เดินทาง 28 ก.พ.61 - 6 มี.ค. 61 เจ็ดวันที่ทำเอาชะนีตัวเล็กๆ ร่างแหก
ตามล่าลมหายใจของโลก ภูเขาไฟ / เกาะบาหลี เกาะสวรรค์ ของนักเดินทาง
และเกาะนูซา ปนีดา ที่สวยจนโลกต้องตะลึง
ประเทศอินโดนีเซีย 1 ใน 10 ของโลกที่มีภูเขาไฟมากที่สุดในโลก มีถึง 139 ลูก
ทริปนี้ไปไหนบ้าง มาแถลงการ
DAY 1 เดินทาง ไทย-สุราบายา (ที่พักใกล้โบรโม่)
DAY 2 จุดชมวิว Penanjakan selamat datang - จุดชมวิว king kong Hill - ภูเขาไฟโบรโม่
- ทุ่งหญ้า Savana - น้ำตกMadakaripura
DAY 3 ภูเขาไฟคาวาอิเจี้ยน - บาหลี
DAY 4 เกาะ Nusa Penida - หาด Broken Beach Pasih Mentioning
- หาด Angel's Billabong - หาด Kelingking Beach
DAY 5 แคนยอนบาหลี Hidden Canyon Beji Guwang - น้ำตก Tegenungan
- Blue Lagoon Beach
DAY 6 ตลาดเช้า Ubud Market - นาขั้นบันได Tegalang RiceTerrace - วัด Gunung Kawi - วัดน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ Tirtha Empul -วัดกลางน้ำ Tanah Lot
DAY 7 เดินทางกลับ
แลกเงินไทยไป 10,000 บาท = 4,242,800IDR (รูเปีย)
ค่าตั๋ว ขาไป 2,896 บ. ขากลับ 2,559 บ. รวม 5,455 บ.
แผนการเดินทางทั้งหมด
กำเงิน 4 ล้าน แล้วไปตะลุย "อินโดนีเซีย"
เดินทาง เช้า วันที่ 28 ก.พ. 61 07.00 น.- ถึงมาเลเซีย 11.00 รอต่อเครื่องอีก 3 ชม.-ถึงสุราบายา 4-5 โมงเย็น
เดินทางโดยบัสเล็ก 10 คน เราเลือกบริการแบบเหมา โดยจองทัวร์จากไทยไปล่วงหน้า แล้วเขียนโปรแกรมส่งให้ทัวร์ว่าเราต้องการไปที่ไหนบ้าง
ให้มารับตั้งแต่สนามบิน วันที่ 28-วันที่ 2
ไปส่งถึงข้ามฟากไปเกาะบาหลี จนถึงที่พัก
- มีรถจิ๊บที่โบรโม่ให้ - มีหน้ากากใส่ที่คาวาอิเจี้ยน ค่าเข้าทุกที่
ราคา 1,600,000 IDR / 3,760บ. รวม 3 วัน 2 คืน เหมารวมทุกอย่าง รวมค่าน้ำมันแล้ว
ติดต่อทัวร์ Bromo zigzag Transportation & Tour
Line ID: bromozigzag
แนะนำทัวร์นี้มากเพราะ รถดี แอร์เย็นมากกกก เราสามารถวางเพลนเองได้ ราคาดีถูกด้วย
ถึงสนามบินสุราบายาSurabaya แล้ว
ออกมาก็ซัด KFC หน้าสนามบินเลย จะบอกว่าผิดหวังมากก หน้าตาไม่เหมือนในรูปเลยแม้แต่นิดเดว น้ำให้ไม่เต็มแก้ว เหมือนกันทุกคน ไก่ก็ร่อยหรอเหลือเกิน ข้าวให้มาเท่าหยิบมือ คนขายก็ทำเรื่อยๆ ไม่สนใจคนซื้อเลยแม้แต่น้อย
