จ.พิษณุโลก เป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นด้านศิลปวัฒนธรรม ธรรมชาติและผจญภัย แต่พวกเราขอเลือกที่จะเที่ยวในแบบธรรมชาติ นั้นคือเลือกเที่ยวภูลมโล และอุทยานภูหินร่องกล้า เรามีเวลาแค่สองวัน แต่สองวันของเรามีค่ามากมาย หารถในการไปที่อุทยานภูหินร่องกล้า ซึ่งเราไม่ได้เอารถส่วนตัวไป โดยไปครั้งนี้ขากลับไม่มีรถ แต่เราได้เจอพี่ที่ใจดีที่มาจากกรุงเทพฯและเพชรบูรณ์ เพราะมีการโบกรถสองครั้ง ใจดีทั้งสองคันเลยและมีการพาไปเที่ยวด้วย อิ อิ

ส่วนที่พักเราสามารถเอาเต้นท์มาเอง หรือจะเช่าเต้นท์ที่นี่ก็ได้ เพราะมีที่สำหรับกางเต้นท์ ส่วนถ้าจะพักที่รีสอร์ทควรที่จะจองตั้งแต่เนิ่นๆ น่ะครับ ( กลัวเต็ม ) แต่พวกเราตอนแรกเอาเต้นท์มา ว่าจะนอนเต้นท์เพราะจองห้องไม่ทัน สุดท้ายเจอฝนเข้าไป หลังฝนหยุดเลยต้องตระเวนหา ห้องพัก ได้ห้องพักในราคา 1500 บาท

วันที่ 20 มกราคม 2561

เราต้องตื่นตี 05.00 น. เพื่อขึ้นไปภูลมโล โดยเราเหมารถ 4 WD ขึ้นไปเพราะไม่สามารถนำรถส่วนตัวขึ้นไป ซึ่งเราไปกับกลุ่มอื่นหารกันตกคนละ 100 บาท เหมาคันหนึ่ง 1000 บาท แต่ถ้าไปหลายคนอาจจะหารถูกกว่านี้ อิ อิ

ถ้าจะมาภูลมโล แนะนำน่ะครับควรจะมาช่วงวันธรรมดาเพราะคนไม่เยอะ และมาในช่วงต้นเดือน ดอกจะสวย

( อยากเป็นผู้หญิงคนนั้นจัง มีแต่คนอยากจะถ่าย อิ อิ จริงๆ แล้วคนเขาถ่ายต้นไม้อ่าครับ )


เรามาในช่วงที่ดอกกำลังจะร่วงหมดแล้ว ( นี่ขนาดดอกใกล้จะร่วงหมดแล้ว ยังสวยงามขนาดนี้ )


ถ่ายมุมไหนๆ ก็มีแต่คน แต่อยากบอกว่า นี่ คือเสน่ห์สำหรับผม


ผมนึกว่า ผมอยู่ ญี่ปุ่น ซ่ะอีก

มั่วแต่ถ่ายต้นไม้อยู่น้านแหละ ลืมถ่ายผมป่าวครับ

ว้าววววววว

ฮู๊วววววว

ไม่ว่าจะถ่ายมุมไหนๆ ก็สวยทุกมุม

โดยแต่ละมุมจะอยู่ใกล้ๆกัน ขึ้นอยู่กับเราจะเลือกถ่ายมุมไหน

ถึงแม้ว่าต้นไม้ไม่มีใบ แต่มันก็มีเสน่ห์ไปอีกแบบ

จากนั้นเราก็มาลุยกันต่อที่จุดชมวิว

ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ในรัศมีที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย แต่ถ้าหากเราสามารถออกแบบมุมของเราได้ ภาพทุกภาพก็ออกมาสวยได้เหมือนกัน ภาพนี้ผมต้องขอบคุณตากล้องมากที่ทำให้ผมมีภาพนี้

และแล้วก็ถึงเวลาที่เราต้องจากภูลมโลไป เพื่อไปอุทยานภูหินร่องกล้า แต่ความท้าทายของเราคือ การโบกรถไปนั้นเอง ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีรถจอดรึเปล่า แต่เราก็ต้องตะลึ่งโบกคันแรกพี่เขาก็จอดให้เลย ซึ่งพี่เขามาจากกรุงเทพฯ ตอนแรกว่าจะโบกรถของอุทยาน รอนานเกินเลยโบกรถนักท่องเที่ยวนี่แหละ อิ อิ

- พี่เขาถามว่าพวกเราจะไปไหน เราก็บอกพี่เขาว่าจะขอติดรถด้วยจะไปอุทยาน ( งั้นขึ้นมาเลยน้อง ) อิ อิ ดีใจ แต่แล้วพี่เขาก็จอดจุดขายของที่ระลึก แต่ด้วยความบังเอิญที่พวกเราหันมองทางขวา เห็นหมู่บ้านทหารพอดีเลยขอพี่เขาว่า ขอติดรถแค่ตรงนี้น่ะครับ. พอดีจะไปดูใบเมเปิ้ล 555 ( พี่เขาใจดีมาก ใจดีทั้งครอบครัวเลย )

