ติดตามการเดินทางของผมได้ที่ Facebook Page : Hang Around Thailand

https://www.facebook.com/hangaroundthailand


ตั้งแต่เด็ก ผมเป็นคนที่กลัวความลึกของทะเล เมื่อมองลงไปแล้วรู้สึกว่าทำไมมันมืดเหลือเกิน มองไม่เห็นพื้นเลย ไม่รู้มีอะไรอยู่ใต้นั้นบ้าง

แต่การที่ตัดสินใจเอาชนะตัวเองด้วยการไปเรียนดำน้ำครั้งแรก มันทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไป

วันนึง ขณะที่ผมกำลังนั่งเล่น facebook เลื่อน newsfeed ไปเรื่อยๆ ตามอ่านนั่นนี่เหมือนปกติทุกวัน

สายตาก็ไปสะดุดกับข้อความการโปรโมทโปรโมชั่นของเพจๆ นึง มันเป็นการโปรโมทราคาส่วนลดการเรียนดำน้ำของเพจที่ชื่อ Coral Grand Divers ซึ่งขณะนั้นออกบูธอยู่ในงานไทยเที่ยวไทย

ข้อความมีการเชิญชวนและรูปภาพประมาณ 3 4 รูป ที่มันทำให้ผมถึงกับต้องหยุดอ่าน เพราะมันดึงดูดจิตใจของผม

ผม tag ให้โบดู ซึ่งโบอยากดำน้ำอยู่แล้ว โบเลยชวนผมไปงานไทยเที่ยวไทย ซึ่งวันนั้นเป็นวันสุดท้ายของงาน

พอไปถึงบูธ พี่ๆ ที่บูธก็พูดชวนให้ไปดำน้ำ ลองดูสิ เป็นการเปิดโลกใหม่ คุยไปคุยมา เอ๊า!!! เผลอจ่ายตังค่ามัดจำไปซะงั้น 5555 ซึ่งเป็นแพ็คเกจเรียนดำน้ำของ Open Water ของ PADI รวมห้องพักจำนวน 4 คืน ราคา 9,000 บาท

หลังจากกลับมาเราก็มาศึกษาการเดินทางไปเกาะเต่า ซึ่งสรุปได้ว่า มีเครื่องบินลงชุมพรแล้วต่อเรือ กับการนั่งรถของบริษัทเรือไปเลย

เราตัดสินใจนั่งเครื่องบินไป ซึ่งมีสายการบินเดียวที่มีเที่ยวบินไปชุมพร คือ นกแอร์ ซึ่งมี 2 เที่ยวต่อวัน คือเวลา 07.25 น. และ 18.45 น.

ทางไปจอง : https://www.nokair.com

ส่วนตั๋วเรือข้ามฝาก เราให้บริการของบริษัทลมพระยา ซึ่งมีรถรับ – ส่ง ตั้งแต่สนามบิน ถึงท่าเรือ เราจองผ่านเว็บ โคตรสะดวก

ทางไปจอง : https://www.lomprayah.com


Day 1

เราไปถึงชุมพรประมาณ 8 โมงครึ่ง จากนั้นก็เดินออกจากสนามบิน จะเจอเค้าเตอร์ของบริษัทลมพระยาอยู่ทางซ้ายของสนามบิน



ตั๋วจากสนามบินไปท่าเรือทุ่งมะขามน้อย ราคา 200 บาท ซึ่งจะมีรถตู้เข้าไปส่งในเมืองก่อน และรอเวลาเที่ยงจะมีรถบัสมารับไปท่าเรืออีกที




รถมาส่งที่ออฟฟิตของลมพระยาที่อยู่ติดกับสถานีรถไฟชุมพร



นั่งรอซักพัก พอเที่ยงรถบัสก็มารับเราเพื่อจะไปขึ้นเรือเวลา 13.00 น. ที่ท่าเรือทุ่งมะขามน้อย



บรรยากาศภายในเรือค่อนข้างดี สะอาด แอร์เย็น เบาะนั่งสบาย



นั่นพี่เอ็ดเวิร์ส พี่ที่เรียน Scuba กับเรา แต่ตอนถ่ายนี่เรายังไม่รู้จักกัน แอบถ่ายไว้ก่อน 5555

ซักพักผมก็เดินสำรวจรอบๆ เรือ ใครอยากถ่ายรูปขึ้นไปถ่ายบนดาดฟ้าเรือได้ หรือใครเมาเรืออยากสูดอากาศขึ้นไปนั่งบนดาดฟ้าได้ 5555