เดินทางยาวๆไป อีก 4 ชมเต็มๆ กว่าจะถึงที่พักก็ 4-5 ทุ่มแล้ว
ชื่อที่พัก Bromo Otix Guest House คืนละ 75,000IDR / 178 บาท
ห้องแอร์ น้ำอุ่น ชั้นล่างจะเป็นห้องแบบมีห้องข้างในอีก 2 ห้อง แบ่งเป็นห้องละ 3 ที่นอนกับ 2 ที่นอน
มีห้องโถง ห้องน้ำในตัว
#ปลั๊กที่ใช้ในอินโดนีเซีย เพื่อนๆ อย่าลืมหัวแปลงปลั๊กไฟไปด้วยนะคะ
สีห้องแสบทะลุทรวงมากก ขออภัยในความรุงรัง
เริ่มออกเดินทาง เวลา ตี 3 ไปยังจุดชมวิว Penanjakan selamat datang เพื่อไปชมพระอาทิตย์ขึ้น แบบพาโนราม่า
อากาศค่อนข้าง.....หนาวสะท้านนนน
ทะเลหมอกแน่นมากพูดเลยยยยยย
เดอะแก้งส์ ข้างหลังขาวๆนั้นคือหมอกล้วนๆนะนั่น
6 โมงเช้าก็เริ่มเดินลงเขา ไปอีกจุดชมวิวหนึ่ง ชื่อ king kong Hill จุดนี้ถ้าใครไม่แวะจะบอกว่าคุณจะเสียใจมากๆๆๆๆ ภูเขาไฟข้างหลังที่มีรูปทรงสวยมากๆ และสูงที่สุด ลูกนั้นคือ ภูเขาไฟเซเมรู สูง 3,676 เมตร เป็นภูเขาไฟที่ยังมีความร้อนอยู่ตลอกเวลา ส่วนลูกข้างล่างนั้นคือ ภูเขาไฟโบรโม่
เลยมาอีกนิดนึงจะมีอีกจุดชมวิว ที่สวยไม่แพ้กัน #ทัวร์นี้จะวุ่นวายหน่อยๆ ^ ^
เอาล่ะได้เวลาไปล่าโบรโม่กันแล้ววว ต้องบอกเลยว่าเอาใจพี่ไปเลยตั้งแต่ทางเข้า ด้านหน้าจะมีวัด เดินไปอีกนิดนึงจะเป็นร่องรอยของลาวาที่แห้งแล้ว...แต่ยังมีไอร้อนๆพุดขึ้นมาจากดินอยู่เลย มุมสวยๆถ่ายรูปเยอะมาก อีกทั้งยังมีบริการขี้ม้าสำหรับคนไม่อยากเดิน 40,000 IDR /94 บ./ ขา แต่ถ้าเดินก็ไม่ไกลมาก สัก 2-3 โลได้ เมื่อถึงตีนภูเขาไฟโบรโม่ จะมีบันไดให้เดินขึ้นไปอีก...เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน
ภูเขาไฟโบรโมสูง 2,392 เมตร เป็นภูเขาไฟที่เคยระเบิดแล้วแต่เวลานี้สงบอยู่
ภูเขาไฟโบรโมเคยระเบิดมาแล้วถึง 3 ครั้งในช่วงระยะเวลาเกือบ 30 ปีที่ผ่านมา
ครั้งล่าสุดระเบิดเมื่อเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2004
#ฉากหลังดังกับภาพวาด
เห็นบันไดแล้วท้อเลยยยย
ลงจากโบรโม่....เห็นวิวขาลงก็ดีใช่ย่อยย
ไปต่อกันที่ทุ่งหญ้า Sawana สวยแปลกไปอีกแบบอยู่ไม่ไกลจากโบรโม่ ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 15-20 นาที
