[Teddy's Bigger Burgers - Gateway เอกมัย]
ร้านเบอร์เกอร์ต้นกำเนิดจากฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา

เมื่อปลายปี 2017 มีโอกาสได้ไปเที่ยว"ฮาวาย"และได้รู้จักร้านนี้เป็นครั้งแรกจากเพื่อนคนท้องถิ่นพาไปทาน เขาคุยให้ฟังว่าเป็นเบอร์เกอร์ร้านดังของฮาวายและเป็นร้านโปรดของเขา

จนเมื่อไม่นานมานี้ เพิ่งจะรู้ว่าร้านนี้มีสาขาแฟรนไชส์มาเปิดให้บริการในเมืองไทย เลยไม่รีรอที่จะหาโอกาสไปลองชิมดูอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้ในเมืองไทยมีทั้งหมด 3 สาขาเฉพาะในกรุงเทพฯค่ะ
* Gateway Ekamai ชั้น G – ใกล้ๆ MaxValu
* Central Plaza Pinklao ชั้น G
* Central World ชั้น 7 – ใกล้ๆ Top Supermarket

======================

ครั้งนี้ได้ลองไปชิมที่”สาขาเกตเวย์ เอกมัย”ซึ่งถือเป็นสาขาแรกในไทย เปิดให้บริการเมื่อกรกฎาคม 2015 ... เมื่อมีโอกาสได้พูดคุยรายละเอียดทำความรู้จักมากขึ้น จึงได้เห็นความแตกต่างจากร้านเบอร์เกอร์อื่นๆ ยิ่งได้ลองชิมด้วยแล้วบอกเลยว่าเขาเลือกใช้วัตถุดิบดีและมีคุณภาพ ราคาเลยอาจจะดูสูงกว่าร้านเบอร์เกอร์อื่นๆ

ที่สำคัญ ที่นี่ทำให้ความคิดว่าเบอร์เกอร์ก็เป็นเพียงอาหาร fast food เปลี่ยนไป เพราะเขา’ไม่ใช่’ ... เขามีความต่าง มีจุดเด่นและจุดขายเป็นของตัวเอง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมร้านนี้ถึงได้รับการยอมรับว่าเป็นร้านเบอร์เกอร์ที่ดีที่สุดของฮาวาย และขยายสาขาไปยังรัฐอื่นๆใน main land ของสหรัฐอเมริกา ก่อนจะขยายสาขาไปยังประเทศอื่นๆในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น, ฟิลิปปินส์, ไทย และซาอุดิอาระเบีย



การตกแต่งภายในร้านของสาขาเอกมัย ดูโปร่งโล่งไม่อึดอัด มีแผ่นกระดานโต้คลื่นตกแต่งไว้ตามมุมต่างๆ ได้บรรยากาศของชายหาดฮาวายซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดของร้าน


ด้านหน้าร้านในส่วนของครัว มีแผ่นกระจกใสขนาดใหญ่ สามารถมองเห็นวิธีการปรุงอาหารต่างๆได้จากด้านนอกโดยไม่มีการปกปิด


เหตุผลหลักๆ ที่ Teddy's Bigger Burgers ได้รับการยอมรับว่าเป็นร้านเบอร์เกอร์ที่ดีที่สุดในฮาวาย อาทิเช่น
- เบอร์เกอร์ทุกชิ้น จะได้รับการทำสดใหม่ตามออเดอร์ ไม่มีการทำทิ้งไว้ก่อน ซึ่งต่างจาก fast food
- ใช้เนื้อส่วน Ground Chuck 100% ไม่ผสมแป้ง-ขนมปัง-หอมใหญ่
- เน้นวัตถุดิบอย่างดี ไม่ใช้สารปรุงแต่ง ไม่มีสารกันบูด
- เป็นเบอร์เกอร์ DIY (Do It Yourself) ซึ่งสามารถเลือกได้ตามใจของผู้ทาน เช่น สั่งเนื้อ double 2 ชิ้น, mix& match ได้ตามที่ชอบไม่ว่าจะไส้หรือซอส, เพิ่ม topping เอง ฯลฯ
- จุดเด่นของเครื่องปรุงที่มีซอส 6 ชนิด (spicy, Teddy’s special, black pepper, BBQ, wasabi, teriyaki) และ topping ที่มีให้เลือกมากกว่า 20 ชนิด


