัญเชิญมาประดิษฐานที่นี่ โดยเรียกกันว่า “พระหยกเชียงราย” จนถึงปัจจุบัน
ติดๆ กันกับวัดพระแก้วจะเป็นร้านอาหารท้องถิ่นรสเด็ดที่ไม่ควรพลาด นั่นก็คือร้านข้าวซอยวิจิตรา
ลองสั่งขนมจีนน้ำเงี้ยวมาทาน รสชาติใช้ได้เลยทีเดียว ออกแนวแบบโบราณ ที่สำคัญราคาถูกเอามากๆ อีกด้วย
อีกหนึ่งสถานที่สำคัญและยังไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวรู้จักมากนักคือ พิพิธภัณฑ์รอยพระบาท รัชกาลที่9 ซึ่งตั้งอยู่บนดอยโหยด ภายในค่ายทหารเม็งรายมหาราช และอยู่ถัดจากวัดพระแก้วออกมาไม่ไกลนัก
ถ้าหากนักท่องเที่ยวจะเข้ามาสักการะรอยพระบาทรัชกาลที่ 9 สามารถเข้ามาได้ในค่ายทหารเม็งรายมหาราช โดยแลกบัตรกับทางพี่ทหาร แล้วขับรถเข้ามาด้านในผ่านสนามกอล์ฟ จะมีถนนทางขึ้นไปด้านบนดอยโหยด สามารถมองเห็นได้จากระยะไกล
ตามประวัติศาสตร์ในอดีตที่มีการสู้รบกันระหว่างผู้ก่อการร้อยพรรคคอมมิวนิสต์กับรัฐบาลไทย ตามแนวเทือกเขาดอยยาว-ดอยผาหม่น เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2525 ด้วยพระบารมีปกเกล้าฯ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช องค์จอมทัพไทย ได้เสด็จฯ เพื่อเยี่ยมเยือนทหารหาญและราษฎร ณ ฐานปฏิบัติการ ดอยพญาพิภักดิ์ บนดอยยาว จ.เชียงราย และในวโรกาสอันเป็นมิ่งมหามงคลนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน ประทับรอยพระบาทของพระองค์ ลงบนแผ่นปูนปลาสเตอร์ที่จัดเตรียมไว้ เพื่อเป็นมิ่งขวัญแก่ทหารกล้าทั้งปวง ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
ปัจจุบันรอยพระบาทได้ถูกอันเชิญมาประดิษฐานไว้ที่นี่ เพื่อให้คนรุ่นหลังและนักท่องเที่ยวได้เข้ามาเยี่ยมชมสักการะสืบต่อไป
จากค่ายเม็งรายมหาราชเดินทางออกมาอีกราว 17 กิโลเมตรก็มาถึงหมู่บ้านกระเหรี่ยงรวมมิตร ซึ่งตั้งอยู่ ต.แม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีกิจกรรมนั่งช้างท่องเที่ยว
หมู่บ้านกระเหรี่ยงรวมมิตรเป็นหมู่บ้านที่อาศัยของหลายชนเผ่าทั้งชาวกระเหรี่ยง อาข่า ลาหู่ ลีซอ ม้ง และไทลื้อ เป็นหมู่บ้านที่ได้รับการพัฒนาคุณภาพโดยใช้การท่องเที่ยวจากองค์กรเอกชนและประสบความสำเร็จจากการนำช้างมาเป็นพาหนะนำเที่ยวหมู่บ้านชาวเขา ปัจจุบันจัดเป็นศูนย์กลางชาวเขาในแถบ อ.เมือง จ.เชียงราย
กิจกรรมท่องเที่ยวที่สำคัญภายในหมู่บ้านซึ่งนอกเหนือไปจากการนั่งขี่ช้างแล้ว ยังมีร้านจำหน่ายของที่ระลึกจากชาวเขาชนเผ่าต่างๆ มีหมู่บ้านโฮมสเตย์และยังสามารถชมการแสดงของชาวเขาได้อีกด้วย
ในวันที่พวกเราไปเยือน ชาวบ้านซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุชาวกระเหรี่ยงกำลังเดินออกมาจากวัดกันเป็นแถวๆ ชาวบ้านที่นี่จะยิ้มแย้มให้กับนักท่องเที่ยวและแขกที่มาเยือน ประหนึ่งคุ้นเคยกับวิถีชีวิตที่มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนอยู่บ่อยๆ
ลุงม่วงมาสะดุดตากับบ้านหลังนี้ที่จำหน่ายผ้าย้อมครามพื้นบ้าน แขวนเอาไว้ภายในบ้าน เลยลองแวะเข้าไปชมซักนิด
ด้านในบ้านจะทำเป็นโรงเย็บผ้า รวมไปถึงด้านหลังบ้านที่มีการทำเป็นโรงย้อมผ้า โดยฝีมือของชาวบ้านโดยตรง
สวยงามและดูประณีตใช้ได้ ที่สำคัญราคาก็ไม่แพงมากนัก เลยอุดหนุนกลับไปเป็นของฝากให้คุณแม่ซัก 2 ผืน
ถัดจากหมู่บ้านกระเหรี่ยงรวมมิตรออกมาราว 4 กิโลเมตร จะเป็นที่ตั้งของบ่อน้ำพุร้อนผาเสริฐ ต.ดอยฮาง อ.เมือง จ.เชียงราย เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่สำคัญและอันซีนทีเดียวเมื่อมาเยี่ยมเยือนแถบนี้ ภายในบ่อน้ำพุร้อนผาเสริฐจะร่มรื่นไปด้วยแมกไม้ ไม่เสียค่าเข้าชม มีร้านอาหาร มีบริการนวดและมีจำหน่ายของฝากด้วย
นักท่องเที่ยวสามารถมานั่งเอาเท้าแช่น้ำร้อนได้ฟรี ไม่มีค่าบริการ หรือจะลงไปอาบน้ำที่สระน้ำรวมก็ได้เช่นกัน เสียค่าบริการเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
หรือถ้าต้องการความเป็นส่วนตัวก็สามารถใช้บริการของห้องอาบน้ำร้อนส่วนตัวก็ได้เช่นกัน
จากจุดเริ่มต้นสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมือง จนไปสุดที่บ่อน้ำพุร้อนผาเสริฐ เป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่ครบทุกรสชาติ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่าน แล้วพบกันใหม่ในโอกาสต่อไป สวัสดีครับ
ม่วงมหากาฬ
วันพุธที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2561 เวลา 00.01 น.