อากาศดีเว่อร์ๆ
ตอนนี้หิวแบบไม่ต้องแปลกใจเลย ตั้งแต่ ตี 3 จนถึง 10 โมงไม่มีอะไรลงกระเพาะเลย เที่ยวจนไม่มีเวลากินข้าวมันเป็นแบบนี้นี่เอง....กลับที่พักไปเก็บของแล้วเดินทางต่อ ทุกคนต้มมาม่ากินที่ๆพักเลย ส่วนเราเห็นมอไซร์แว้นมาขายก๋วยเตี๋ยวอะไรสักอย่างหน้าตาแปลกๆเลยลองสักหน่อย
กินเสร็จ เหมือนโดนวางยา ตอนนี้ง่วงมากตาแทบปิด แต่เพลนของวันนี้ยังต้องไปต่อ
ไปที่ "น้ำตก Madakaripura" ต้องใช้เวลาเดินทางอีก ชั่วโมงกว่าๆ หลังจากนี้ไป เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น อาเจียนไม่หยุดเลย ตอนแรกเข้าใจว่าเมารถเพราะทางมันลดเลี้ยวเหลือเกิน อากชนิดที่ไม่มีถุงให้ใส่อวกอีกแล้ว.....พอไปถึงน้ำตก ไม่มีแรงเดินจริงๆ ลุกยังไม่ขึ้นเลย เราเลยนอนพัก 3-4 ชม. ผ่านไป ยังคงอาเจียนอย่างต่อเนื่อง จนเพื่อนต้องตัดชุดกันฝนมามัดทำเป็นถุง.....บอกเลยว่าตอนนี้อาการแย่จริงๆ
กินอะไรไม่ได้เลยจริงๆ กินเท่าไหร่ออกมาเท่านั้น
ไม่รู้ว่าเพราะก๋วยเตี๋ยวชามนั้นหรือเปล่า?.....หมดกันสภาพฉันน
สรุปไปหาหมอจ้าา ไปถึง ก็วัดไข้ วัดความดัน ให้ยาแล้วกลับบ้านได้ 555+ นี่มัน โรงบาลไทยชัดๆ
ได้ยาพารามา 1 แผง กับยาลดการอาเจี้ยน หมอว่าอาจเป็นเพราะผักผ่อนน้อย ก็น่าจะมีส่วน.........
ตอนนี้ได้แต่ภาวนา.....ว่าพรุ่งนี้ขอให้ดีขึ้นมีแรงขึ้นอิเจี้ยนด้วยเถอะ
#น้ำตกMadakaripura Waterfall เป็นการรวมตัวกันของน้ำตกหลายๆจุดที่ไหลลงจากภูเขาสูง 200 เมตรลงมาสู่แม่น้ำเล็กๆด้านล่างที่เต็มไปด้วยหินขนาดเล็กใหญ่ ต้องเดินลุยน้ำและปีนก้อนหินเข้าไปยังบริเวณด้านในขึ้นเรื่อยๆจนไปจบที่น้ำตกใหญ่
แล้วคืนนี้ก็นอนยาวๆไปในรถ เพราะจากจุดนี้ไปอิเจี้ยนใช้เวลาเดินทางทั้งสิ้น 6 ชม.เต็มๆ ไปถึงอิเจี้ยนตอนเที่ยงคืนกว่าๆ... ภูเขา ไฟคาวาอีเจี้ยนมีระดับความสูง ประมาณ 2,380 เมตร มีจุดเด่น
คือ ลาวาสีฟ้า (Blue lava) หรือ เปลวไฟสีน้ำเงิน
รู้สึกดีขึ้น ยาอินโด ดีแท้ๆ 555+ ใจมันต้องไปให้ได้ อะไรก็ขวางไม่ได้ทั้งนั้น
อย่ามัวเสียเวลากับคนอ่อนแอ
ได้เวลาเดินเขาแล้ว ล้างหน้าแปลงฟัน เตรียมตัว เดิน เดิน เดิน
ตรงนี้คือจุดเริ่มเดิน.....ไกด์แจกหน้ากากให้ทุกคน