หากใครไม่รับประทานเนื้อ ทานร้านก็ยังมีเมนูเบอร์เกอร์อื่นๆ อย่าง เนื้อหมู, ไก่ย่าง, ไก่ทอด และปลาให้เลือก รวมถึงเมนูอาหารทานเล่นอื่นๆ (side dish) ซุป สลัด สปาเก็ตตี้ และเมนูสำหรับเด็ก

ความพิเศษอีกอย่างของเบอร์เกอร์ร้านนี้คือ“potato bun”(ขนมปังมันฝรั่ง)ค่ะ เป็นแป้งขนมปังที่ทำจากมันฝรั่ง ซึ่งมีความนุ่มมากกว่า หนึบนิดๆ รสชาติหอมหวานหน่อยๆของมันฝรั่ง ซึ่งจะต่างจากขนมปังอื่นๆ ... ซึ่งถ้าหากใครไม่อยากทานขนมปังแล้ว ทางร้านมีแบบเบอร์เกอร์ผักกาดหอม โดยไม่ใช้แป้งขนมปังให้เลือกอีก 1 ชนิด

สำหรับเมนู”เบอร์เกอร์เนื้อวัว” สามารถเลือกขนาดของเนื้อและระดับความสุกได้ตามต้องการ ซึ่งขนาดของเนื้อวัวจะแบ่งออกเป็น 3 ขนาด
* ขนาด 5 ออนซ์ (big)
* ขนาด 7 ออนซ์ (bigger)
* ขนาด 9 ออนซ์ (biggest)

ที่ไทยเขาจะบอกขนาดเป็นตัวเลข ทำให้ง่ายต่อความเข้าใจ ... แต่ที่ฮาวายเขาใช้ศัพท์ big – bigger – biggest ตามที่ใส่ไว้ในวงเล็บ ตอนแรกที่เห็นคืองง?? นึกว่าหมายถึงเบอร์เกอร์มีให้เลือกหลายขนาด ที่แท้เขาหมายถึงขนาดของชิ้นเนื้อที่เป็นไส้นี่เอง ส่วนเมนูเนื้ออื่นๆจะไม่มีขนาดให้เลือกนะคะ

นอกจากนี้ เมนูเบอร์เกอร์เนื้อวัวสามารถเลือกระดับความสุกของเนื้อได้ด้วยค่ะ อยากได้สุก-ดิบขนาดไหนเลือกได้เลย ซึ่งจุดนี้เราแอบชอบค่ะ และทำให้ร้านนี้ต่างจากร้านเบอร์เกอร์แนว fast food อื่นๆ






======================

มาลองชิมเมนูเบอร์เกอร์ที่ทางร้านจัดมาให้กันดีกว่าค่ะ ... เสียดายที่ได้ลองชิมไม่ครบทุกชนิด เพราะเขาจัดมาให้เยอะจริงๆ บางอย่างก็หมดก่อน แย่งไม่ทันคนอื่นเขา 555+

เมนูแรก : Teddy’s Original Beef Burger
ราคา 300.-บาท
เบอร์เกอร์เนื้อสูตรต้นตำรับจากฮาวาย ใช้เนื้อขนาด 7 ออนซ์

กริลล์ความสุกของเนื้อระดับ medium rare ทำให้ชิ้นเนื้อยังคงความฉ่ำ (juicy) นิดๆ



ชิ้นนี้เป็นเมนูแรกที่เราได้ลองชิม คืออร่อยมากกกก !! อาจเพราะเราเป็นสายทานเนื้อด้วยค่ะ รู้สึกได้จริงๆว่าเป็นเนื้ออย่างดี รสชาติเนื้อเข้มข้น ยิ่งได้ซอสสูตรเฉพาะอย่าง Teddy’s Special Sauce ของทางร้านใส่ในเบอร์เกอร์นี้แล้วยิ่งเข้ากัน ได้รสชาติหวานมัน อร่อยแบบเนื้อเน้นๆ

++ หั่นครึ่งให้เห็นไส้ในกันชัดๆ ++


ตอนที่ไปฮาวาย สั่งเมนูที่เป็น bacon กับ avocado รู้สึกพลาด ที่ไม่ได้ลองเบอร์เกอร์เนื้อต้นตำรับเขาจริงๆ T.T ... แต่เชื่อว่าสาขาบ้านเราอร่อยไม่แพ้ต้นตำรับ

