Chailai Grace ที่พักสไตล์อังกฤษคันทรี่ ใกล้ดอยหลวงเชียงดาว

Chailai Grace

ที่พักสไตล์อังกฤษคันทรี่ ใกล้ดอยหลวงเชียงดาว จ.เชียงใหม่

ใครจะไปคิดว่ากลางป่ากลางเขา ใกล้ทางขึ้นดอยหลวงเชียงดาว จะมีบ้านหลังใหญ่เป็นที่พักสไตล์อังกฤษคันทรี่แบบนี้อยู่ มองเห็นวิวดอยหลวงเชียงดาวชัดเจน บางช่วงมีหมอกขาวๆลอยฟุ้งทั่วบริเวณ พร้อมแปลงกุหลาบหลากหลายสายพันธุ์ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันผลิบานส่งกลิ่นหอมเย้ายวนชวนหลงใหล เหมือนได้หลุดเข้าไปอยู่เมืองอังกฤษอย่างไรอย่างนั้น

“นี่บ้านคนหรือว่าเป็นที่พักด้วย สวยมาก วิวดีมาก มองเห็นดอยหลวงเชียงดาวใกล้มากเลย” เราพูดกับผู้ร่วมทริปในวันที่ขับมอเตอร์ไซค์ขึ้นไปดอยแม่ตะมานกันตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว พอช่วงปลายปีไม่รู้ทำไมยังคาใจอยู่กับบ้านหลังนี้ จึงเริ่มหาข้อมูลจริงจัง จากการเปิดดูในแผนที่ Google Map พบพิกัดและทราบชื่อมาว่า “Chailai Grace” แล้วทำการหาข้อมูลต่อ แต่ปรากฎว่าในตอนนั้นพบข้อมูลเพียงแค่แฟนเพจเฟซบุ๊กเท่านั้น ว่าเป็นบ้านและเปิดให้เข้าพักได้ แต่เพิ่งเริ่มต้นทำ และไม่พบข้อมูลจากแหล่งอื่นๆ

กระทั่งกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมาได้มีโอกาสเข้าพักที่ “ไฉไล เกรซ” เรารู้สึกตื่นเต้นมากๆตั้งแต่มาถึง ที่นี่หลังใหญ่กว่าที่จำได้ และมีกลิ่นอายแบบยุโรปๆตามที่เราชอบ เราไม่ได้คลั่งไคล้ความเป็นยุโรป แต่เวลาเห็นศิลปะต่างๆสไตล์ยุโรปแล้วมันอดยิ้มตาเป็นประกายไม่ได้ทุกที

“Chailai Grace” (ไฉไล เกรซ) มาจากชื่อของเจ้าของบ้านหลังนี้ คือ คุณไฉไล โกมารกุล ณ นคร ผู้ชื่นชอบบ้านสไตล์อังกฤษครันทรี่เป็นทุนเดิม ได้ใช้ที่ดินผืนใหญ่ทำเลดีแห่งนี้สร้างบ้านตามสไตล์ที่เธอชอบ และเพิ่งเปิดให้เป็นที่พักแบบ Bed & Breakfast คือเจ้าของบ้านให้บริการเองทั้งที่พักและอาหารเช้า ทางเข้าตามอุโมงค์จามจุรีเข้าไป

ริมรั้วมีพวงครามสีม่วงสดใสกำลังบานสะพรั่งอยู่เต็มไปหมด

เดินเข้ามาดูในบ้านหลังใหญ่ มีห้องครั้ว และห้องรับแขกอันโอ่อ่า มีไว้ใช้ต้อนรับแขก เพื่อนๆ จนปัจจุบันก็ได้ใช้ต้อนรับผู้ที่ชื่นชอบสไตล์เดียวกันนี้ที่ต้องการเข้ามาพักด้วย ส่วนการตกแต่งภายในบ้านจะเน้นใช้เฟอร์นิเจอร์และของที่ทำจากไม้เก่าซึ่งได้มาจากต่างประเทศ บางชิ้นก็เป็นงานฝีมือและของสะสมของคุณไฉไลเองที่ชอบสไตล์เหล่านี้ตั้งแต่ก่อนสร้างบ้านหลังนี้แล้ว บางชิ้นก็เป็นไม้พื้นเมืองในจังหวัดเชียงใหม่ ที่สั่งทำขึ้นตามแบบที่เข้ากับธีมของบ้าน