คนเยอะเหมือนกันนะ ตอนนี้เป็นเวลา ตี 2 มีบริการสามล้อด้วยนะสำหรับคนเดินไม่ไหว ราคาแรกๆก็ 800,000IDR เดินไปเรื่อยๆก็ถูกลงๆ จนขากลับ เหลือแค่ 100,000 เดวเท่านั้น
ส่วนเราเดินขึ้นและลงเอง ไม่ใช่แข็งแรงอะไรนะ...แต่ไม่มีตังง555+
ดูจากสภาพแล้ว เอิ่มมมม ไกด์หันมาถามเป็นระยะๆว่าไหวมั้ย? โอเครรึเปล่า เทคแคร์ดีมาก
ถึงยอดอิเจี้ยนตอน ตี 3 รอดู บลูไฟเออร์ (Blue Fire) สวยมาก มันคือลาวาสีน้ำเงิน แปลกดีไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ตื่นเต้น...ถ้านึกไม่ออก ให้เพื่อนๆเดินไปในครัว แล้วเปิดเตาแก๊สดู แบบนั้นเลย 555+
ทำไมลาวามันถึงกลายเป็นสีครามได้ นั่นก็เพราะ
เมื่อลาวาใต้ดินที่มีความร้อนสูงเผาไหม้กำมะถันเข้มข้นที่อยู่บนพื้นผิว จะทำให้เกิดเปลวไฟสีฟ้า
เมื่อฟ้าเริ่มสว่าง ความงามยิ่งน่าตื่นตาตื่นใจ....ภาพนี้ถ่ายตอนตี 5
เอาไปขายแปป กิโลละ 1000 IDR / 3 บ. เท่านั้น บางคนขนไปได้วันละ เป็น 100 กิโลกรัม/ 300 ต่อวัน
เริ่มเดินลงตอน 6-7 โมงเช้า เพราะถ้ารอดูถึงตอนสายๆ แดดแรงขึ้นกลิ่นกำมะถันจะยิ่งแรง....
ลงมาก็เดินทางไปท่าเรือ Ketapang Harbour East Java
เผื่อไปฝั่งบาหลีท่าเรือ Gilimanuk Harbour - Ferry Port
ใช้เวลาเดินทางไปยังท่าเรือ 1.30 น. แล้วนั่งเรือไปอีก 15-20 นาที ค่าเรือประมาณ 16-18 บาทไทย
เป็นเรือที่ขนรถ ขนของ และคนไปด้วย
.................................................
ถึงฝั่งบาหลีแล้วเด้อออ
นั่งรถบัสต่อไปยาวๆอีก 4 ชม. ครั้งนี้โชคร้าย รถบัสที่ไปส่ง ร้อนมากแอร์แทบไม่มี แทบจะขาดอากาศตาย
ร้อนมากต่างกับเมื่อเช้าอย่างซิ้นเชิง...พระเจ้าช่วย!!! ไปได้อีกสักพัห ฝนตกอีก
คืนนี้พักที่ White Villa Hostel ubud 41,400 IDR / 98 บาท
ที่พักตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองเลย วิวดีมาก มีท้องนาหน้าที่พัก ถ้ามา 10 คน จะพอดี 1 ห้อง
ตอนนี้เหมือนร่างที่ไร้วิญญาณมาก อาบน้ำ กินข้าวแล้วนอนเลยแบบไม่ต้องบิ้ว
บรรยากาศเช้านี้ ด้านหน้าห้องพัก
จากที่พักไปท่าเรือใช้บริการอูเบอร์ เฉลี่ยต่อคน คนละ 31,000 IDR / 73 บ.
เมื่อถึงท่าเรือ ให้สังเกตุตึกสีขาวซ้ายมือ...
ค่าเรือไป - กลับ ราคา 400,000 IDR / 940 บ. ใช้เวลา เดินทาง 1.30 ชม.