-------------------------------------------

เมนู 2 : Grilled Chicken Bacado Burger
ราคา 280.-บาท
เบอร์เกอร์ไก่ย่าง โดยเขาเลือกใช้เนื้อส่วนอกไก่ ใส่ bacon, avocado และชีส
Bacon + Avocado = Bacado เป็นการเล่นคำ ซึ่งใช้คำเหมือนกับที่ฮาวาย


เมนูนี้ออกแนว healthy สำหรับคนที่ชอบทานเนื้อไก่ส่วนอก ... แต่ความเห็นส่วนตัวของเรา เนื้อไก่ย่างออกจะแห้งไปนิด อาจจะเพราะเพิ่งทานเมนูแรกไปก่อนหน้านี้ ซึ่งมีความฉ่ำของเนื้อและซอสมากกว่า

-------------------------------------------

เมนู 3 : Volcano Cheese Burger
ราคา 270.-บาท
เบอร์เกอร์เนื้อสอดไส้ชีสตรงกลาง ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าเป็นหมูหรือเนื้อวัว



นอกจากเนื้อวัวก็ยังชอบทานชีสด้วย ตอนที่เขาหั่นครึ่งแล้วไส้ชีสไหลออกมาเป็นลาวา (จึงเรียกว่าภูเขาไฟ หรือ volcano) นี่คือน้ำลายสอเลย เป็นพวกแพ้ชีสเยิ้มๆ

ชื่อของเมนูนี้ทำให้เราคิดถึงฮาวายด้วยค่ะ เพราะนอกจากการเล่นกระดานโต้คลื่นอันโด่งดังของรัฐนี้ ที่ฮาวายยังมีธรรมชาติที่สวยงามและภูเขาไฟ บนเกาะ Big Island จะมีภูเขาไฟที่มีลาวาไหลลงทะเล สามารถนั่งเรือไปชมได้ (ลาวาที่นั่นไม่ได้เกิดจากการปะทุ แต่ไหลออกมาตามรอยแยกของเปลือกโลก)

อ่า ... เริ่มจะออกนอกทะเลอีกล่ะ กลับมาชิมของอร่อยๆกันต่อดีกว่า ^^”

-------------------------------------------

เมนู 4 : Pork Hawaiian Burger
ราคา 225.-บาท
สามารถเลือกได้ว่าต้องการเนื้อวัวหรือเนื้อหมู แต่ทางร้านจัดเป็นเนื้อหมูมาให้ลองสักหนึ่งเมนู เด่นด้วยซอสเทอริยากิที่ทางร้านหมักเอง เป็นสูตรโฮมเมดจากทางฮาวาย


ความพิเศษคือเขาจะทาซอสลงบนชิ้นเนื้อที่ย่างอยู่บนเตา เมื่อน้ำตาลในซอสโดนความร้อนก็จะละลายเคลือบชิ้นเนื้อไว้ ทำให้มีความหวานมัน บวกกับสัปปะรดย่างรสชาติเปรี้ยวเพื่อตัดความเลี่ยน เข้ากันได้อย่างลงตัว

เสียดายว่าไม่ได้ลองชิมเมนูนี้ค่ะ เพราะหมดก่อน TT

-------------------------------------------

เมนู 5 : Beef Western Burger + Topping
ราคา 325 + 85 = 410.-บาท
เนื้อวัวขนาด 5 ออนซ์ แบบ double (2 ชิ้น) เพิ่ม topping ต่างๆ ได้แก่ เชดด้าชีส, เบคอน, หอมทอด, บาร์บีคิวซอส


เมนูเน้นๆสำหรับคนชอบทานเนื้อค่ะ เพราะเมนูนี้ไม่เน้นผัก ได้รสชาติเข้มข้น เป็นอีกหนึ่งเมนูขายดีของทางร้าน



เสียดายที่ไม่ได้ลองชิมเมนูนี้เช่นกัน แต่อยากลองมาก ตามประสาคนชอบทานเนื้อ จนตั้งใจว่าจะกลับไปที่ร้านเพื่อลองชิมเมนูนี้โดยเฉพาะเลยค่ะ เพราะติดใจความหวานฉ่ำของเนื้อตั้งแต่เมนูแรกแล้ว

======================

มาดูอาหารทานเล่น (side dish) กันบ้างค่ะ ...