มุมพักผ่อนและโต๊ะทำงานอันเต็มเปลี่ยมไปด้วยความคลาสสิค ผสมผสานกันอย่างลงตัวกับอุปกรณ์ตกแต่งทุกชิ้นที่เป็นแบบอังกฤษคันทรี่ หน้าต่างใช้ไม้และกระสดใสเพื่อให้มองเห็นวิวอันงดงามด้านนอก ตั้งแต่สวน แปลงกุหลาบ ยาวไปจนถึงดอยหลวงเชียงดาวที่ตั้งตระหง่านอยู่ไม่ไกล

ห้องพักที่อยู่ในบ้านหลังใหญ่นี้ ได้เข้าชมและเก็บภาพมาฝากกัน 2 ห้องค่ะ แต่ละห้องจะตกแต่งไว้อย่างงดงามด้วยอุปกรณ์และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆตามสไตล์ของบ้าน และตั้งชื่อห้องโดยใช้ชื่อสายพันธุ์กุหลาบซึ่งเป็นดอกไม้ที่คุณไฉไลชื่นชอบเป็นพิเศษนั่นเอง

“Double Delight”

เป็นห้องพักสำหรับ 2-3 ท่าน ราคา 2,500 บาท พร้อมอาหารเช้า การตกแต่งภายในห้องส่วนใหญ่จะเป็นโทน ขาว ครีม ชมพู และใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้แทบจะทั้งหมด มีทีวีขนาดกลางวางไว้อยู่บนโต๊ะไม้ครึ่งวงกลม ทางปลายเตียง

บริเวณหน้าต่างมีตู้ไม้ที่วางเบาะนุ่มๆลายดอกไม้เอาไว้สำหรับนั่งหรือสามารถใช้นอนได้ ผ้าม่านโปร่งแสงสีขาว ปลายชายเป็นลวดลายถักมือ และที่บานหน้าต่างไม้เป็นกระจกใสสามารถมองเห็นวิวด้านนอกได้อย่างงดงาม หรือจะเปิดออกไปชมวิวให้เห็นดอยหลวงเชียงดาวชัดๆก็ได้เช่นกัน

ที่มุมห้องปลายเบาะนั่งด้านหนึ่งวางเก้าอี้ไม้พร้อมหมอนอิงสีขาวถักทอลาย เป็นงานฝีมือที่ดูเข้ากันได้อย่างลงตัว ผนังห้องยังมีกรอบไม้ที่มีงานปักครอสติชซึ่งเป็นของสะสมของคุณไฉไลติดตกแต่งเอาไว้ ดูเข้ากันกับบรรยากาศของห้องมากๆ

เมื่อเปิดตู้ไม้มุมห้องออกมา พบขวดน้ำดื่มและแก้วน้ำที่มีงานถักโครเชต์สีขาวหุ้มเอาไว้ และตะกร้าข้างๆนั้นใส่ไดร์เป่าผมไว้ให้พร้อม

ถัดจากตู้ไม้ บริเวณประตูห้องมีสลิปเปอร์ หรือรองเท้าใส่ในบ้านวางไว้ให้ 2 คู่ ก็ยังคงเป็นคอนเซ็ปต์เดียวกัน เพียงแต่ใช้สีให้เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ไม้

“Claire Martin”

ห้องนี้อยู่ถัดจากห้องแรกเข้ามาข้างใน สามารถพักได้ 3-4 ท่าน ราคา 3,500 บาท พร้อมอาหารเช้า เป็นห้องที่อุปกรณ์ตกแต่งสวยมาก ทั้งเตียงนอน หมอนอิง ผ้าม่าน และสิ่งต่างๆภายในห้อง

มีตู้ไม้ที่วางเบาะไว้ให้เข้ากับมุมอย่างลงตัว ไว้สำหรับนั่งหรือนอนได้อย่างสบาย อยู่ริมหน้าต่าง พร้อมเก้าอี้ไม้สวยๆที่มีหมอนอิงวางอยู่ จากหน้าต่างสามารถมองออกไปเห็นวิวสวนหน้าบ้านและวิวดอยหลวงเชียงดาวได้เช่นกัน

ในห้องน้ำนั้นดูงดงาม แบบเดียวกันกับห้องแรกเลยล่ะค่ะ

แม้แต่ปฏิทินแขวนผนังก็ยังเป็นสไตล์อังกฤษ ลายกุหลาบ เข้ากับบรรยากาศของห้องมากเลย

ต่อมาเป็นบ้านพักที่อยู่หลังบ้านหลังใหญ่ สามารถพักได้ 3-4 ท่าน ราคา 2,800 บาท พร้อมอาหารเช้า หลังนี้จะไม่สามารถมองเห็นดอยหลวงเชียงดาวจากบ้านพักได้ แต่จะอยู่ใกล้ลำธารด้านหลัง ซึ่งสามารถเดินลงไปเล่นน้ำในลำธารได้ ภายในบ้านหลังนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ เตียงนอน 2 เตียง ขนาด 3.5 ฟุต และ 5 ฟุต และยังมีที่นั่งตัวยาวอยู่มุมห้อง ซึ่งสามารถเป็นที่นอนได้อีกด้วย

และเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา คุณไฉไลได้เพิ่มที่พักเป็นแบบบ้านพักขึ้นมาอีก 3 หลัง อยู่ภายในบริเวณสวนหน้าบ้าน เยื้องๆกับบ้านหลังใหญ่ ทุกหลังสามารถมองเห็นวิวดอยหลวงเชียงดาวได้อย่างชัดเจน มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีห้องน้ำในตัว อุปกรณ์ตกแต่งทุกอย่างดูสวยและน่ารักมาก แต่ละหลังก็ยังคงมีชื่อเป็นชื่อของดอกกุหลาบแสนไพเราะ ทั้ง First Lady, Heaven On Earth และ Dream Come True

– First Lady หลังแรก พักได้ 2 ท่าน เป็นเตียงใหญ่ 1 เตียง ราคาหลังละ 3,000 บาท (เพิ่มได้ 1 ท่าน บวก 500 บาท) พร้อมอาหารเช้า

– Heaven On Earth หลังที่อยู่ตรงกลาง พักได้ 2 ท่าน เป็นเตียงเล็ก 2 เตียง ราคาหลังละ 3,000 บาท (เพิ่มได้ 1 ท่าน บวก 500 บาท) พร้อมอาหารเช้า

– Dream Come True หลังที่สามจะเป็นเตียงใหญ่ และเตียงเล็ก พักได้ 3 ท่าน ราคา 3,900 บาท (เพิ่มได้ 1 ท่าน บวก 500 บาท) พร้อมอาหารเช้า

จากหน้าบ้านทุกหลังจะได้เห็นวิวสนามหญ้าสีเขียวๆไปจนถึงดอยหลวงเชียงดาวตั้งตระหง่านให้เห็นอยู่ไม่ไกล บางวันอาจมีหมอกลงมาถึงหน้าบ้าน บางวันเมฆก็ลอยต่ำจนบดบังดอยหลวงเชียงดาวไปบ้าง แต่แค่รอเวลาไม่นานจะได้เห็นวิวสวยๆกว้างไกลกันอย่างแน่นอน

มีลานจอดรถอยู่ด้านหลัง บริเวณที่เป็นสวนสน สะดวกดีค่ะ จอดแล้วก็สามารถเดินมาจากด้านหลังที่พักเพื่อเข้าที่พักได้สะดวกๆ ไม่ต้องเดินไกล ไม่ต้องผ่านบ้านหลังอื่นๆเลยด้วย

ห้องรับประทานอาหาร

ห้องด้านหลัง ลักษณะกึ่งห้องใต้ดินของบ้านหลังใหญ่ ใช้เป็นห้องสำหรับรับประทานอาหารเช้า และอนุญาตให้ผู้เข้าพักนำวัตถุดิบเข้ามาประกอบอาหารได้ คุณไฉไลใจดีมากค่ะ ให้ยืมครัวใช้ได้เลย ทราบมาว่าตอนนี้ก็กำลังทำครัวส่วนตัวแยกออกไปอีกแห่ง ทางด้านหลัง ไว้ให้สำหรับใครที่อยากทำอาหารแล้วนั่งทานกันแบบกลุ่มส่วนตัวๆ

ภายในห้องรับประทานอาหารยังคงมีกลิ่นอายแบบอังกฤษครันทรี่ แบบยุโรปๆ ตามคอนเซ็ปต์ของบ้าน มองดูสบายตา น่านั่งไปหมดทุกมุม โต๊ะ เก้าอี้ รูปแบบต่างๆ ตั้งไว้พอดีกับพื้นที่ของห้อง รองรับได้ประมาณ 20-25 ที่นั่ง

มีการตกแต่งมุมต่างๆทั้งดีไซน์ผนัง พื้น รวมไปถึงกรอบรูปและแบบแขวนต่างๆที่เข้ากับบรรยากาศของห้อง