เมื่อมาถึงเกาะนูซา ปนีดา สามารถเที่ยวรอบเกาะได้ 2 วิธีคือ
1. เช่ารถ แบบนั่งได้ 5 คน คนละราคา 120,000 IDR / 282
2. มีมอไซร์แบบเช่า ราคาคันละ 100,000 IDR / 235 บ. นั่งได้ 2 คน คนละ 118 บ.
#รถที่เราได้ขับรถได้เห้....ยมากค่ะ ไม่รู้จะรีบไปห่าเหวที่ไหน ขับเร็ว นิสัยไม่ดี ให้แวะแต่ละจุดก็แปปเดว
ถ้าเพื่อนๆมาลองดูหลายๆเจ้านะ เที่ยวแบบนี้เหนื่อยจริงๆ
หาดที่แนะนำว่าต้องไป คือ หาด Kelingking Beach เดินลงชันมากกกก บันได 1 ขั้นสูงท่วมหัวเข่า
ขากลับขึ้นข้างบน ฝรั่ง ผช.นอนเป็นลมคาบันไดเลยจ้า
อีกหาดที่แนะนำคือ Broken Beach Pasih Mentioning
ต่อมาคือ หาด Angel's Billabong
หมดวันแล้วได้เที่ยวเรือขากลับ บ่าย 4 โมงครึ่ง
มาถึงฝั่งด้วยความอ่อนล้า...หาอูเบอร์ไปที่พัก
คืนนี้พักที่ Bedplus Back Packer คืนละ 70,000 IDR / 165 บ.
ห้องดีสะอาดมาก มีครัวให้ใช้ มีพื้นที่ส่วนกลาง ห้องน้ำน้ำไม่ค่อยแรงเท่าไหร่ ตั้งอยู่ใจกลางมืออุบุดเลย กลางคืนมีร้านอาหาร พับบาร์เยอะ ของขายเต็มสองข้างทาง
กินข้าว อาบน้ำ แล้วนอนเลย ชะนีหมดแรง
...................................................................
เช้าวันรุ่งขึ้น ก็ทำอะไรกินที่พักเลยง่ายๆ ม่ามาไปก่อน 555+รองท้อง
วันนี้ใช้บริการรถบัสแบบเช่านั่ง 10 ที่นั่ง ราคา 700,000 IDR / 9 คน
เท่ากับ 84,000 IDR (มีเวลาเกินมานิดหน่อย)
ถ้าเกิน10ชม. ชม.ละ 70,000IDR / ชม.ละ 165 บ. หาร ตามจำนวนคนก็ไม่กี่บาท
ที่แรก คือ Hidden Canyon Beji Guwang
ค่าเข้า คนละ 40,000 IDR / 94 บ. + ค่าไกด์ 2 คนอีก 200,000IDR /หารกัน 7 คน คนละ 30,000IDR (มีคนไม่ยอมเปียกอีก 2 คน 555+)
จะบอกว่าสนุกตั้งแต่ทางเข้า ต้องเดินสวนกระแสน้ำเข้าไปน้ำใล่จากสูงเท่าหัวเข่า ไปถึงบางช่วงก็เท่าเอว แล้วช่วงโหดๆคือสูงเท่าหน้าอก.......ต้องต่ายๆหินเข้าไป บางช่วงก็ข้ามลำน้ำไปมา กับกระแสน้ำที่สามารถพัดคน นน.70 ปลิวไปได้ง่ายๆเลย ผ่านซอกหินเข้าสวยงามมาก อารมณ์เหมือนลำคลองงูบ้านเราแท้ๆเลย
สนุก ห้ามพลาดเลยที่นี่
ใช้เวลาสนุกสนามไป ร่วม 2 ชม.......ขากลับไม่ต้องย้อนไปทางเดิมนะ สามารถขึ้นอีกทางได้
ที่ที่สองของวันนี้คือ น้ำตก Tegenungan มีค่าเข้า 15,000 IDR / 36 บ.