เมนูแรก : Cheezzee Fries (ฟรายซ์ราดชีสทอด)
ราคา 75.-บาท

ทางร้านจะเลือกใช้มันฝรั่งแบบไม่ปอกเปลือก (skin on) เพื่อเน้นความสดใหม่ และเวลาทอดแล้ว มันฝรั่งส่วนที่อร่อยที่สุดคือส่วนที่อยู่ใต้เปลือก ... จานนี้ทอดใหม่ๆ ราดด้วยเชดด้าชีสร้อนๆ


-------------------------------------------



เมนู 2 : Tater Tots (มันฝรั่งบดทอด)
ราคา 75.-บาท
จานนี้จะคล้ายๆ hash brown แต่ทำในรูปทรงกระบอกกลมๆ




-------------------------------------------


เมนู 3 : New Orleans Chicken (ปีกไก่นิวออร์ลีน)
ราคา 110.-บาท


-------------------------------------------


เมนู 4 : Cheeeese Meatball Au Gratin (มีทบอลอบชีส)
เนิ้อ ราคา 145.-บาท
หมู ราคา 125.-บาท

สามารถเลือกได้ว่าต้องการเป็นเนื้อวัวหรือหมู ทำเป็นก้อนกลม ราดด้วยซอสมะเขือเทศเข้มข้น โปะหน้าด้วยชีสแล้วนำไปอบร้อน


======================



นอกจากเมนู a la carte แล้ว ทางร้านก็ยังมีชุดแบบ combo set เพิ่มอาหารทานเล่นและเครื่องดื่ม โดยมีให้เลือก 2 แบบ
1) บวกเพิ่ม 70 บาท >> ได้มันฝรั่งทอด + น้ำอัดลมหรือชามะนาว
2) บวกเพิ่ม 90 บาท >> เลือกอาหารทานเล่นได้ 1 อย่าง จาก cheezzee fries, onion ring หรือ tater tots + น้ำอัดลมหรือชามะนาว



++ Combo Set จริงๆ จะเป็นน้ำอัดลมนะคะ ไม่ใช้แก้วนี้ แต่จะได้หน้าตาประมาณนี้ ++


สำหรับการรับประทานอาหารหลายคนในแบบกลุ่ม ทางร้านยังมี value set นำเสนอด้วยค่ะ เป็นชุดราคาตั้งแต่ 1-4 คน ในราคาเริ่มต้นชุดละ 179.-บาท ซึ่งจะรวมทั้งเบอร์เกอร์ – เครื่องดื่ม- อาหารทานเล่น

======================

เมนูเครื่องดื่มอื่นๆ ...
Italian Soda ราคาแก้วละ 95.-บาท มีให้เลือกหลายรสชาติและสีสัน
* Waikiki (Apple Flavor)
* Aloha Hawaii (Orange Flavor)
* Volcano (Strawberry Flavor)
* Freshy Rainbow (Rasberry Flavor)
* Deep Ocean (Blue Hawaii Flavor)

เมนูนี้ได้ลองล่ะ ขอบอกว่าแก้วใหญ่มาก แอบชอบตรงชื่อเมนูที่ทำให้เห็นภาพของฮาวาย แต่ร้านที่ฮาวายจะมีแต่เมนูน้ำอัดลมนะคะ


เมนู Shake ต่างๆ เช่น vanilla, coffee, chocolate, strawberry
ราคาแก้วละ 120.-บาท

======================

จากประสบการณ์ได้ลองทานครั้งแรกที่ฮาวาย และครั้งที่ 2 ในประเทศไทย ด้วยระยะเวลาห่างกันเพียง 2-3 เดือน จึงอยากบอกเล่าเปรียบเทียบสาขาต้นแบบในฮาวายและสาขาแฟรนไชส์ในประเทศไทย ว่ามีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

จุดแตกต่าง BANGKOK vs. HAWAII

((Service - การบริการ))
* ฮาวาย >> เป็น self-service บริการตัวเอง สั่งที่เคาน์เตอร์-ชำระเงินและนำมาที่โต๊ะเอง
* ไทย >> เป็นแบบบริการเสิร์ฟถึงโต๊ะ ทำให้ได้รับการบริการที่ดีกว่า ซึ่งราคาในเมนูจึงยังไม่รวม 10% service charge