เรานั่งเรือประมาณ 2 ชม. นั่นไง!!! เกาะเต่า ถึงแล้วๆ

ใครติดต่อโรงแรมมารับก็เดินออกไปทางซ้ายตามศาลานี่แหละ ไปหาเอาเลย พี่ๆ พนักงานมารอรับเยอะมาก ใครหาโรงแรมตัวเองไม่เจอ ถามใครก็ได้ เค้าจะรู้จุดกันหมด



นี่รถของโรงแรมเรา Coral Grand Diving



รถมาส่งเราตรงนี้ เดินไปอีกหน่อยจะเป็น Diving House อยู่ทางด้านซ้ายตามรูป ที่เห็นหลังคาน้ำตาลๆ นั่นแหละ



ด้านขวาจะเป็นสระว่ายน้ำของนักท่องเที่ยวที่มาพักเฉยๆ ไม่ได้มาดำน้ำ



หลังจาก checkin พนักงานก็ให้กุญแจห้องพักมา ซึ่งห้องพักที่แถมมากับแพ็คเกจดำน้ำแล้วจะเป็นห้องพัดลม แต่ถ้าใครต้องการห้องแอร์จะต้องเพิ่มเงินคืนละ 400 บาท



หลังจากเก็บของในห้องแล้ว คุณครูของเราก็นัด 4 โมง ให้ออกไปปฐมนิเทศหลักสูตรและเรียนภาคทฤษฏีก่อนแล้วถึงจะเรียนภาคปฏิบัติ คุณครูของเรามี 2 คน คนแรกชื่อครูกุ่ย อีกคนชื่อ ครูปิง โดยหลักสูตรของเราตามด้านล่าง

- วันที่ 1 เรื่ม 16 :00 น. ปฐมนิเทศหลักสูตร

- วันที่ 2 เช้า ศึกษาบทเรียนภาคทฤษฎี และบ่าย ฝึกภาคปฏิบัติในสระว่ายน้ำ

- วันที่ 3 เช้า ฝึกภาคปฏิบัติในสระว่ายน้ำ และบ่าย ดำน้ำไดฟ์ 1 & 2 (ความลึกอย่างมาก 12 เมตร)

- วันที่ 4 เช้า สอบภาคทฤษฎี และบ่าย ดำน้ำไดฟ์ 3 & 4 (ความลึกอย่างมาก 18 เมตร)

วันแรกผมไม่ได้เอากล้องติดไปด้วย เลยไม่มีรูปมาให้ดู ซึ่งครูกุ่ยจะแจกหนังสือหลักสูตร Open Water Diving ให้

ติดตามการเดินทางของผมได้ที่ Facebook Page : Hang Around Thailand

https://www.facebook.com/hangaroundthailand


Day 2

ตอนเช้า 8 โมงครึ่ง ครูกุ่ยนัดเราออกไปเจอกันที่ห้องเรียน แล้วเริ่มเรียนภาคทฤษฎีที่เหลือ ตอนช่วงเช้า และบ่ายเราจะไปลงน้ำกัน

พอเรียนภาคทฤษฏีเสร็จ ครูกุ่ยก็นัดเราตอนบ่ายโมงให้ไปเจอกันที่ห้องอุปกรณ์เพื่อไปเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะกับตัวเอง

โคตรตื่นเต้นเลยวุ้ยยย!!! จะได้ดำน้ำครั้งแรกแล้ว ผมไปถึงคนแรก ไปรอตั้งแต่เที่ยง 45 (ไม่ได้ตื่นเต้นโว้ยยย 5555)

หลังจากนั้นครูกุ่ยกับครูปิงก็ให้เราลองอุปกรณ์ รวมถึงอธิบายแต่ละอย่างว่าใช้งานอย่างไร






หลังจากนั้นก็ทำการทดสอบการลอยตัวบนผิวน้ำ ซึ่งให้ลอยท่าปลาดาวประมาณ 3 – 5 นาที

พอทดสอบเสร็จเรียบร้อย ครูกุ่ยกับครูปิงก็ให้เราขึ้นมาบนบกเพื่อจะสอนการประกอบอุปกรณ์ และการเตรียมความพร้อมก่อนจะลงน้ำ จากนั้นให้โยนอุปกรณ์ลงไปใส่ในน้ำ

โบ พี่เอ็ดเวิร์ส และพี่หญิง เพื่อนร่วมเรียนดำน้ำกับผมในครั้งนี้



วันแรกเราเรียนการหายใจผ่าน Regulator (อุปกรณ์ในการหายใจใต้น้ำ) การเคลียร์หน้ากากตอนน้ำเข้าหน้ากาก การใช้งาน BCD ขั้นตอนการจมและลอยบนผิวน้ำ รวมถึงลองถ่วงน้ำหนักโดยการใช้เข็มขัดตะกั่วให้พอดีกับน้ำหนักตัว