สามารถเดินออกอีกประตูหนึ่งไปด้านหน้า จะพบกับวิวสวยๆแบบนี้ สวยมากจริงๆ

อาหารเช้า จะมาเสิร์ฟประมาณนี้เลยค่ะ ในจานมี แฮม ไส้กรอก ไข่คน ผักสลัด มีขนมปังโฮลวีทปิ้งแยกมาพร้อมกับ เนยชิ้นใหญ่ในที่เก็บเนยแสนสวย เพิ่มคุณค่าทางอาหารด้วยผลไม้อีก 1 จาน คือมะละกอหั่นชิ้นพอดีคำ มีน้ำเปล่าและน้ำส้มให้อีกด้วย อร่อยมาก และอิ่มกำลังดี

ส่วน ชา กาแฟ นั้นชงเองได้เลยค่ะ

จากนั้นพามาชมสวนกุหลาบกันต่อ คุณไฉไลได้รวบรวมสายพันธุ์ต่างๆเอาไว้ด้วยความรักและใส่ใจดูแลอย่างดีทุกต้น ด้วยความชื่นชอบส่วนตัวถึงขนาดต้องเรียนรู้วิธีการเลือก การปลูก และการดูแลต่างๆแบบจริงจัง แล้วก็ได้ผลเป็นอย่างดีเพราะกุหลาบผลัดกันออกดอกอวดสีสันหลากหลายให้ได้ชมอยู่ตลอด สภาพอากาศก็ช่างเป็นใจ เดินไปใกล้ๆได้กลิ่นหอมอ่อนๆของกุหลาบแล้วรู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก

ช่วงนี้นอกจากดอกกุหลาบที่กำลังบานดอก ก็ยังมีดอกไม้อีกหลายอย่างออกดอกให้ได้ชมกัน เช่น มอร์นิ่งกลอรี่ กัลปพฤกษ์ อโศกระย้า อโศกพวง

ศาลานั่งเล่น ที่ไม่ว่าจะมานั่งชมวิวสวยๆเพลินๆ หรือมาจัดปาร์ตี้ของทานเล่น ก็ได้บรรยากาศสุดๆไปเลยค่ะ

บ้านหลังนี้ยินดีต้อนรับคนที่รักในสไตล์อังกฤษคันทรี่และบรรยากาศแบบนี้จริงๆ มาพักกายพักใจที่นี่สัก 2-3 วัน ไม่ต้องไปไหนยังได้เลย เพราะแค่พื้นที่รอบๆนี้ก็เดินเล่น นั่งพัก กันได้หลายมุมแล้ว แถมยังมีอากาศเย็นตลอด มีวิวภูเขาขนาดมหึมา นั่นคือ ดอยหลวงเชียงดาว อยู่ตรงหน้า มีแปลงกุหลาบอวดสีสันและโชยกลิ่นหอมละมุน มีบึงน้ำที่มีทั้งกอบัวและต้นไม้น้อยใหญ่รอบๆ สนามหญ้าเขียวๆหน้าบ้านอันกว้างใหญ่

และนี่คือ คุณไฉไล โกมารกุล ณ นคร เจ้าของบ้านที่แสนจะใจดี กับแปลงกุหลาบแสนหวานของเธอ

ออกมาเดินเล่น ทักทายน้องหมาน้องแมวที่อาศัยอยู่ในรั้วบ้านหลังนี้ คาดว่าเป็นสัตว์เลี้ยงของคนดูแลที่อาศัยอยู่ในบ้านด้านหลังนะคะ แต่เป็นน้องหมาน้องแมวที่น่ารักมากๆ ต้อนรับอย่างคุ้นเคยเป็นกันเองสุดๆ ในช่วงแรกน้องหมาจะกลัวๆ แต่ด้วยความที่เราเป็นคนชอบหมาแมว ก็เรียกๆรอให้เข้ามาเล่นด้วย ต้องใช้เวลาอยู่นานเหมือนกันค่ะ กว่าจะยอมให้ใกล้ ^^

ใครมาพักกันเป็นกลุ่มส่วนหนึ่งนอนบ้านส่วนหนึ่งอยากนอนเต็นท์ ก็สามารถนำเต็นท์มากลางได้ แต่ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถมากางเต็นท์นอนในอาณาบริเวณนี้ได้นะคะ ซึ่งเจ้าของบ้านใจดีมาก สามารถสอบถามกันได้เลยค่ะ

* หมายเหตุ : ไฉไลเกรซ เปิดให้เข้าพักได้เฉพาะช่วง สิงหาคม – กุมภาพันธ์ ของทุกปี หรือสามารถติดต่อสอบถามเข้าไปกันได้เลยค่ะ