((Menu - รายการอาหาร))
* ไทย >> มีเมนูมากกว่าต้นตำรับ หนึ่งในนั้นคือเบอร์เกอร์เนื้อหมู นอกจากนี้ไทยยังมีรายการอาหารทานเล่นมากกว่า อาทิเช่น สปาเก็ตตี้ ปีกไก่ทอด และอิตาเลี่ยนโซดา
* ฮาวาย >> ไม่มีเบอร์เกอร์เนื้อหมู มีแต่เบอร์เกอร์เบคอน (เพราะคนฮาวายนิยมทานเนื้อวัวมากกว่าเนื้อหมู)

((Beverage Menu))
* ไทย >> เมนูเครื่องดื่มจะมีหลากหลายรายการมากกว่า ทั้งน้ำอัดลม, Italian Soda, shake โดยจำหน่ายเป็นแก้ว
* ฮาวาย >> เป็นน้ำอัดลมแบบรีฟิล สามารถเติมได้เรื่อยๆแบบบริการตัวเอง

((Food Presentation – การนำเสนอและการจัดจาน))
* ฮาวาย >> ห่อกระดาษและเสิร์ฟมาในกล่องกระดาษ ซึ่งตรงจุดนี้เองทำให้ความรู้สึกของเราตอนได้เห็น Teddy’s Bigger Burger ครั้งแรกที่ฮาวาย เหมือนร้าน fast food อื่นๆทั่วไป
* ไทย >> ดูดีและมีความพิถีพิถันมากกว่า มีการปักธง (ดูมี gimmick มากขึ้น) ห่อกระดาษ ใส่จาน ด้วยการบริการแบบใส่ใจมากกว่า ทำให้ image ดูดีกว่าร้านเบอร์เกอร์ทั่วไป และดูไม่ใช่อาหารแบบ fast food

++ ที่ฮาวาย เขาจัดมาหน้าตาแบบนี้ ... บ้านเราดูดีกว่าเยอะ ++


((Bun – ตัวขนมปัง))
* ไทย >> มีให้เลือกแค่ potato bun (ขนมปังมันฝรั่ง) หรือผักกาดหอม
* ฮาวาย >> จะมีเพิ่มขึ้นมาอีก 1 ชนิดคือ wheat



หากมองโดยรวมแล้ว ที่ไทยอาจจะมีการปรับเปลี่ยนบ้างเล็กน้อยในแง่ของเมนูและการให้บริการเพื่อปรับให้เหมาะสมและถูกใจคนไทยมากขึ้น แต่ทั้งนี้ยังคงรสชาติและวัตถุดิบบางอย่างโดยเฉพาะซอสแบบโฮมเมด (Teddy’s homemade special sauce) ยังได้รสชาติความอร่อยเหมือนกับต้นฉบับ ... และโดยส่วนตัวแล้ว เราชอบความหลากหลายของเมนูที่เมืองไทยมากกว่าร้านที่ฮาวายอีกค่ะ



++ บรรยากาศในร้านที่ฮาวายกับเพื่อนๆ ระหว่างทางไป Kailua Beach ++


ราคาเบอร์เกอร์ร้านนี้อาจจะสูงกว่าร้านเบอร์เกอร์ทั่วไป แต่หากได้ทำความรู้จักและได้ลองชิมแล้ว จะรู้ว่าเขาเลือกใช้แต่วัตถุดิบชั้นดีและพิถีพิถันในการปรุงแต่ง ... นอกจากนี้การที่เขาไม่ได้เติบโตเร็วจนกลายเป็น global brand (ปัจจุบันมี 28 สาขาทั่วโลก ใน 5 ประเทศ) ทำให้ยังคงคุณภาพต่างๆได้ดี และสาขาหลักที่ฮาวายยังคงเข้ามาดูแลได้ทั่วถึง




ต้องลองแล้วจะรู้ ว่าทำไม Teddy’s Bigger Burgers ถึงได้รับการโหวตให้เป็น”ร้านเบอร์เกอร์ที่ดีที่สุดของฮาวาย”


"TEDDY'S BIGGER BURGERS"
CRAFT BURGER ต้นตำรับจากฮาวาย รสชาติของความสะใจ



ข้อมูลเพิ่มเติม ...
Page : Teddy’s Bigger Burgers Thailand
https://www.facebook.com/teddysburgersth/


สุดท้ายนี้ ฝากเพจไว้ด้วยนะคะ
Nina's Journey กินเป็นหลัก พักเป็นเที่ยว
http://www.facebook.com/ninajourney



Nina's Journey

 วันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 เวลา 01.52 น.

ความคิดเห็น