เพราะว่าเดือนนี้เป็นเดือนแห่งความรักดังนั้น ในวันนี้ Madamkim ก็เลยจะขอพาเพื่อนๆ ไป ไหว้ขอพรที่ศาลเจ้าแห่งความรักกันซะหน่อย

ศาลเจ้าแห่งความรัก Tsuyunoten Shrine มีตำนานเล่าว่าเป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่มีอายุนับพันปี เป็นเรื่องราวของนักแสดงสาวที่อาศัยอยู่บริเวณศาลเจ้า คนหนึ่งที่มีชื่อว่า โอฮัตสึ ได้พบรักกับ โทะคุเบะ ซึ่งเป็นหลานชายพ่อค้าที่ร่ำรวย

ด้วยฐานะที่ต่างกัน ทั้งคู่จึงถูกกีดกันเรื่องความรักทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจปลิดชีพตัวเอง ในปี 1708 เพราะไม่ต้องการที่จะถูกพรากจากกัน เรื่องราวของทั้งคู่ ถูกนำมาสร้างเป็นละครหุ่นกระบอกและคาบุกิชื่อว่า โซเนะซากิชินจู (Sonezaki Shinju) โดยนักประพันธ์ชื่อดังของญี่ปุ่น Chikamatsu Monzaemon

หลังจากนั้น ที่นี่จึงกลายเป็นสถานที่ ที่มีผู้คนมากราบไหว้ดวงวิญญาณของทั้งสองคน และเชื่อกันว่าศาลเจ้าแห่งนี้ศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องของความรัก คนในพื้นที่นิยมเรียกศาลเจ้าแห่งนี้ว่า Ohatsu Tenjin

ป้ายขอพรของศาลเจ้ามีอยู่ 2 แบบ คือ แบบขอพรด้านความรัก ซึ่งจะเป็นรูปหัวใจ ส่วนอีกแบบจะเป็นรูปใบหน้าของหญิงสาว(ให้ผู้ขอพรวาดหน้าของตัวเองลงไป) ซึ่งใช้ขอพรด้านความสวยความงาม

วิธีการเดินทาง : รถไฟฟ้าใต้ดิน Sub way สายสีน้ำเงิน Yotsubashi Line สถานี Higobashi (Y12) จากที่พัก มาลงที่ สถานี Nishi -Umeda (Y11) ซึ่งจากสถานีนี้ เราสามารถเดินไปตามทางใต้ดิน ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปถึง สถานี Higashi-Umeda(T20) ซึ่งเป็นสถานีปลายทางที่เราจะเดินทางไป จากนั้นให้หาทางออกที่ 6 (Exit 6 H80) ให้เจอ

ซึ่งเป็นทางออกที่ใกล้ศาลเจ้าแห่งนี้มากที่สุด เมื่อเจอแล้วให้เดินตรงขึ้นบันไดไปเลย ก็จะเจอทางออก ซึ่งเมื่อโผล่ขึ้นมาก็จะมองเห็นห้าง Forum-4 อยู่ตรงข้ามทางออก

ให้เดินไปทางซ้ายมือ ระยะทางไม่เกิน 100 เมตร จะผ่านโรงแรม Umeda OS Hotel (นั่นแสดงว่าเพื่อนๆมาถูกทางแล้ว)

เดินต่อไปอีกไม่ไกล ประมาณ 20 เมตร จะเจอกับร้านขายขนมปลา

จากนั้น ให้เลี้ยวเข้าไปในซอยที่อยู่ด้านข้างร้านขายขนมปลาเลย ให้สังเกตร้านสีฟ้า ที่มีตัวเลข 24 อยู่บนป้ายร้าน

ขยายภาพป้ายหน้าร้านอีกที แบบชัดๆไปเลย

จากนั้น ให้หันหน้าไปทางขวา จะเจอทางเข้าศาลแห่งนี้ ซึ่งศาลแห่งนี้มีทางเข้าหลายทาง (Madamkim ก็หลงไปหลายรอบ) แต่ทางนี้จะค่อนข้างง่ายที่สุด

เมื่อมาถึงแล้ว Madamkim ก็ไม่พลาดที่จะเข้าไปอธิฐานขอพร (เพี้ยง!!! ขอให้มีแต่คนรัก คนหลง 555)

หลังจากเสร็จจากภารกิจหลักแล้ว ก็มาถึงภารกิจรอง นั่นก็คือ การเดินสำรวจตลาด Temma ที่ต้องทำการสำรวจก่อนการช้อปจริง ก็เพราะว่า จากประสบการณ์การช้อปของ Madamkim พบว่า ราคาสินค้าของแต่ละร้านนั้นไม่เหมือนกันและไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละร้าน ไม่ว่าจะเป็นร้านเหลือง ร้านแดง ร้านน้ำเงิน หรือจะเป็นร้านดองกิ ก็ตาม

ดังนั้น ถ้ามีงบจำกัดและอยากได้ของดีราคาถูก จำเป็นที่จะต้องสำรวจราคาเอาไว้ก่อนซึ่ง Madamkim ก็ใช้กล้องถ่ายรูปราคาสินค้าที่เราตั้งใจจะมาซื้อเอาไว้ก่อน แล้วค่อยเอามาประมวลผลว่าตกลงสินค้าตัวไหนต้องซื้อร้านไหน หลังจากนั้นก็ค่อยไปช้อปแบบจัดเต็มไปเลย เทคนิคนี้ทำให้ Madamkim ได้วิปโฟมล้างหน้าในตำนานมาในราคาหลอดละ 298 เยน เท่านั้น

แม้แต่น้ำยาหยอดตายังได้มาในราคาแค่ 184 เยน (ไม่รวม vat ถ้าซื้อครบ 5,000 เยน ก็ได้ Tax Free) ได้ของถูกใจ แถมราคาสบายกระเป๋าถ้าเพื่อนๆ มีเวลาก็ลองนำเทคนิคนี้ไปใช้ดูนะคะว่าแล้ว Madamkim ต้องขอตัวไปทำการสำรวจราคาก่อนละคะ