เราเรียนและทำสกิลเสร็จกันประมาณ 5 โมงเย็น ตัวเปื่อยกันไปข้าง 5555

พรุ่งนี้ครูกุ่ยนัดเราตอน 8 โมงครึ่งเหมือนเดิม เพื่อมาทำสกิลและเรียนรู้เทคนิคเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินใต้น้ำเพิ่มเติม แล้วบ่ายเราก็จะได้ออกทะเลกันแล้วววว


Day 3

เราไปถึงห้องอุปกรณ์ตอน 8 โมง แล้วหิ้วอุปกรณ์มาที่สระ วันนี้ครูกุ่ยและครูปิงให้เราทำการประกอบอุปกรณ์ด้วยตัวเอง



8 โมงครึ่งครูกุ่ยและครูปิงก็มาถึง วันนี้จะให้เราทำการประกอบอุปกรณ์แล้วใส่บนบก จากนั้นครูปิงก็สอนการลงน้ำพร้อมอุปกรณ์ให้กับเรา

“เอ่อ…นี่คือ Regulator ให้คาบมันเอาไว้ แล้วเอามือขวากดที่หน้ากากกับ Regulator ส่วนมือซ้ายให้จับที่ Weight Belt จากนั้นก็ก้าวไปที่ขอบสระหนะ”



“ทุกคนดูพี่หนะ…ขั้นตอนง่ายๆ ก้าวออกไปเหมือนเดินไปข้างหน้า แล้วก็ตู้ม!!! ลง…ลงไปแล้ววว”



“หลังจากลงไปแล้ว ให้โผล่มาทำท่า Love you เอ้ยไม่ใช่!!! ทำท่า Big O ที่หมายความว่า เราโอเคแล้ววว”



“เชิญน้องโบทำก่อน มาๆ!!!”

“จะลงแล้วน้าค้าาาาาาาา”



ตุ้ม…เห้ยๆ!!! ทำไมไม่โผล่ ไหนๆ อ๋อนั่นไง นู๋โอเคค้าาาาา



หลังจากนั้นเราก็จมลงน้ำกัน ครูกุ่ยกับครูปิงก็ให้เราทำสกิลถอดหน้ากากใต้น้ำแล้วใส่ใหม่ เผื่อเกิดเหตุหน้ากากหลุดระหว่างอยู่ในน้ำ



จากนั้นก็สอนการแขวนตัวใต้น้ำหรือการควบคุมโบเจนซี่ แล้วก็ให้เราว่ายไปรอบๆ


เอาทำแหวนใต้น้ำหน่อย


สุดท้ายก็สอนการทำสกิลการขึ้นจากน้ำเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินในแบบต่างๆ

เอาหละ!!! ถึงเวลาแล้ว ที่เราจะต้องลงทะเลจริงๆ

กินข้าวเสร็จครูกุ่ยก็นัดเราเที่ยงครึ่งให้มาขึ้นเรือที่หน้าหาด


มาถึงแล้ว จุดดำน้ำแรกของเรา Japanese Garden ชุดแรกลงไปก่อน



dive นี้ เป็น dive แรกของเรา ครูปิงเลยยังไม่ให้เราเอากล้องลงไปถ่าย เพราะจะต้องลงไปทำสกิลใต้น้ำกันก่อน กลัวว่าจะไม่มีสมาธิในการทำสกิล

พอโดดลงน้ำ ความกลัวความมืดใต้ทะเลของผมก็กำเริบ รู้สึกจิตใจมันไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ระแวงขาว่าจะมีอะไรมาดึงเราหรือปล่าว

ซักพักคำสั่งจากครูปิงก็บอกให้เราปล่อยลมออกจาก BCD แล้วจมลงไป

เมื่อหัวมิดน้ำ ความเงียบก็เข้ามา มันเงียบ…จนได้ยินแม้เสียงหัวใจตัวเอง ความตื่นเต้นและความกระหาย ที่อยากจะเห็นอะไรใหม่ๆ เริ่มเข้ามาแทนความกลัว ทุกอย่างเหมือนถูกปลดปล่อย ความรู้สึกเหมือนลอยอยู่บนท้องฟ้า มีความอิสระ โบยบินไปเรื่อยๆ เหมือนนก

หลังจากเราทำสกิลเสร็จ ครูปิงก็นำเราออกไปว่ายน้ำเล่น

ผมพึ่งรู้วันนี้ ว่าโลกใต้ทะเล มันสวยงามมากๆ แบบที่หาไม่ได้จากบนบก ทำไมนะ เราไปทำอะไรอยู่ ทำไมไม่มาเรียนตั้งนานแล้ว