เป็นน้ำตกที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุด เนื่องจากไม่ไกลจากตลาดสุขาวตีและเมือง Ubud
ต้องเดินลงบันไดไปประมาณ 10-15 นาที ทางเข้าน้ำตกนี้มีร้านค้ามากมาย เลยโดนกางเกงบาหลีไป 2 ตัว ต่อจากราคา 300,000IDR เหลือเพียง 70,000 IDR เท่านั้นนน #ใครที่มาบาหลีให้ต่อราคาแบบหาร 2ไปเลยนะคะ
ที่ที่สาม Blue Lagoon Beach
ระยะทางห่างกัน 36 กม. ใช้เวลาเดินทาง 1 ชม. จุดนี้เล่นน้ำกันอย่างเมามัน ไหนๆ วันนี้ก็เปียกทั้งวันและ
เล่นมากจนลืมถ่ายรูป น้ำใสฟ้ามากๆ มีจุดดำน้ำด้วย หาดคนน้อยสงบ
หมดแรง แรงหมด นั่งรถกลับที่พัก
คืนนี้พักที่ Bali Backpacker คืนละ 40,000 IDR / 94 บ.
กินข้าวหน้าโรงแรม แล้วออกไปเดินเล่นในเมือง ใช้บริการอูเบอร์
Zzz หมดแรงนอน
วันสุดท้ายของการเที่ยวบาหลี เช้านี้ไปเดินตลาดอุบุด จะบอกว่าของแพงมากๆๆๆๆๆๆ
ไม่จำเป็นไม่ต้องแวะ เด๋วเราจะแนะนำว่าควรไปช้อปที่ไหน แล้วหาข้าวกินแถวๆตลาดเลย
วันนี้เช่ารถบัสอีกเช่นเคย เหมา 1 วัน แล้วไปส่งสนามบินด้วย ทั้งหมด 910,000 IDR / 9คน
#ชุดไปเดินตลาดเบาๆ ยามเช้า
มีผลไม้คล้ายๆบ้านเรา
งานจักรสารจะเยอะมากที่นี่ งานแฮนเมคเยอะ
หมดไปจะครึ่งวัน.....ต่อไปไปนาขั้นบันได Tegallalang Rice Terrace ค่าเข้า 15,000IDR / 36 บ.
เป็นจุดชมวิวอีกหนึ่งที่ที่ขึ้นชื่อที่สวยงามมากบนหมู่เกาะบาหลี
ไปต่อที่วัด วัด น้ำพุศักดิ์สิทธิ์ แต่ดันไปผิดวัน เลยได้ไปวัด Gunung Kawi ก่อน แต่อยู่ห่างกันไม่เกิน 5 กิโลเมตร 555+ คนขับมั่วอ่ะ แถมโดนค่าเข้าไปอีก 15,000IDR / 36 บ.