ฮุ๋ยคลาสสิคมว๊ากกกกก

จากที่จะมาดูใบเมเปิ้ล เปลี่ยนแผนกระทันหัน เมื่อมาเจอสิ่งปลูกสร้างของเหล่านักสู้ในอดีต มันมีความสวยงามมว๊ากกกก

อารมณ์ของที่นี่ก็จะได้ประมาณนี้ คนไม่เยอะ เลือกถ่ายภาพสบายไม่ว่าจะอยู่มุมไหน

สวยงาม

ผมคิดว่า ถ้าไม่มีผมภาพจะออกมาสวยกว่านี้อีก

และแล้วก็ถึงเวลาที่เราต้องโบกรถกลับตัวเมืองกันแล้ว โดยโบกรถคันแรก เขาก็จอดเลย ( ไม่ใช่ผมโบกน่ะ แต่เป็นคนอื่น ถ้าผมโบกเขาคงไม่จอดหรอก 555 ) โดยรถที่จอดเป็นพี่ที่มาจากเพชรบูรณ์ ซึ่งพี่เขาก็ถามว่าจะไปไหน แต่คำตอบแว่วๆจากคนข้างหลังผมว่า " พี่จะไปที่ไหน พวกเราจะไปที่นั่น " ผมก็หันไปมอง แล้วพูดว่า " ฮึ๋ย เอางี๊เลยอ่อ " แต่พี่เขาก็ใจดีพาพวกผมไปเที่ยวด้วย ที่สำคัญฟรีด้วยน่ะ 5555


โดยสถานที่แรกที่พี่เขาพามา คือ อุทยานแห่งชาติ ภูหินร่องกล้า

ที่นี่จะมีจุดถ่ายภาพเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นทุ่งดอกกระดาษ หรือผาต่างๆ หลายจุดเลือกตามใจชอบ ใครโสดไปถ่ายที่ผาพบรัก

ว้าวววว สวย

สวยอีกแล้วว

และที่ที่สองที่พี่เขาพามา คือ ลานหินปุ่ม ก่อนจะถึงจุดนี้เราต้องเดินเท้าประมาณ 2 กิโลเมตรน่ะครับ

( สภาพผมโกรธตากล้องมาก บอกตากล้องให้รีบๆถ่าย เหนื่อย 555 )

วิวก็ได้ประมาณนี้ ( ขาสั่น มันสูงมว๊ากกก )

จากนั้นเราก็ต้องเดินไปอีกประมาณเกือบๆสองกิโลเมตร เพื่อไปที่ลานจอดรถ

และแล้วก็ถึงเวลาที่พวกเราต้องจากที่นี่ไป โดยพี่เขาใจดีมากบอกจะไปส่งพวกผมที่นครไทย แต่สุดท้ายเจอพี่ตำรวจที่อยู่ตรงป้อมสามแยกนครไทย บอกให้ไปขึ้นรถที่บ้านแยง จะมีรถเยอะผ่าน พี่เขาก็ยังใจดีขับไปส่ง โดยไม่คิดตังค์สักบาท. พอถึงที่บ้านแยงรถออกพอดี เรามาไม่ทัน ไปสอบถามร้านอาหาร เขาใจดีมากบอกรายละเอียด บอกเวลาของรถบัสว่าจะมาตอนไหน แถมมีพี่ผู้ชายคนหนึ่งมาเฝ้าเป็นเพื่อนอีกด้วย โฮ๋วววววว

นี่ไทยแลนด์ Only จริงๆ คนดีๆยังมีอยู่อีกเยอะในสังคมไทยบ้านเรา

*** ขอขอบคุณทุกคนที่มาร่วมทริปครั้งนี้ ขอบคุณน้องๆที่มาจากธรรมศาสตร์ที่ช่วยหารค่ารถ ( รุ่นน้องก้อย นฑิยา ) ขอบคุณพี่ทั้งสองคันที่จอดรถให้เราติดรถไปด้วย แถมพาเราไปเที่ยวอีกด้วย

ขอบคุณลุง ป้า น้า อ่า ที่หารค่ารถ ขึ้นภูลมโล

ขอบคุณพี่ๆที่ร้านอาหารใกล้สะพานสามแยกบ้านแยง คอยเชียร์ คอยบอกว่า รถจะมาตอนไหน

สุดท้ายขอบคุณ ก้อย นฑิยา ที่ทำให้พวกเรามีภาพสวยๆ

*** สรุปค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ***


ความคิดเห็น