ใครเมาคลื่น การออกเรือครั้งแรกจะเป็นความทรมานในชีวิตมาก 5555 พอขึ้นมาบนผิวน้ำ พี่เวิร์สกับโบก็บริจาคอาหารให้ปลาได้กินกันใหญ่โต 5555 หลังจากปลดปล่อยแล้วก็โล่ง

วันนี้เราดำกัน 2 dive ซ้ำจุดเดิม จากนั้นพอขึ้นมาเราก็กลับมาเขียน Dive log ของเรา เป็นสมุกที่บอกว่าเราดำน้ำไปแล้ว กี่ dive



ติดตามการเดินทางของผมได้ที่ Facebook Page : Hang Around Thailand

https://www.facebook.com/hangaroundthailand


Day 4

วันนี้เราจะต้องไปสอบภาคทฤษฎีก่อนในช่วงเช้า จากนั้นตอนบ่ายออกไปเก็บสกิลในทะเลอีก 2 dive

การสอบภาคทฤษฎีเป็นไปอย่างราบลื่น ตอนบ่ายเราก็ออกไปขึ้นเรือที่หน้าหาดเพื่อจะออกไปสอบภาคทะเล

พอถึง ครูกุ่ยก็สั่งให้เราประกอบอุปกรณ์ จากนั้นก็กระโดดลงน้ำ



หลังจากทำสกิลกันแล้ว เราก็ดำน้ำเล่นกันไปเรื่อยๆ ครูปิงสอนการใช้เข็มทิศและ Dive Computer ให้กับเรา



การดำน้ำด้วยความลึก จะมีแรงดันสูง การขึ้นจากน้ำ เราต้องทำ Safety stop กันก่อนเพื่อความปลอดภัย จุดนี้แหละคือจุดที่เราจะได้ถ่ายรูปเล่นกัน กดกันรัวๆ



ขากลับมีวิทยุจากเรืออีกลำมาว่า ฉลามวาฬ เข้า ซึ่งฉลามวาฬเป็นปลาใหญ่ที่หายาก เพราะจะว่ายไปเรือๆ เป็นจุดที่นักดำน้ำทุกๆ คนอยากจะเห็น บางคนดำมาเป็น 100 dive ก็ไม่เคยเจอ

กัปตันของเราใจดีรีบกลับเรือพาเราไปล่าฉลามวาฬทันที



ผมนี่อย่างพร้อมจะกระโดดลงจากเรือทุกเมื่อ ใส่ฟินใส่หน้ากากเตรียมตัวไว้แล้ว แต่ปรากฏว่าเราไปไม่ทัน ฮือๆๆๆๆๆ พี่จุด ไม่รอน้องเลยยยย

ไม่เป็นไร รอบหน้าเอาใหม่ 5555

สุดท้ายเราก็จบหลักสูตร PADI Open Water Diving กันแล้ว รอก่อนนะ โลกใต้ทะเล จะไปสำรวจบ่อยๆ เลย 5555

พอจบหลักสูตรคืนนั้นเราก็ไปปาร์ตี้กันนิดหน่อย แต่ไม่ค่อยได้ถ่ายรูป เพราะเมา 5555



Day 5

วันนี้เราตั้งใจจะเช่าเรือไปเที่ยวที่เกาะนางยวน ที่อยู่ตรงข้ามกับที่พักเราพอดี

เดินๆ ไปถามเรือหน้าหาด ได้ราคามา 300 บาท ครึ่งวัน

เกาะนางยวนเปิด 10 โมง ปิด 5 โมงเย็น ห้ามนำโดรนและอาหารเข้าเกาะ ซึ่งเกาะนางนวลมีทุกถ่ายรูปวิวมุมสูงอยู่ ต้องเดินขึ้นไปประมาน 10 นาที เหนื่อยเอาเรื่อง



หลังจากเที่ยวเสร็จเราก็กลับมาเก็บของเพื่อที่จะกลับไปขึ้นเรือเวลา 14.45 น. แล้วขึ้นเครื่องบินกลับกรุงเทพ

หลังจากวันนั้น…ผมคิดถึงมันเสมอ ความรู้สึกแรก…ที่เห็นโลกใต้ทะเล ขอบคุณตัวเอง ที่เอาชนะความกลัวได้ และพาตัวเองไปเรียนดำน้ำ

ขอบคุณเพื่อนๆ ที่ร่วมลำบากไปด้วยกัน ถ้ามีโอกาส พบกันใหม่ โลกใต้ทะเล


ติดตามการเดินทางของผมได้ที่ Facebook Page : Hang Around Thailand

https://www.facebook.com/hangaroundthailand

Hang Around Thailand

 วันจันทร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2561 เวลา 12.05 น.

ความคิดเห็น