แต่หลงเข้ามาแล้วก็ต้องบอกว่าสวยสุดๆ วัดนี้ต้องเดินลงบันไดลงไปไกลพอสมควร วัดตั้งอยู่ใจหลางหุบเขา มีความแกะสลักไว้อย่างสวยงาม แถมเจอกางเกงแบบที่นางแบบใส่อยุ่ในราคา 20,000 IDR เท่านั้น แบบยังไม่ต้องต่อราคาเลยด้วยซ้ำ
นี่โดนมาในราคา 70,000 IDR เจ็บใจสุดๆ
ที่นี่ไปวัดน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ Tirtha Empul
ค่าเข้า 15,000IDR / 36 บ. บาท 555+ มาถูกสักที ก่อนเข้าทุกคนต้องใส่ผ้าถุงทับอีกรอบ ไม่ว่าคุณจะใส่กางเกงยาวถึงตาตุมแล้วก็ตาม หรือกระโปรงที่ยาวแล้ว ก็ต้องใส่ทับอีกย้ำอีกครั้ง
จุดเปลี่ยนผ้า....สามารถบริจากเงินได้จุดนี้
ออกจากวัดมาได้สักพัก อยุ่ๆเพื่อนในทริปก็นึกได้ว่าลืมพาสปอร์ทไว้ที่ รร. ตั้งแต่เมื่อวาน ต้องไปหาก่อน เหมือนมีอะไรมาดนใจให้นึกถึงพาสปอร์ท หลังจากพูดประโยคว่าเราต้องย้อนไป โรงแรมก่อนนะ ได้ไม่ถึง 3 นาที รถที่เราไปเลี้ยวซ้ายไป 1 ที โรงแรมอยู่ทางขวามือเลยเหมือนมีประตูโดเรมอนเปิดมาหน้าโรงแรม แล้วก็ได้พาสปอร์ทคืนทันที......อิชั้นขนลุกเจ้าค่ะ ไม่เชื่ออย่ารบหลู่
ทางออกจากวัด น่าตื่นตาตื่นใจมากกับซอยขายของ ที่แม่ค้าพูดภาษาไทยได้ แถมราคา หั่น ตลาดอุบุดเมื่อเช้าไปเลยจ้า เสื้อผ้าของใช้ของฝาก ของตกแต่งบ้าน เยอะและถูกมากก แถมแม่ค้าใจดี ต่อราคาแบบเหมือนแจกฟรี.....แนะนำให้มาซื้อของฝากที่นี่
ล็อคนี้ฮามากกก แม่ค้าพูดไทย ไม่หลอกด้วยนะเอาดิ๊.......
จากนี้เราต้องเดินทางไปวัดกลางน้ำ ห่างกัน 41 กิโลเมตร ใช้เวลาเกือบๆ 2 ชม.
ไปถึงตะวันจะลับขอบฟ้าแล้วแทบไม่ได้มีเวลาถ่ายรูปเลย
วัด Tanah Lot ค่าเข้า 60,000 IDR / 141 บาท แพงเอาเรื่อง
รูปอาจไม่สวยเท่าของจริงเท่าไหร่นะเพื่อนๆเพราะไปถึงฟ้ามึดแล้วจริงๆ
หมดวันจริงกับเพลนที่แน่นจนแทบไม่ได้กินข้าว.....บินกลับไทยคืนนี้ตอนตี 1
จากท่าอากาศยาน นานาชาติ งูระห์ไร ลง ดอนเมือง
รถมาส่งที่สนามบินบาหลี เกาะกลางถนนแบบนี้เราจะเห็นได้ทั่วบาหลีเลย คือสวยงามมากๆ
ป้ายโรงแรมข้างทาง ที่ดูปุ๊บก็รู้เลยว่าอยู่บาหลี
ป้ายหน้าร้านอาหารที่ไม่เหมือนที่ไหนในโลกอีกแล้ว.......มองไกลๆนึกว่าบ่อน น้ำเต้าปูปลาอะไรประมาณนั้น
ที่จริงคือร้านอาหารตามสั่ง ภาพประกอบช่างตรงสะเหลือเกิน 55+ ชอบ ชอบ
ณ สนามบิน ลุ้นจะโหลด นน.เพิ่มหรือไม่ 555+
ฉันคิดว่า ฉันต้องกลับมาบาหลีอีกแน่ๆ โอ้ยยหลงรักที่นี่มากๆเลย
ไปอินโดนีเซียเที่ยว 6 คืน ต้องใช้งบเท่าไหร่
สรุปค่าใช้จ่าย (แบบละเอียด) #ไม่รวมของฝากนะ 555+
ตากล้องของทริปนี้
#พี่กิต #พี่เจ๋ง #มิ้นท์ #ปลา #แก้ม #สโนว์
Mint Septidkhao
วันพฤหัสที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2561 เวลา 17.50 น.